มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[หมอป๊อง]

ก่อนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะรับนิมนต์จากพญาวสวัตตีมาร
ให้ดับขันธปรินิพพานและปลงอายุสังขาร
ได้แสดงนิมิตโอภาสแก่พระอานนท์ถึง16ครั้ง ตามที่ลิงค์มานี้http://www.dmc.tv/pages/buddha_biography/Vesak_Day_Lord_Buddha_Day_3.html
...
มีรุ่นน้องเจ้าคำถาม ถามว่า
ทำไมพระองค์ไม่นิมิตโอภาสกับพระสารีบุตร(ผู้เป็นเลิศด้านปัญญา)
หรือพระอรหันต์ท่านอื่นล่ะ จะได้ไม่ถูกมารบดบัง(คิดเอง)
ผมเลย อึง อึ่ง อึ้ง ... แล้วบอกว่า ติดไว้ก่อน
เลยต้องมาขอความช่วยเหลือหน่อยครับ

ปล.หากกระทู้นี้ไม่เหมาะสม คุณฟ้าร้างลบได้เลยนะครับ สาธุ

[อยากมีคนอยู่กลางกาย]

น่าจะเป็นกรรมบันดาลครับ

[yama]

เรื่องนี้ง่ายมากครับ เพราะพระสารีบุตรปรินิพพานไปก่อนแล้วนะซีครับ นี่ประเด็นหนึี่่ง

อีกประเด็นหนึ่ง เพราะพระอานนท์ท่านเป็นพุทธอุปถาก อยู่รับใช้ใกล้ชิดพระศาสดาในขณะที่ทรงเดินทางไปด้วยกัน

คนใกล้ชิดย่อมจะพูดคุยกันได้สะดวกที่สุดในทุกที่

อีกประการหนึ่ง เรื่องนี้เป็นพุทธประเพณีและพระพุทธเจ้าภาคโปรดก็ต้องนิพพานด้วยการทิ้งกายหยาบ เหลือแต่พระธรรมกายเข้านิพพานไปเช่นนี้เพราะพุทธประเพณีเช่นนี้ทุกคราไป

ธาตุธรรม ๓ ฝ่าย แต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตน ดังนั้นฉากหลักที่เห็นได้ยาก ซับซ้อนนัก...เป็นเหลี่ยมคูที่จักทำให้พระพุทธเจ้าต้องนิพพานถอดกายนั่นเอง


หลวงปู่วัดปากน้ำเคยกล่าวไว้ พระพุทธเจ้านิพพานถอดกายเหมือนปู่นิ่มไม่แข็งแรง มูลเหตุอย่างหนึ่งก็มาจากเรื่องนิมิตโอภาสนี่แหละครับ...

[ฟ้ายังฟ้าอยู่]

เพราะเขาตกลงกันไว้ ว่าต้องเป็นพุทธอุปัฏฐาก เท่านั้นละมังคะ

[หัดฝัน]

เพราะอรหันต์นั้น ทางพระท่านถือว่า กิจที่ควรทำไม่มีอีกแล้ว ภพชาติสิ้นแล้ว น่ะครับ

หากจะอธิบายแบบอุปมาในทางโลก สมมุติ ทุกคนตกเป็นนักโทษในคุกอยู่ ต่อมามีคนมีใจใหญ่ ช่วยบอกทางคนอื่นให้หนีจากคุก(พระพุทธเจ้า) ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่พ้นคุกได้แล้ว กำลังรอที่จะเดินทางออกไป(พระอรหันต์ เช่น พระสารีบุตร)

อยากถามว่า หากคนมีใจใหญ่นั้น ต้องการจะอยู่ในคุกบอกทางคนอื่นต่อไป คนคนๆ นั้น จะไปร้องขอให้ใครช่วยบอกให้เขาอยู่ในคุกต่อไป ระหว่าง
1. คนที่ยังอยู่ในคุกอยู่ (เช่น พระอานนท์) หรือ
2. คนที่พ้นคุกไปแล้ว (เช่น พระสารีบุตร)

ผมเชื่อว่า ร้อยทั้งร้อย ก็ต้องให้คนที่ยังอยู่ในคุก บอกให้อยู่ในคุกต่อไป คนที่พ้นคุกไปแล้ว เขาก็ไม่มีอารมณ์มาบอกให้ใครอยู่ในคุกต่อไปอีกหรอกครับ ก็มันพ้นแล้วนี่ กิจที่ต้องควรทำในคุกไม่มีอีกแล้ว มันก็เป็นของมันแบบนั้น นั่นแหละครับ