มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

 3.jpg   119.67K   208 ดาวน์โหลด

รูปนี้

ปริชิณฺณมิทํ รูปํ โรคนทฺทํ ปภงฺคุณํ
ภิชฺชติ ปูติ สนฺเทโห มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ

รูปนี้คร่ำคร่าเพราะชรา เป็นรังของโรค ต้องเปื่อยพัง
กายนี้เป็นของเน่าเปื่อย ย่อมแตกดับ
เพราะชีวิตนี้ มีความตายเป็นที่สุด

พระพุทธภาษิต

การที่ผมต้องโพสต์รูปนี้ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติและเป็นการชำระดวงจิตของท่านทั้งหลาย ให้คลายจากอารมณ์อันน่ากำหนัดยินดี น่ารัก น่าใคร่ในโลก ทั้งจะได้พอกพูนให้เจริญยิ่งด้วยมรณานุสสติ และธรรมอันเป็นเครื่องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพื่อยังอกุศลธรรมทั้งหลาย อันเป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งดวงจิตที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ให้มลายไป เพื่อยังพรตพรหมจรรย์ที่พร่อง ให้เต็มเปี่ยม สะอาด บริสุทธิ์ บริบูรณ์ และสามารถทรงไว้ซึ่งเพศภาวะอันประเสริฐสุดนี้ ได้ตลอดรอดฝั่ง ตราบชีวีหมดสิ้นอายุขัย และเป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การเปิดประตู (แห่งดวงจิต) สู่ทางมรรคผล และแดนเกษมอันปราศจากโยคะ คือ อมตะมหานฤพาน

ขอความสุขสวัสดี และการบรรลุถึงซึ่งธรรมาภิสมัย จงบังเกิดมีแก่ทุกท่าน

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

อสุภกรรมฐาน

อสุภะ มีคำว่า อะ รวมกับคำว่า สุภะ คำว่า สุภะ แปลว่า สวยงาม อะ แปลว่า ไม่ รวมแล้ว
อสุภะ จึงแปลว่า ไม่สวยงาม

ในการปฏิบัติสมถกรรมฐานโดยใช้อสุภะเป็นอารมณ์กรรมฐานนั้น ในที่นี้หมายเอาสิ่งไม่สวยไม่งามที่มีอยู่ในความเปลี่ยนแปลงของร่างกายคนที่ตายแล้วเป็นสำคัญ ซึ่งมีลักษณะ ๑o ประการดังต่อไปนี้

๑. ศพที่ตายแล้ว ๒ - ๓ วันกำลังพองอืด (อุทธุมาตกะ) ให้ใช้ศพที่เป็นเพศเดียวกับผู้ปฏิบัติ ขณะมองดูให้น้อมใจนึกเห็นความน่าเกลียด น่ากลัว ชวนสะอิดสะเอียนไปพร้อมกับคำภาวนาว่า อุทธุมาตะกัง ปฏิกูลัง (แปลว่า ศพที่กำลังขึ้นพองอืดนี้เป็นของปฏิกูล สกปรกน่ารังเกียจ) ซ้ำๆ อยู่ในใจ ศพในลักษณะนี้คงสภาพอยู่ได้ไม่นาน ก็จะกลายเป็นศพที่เริ่มเน่ามีสีต่างๆ ดังนั้นเมื่อผู้ปฏิบัติกำหนดบริกรรมนิมิต บริกรรมภาวนาไปจนเกิดนิมิตติดตา (อุคคหนิมิต) แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้เพ่งดูศพจริงอีก

๒. ศพที่เริ่มเน่ามีสีต่างๆ (วินีลกะ) ใช้ศพที่เป็นเพศเดียวกันกับผู้เจริญภาวนาเช่นเดียวกับข้อต้น เวลาเพ่งพิจารณาคงน้อมใจนึกถึงความน่าเกลียวดไปด้วย พร้อมกับนึกเห็นสีต่างๆ ที่ซากศพนั้น คำภาวนาใช้วินีละกัง ปฏิกูลัง

๓. ศพที่เน่ามีน้ำเหลือง น้ำหนองไหลออกมาจากที่ปริเปื่อย (วิปุพพกะ) แม้ศพจะเน่าแล้ว ก็ยังคงต้องใช้ศพเพศเดียวกับผู้ปฏิบัติ นอกจากจะพิจารณาเห็นศพเป็นของน่าเกลียดแล้ว แม้น้ำเลือดน้ำหนองที่ไหลออกมาจากศพก็ให้เห็นเป็นของน่าเกลียดไปพร้อมกันกับบริกรรมภาวนาว่า วิปุพพะกัง ปฏิกูลัง

