ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรมะ จริงเสมอไปหรือไม่


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 17 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 10:45 AM

เป็นสัจจะธรรม ที่เที่ยงแท้ เสมอไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมหรือป่าว !!




#2 ping

ping
  • Admin
  • 251 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 12:14 PM

อยากให้มองในแง่ของการให้กำลังใจอ่ะคับ เพราะเราต่างก็ทราบกันดีว่า "เรายังเป็นบ่าวเป็นทาสของเขาอยู่" จะต้องไปถึงที่สุดแห่งธรรมนั่นแหละ จึงจะชนะอย่างถาวร ระหว่างนี้ก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ขึ้นอยู่กับว่าจิตใจของมนุษย์โดยรวมเลือกอยู่ข้างไหน ดังนั้น ถ้าเราอยากจะชนะเราก็ต้องช่วยกันทำให้จิตใจของมนุษย์โดยรวมเลือกอยู่ข้างธรรมะ ดังนี้แล้วเราก็จะชนะกันไปเรื่อยๆในรอบการแข่งขันย่อยๆระหว่างที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ จนเมื่อเราไปถึงที่สุดแห่งธรรมเมื่อไหร่ก็ถึงรอบชิงนัดสุดท้าย ถ้าเราชนะได้เราก็เป็นอิสระกันทั้งหมดอย่างแท้จริง

ป.ล. ลองคิดตรงข้าม ถ้าเราคิดว่า "ธรรมะ ย่อมแพ้ อธรรม" แทนที่จะเป็น "ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม" แล้ว นักกีฬา(หมายถึงนักสร้างบารมีและสรรพสัตว์ทั้งหลาย)อาจหมดกำลังใจต่อสู้กับคู่แข่งขัน(อธรรม)กันเป็นแน่ อย่าคิดแบบนี้เลยครับ เพราะมีแต่เสีย หมดกำลังใจทำความดีกันเปล่าๆ เป็นกองเชียร์ให้ฝ่ายธรรมะดีกว่าเป็นกองเชียร์ให้ฝ่ายอธรรมครับ
ก็ยังต้องสู้กันต่อไปจนกว่าจะชนะอย่างถาวร สู้ สู้ สู้ แล้วก็สู้ กันนะขอรับ ถ้าสู้ยังมีสิทธิ์ที่จะชนะ แต่ถ้าไม่สู้ก็เท่ากับยอมแพ้และแพ้สถานเดียว ถ้าสู้ชนะเราก็จะเป็นสุขนิรันดร์ แต่ถ้าไม่สู้(แพ้)เราก็จะเป็นทุกข์อนันตกาล เราจะเลือกแบบไหนดี

#3 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 12:43 PM

คุณ ping ตอบดีจังครับ

#4 ใสเย็น

ใสเย็น
  • Members
  • 92 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 01:11 PM

สำหรับหนู หนุคิดว่าธรรมะย่อมชนะ อธรรมะ จริงเสมอไปค่ะ
pthata.hi5.com

#5 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 01:33 PM



ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นค่ะ ว่า

จริงค่ะ แน่นอน

เพียงแต่ ชนะในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง

เคยมีคำกล่าวไว้ว่า

ธรรมชาติของคนก็เหมือนกับน้ำ ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ

แปลให้เข้าใจได้ง่ายๆว่า

การกระทำอะไรที่ไม่ดี นั้นทำง่ายกว่า

ดังนั้น การที่เราเลือกที่จะทำอะไรที่ดี ต้องใช้กำลังใจอย่างสูง

ในความคิดของ koonpatt คำว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม ในความหมายแรกคือ

ถ้าเราเอาชนะใจตัวเอง ข่มใจไม่ทำสิ่งไม่ดี นั่นคือ ชัยชนะอย่างหนึ่ง ชนะใจตัวเอง

แต่ถ้าเรายอมไหลลงสู่ที่ต่ำ นั้นคือเราแพ้แล้ว แพ้ความต้องการฝ่ายต่ำของเรา


แต่ถ้าในความหมายทั่วๆ ไป คงหมายถึง ความดีย่อม ชนะความชั่ว

นั่นย่อมถูกต้องเสมอค่ะ เพียงแต่ว่า สำหรับบางคน ผลของการทำดี อาจปรากฎให้เห็นช้าหน่อย

แต่สิ่งที่คุณได้ทันทีที่ทำดีนั่นคือความสุข เพราะคุณย่อมรู้แก่ใจตัวเองดีว่า สิ่งที่ทำไปนั้น ดีแล้ว ชอบแล้ว

