ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

16 คำทำนายพระพุทธเจ้า ชี้ชะตามนุษย์โลก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 คนรักบุญู

คนรักบุญู
  • Members
  • 203 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 11:15 AM

วันหนึ่ง​​พระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ​ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ​ได้ทอด​พระเนตรเห็น ​พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการ อัน​เป็น​พระสุบิน​ที่แปลกประหลาด จึงทรงตก​พระทัยตื่นบรรทม ​และครั้นรุ่งเช้า​ ก็​ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่า ​เป็น​พระสุบิน​ที่ร้าย ​และว่า ​พระองค์​จะ​ต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็​จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็​ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง​ ​และแนะให้​พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ ​เพื่อสะเดาะห์เคราะห์ ​เมื่อ​พระนางมัลลิกา ​พระมเหสีทราบเรื่อง​เข้า จึงทูลให้​ไปขอคำแนะนำจาก​พระพุทธเจ้า ซึ่ง​พระพุทธองค์ก็​ได้ทรงทำนายว่า เหตุร้ายนั้น​​จะมีแน่นอน เพียง แต่มิใช่เกิดแก่​พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของ​พระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้​จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ​ไป ​และแก่​พระศาสนาของ​พระพุทธองค์ในภายภาคหน้า ​เมื่อล่วงเลย​พุทธกาล​ไปแล้ว​ 2500 ปี ​เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่า อายุของพุทธศาสนาในกัลป์นี้ ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น​ ​ต้องรอยุคของ​พระศรีอาริยเมตตไตรย์ ​พระพุทธเจ้าองค์ต่อ​ไปเสด็จมาโปรดสัตว์)

​ความฝันของ​พระเจ้าปเสนทิโกศล ​และคำทำนายของ​พระพุทธเจ้า​ทั้ง 16 ประการ ประกอบด้วย

1. ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิด​จะชนกัน ก็พากันวิ่งมาสู่ท้อง​พระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดู โค​ทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้ว​ต่างก็ถอยออก​ไป ไม่ชนกัน - ​พระพุทธเจ้า​ได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในชั่วศาสนาของ​พระองค์ ​เมื่อโลกหมุน​ไปถึงจุด​ที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่​ในศีลในธรรม ฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น​ คล้ายเมฆตั้งเค้า​จะมีฝน มีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้ว​ก็ไม่ตก กลับเลย​หาย​ไป เหมือนโคตั้งท่า​จะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น​

2. ทรงฝันว่า ต้นไม้เล็กๆ ​และกอไผ่​ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว​ - ​พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อ​ไป​เมื่อโลกเสื่อม มนุษย์​แม้​จะมีอายุเยาว์ มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็​จะมีราคะ กล้า ​และสมสู่กันตั้ง แต่อายุยังน้อย ​และ​จะมีลูก แต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว​

3. ทรงฝันว่า ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโค​ที่เพิ่งเกิด - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์​จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่​เมื่อหมด​ที่พึ่ง หาเลี้ยงตนไม่​ได้ ก็​ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆ ดัง​ที่แม่โค​ที่​ต้องกินนมลูกโคฉะนั้น​

4. ทรงฝันว่า ผู้คนไม่​ใช้วัวตัวใหญ่ ​ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียน กลับ​ไป​ใช้โครุ่นๆ ​ที่ยังปราศจาก​กำลังมาลาก ​เมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่​ได้ มันก็สลัดแอกนั้น​เสีย - ทรงทำนายว่า ในภายหน้า​เมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่​ในธรรม แทน​ที่​จะยกย่อง​และมอบหมายหน้า​ที่ ให้​กับผู้มีสติปัญญา ​ความรู้ กลับ​ไปมอบยศศักดิ์ให้​กับคนหนุ่ม​ที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้า​ที่​ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จ ก็เหมือน​ใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่​ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น​

5. ทรงฝันว่า เห็นม้าตัวหนึ่ง​ มีปากสองข้าง ฝูงชนก็​เอาหญ้า​ไปป้อน​ที่ปาก​ทั้งสองข้าง มันก็กิน​ทั้งสองข้าง - ทรงทำนายว่า ในอนาคต​เมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่​ในธรรม ตั้งคนพาล หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่น คนเหล่านั้น​ก็​จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่​จะตัดสินคดีต่างๆ ตาม แต่ใจชอบ ​โดย​เอาสินบนจาก​ทั้งสองฝ่าย​เป็นประมาณ ดังม้า​ที่กินหญ้า​ทั้งสองปาก