๔. ศพที่กายขาดออกเป็นสองท่อน (วิจฉิททกะ) คงใช้ศพเพศเดียวกันกับผู้ปฏิบัติถ้าท่อนศพทั้งสองวางอยู่ห่างกันมากไป ให้จับมาต่อกันโดยให้ห่างเพียงประมาณ 1 องคุลี คำบริกรรมใช้ วิจฉิททะกัง ปฏิกูลัง การพิจารณาคงให้รู้สึกเป็นความน่าเกลียดอยู่ตามเดิม

๕. ศพที่ถูกสัตว์กัดทิ้ง ยื้อแย่ง แหลก มีอาการต่างๆ (วิกขายิตกะ) ใช้ศพเพศเดียวกับผู้ปฏิบัติเพื่อให้เป็นสภาคะกับตน ลักษณะที่ถูกสัตว์ เช่น สุนัข แร้ง กา เหยี่ยว ฯลฯ กัด จิก ทิ้ง ย่อมไม่น่าดู น่าเกลียดชัง ให้นึกรังเกียจดังนี้ พร้อมไปกับการบริกรรมภาวนาว่า วิกขายิตะกัง ปฏิกูลัง เรื่อยไป

๖. ศพที่ถูกทิ้งเรี่ยราด อวัยวะหลุดขาด อยู่กันคนละทิศละทาง (วิกขิตตกะ) เมื่อได้ศพเพศเดียวกันมาแล้ว ขอให้ผู้อื่นช่วยจับวางพอปะติดปะต่อกัน พิจารณาโดยความเป็นของน่าเกลียด พร้อมกับบริกรรมภาวนาว่า วิกขิตตะกัง ปฏิกูลัง

๗. ศพที่ถูกฟันถูกแทงด้วยอาวุธเป็นริ้วรอย (หตวิกขิตตกะ) ใช้ศพที่เป็นสภาคะกับตนเช่นเดียวกัน วานผู้อื่นเก็บวางให้เป็นลำดับต่อกัน พิจารณาริ้วรอยนั้นๆ ด้วยความเป็นของน่าเกลียดไม่น่าดู บริกรรมภาวนาใช้คำว่า หตวิกขิตตะกัง ปฏิกูลัง

๘. ศพที่มีโลหิตไหลอาบร่างกาย (โลหิตกะ) ใช้ศพที่เป็นสภาคะกับตน พิจารณารวมทั้งศพและเลือดว่าเป็นของน่าเกลียด ไม่น่าดู บริกรรมภาวนาใช้คำว่า โลหิตะกังปฏิกูลัง

๙. ศพที่มีหนอนซอนไซอยู่ทั่วร่างกาย (ปุฬุวกะ) ยังคงต้องใช้ศพที่เป็นสภาคะคือเพศเดียวกับตน พิจารณาให้เห็นว่าน่าเกลียด โดยเฉพาะเหล่าตัวหนอนต่างๆ ที่กำลังซอนไซ จนตัวของมันเองก็พากันไหลเลื้อยออกมา ทำให้ร่างกายทะลุโหว่เป็นรูเป็นช่องบริกรรมภาวนาใช้คำว่า ปุฬุวะกัง ปฏิกูลัง

๑o. ศพที่มีแต่กระดูก (อัฏฐิกะ) ศพที่มีแต่กระดูก ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเพศของศพ เพราะเมื่อเหลือแต่กระดูก ย่อมไม่เห็นลักษณะผิดแผกแตกต่างระหว่างเพศหญิงชาย ให้ผู้ปฏิบัติจิตกำเริบหวั่นไหวด้วยอำนาจ กามราคะ เมื่อพิจารณาดูความน่าเกลียดให้ดูตลอดตั้งแต่กระโหลกศีรษะ ที่กลวงตรงดวงตา ที่หลุมลึก ช่องว่างห่างกันระหว่างซี่โครง นิ้วมือ นิ้วเท้า กระดูกท่อนใหญ่น้อยทั้งปวง

คำบริกรรมภาวนาใช้ อัฏฐิกัง ปฏิกูลัง ศพที่มีแต่กระดูกดังนี้ มีอยู่ ๕ ประการที่นำมาเป็นอารมณ์กรรมฐานได้ดังนี้คือ

๑. ร่างกระดูกที่ยังพอมีเนื้อและเลือด เส้นเอ็นรัดรึงอยู่
๒. ร่างกระดูกนั้น ไม่มีเนื้อติดอยู่ แต่ยังมีเลือดเปรอะเปื้อน และมีเส้นเอ็นรัดรึง
๓. ร่างกระดูกที่ไม่มีเนื้อ ไม่มีเลือดติด แต่ยังมีเส้นเอ็นรัดรึง
๔. กระดูกนั้นไม่คงรูปร่างแล้ว เพราะไม่มีเส้นเอ็นรัดรึง กระดูกจึงกระจัดกระจาย
๕. กระดูกที่มีสีขาวเปรียบดังสีสังข์