ความสุขย่อมบังเกิดแก่คุณแน่นอน

แต่ถ้าเอาภาพที่เห็นภายนอกมาวัด หรือ มองหาสิ่งตอบแทนที่เป็นวัตถุ

แน่นอนค่ะ การทำดี ให้ผลตอบแทนเป็นรูปธรรมค่อนข้างช้า

เช่น (ขอยกตัวอย่างแบบที่เห็นง่ายที่สุดนะคะ)

อาชีพหลายๆอาชีพ ถ้าไม่โกง ไม่รวย เมื่อไม่รวย ก็ไม่มีอำนาจบารมี

เมื่อแพ้ใจตัวเอง อยากรวย อยากถึงพร้อมไปด้วย อำนาจ และ บารมี ก็ต้องทำ

ทางรูปธรรม เห็นได้ทันทีค่ะ รวยทันตาเห็น

แต่...ใจ...เป็นสุขหรือไม่ ...อยู่... เป็นสุขหรือไม่ ทางนามธรรม เจ้าตัวรู้ดีทันทีเช่นกัน

ทางรูปธรรม กรรมชั่วเหล่านั้น จะตามสนองจนคนทั่วไปมองเห็นได้ในที่สุด

นั่นก็อยู่ที่ แต่ละคน เลือกที่จะสุขแบบไหน

สุขที่ใจ หรือ สุขที่กาย

ไม่ใช่แบบว่า คนดีไปสู้กับคนไม่ดี แล้วคนไม่ดีต้องตาย (เหมือนในหนังอันนั้น เป็นการแสดงให้เห็นภาพน่ะค่ะ)

ดังนั้น ความหมายของคำว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม (ตามความเข้าใจของ koonpatt นะคะ)

คือ ความดีย่อมให้ความสุขใจอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งเป็นความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์ค่ะ

จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#6 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 01:36 PM

ถ้าเราคิดดี พูดดี ทำดี - คือการที่เราฝักใฝ่ในฝ่ายดี ฝ่ายธรรมะ

ผลที่ได้รับก็ย่อม "ได้ดี" เป็นของแน่แท้ทีเดียว

ไม่ว่าจะมีฝ่ายอธรรม เข้ามาข่มเหง ดับรัศมี หรืออะไรก็แล้วแต่ขนาดไหน เพชรแท้ แม้จะหล่นลงไปในโคลนตม ความเงางามก็คงถูกดับไปได้แค่ชั่วครั้งชั่วยาม เพราะเพชรแท้ก็ยังคงความเป็นเพชรแท้ พร้อมรอวันเจิดจรัศแสงในภายหน้าอยู่ดี
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#7 sert..13

sert..13
  • Members
  • 40 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 01:44 PM

ธรรมะย่อมชนะอธรรมเมื่อไปถึงที่สุดแห่งธรรม

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 02:44 PM

อืม บอกยากนะครับพี่สิริปโป มันขึ้นกับหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากลูกพระธรรมทุกคน คือความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะทำสิ่งนั้นๆให้สำเร็จ ยกตัวอย่าง เวลางานบุญใหญ่ๆหลายครั้งเท่าที่ผมสังเกตุ แม้ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง พายุจะพัดหนักแค่ไหน แต่ทุกคนที่ร่วมงานก็ไม่ย่อท้อ ทำให้งานแต่ละครั้งสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อุปสรรคต่างๆนานับประการที่เราเผชิญก็เปรียบเสมือนอธรรม แล้วเราก็ชนะอธรรมมาได้ตลอดเลยถูกต้องไหมครับ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 253555

253555
  • Members
  • 66 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 04:59 PM

อยากรู้จังว่า ถ้าเคนแรกทำศีลได้ ทำบุญที่ใจ รักบุญที่ใจ ท้อบ้างแต่ไม่ถอย

ใจอยากช่วยอยู่ตลอด เมตตาอยู่ตลอด ไม่เคยทำบุญเอาหน้า แต่ทำทาน 70 %-100%แม้เงินไม่มากนัก แต่จิตใจบริสุทธิ์

ไม่กลัวความตาย เพื่อแลกกับบารมี แต่ไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับใคร แต่สลักด้วยจิตใจจะทำบุญ เป็นคนดีให้ตลอด

แต่ด้วยฐานะตน พูดปไม่ค่อยมีใครเชื่อ
............................................

