ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

รู้จักความรักสักนิด...ก่อนคิดจะ “รัก” สักครั้ง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 June 2007 - 01:35 AM


รู้จักความรักสักนิด...ก่อนคิดจะ “รัก” สักครั้ง

“รัก”.....คำเดียวสั้นๆแต่มีความหมาย มีคำกล่าวเช่นนั้น แต่หากถามซ้ำลงไปว่า
ความหมายที่ว่ามีนั้นคืออะไร คงยากที่ใครจะให้นิยามคำจำกัดความได้อย่างเฉพาะเจาะจง
เพราะความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก จึงเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่แต่ละคนได้พบ
แล้วพยายามให้คำจำกัดความ หาใช่ความหมายที่แท้จริงไม่

ความรัก...เป็นหมายเหตุจากความรู้สึก โดยมีประสบการณ์ส่วนตัวเป็นเบื้องหลังมีห้วง
ภาวะทางอารมณ์ในแต่ละขณะคอยกำกับการแสดง จึงดูเหมือนว่าความรักจะเป็นเรื่องราว
ที่ลึกลับ เป็นศาสตร์คงไม่ใช่ เป็นศิลป์คงไม่เชิง เพราะความรักไม่ได้มีเพียงมุมมองเดียว
หากเป็นของกลางๆ ที่มีทั้งซีกดำ ซีกขาว ซีกสุข และซีกทุกข์ และไม่ใช่สิ่งที่จะกล่าว
ได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าขอให้มีศิลปะในการบริหารความรักเสียอย่าง ก็จะพบแต่ด้าน
สวยงามของความรัก ด้วยความรักบางประเภทมีความเป็นไปของสงสารเป็นเครื่องโบยตี
ให้เจ็บช้ำเอาดื้อๆ ชนิดไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ ฎีกา เป็นทางผ่านที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถ
หลีกเลี่ยงได้ เป็นความรักที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีความทุกข์เป็นเครื่องเคียงแต่ก็มีความสุขที่จะ
ก้าวเข้าไปสัมผัสและสมัครใจที่จะทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจเพื่ออุทิศให้กับความรัก

ความรัก.....เป็นอะไรได้หลายอย่าง จึงเป็นปริศนาแห่งชีวิตที่น่าสนใจและทุกคน
ยินพร้อมยอมรับที่จะเข้าไปสัมผัสผลที่จะเกิดขึ้น ต่อให้รู้ว่าไฟก็ยังอยากจะมีรักสักครั้ง
นี่คือเสน่ห์ของความรัก เมื่อพบแล้วก็พยายามที่จะให้นิยามเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้อื่นต่อไป
บ้างเตือนเพื่อให้ระมัดระวัง บ้างห้ามเพราะเกรงผู้อื่นจะต้องพบกับความปวดร้าวเช่นตน
บ้างสนับสนุนว่าความรักคือความสุขอันเกิดจากความเข้าใจซึ่งกันและกัน คือการให้
คือความรู้สึกดีๆเท่าที่มนุษย์จะมีให้กันได้ คือน้ำผึ้ง คือยาพิษ คือหยาดน้ำอมฤต
และอีกหลายนัย รวมความแล้วก็ไม่พ้นคำว่า “รัก” เพียงคำเดียวไม่เว้นแม้แต่พุทธพจน์
ที่กล่าวว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์


รักไม่ไร้อันดับ

เพราะความรักไร้คำจำกัดความ มีเพียงประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ จึงไม่อาจ
แยกแยะได้ว่า ความรักนั้นมีกี่จำพวก แต่มีข้อน่าสนใจอยู่ว่า หากพูดถึงความรัก
แต่ไม่พูดถึงความรักของหนุ่มสาว ก็เหมือนได้ข้อมูลความรักยังไม่ครบถ้วน
ด้วยความรักของคนกลุ่มนี้นี่เอง ที่มีหลายหลากที่สุด มีสารพัดรูปแบบอุทาหรณ์
ส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้างมากที่สุด ข้อเขียนบนบรรณพิภพนี้จึงมีความรัก
ของคนกลุ่มนี้เป็นตัวเอกดำเนินเรื่องอยู่ทุกยุคทุกสมัย โดยไม่หมดคนสนใจ
เรื่องราวเกี่ยวกับความรักถูกบันทึกไว้ ราวกับเป็นทฤษฎีเพื่อกำหนดเส้นทางที่จะ
ช่วยเหลือให้สามารถทะนุถนอมความรักให้ตลอดรอดฝั่ง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุ้นเคย
จนบางคราว เมื่อพูดถึงความรัก ทุกคนมักจะสรุปเอาตามความเข้าใจว่า กำลังพูดถึง
ความรักของคนหนุ่มสาวเท่านั้น ลืมเลือนเสียสนิทว่า นอกเหนือจากความรักดัง
กล่าวแล้ว ยังมีความรักประเภทอื่นอยู่ในโลกนี้อีกเช่นกัน และข้อสำคัญความรัก
ที่มักถูกละเลยนั้น กลับเป็นความรักที่มีคุณค่าสูงส่ง น่ายกย่องกว่าความรักเยี่ยง
หนุ่มสาวซึ่งเป็นความรักที่มักจะมีสิ่งปลอมปนจนบางครั้งสับสนว่า นี้คือความรักแท้ๆ
หรือความ.....อะไรกันแน่