6. ทรงฝันว่า ฝูงชน​เอาถาดทองราคาแพง ​ไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง​ ​พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้น​ ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น​ - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปคนดีมีสกุล​ทั้งหลาย​จะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำ หรือคนพาล​จะ​ได้​เป็นใหญ่​เป็นโต ​และคนมีตระกูล ก็​จะ​ต้องยกลูกสาว ให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น​ เหมือน​เอาถาดทอง​ไปให้หมาปัสสาวะรด

7.ทรงฝันว่า มีชายคนหนึ่ง​นั่งฟั่นเชือก แล้ว​หย่อน​ไปใน​ที่ใกล้เท้า แม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง​ นอนอยู่​ใต้ตั่ง​ที่บุรุษนั้น​นั่งอยู่​ แล้ว​ก็กัดกินเชือกนั้น​ ​โดย​ที่​เขาไม่รู้ตัว - ทรงทำนายว่า ในกาลข้างหน้า ผู้หญิง​จะเหลาะแหละ​ โลเล ลุ่มหลงในสุรา ​เอา แต่ แต่งตัว เ​ที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้ว​ก็​จะ​เอาทรัพย์​ที่สามีหา​ได้ด้วย​ความลำบาก​ไป​ใช้ หรือให้ชายชู้ เหมือนนางหมาโซ​ที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือก​ที่​เขาฟั่น ​และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า

8. ทรงฝันว่า มีตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมตุ่มหนึ่ง​วางอยู่​ตรงประตูวัง แวดล้อมด้วยตุ่มว่างๆ ​เป็นอันมาก แต่คนก็ยัง​ไปตักน้ำใส่ตุ่ม​ที่เต็มอยู่​ จนล้นแล้ว​ล้นอีก ​โดยไม่เหลียวแล​จะตักใส่ตุ่ม​ที่ว่างๆ นั้น​เลย​ - ทรงทำนายว่า ในอนาคต ​เมื่อศาสนาเสื่อม คน​เป็นใหญ่หรือมีอำนาจ ​จะเบียดเบียนหรือ​เอาเปรียบผู้ด้อยกว่า คน​ที่รวยอยู่​แล้ว​ ก็​จะมีคนจนหาราย​ได้ ​ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น​ ดังฝูงชน​ที่​ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่​ที่เต็มอยู่​แล้ว​จนล้น ​ส่วนตุ่ม​ที่ว่างอยู่​กลับไม่​ไปใส่น้ำ

9. ทรงฝันเห็นสระแห่งหนึ่ง​ มีบัวนานาชนิดขึ้น​อยู่​เต็ม ​และมีท่าขึ้น​ลง​โดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระ แต่แทน​ที่น้ำบริเวณ​ที่สัตว์เหยียบย่ำ​จะขุ่น กลับใสสะอาด ​ส่วนน้ำ​ที่อยู่​ลึกกลางสระ​ที่สัตว์ไม่​ไปดื่มหรือ เหยียบย่ำแทน​ที่​จะใส กลับขุ่นข้น - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไป ​เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่​ในธรรม ขาดเมตตา คอย​ใช้อำนาจ รีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมือง ก็​จะหนี​ไปอยู่​ตามชายแดนหรือ​ที่อื่นๆ ทำให้​ที่นั้น​ๆ ​ที่คนพากัน​ไปอยู่​มี​ความมั่นคง​เป็นปึกแผ่น เหมือนน้ำรอบๆ สระ​ที่ใส ​ส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า เหมือนกลางสระ​ที่ขุ่น

10. ทรงฝันว่า เห็นข้าว​ที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน ​โดยแบ่งออก​เป็น 3 ​ส่วน​คือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ ​และข้าวสุกดี - ทรงทำนายว่า ในอนาคต ​เมื่อคน​ทั้งหลายไม่อยู่​ในศีลในธรรมกันมากขึ้น​ ก็​จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตก​ต้องตามฤดูกาล หรือตกไม่ทั่วถึง ทำให้การเพาะปลูกบางแห่ง​ได้ผล บางแห่งก็ไม่​ได้ผล เช่นเดียว​กับข้าว​ที่มีสุกบ้าง ดิบบ้าง ​และแฉะบ้าง