การเจริญอสุภกรรมฐาน สำหรับผู้ที่มีบุญบารมีมาแล้วจากภพชาติก่อนๆ ในการปฏิบัติใหม่ชาตินี้ นิมิตจะเกิดขึ้นโดยรวดเร็ว เพียงพิจารณาเห็นความน่าเกลียดเท่านั้น

สำหรับผู้ไม่มีพื้นบารมีเดิม ซึ่งอาจกำหนดได้ช้า ควรใช้การพิจารณาด้วยอาการทั้ง ๖ ดังต่อไปนี้คือ

๑. กำหนดโดยสี (วณฺณโต) ให้รู้ว่าศพนี้เป็นศพของคนมีผิวสีอะไร ดำ ขาว หรือเหลือง
๒. กำหนดโดยวัย (ลิงฺคโต) ไม่ต้องกำหนดเรื่องเพศ กำหนดแต่ให้รู้ว่าเป็นศพคนวัยใด
๓. กำหนดโดยสัณฐาน (สณฺฐานโต) ให้รู้ว่าตรงนี้ตรงนั้นเป็นศีรษะ คอ มือ เท้า ฯลฯ
๔. กำหนดโดยทิศ (ทิสโต) กำหนดให้รู้ว่าตั้งแต่สะดือขึ้นไปเป็นส่วนบนใต้สะดือลงมาเป็นส่วนล่าง หรือรู้ว่าตนอยู่ทิศนี้ ศพอยู่ทางทิศนั้น
๕. โอกาสโต เป็นการกำหนดโดยที่ตั้ง รู้ว่า มือ เท้า ศีรษะ ฯลฯ อยู่ตรงนั้น ตรงนี้ หรืออีกอย่างศพอยู่ตรงนั้น ตนอยู่ตรงนี้
๖. กำหนดโดยขอบเขต (ปริจฺเฉทโต) รู้ว่าเบื้องต่ำสุดของศพแค่ปลายเท้า เบื้องบนสุดแค่ปลายผม ทั่วตัวแค่ผิวหนัง

หากพิจารณาด้วยอาการทั้ง ๖ ดังนี้แล้ว กรรมฐานยังไม่เจริญขึ้น ควรพิจารณาด้วยอาการทั้ง ๕ ให้ละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก คือ

๑. สนฺธิโต กำหนดตรงที่ต่อ คือให้รู้ว่าในศพนั้นมีรอยต่อใหญ่ๆ อยู่ ๑๔ แห่ง คือ ที่มือขวา ๓ ซ้าย ๓ เท้าซ้าย ๓ เท้าขวา ๓ ที่คอ ๑ ที่เอว ๑

๒. วิวรโต กำหนดตรงช่องให้รู้ว่าตรงนี้เป็นช่องตา ช่องปาก ช่องจมูก ช่องหู ช่องท้อง ช่องมือ ช่องเท้า หลับตา ลืมตา อ้าปากฯลฯ

๓. นินฺนโต กำหนดโดยที่ลุ่ม เช่นเป็นที่ลุ่ม เป็นหลุมที่ตรง ตา คอ ภายในปาก หรือที่ต่ำที่สูง เช่นตนอยู่ที่ต่ำ ศพอยู่ที่สูง

๔. ถลโต กำหนดโดยที่ดอน ให้รู้ว่าที่นูนขึ้นตรงนี้เป็นหัวเข่า หน้าผาก หน้าอก หรือกำหนดเรื่องสูงต่ำก็ได้

๕. สมนฺตโต กำหนดโดยรอบด้าน รู้ทั่วไปในร่างของศพในขณะที่กำลังกำหนดอยู่นั้น ถ้าปรากฏส่วนไหนชัดเจนขึ้นมา ตามลักษณะของศพ อาจจะเป็นศพที่มีสภาพเพิ่งขึ้นอืด หรือเริ่มเน่ามีสีต่างๆ หรือมีน้ำเลือดน้ำเหลืองไหล ก็ตั้งจิตกำหนดเอาตรงนั้น พร้อมบริกรรมภาวนาด้วยถ้อยคำตามลักษณะนั้นๆ ลงไป

ลิงค์ที่น่าสนใจ
=> http://www.kmitl.ac.th/buddhist/tumma/asupa.html
=> http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=14046