ความรักอีกประเภทหนึ่ง เป็นความรักที่มักถูกมองข้าม เพราะความห่างเหิน
การแสดงออกทางวาจา ต้องใช้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนทัดเทียมกันกับความ
บริสุทธิ์สะอาดของดวงใจของผู้ถ่ายทอดความรัก ผ่านมาทางพฤติกรรม จึงจะ
สามารถสัมผัสความรักนั้นได้ นั่นก็คือความรักอันแสนบริสุทธิ์ที่พ่อแม่ลูก หรือผู้มี
สายเลือดเดียวกัน จะมีให้แก่กันอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
ความรักหนึ่งนั้น แม้เป็นสัจธรรม แต่ก็จำเป็นต้องซ่อนเร้นไว้เพื่อกันคำครหา
ที่จะเกิดขึ้นจากการประกาศตัว แต่ส่วนลึกของจิตใจแล้วทุกฝ่ายต่างก็ต้องยอมรับว่า
ทุกคนมีความรักชนิดนี้อยู่อย่างเต็มเปี่ยม แม้แต่บุคคลที่ไม่เคยมีความรักประเภทอื่น
เลยก็ตาม นั่นคือความรักที่มอบไว้แก่ตนเอง

ความรักอีกหนึ่งนั้นสูงล้ำ เกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบ เป็นความรักที่อยู่เหนือ
การบังคับบัญชาของกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง เป็นความรักที่เหนือโลกย์
เหนือการคาดคะเน เป็นความรักที่มีคุณค่าต่อมวลมนุษยชาติ เกิดจากใจที่ใหญ่
กว่าจักรวาล เผื่อแผ่ผ่านความรักนั้นสู่สามัญชน เพื่อยกฐานะของทุกคน จากคนสู่
ความเป็นมนุษย์ ที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกให้มีแต่สันติสุข
คือความรักแสนยิ่งใหญ่แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติตั้งแต่
ครั้งยังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์นั่นเอง

ความรักทุกรูปแบบนั้น ถูกบันทึกไว้แล้วในพระไตรปิฎก ในฐานะเป็นชาวพุทธ
เราน่าจะได้มีการศึกษาไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ และปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
เพราะความรักบางอย่างในปัจจุบันนี้ ได้ถูกวันเวลาทำให้แนวความคิดต่าง ๆ
คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงเสียแล้ว การได้ศึกษาข้อคิดจากพระไตรปิฎก
จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชีวิตของทุกคน


รักเดียวที่ปรารถนา

เมื่อเอ่ยถึงความรักระหว่างหนุ่มสาว ความรักประเภทที่ติดอันดับยอดนิยม
เห็นจะหนีไม่พ้น ความรักประเภท “รักเดียวใจเดียว” ชนิดขอรักเธอจนวันชีพวาย
เหตุผลก็คือ ทุกคนเข้าใจว่ารักชนิดนี้น่าจะเป็นรักที่ก่อให้เกิดความสุขแก่ผู้เป็น
เจ้าของมากที่สุด เพราะขณะที่มีชีวิตอยู่ด้วยกันจะมีเพียงกันและกัน จึงเป็นความรัก
ที่ได้รับการยกย่องว่า นี่คือรักแท้ รักเดียวที่ปรารถนา ส่วนหลังจากใครคนใดคนหนึ่ง
จากไปแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งจะมีรักใหม่ก็ยังได้ชื่อว่ารักเดียวใจเดียวอยู่นั่นเอง
แม้แต่ความรักที่เป็นยอดปรารถนาของผู้คนในปัจจุบัน ก็ยังมีแนวความคิด
ที่ผิดไปจากอดีตเสียแล้ว เพราะในอดีตกาลนั้นจะชื่อว่ารักเดียวใจเดียวได้ ต้องเป็น
ดั่งเช่นความรักของสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งมีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าข้ามภพข้ามชาติ
อย่างไม่เคยเปลี่ยนเป็นอื่น ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เธอก็ยังตามจงรักภักดีต่อพระองค์
มีชีวิตอยู่เพื่อจะส่งเสริมการสร้างบารมีของพระพุทธองค์ ซึ่งมุ่งตรงต่อสัมโพธิญาณ
เพียงอย่างเดียว ในระหว่างหนทางการสร้างบารมีนั้น แม้มีบางครั้งที่พระองค์ต้อง
สละเธอให้เป็นทานแก่ผู้อื่น ความลำบากเหล่านั้นก็ไม่เคยลบเลือนความจงรักภักดี
จากใจของเธอได้ ซ้ำยังไม่เคยรู้สึกเสียใจในความจงรักภักดีนั้นเลย เธอยังคง
ติดตามเป็นบาทบริจาริกา ของพระพุทธองค์จนพระชาติสุดท้าย นี่แหละรักเดียว
ใจเดียวของพระนางพิมพา รักที่ไม่เคยเปลี่ยนใจ รักที่ไม่เคยมีเงื่อนไข
มีแต่ให้เพียงอย่างเดียว

แม้ในภพชาติหนึ่งๆ ความรักของพระนางก็คงอยู่นิรันดร ์ แม้อีกฝ่ายจะหาชีวิต
ไม่แล้ว ดังครั้งหนึ่งเมื่อทรงเสวยพระชาติเป็นกินนรและกินรี ด้วยความงามและ
มีน้ำเสียงที่ไพเราะของนางจันทากินรี เป็นที่ต้องพระทัยของพระราชาถึงขนาด
ปลิดชีพของกินนรผู้สามีด้วยหมายชิงเอาภรรยา แต่ ทว่าแม้สามีจะสิ้นชีพไปแล้ว
จันทากินรีก็ยังคงจงรักภักดีมิเสื่อมคลาย ไม่ยินยอมเป็นของใครที่ไม่ใช่จันทกินนร
นี่แหละแบบแห่งรักแท้ รักเดียวใจเดียวที่ตราไว้ในพระไตรปิฎก


แม้รักนี้มิเคยผันไม่มีวันสลาย หากความบอบช้ำในหัวใจยังเกิดได้
ด้วยรักแท้ยังพ่ายแพ้ต่อความตาย สงสารไม่เข้าใครออกใคร...ตลอดกาล


..... โปรดติดตามตอนต่อไปครับ smile.gif .....

Ref:วารสารกัลยาณมิตร เดือนกุมภาพันธ์ 2542 - นภาพร วรสายัณห์



#2 sCHer♥™

sCHer♥™
  • Members
  • 100 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 June 2007 - 09:14 AM

เรากำลังมีความรัก
และเราสามารถที่จะนั่งสมาธิให้ใจสงบ
ควรทำคู่กันให้ดีอย่างไงง่ะ


#3 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 12:54 PM

สาธุ

#4 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 29 September 2010 - 04:07 AM

โอ วาว โดนจ้า

แต่รักของเราเป็น LOVELY LOVE จ้า

#5 ์Nee.Sansanee

์Nee.Sansanee
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 03:06 AM

มีไหมตอน2 & 3 อยากอ่านอีก ช่วยหน่อย ขอบคุณจ้า

#6 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:24 AM

QUOTE
มีไหมตอน2 & 3 อยากอ่านอีก ช่วยหน่อย ขอบคุณจ้า


รู้จักความรักสักนิด...ก่อนคิดจะ “รัก” สักครั้ง ตอนที่ 1/3
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=12913

รู้จักความรักสักนิด...ก่อนคิดจะ “รัก” สักครั้ง ตอนที่ 2/3
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=12978

รู้จักความรักสักนิด...ก่อนคิดจะ “รัก” สักครั้ง (จบ) ตอนที่ 3/3
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13051

#7 ์Nee.Sansanee

์Nee.Sansanee
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 08:37 AM

ขอบคุณมากค่ะ คุณniwat

"ความเอ๋ยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน ?"

เป็นข้อเขียนที่รวบรวมนานารัก ไว้ดีมาก

แต่สรุปแล้วไม่มีรักใดจะใหญ่ยิ่งกว่า >>>>>>>>>"ตกหลุมรักตัวเอง"

รักแท้นิรันดร