กับคนที่2ที่รักษาศีลไม่บริบูรณ์ ทำบุญเพราะอยากดัง อยากเด่น ทำทานเพื่อชาติหน้าจะได้รวย ปัจจุบันได้รวย

ชอบว่าร้ายคนอื่น เป็นกัลยณมิตรชวนคนมีหน้ามีตาเยอะ แต่ไม่ค่อยสนใจคนจน ฐานะปานกลาง

หน้าอย่าง หลังอย่าง พูดลับหลังคนเป็นนิจ ใส่ร้ายคนไม่น้อย เป็นคนมีหน้ามีตาเสมอ พูดเกินจริงว่าตนดีเสมอ


เหมือนวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดไปใครก็เชื่อเสมอ และห้ามคนทำบุญเพราะคนนั้นดีกว่า
....................................................

อยากรู้ค่ะว่าคนแรกจะทำบุญอะไรเพื่อหลุดจากคนที่ 2

แล้วให้ทุกคนกลับมาเห็นสิ่งที่เรียกว่าความจริง

โดยรักษาศีลให้บริสุทธ์

glare.gif

ตอบด้วยยยย glare.gif อยากรู้ว่าควรทำงัยดีค่ะ

ถือว่าเป็นธรรมทานนะค่ะ^o^

#10 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 05:05 PM

ถ้าเราสู้เราชนะ แต่ไม่ถาวร จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม

ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม เป็นคำที่เขาผู้นั้นสั่งให้พูด จริง ๆ ไม่ใช่ เพื่อให้เราได้ใจ
ท่านสิริปโภรู้ แต่แกล้งไม่รู้ ถามเพื่อความมั่นใจเป็นกำลังใจ OKAY

#11 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 08:44 PM

ขอเพิ่มอีกมุมมอง ในความคิดเห็นส่วนบุคคล นะครับ

ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรมะ จริง
แต่ไม่เสมอไป ไม่ทุกเรื่อง ไม่ทุกครั้ง ไม่ทุกสนามรบ

อุปมาเหมือน
ถ้า
กุศลธรรม คือ น้ำ
อกุศลธรรม คือ ไฟ

น้ำน้อย ย่อมแพ้ไฟได้ ครับ

ถ้า
กุศลธรรม คือ วิบากบุญ
อกุศลธรรม คือ วิบากบาป
ถ้า
ทำความดีทั่ว ๆ ไป
แต่วิบากบาป ดวงบาปโตมาก วิบากบุญดวงบุญโตน้อยกว่า
ก็ต้านไม่ไหว ต้องประสบทุกข์ โศก โรค ภัย ครับ

ถ้า
กุศลธรรม คือ ความสว่าง
อกุศลธรรม คือ ความมืด
ถ้า
ความสว่างแค่แสงเทียน แค่ดวงอาทิตย์
แต่ความมืด คือ หลุมดำ หรือ black hole
(แหม ขอตามกระแส สักหน่อย เอ่อ ไม่ใช้รถ back hole ที่ใช้ขุดตักดิน นะครับ happy.gif )

อะไร จะชนะ คุณ สิริปโภ คงพอเข้าใจ นะครับ dont_tell_anyone_smile.gif

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#12 แรเงา

แรเงา
  • Members
  • 12 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 04:48 AM

ในกลไกของธรรมะ ย่อมมีอธรรม

#13 รักหลวงปู่

รักหลวงปู่
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 02:11 PM

เรายังไม่ชนะเขา.........ไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้เขา

#14 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 06:04 PM

คนที่จะไปสุขติภูมิ เทียบเท่าดั่ง สองเขาโค..

คนที่จะไปทุขคติภูมิ มากมายอัปมานัง ดั่งขนบนตัวโค..

................................................................

ถามว่าคนที่จะไปทุขติภูมิ ถ้ารู้ว่าไปแล้วจะเดือดร้อนตัวเอง จะไปไหม?

อะไรที่ทำให้เขาเห็นกงจักร เป็นดอกบัว ได้เช่นนั้น?

.................................................................

นี่แหล่ะคือภาระกิจของนักสร้างบารมีที่จะทำงานกันเป็นทีม..

เพื่อยังความไม่รู้ (อวิชชา) ให้หายไป แบบว่า..สิ้นเชื้อ ไม่เหลือ (แม้กระทั่ง) เศษ..

.................................................................

ถ้าภาระกิจเสร็จสิ้น mission ก็ possible..

และ ธรรมมะ ก็ยังคงชนะ อธรรม สืบต่อไป (ชั่วลูก ชั่วหลาน)..

...................................................................

ตราบใดที่ภาระกิจ ยังรู้สึกว่า impossible..

ตราบนั้นอย่าวางใจ (แม้กระทั่งใจตัวเอง)..

เพราะ ศรัทธา มีเพิ่มได้ ก็ย่อมมี..ลดได้..