เมื่อเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน ได้ลงมือพิจารณาไปตามลำดับดังที่ได้แนะนำไว้ดีแล้ว ให้อธิษฐานจิตกำกับลงไปทุกครั้งด้วยนะครับว่า

"ด้วยอานิสงส์อันเกิดมีแต่การพิจารณาให้เห็นตรงไปตามความเป็นจริงในสภาวะอันไม่เที่ยงแห่งรูปนามสังขารธรรมนี้ ขอให้ข้าพเจ้า จงเป็นผู้ที่ไม่ยินดีในเบญจกามคุณอันเป็นประดุจดั่งเปือกตม ทั้งที่เป็นของมนุษย์ตลอดจนที่อันทิพย์ จงมีจิตยินดีในการหลีกออกจากกาม มีจิตยินดีในการบำเพ็ญพรตพรหมจรรย์ให้สะอาด บริสุทธิ์ บริบูรณ์ มีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร มีที่สุดแห่งธรรมเป็นเป้าหมาย ตราบชีวีหมดสิ้นอายุขัย และตลอดไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งเข้าสู่พระนิพพาน ถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญฯ"

นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ

สิ่งที่ได้แนะนำไปนี้เป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ เพราะสำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว เรื่องกามนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่มักพลาดพลั้งกันได้ง่ายที่สุด เพราะเหตุว่า รูปสมบัติอันดูน่าใคร่ น่าเย้ายวนหลงใหลของทั้งชายหญิงนั้น ย่อมเปรียบเป็นเช่น น้ำมันกับไฟ ได้พานได้พบกันเมื่อใด ย่อมพุ่งพล่านลุกโชนขึ้นมาในทันที เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายพึงหมั่นตั้งจิตอธิษฐานออกจากกามอยู่เนืองๆ ตามที่ได้แนะนำไป จะได้เอาตัวรอด จะได้สร้างบารมีไปได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อทำได้ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ดำเนินรอยตามพระบาทแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ดำเนินตามแบบอย่างอันประเสริฐและดีงาม ที่มหาปูชนียาจารย์ของเราได้มอบไว้ให้เป็นมรดกธรรมอันล้ำค่ายิ่งสืบไป

[xlmen]

โมทนาสาธุการกับอสุภะกรรมฐานดีๆ ที่ตั้งใจนำมาเผื่อเพื่อนๆ ด้วยครับ สาธุ

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

สาธุ... ขอบคุณมากครับ

[saowanee15]

WoW! แต่สยองจริง ๆ
ชุดแรก ๆ ไม่เท่าไหร่ เจอเวปสุดท้ายนี่สุด ๆ Y-Y ^^!
อนุโมทนาบุญด้วยจ้า สาธุ ที่สรรหาอะไรดีมาให้ดูค่ะ
สาธุ ^/\^

[SmilingCat]

สาธุ ต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณจริงๆ

การนำภาพเหล่านี้มาให้ดู (ดูแล้ว)
เพื่อบางคนที่หลงไหลในกามราคะ จะได้สติคิดว่าไอ้ที่หลงอยู่น่ะ มันเป็นของเน่าเหม็น
ไม่มีสาระแก่นสารใดๆ เลย คนที่คิดได้ก็ต้องมีบารมีมาพอสมควร

ผมขอแนะนำให้เจริญสติปัฐฐาน ๔ ด้วย จะได้มีสติ เพราะคนดีอาจจะเผลอทำชั่วได้ ถ้าสติ
กำกับไม่ทัน พระบางรูปได้ธรรมะภายในแล้วยังไม่รอด

[pp_072]

น่ากล่วจังครับ

สงสัยผมยังต้องสร้างบารมีอีกมากครับ

สาธุครับ

[Omena]

เพิ่งได้เปิดมาดูวันนี้เอง
อนุโมทนาบุญกับพี่ด้วยนะคะ
สาธุ
สาธุ
สาธุ

ถ้าเว็บนี้ขาดพี่ไปคนนึง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

[ลูกพระธัมฯ Merry Ma]

อนุโมทนาบุญกับน้องด้วยเช่นกันค่ะ สาธุ

[รัก แล้ว ทุกข์]

ขอบคุณมากครับกำลังอยากดูพอดีเลยดูแล้วคลายมากเลยครับ

[Peacefulness ™]

ขออนุโมทนาบุญ กับการเผยแพร่ ธรรมทาน ของ ท่านขุนศึกฯ

ในครั้งนี้ด้วยครับ

สาธุ... สาธุ... สาธุ... ครับ

ปล. ข้าพเจ้าขออนุญาต ท่านขุนศึกฯ เพิ่มอีกนะครับ คลิ๊กที่นี้ หนึ่ง สอง

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

สาธุ