11. ทรงฝันว่า คนนำแก่นจันทน์​ที่มีราคาแพง ​ไปแลก​กับเปรียงเน่า (อ่านว่า เปฺรียง มี 3 ​ความหมาย ​คือ 1. นมส้มผสมน้ำแล้ว​เจียวให้แตกมัน 2.น้ำมันจากไขข้อวัว และ 3.เถาวัลย์เปรียง แต่ใน​ที่นี้น่า​จะหมายถึงเถาวัลย์เปรียง เทียบ​กับแก่นจันทน์​ที่​เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความหมายแรก) - ทรงทำนายว่า กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่​ได้​ทั้งหลาย แทน​ที่​จะนำธรรมะ ที่​พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจาก​ความทุกข์ และละ​ความโลภ กลับ​ใช้​เป็นเครื่องมือ​เพื่อหากิน หาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือน​เอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอน​ที่ดี) ไปแลก​เอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิส​ที่​ได้รับมา ซึ่งไม่จีรัง​และไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้)

12. ทรงฝันเห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำ​ได้ - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปคำพูดของคน ​ที่ไม่ควร​จะ​ได้รับ​ความเชื่อถือ กลับ​จะ​ได้รับ​ความเชื่อถือ ​โดยเปรียบถ้อยคำของคน​ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีน้ำหนักเบาเหมือน​กับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติ​จะลอยน้ำ แต่​เมื่อคนเชื่อว่า คำพูดเหล่านั้น​มีน้ำหนัก หรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้น​ว่า มีน้ำหนัก ราว​กับน้ำเต้า​ที่จมน้ำ​ได้

13. ทรงฝันว่า ศิลาแท่งทึบขนาดเรือน ลอยน้ำ​ได้เหมือนเรือ - ทรงทำนายว่า ถ้อยคำของคน​ที่ควร​ได้รับการเชื่อถือ ซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่​ได้รับ​ความเชื่อถือ หรือกลาย​เป็นถ้อยคำ​ที่ไม่มีน้ำหนักเหมือน เรือ​ที่ลอย​ได้ ข้อนี้ตรงกันข้าม​กับข้อ​ที่แล้ว​ ​คือ คนหัน​ไปเชื่อคำพูดคน​ที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่ง​ที่ควรลอยกลับจม สิ่ง​ที่ควรจมกลับลอย

14. ทรงฝันว่า ทรงเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ ​และกัดเนื้องูเห่าขาดเหมือนกัดก้านบัว แล้ว​กลืนกินเข้า​ไป - ทรงทำนายว่า ​เมื่อมนุษย์ปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลส ราคะ สามี​จะตกอยู่​ในอำนาจของเมียเด็ก ​และ​จะถูกดุด่าว่า กล่าวเช่นเดียว​กับคนรับ​ใช้ เหมือนเขียดตัวเล็กๆ แต่กลับกินงู​ได้

15. ทรงฝันว่า ฝูงพญาหงส์ทอง ที่มีขน​เป็นทอง ถูกแวดล้อมด้วยกา - ทรงทำนายว่า ในอนาคตผู้มีตระกูล​ต้อง​ไปเ​ที่ยวประจบ และสวามิภักดิ์ต่อผู้ไม่มีตระกูล เหมือนหงส์ทองแวดล้อมด้วยกา

16. ทรงฝันว่า ฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง ​และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัว จน​ต้องหนี​ไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ - ทรงทำนายว่า ต่อ​ไปภายหน้า คนชั่ว หรือคน​ที่ไม่ดี​จะเรืองอำนาจ ​และ​ใช้อำนาจ​เป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้าย หรือไม่​ได้รับ​ความ​เป็นธรรม ​ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ

​เมื่อพิจารณา​ความฝัน ​จะเห็นว่า หลายข้อใน​ความฝัน ​เป็นสิ่ง​ที่ผิด​ไปจากธรรมชาติ เช่น แม่โคกินนมลูกโค ม้าสองปาก เขียดกินงู ​และแกะกินเสือ ​เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนมีนัยอัน​ไปสู่พุทธทำนาย​ทั้งสิ้น หลายคนอาจ​จะสงสัยว่า ​พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ในสมัยพุทธกาล ทำไมฝัน​ได้ไกล​ไปถึงอนาคต อันไม่เกี่ยวข้อง​กับ​พระองค์​ได้ถึงเพียงนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คง​เป็น เพราะเทวดาดลใจ ให้​พระองค์ฝันแปลกประหลาด ​เพื่อ​พระบรมศาสดา​จะ​ได้ฝาก พุทธทำนาย ​เป็นคำพยากรณ์อันอมตะไว้ ​เป็นเครื่องเตือนสติ ให้มนุษย์โลก​ได้ตระหนัก ​และระมัดระวังภัยพิบัตินานัปการ ​ที่​จะเกิดขึ้น​ในภายหน้า หลังจาก​ที่​พระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพพาน​ไปแล้ว​ เพราะคงเล็งเห็นด้วยญาณวิเศษแล้ว​ว่า นับวันคนเราก็​จะห่างไกลจากหลักธรรมคำสั่งสอนของ​พระองค์ จน​เป็นเหตุให้มนุษย์มุ่งทำลาย ​เอารัด​เอาเปรียบ​ทั้ง​เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ​และสิ่งแวดล้อมรอบตัว ​เพื่อกอบโกย​ไปบำรุงบำเรอกิเลสแห่งตน ​โดยขาด​ความรัก ​ความเมตตาต่อกัน จึงทำให้คนเห็นแก่ตัว ​และมีผลให้สภาพแวดล้อม ธรรมชาติแปรปรวน​ไปหมด

ในปัจจุบัน เหตุการณ์หลายๆ อย่าง​ที่เกิดขึ้น​ ไม่ว่า ​จะ​เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ฝนแล้ง อันทำให้เพาะปลูก​ได้ผลบ้าง ไม่​ได้ผลบ้าง ปัญหาเรื่อง​ศีลธรรม​และจริยธรรม เช่น เด็ก​และเยาวชนแก่แดดขึ้น​ มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยเพิ่มขึ้น​ ลูกขาด​ความกตัญญู ​และ​ความเคารพยำเกรงต่อพ่อแม่ อลัชชีหรือ​พระทุศีลมีมากขึ้น​ ชายแก่ตกอยู่​ในอำนาจเมียเด็ก หรือปัญหาเรื่อง​เศรษฐกิจ การเมือง​และสังคม เช่น คนขาด​ความรู้ประสบการณ์ ​ได้รับ แต่งตั้งให้ปกครองบ้านเมืองเพิ่มขึ้น​ ขณะเดียวกัน ผู้มีอำนาจรับสินบน ก็มีให้เห็นอยู่​ทั่ว​ไป คนรวยยิ่งรวย เพราะมีช่องทาง ​และโอกาส​เอาเปรียบคนจน เหมือนตุ่มใหญ่​ที่คนตักน้ำ​ไปใส่จนเต็มแล้ว​เต็มอีก แล้ว​ปล่อยตุ่มเล็กให้ว่างเปล่า ตัวอย่างเหล่านี้ ล้วนไม่พ้นคำพยากรณ์​ที่ทรงทำนาย บอกแก่​พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ​จะเกิดขึ้น​ในอนาคตของสมัยโน้น ก็​คือ สมัยนี้หรือปัจจุบันนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ก็ยังมีพุทธทำนาย เพิ่มเติม​ที่มีผู้ถอด​ความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย ​ความว่า ​พระพุทธองค์​ได้ทรงตรัส​กับ​พระอานนท์ว่า ...​.​เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลย​​ไปถึงกึ่งพุทธกาล สัตว์โลก​ทั้งหลาย​ที่เกิดในยุคนั้น​ ​จะพบ​กับ​ความลำบากทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ​ที่หมุนเวียน​ไปใกล้​ความแตกทำลาย แผ่นดินแผ่นน้ำ​จะลุก​เป็นไฟ มนุษย์​และสัตว์​จะ​ได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น​(ปัจจุบัน) ​จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต ​จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ​ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็​จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมี​ความเคารพยำเกรงใน​พระรัตนตรัย ​และคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็​จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...​ในระยะนั้น​ศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่​ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอ​ได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง ​พระธรรม​จะเริ่มเปล่งแสงรัศ มีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง​

​เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น​ อยู่​ใน​ความอุปถัมภ์ของ​พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ (น่า​จะหมายถึง​พระศรีอาริยเมตตไตรย์)....​จะเสด็จมาเสริมสร้าง​พระศาสนา ของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบ​ไปอีก 5,000 ​พระวรรษา​คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่​ใน​ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้ว​ไม่เชื่อ นับ​เป็นกรรมของสัตว์โลก​ที่​ต้องสิ้นสุด​ไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจ​และลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึง​จะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล นี่​คือพุทธทำนาย​ที่ทรงตรัสไว้ กว่า 2500 ปีล่วงมาแล้ว​ ​ส่วน​ใคร​จะเชื่อ ​จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ก็คง​เป็น​ไปตามกรรม ของ แต่ละคนดัง​พระพุทธองค์ว่า ไว้


#2 newtiti

newtiti
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 01:04 PM

อนุโมทนาบุญค่ะ ความรู้สึกนะคะ รู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบันคล้ายกับพุทธพยากรณ์เข้าไปทุกที โดยส่วนตัวประกอบอาชีพครูก็จะคลุกคลีอยู่กับเด็ก ก็จะเห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ คงต้องช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรมโลกกันอย่างจริงจังแล้วนะคะ การทำความดีกลายเป็นการทำสิ่งที่แปลกประหลาดในสังคมไปแล้ว..ก็มีที่ DMC นี่แหล่ะค่ะ ที่เป็นกำลังใจในการที่จะทำความดีต่อไป

#3 กาแฟเย็น

กาแฟเย็น
  • Members
  • 121 โพสต์
  • Location:milan
  • Interests:วาดการ์ตูน เล่นคอมกับโปรแกรมแต่งรูปต่างๆ ชอบถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน

โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 05:11 PM

"เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น​ อยู่​ใน​ความอุปถัมภ์ของ​พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ (น่า​จะหมายถึง​พระศรีอาริยเมตตไตรย์)....​จะเสด็จมาเสริมสร้าง​พระศาสนา ของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบ​ไปอีก 5,000 ​พระวรรษา​คำทำนายของตถาคตนี้"

คิดว่าไม่ใช่พระศรีอาริยเมตตไตรย์หรอก เพราะว่า เวลาของท่าน ต้องรอให้ศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันหมดลงก่อน คือให้ครบ 5000 ปี จากนั้น โลกต้องถอยลงจนอายุมนุษย์ลดลงถึง 10 ปี เสี่อมสุดๆ เกิดสงครามล้างโลก จากนั้น จึงค่อยฟื้นขึ้นมา เป็นช่วงไขขึ้น จนมนุษย์อายุเป็นหมื่นปี แล้วพระศรีอาริยเมตตไตรย์จึงจะเสด็จลงมาตรัสรู้และประกาศศาสนา(ตามที่แบ่งกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาตรัสรู้ได้คราวละพระองค์ ไม่ทับซ้อนกันเด็ดขาด แต่เป็นไปตามลำดับ)

ช่วงกึ่งพุทธกาลคือ 2500 ปี จะมี"พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์"ร่วมกับ"ธรรมิกราชโพธิญาณ"ลงมาเกิดเพื่อฟื้นฟูและยอยกพระพุทธศาสนาจากช่วงความเสื่อมถอยตอนกึ่งพุทธกาล ให้รุ่งโรจน์โชติช่วงอีกครั้งและสามารถดำรงอยู่ไปได้ถึง 5000 ปีตามพุทธทำนาย

#4 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 07:57 PM


พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ คือ หลวงปู่

ธรรมิกราชโพธิญาณ คือ หลวงพ่อ

#5 พุทธรักษา

พุทธรักษา
  • Members
  • 78 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 April 2008 - 05:54 AM

บทความดี้ดี..ดีจริงๆ

#6 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 26 April 2008 - 10:40 AM

อะไรก็แล้วแต่ ที่น่าสนใจคือตรงนี้

คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่​ใน​ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้ว​ไม่เชื่อ นับ​เป็นกรรมของสัตว์โลก​ที่​ต้องสิ้นสุด​ไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจ​และลาภยศ ตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึง​จะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล นี่​คือพุทธทำนาย​ที่ทรงตรัสไว้ กว่า 2500 ปีล่วงมาแล้ว​ ​ส่วน​ใคร​จะเชื่อ ​จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร ก็คง​เป็น​ไปตามกรรม ของ แต่ละคนดัง​พระพุทธองค์ว่า ไว้