อย่าประมาทในสิ่งทั้งปวง..

เพราะ..ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย..

......................................................

ถ้าตาย (จากความดี) อีกกี่อสงไขย หลายร้อย หลายพันปี..

อันตัวเรานี้ จะได้กลับสู่ หมู่คณะ ของพระผู้พิชิตมารฯ


#15 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 10:30 PM

ภาพยนตร์เรื่อง "วัฏฏะสังสาร" เป็นหนังยาว

ต้องใจเย็นๆ ในการติดตามรับชม และ ในการแสดงเองด้วย

Theme ของหนัง คือ "ธรรมะย่อมชนะอธรรม"

อย่างไรก็ดี หนังก็คือหนัง ย่อมมีรักโลภโกรธหลงเป็นสีสันบันเทิง

แต่ script ตอนจบ ณ.ที่สุดแห่งธรรม ได้กำหนดเป็นผังสำเร็จไว้แล้วว่า

"ปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษรื้อวัฏฏะสำเร็จแน่นอน"

Sure + ชัด

#16 usr25160

usr25160
  • Members
  • 49 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 September 2008 - 04:51 AM

I don't think so, because life is not fair. Just look at our politics, as crooked politicians continue to live pretty good lives.

#17 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 September 2008 - 04:37 PM


ชอบที่คุณ Dd2683 รวมกับ ของคุณ homer324 ตอบ
...เพราะทั้งสองท่านตอบไว้มีสาระครบ ชัดเจนดีแล้ว
เปรียบเทียบ เข้าใจง่ายดีด้วย..

สำหรับคุณ Minova ที่ถามมา ขอกราบอาราธนา คำสอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาฝากจ้ะ
พระพ่อสอนว่า...

- อย่าท้อใจ อย่าน้อยใจ เพราะเมื่อกระแสใจเสื่อมคุณภาพ
บาปจะเข้าครอง ต้องปลุกใจให้ฮึดสู้ นั่งให้สนุก เบิกบาน ให้เป็นบุญบันเทิงให้ได้...

ใครจะเป็นอย่างไร ก็ช่างเขา เราดูแลใจเราให้อยู่ในบุญ
อ่านประวัติ ของคุณยายอาจารย์ ท่านดูสิจ๊ะ
..ท่านเจอปัญหาแบบนี้มาหนักกว่าหนัก แล้วนำท่านเป็นแบบอย่าง
แล้วจะเข้าใจ..เอาใจช่วยจ้ะ

สาธุกับ คุณสิริปโภด้วยนะจ๊ะ



#18 Suk072

Suk072
  • Members
  • 430 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 September 2008 - 05:19 PM

ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม จริงที่สุดค่ะ เริ่มจากชนะใจตัวเองก่อน การทำความดี ก็เหมือนการเดินทวนกระแสน้ำ จะต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ล้ม มีสติตลอดเวลา มีเป้าหมายที่ชัดเจน จึงจะทำให้เราเดินไปสู่ความสำเร็จ ดังโอวาทพระเดชพระคุณหลวงปู่
ธรรมะ จะต้อง ชนะ อธรรมเสมอ
เราไม่ต้องเดือดร้อนใจ
เพราะธรรมกาย ของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้
ไม่ใช่ของเก๊ หรือของเทียม
ธรรมกายจะปรากฎ เป็นของจริง แก่ผู้เข้าถึง
และจากพระธรรมเทศนาหน้า 227

" พวกเราทั้งหมดต้องไปนิพพานเหมือนกันหมด แต่ว่าต่างกันตรงที่จะช้า
หรือเร็วเท่านั้น ไม่เหลือเลยสักคนเดียว ที่แก่ๆแล้วก็ไปนิพพานหมด ปฎิบัติถูก
ส่วนนะ ปฎิบัติไม่ถูกส่วนช้าหนัก ไม่ไปเหมือนกัน แต่ว่าถึงนานๆ หนักๆ เข้า
มันก็ไป...ไม่หลงเหลือทีเดียว ถ้าจะพูดเรื่องไปนิพพานทั้งหมดนะดูๆ มันจะเหลือ
วิสัย ไอ้คนเกเรท่ามันจะไปไม่ได้ ชาติหนึ่งมันเกเรเกเส ชาติหนึ่งมันลามก ไอ้ชาติ
ต่อๆ ไปมันจะดีขึ้นมามั่งซิ มันคงมีบุญบ้างซิชาติใดชาติหนึ่ง"

ขอให้พรรษานี้ เป็นพรรษาแห้การเข้าถึงธรรมของเพื่อนสมาชิกเว็บ dmc.tv นะคะ