อย่าประมาทกันนะครับทุกท่าน

อนุโมทนาบุญด้วยครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#7 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 April 2008 - 11:55 AM

พระศรีอารย์จะมาเป็นพระเจ้าจักพรรดิ์ในยุคกึ่งพุทธกาลแน่นอน เวลานั้นผู้ชายเหลือน้อย ผู้หญิงเหลือเยอะ ผู้ชายหนึ่งคนจะมีเมียหลายคน อายุขัยจะยืนยาวขึ้นเป็น120-150ปี ศาสนาพุทธจะแผ่ไพศาลไปทั่วโลก
รุ่งเรืองไป 1000 ปีเศษ ยุคนั้นผู้คนจะมีจิตใจดีงาม แต่ต้องผ่านความยากลำบากไปก่อน นับจากนี้ไปก็
ไม่เกิน25-60 ปี ให้รอดูต่อไป

#8 ::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::

::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::
  • Members
  • 706 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:โรงกลั่นอุดมการณ์

โพสต์เมื่อ 27 April 2008 - 11:18 AM

ผมได้ยินมาว่า

พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ มี 2 องค์ คือ หลวงปู่และหลวงพ่อ

ธรรมิกราชโพธิญาณ คือ พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 12 แห่งราชวงศ์จักรี ( จักรพรรดิวงบุญพิเศษ )

ได้ยินมาอย่างนั้นนะครับ ถูกไม่ถูกไ่รู้

แต่เหมือนจะตรงกับดวงเมืองสมัยตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ (มหากาฬ ภาณยักษ์ รักมิตร สถิตธรรม จำแขนขาด ฯลฯ )




#9 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 April 2008 - 08:16 PM

อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่มีสิ่งใดในโลกคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์
เป็นกฎของธรรมชาติ
สาธุ

#10 กัลฯ ภาค 7

กัลฯ ภาค 7
  • Members
  • 93 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 28 April 2008 - 02:37 PM

มีความเห็นตรงกับ DJ96.25 PM2-3 คือ พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และพระธรรมิกราชโพธิญาณ คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แต่ของ Bruce Wayne ที่บอกว่าผู้ชายเหลือน้อย ผู้หญิงเหลือเยอะ ผู้ชายหนึ่งคน จะมีเมียหลายคน ก็ผิดศีลข้อ ๓ น่ะซีคะ อย่างนี้ไม่บาปแย่เหรอคะ คนก็ผิดศีลกันหมด ศีล ๕ ไม่ครบ ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดูถึงรึเปล่า อีกตั้ง ๒๕-๖๐ ปี แต่จะพยายามอยู่ให้ถึงเวลานั้นนะคะ และก็จะยึดหลักถือศีล ๕ ในวันธรรมดา และอุโบสถศีล ศีล ๘ ในวันพระ ตลอดไปจนกว่าจะถึงวันนั้นนะคะ

#11 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 April 2008 - 04:19 PM

ข้อมูลของคุณBruce Wayne น่าสนใจ ผมเพิ่งเคยได้ยิน ขอแหล่งที่มาของข้อมูลสำหรับศึกษาต่อด้วยครับ

กัลป์ไขลงแต่อายุขัยยาวขึ้น? แล้วพระเจ้าจักรพรรดิ์จะมาเกิดในยุคอายุขัย๗๐กว่าปีหรือ?

เพราะจากชาดก พระเจ้าจักรพรรดิ์ทั้งหมดเกิดในยุคอายุขัยยาวๆ



#12 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 April 2008 - 10:13 AM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#13 praserta

praserta
  • Members
  • 1 โพสต์
  • Location:คลองสอง คลองหลวง ปทุมธานี
  • Interests:ชอบฟัง case study และนั่งสมาธิ

โพสต์เมื่อ 03 May 2008 - 10:18 AM

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยนะครับ ขอทราบแหล่งที่มาเพื่อนำไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยนะครับ

#14 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2008 - 01:06 AM

คุณเชื่อหรือไม่ พระพุทธเจ้าส่วนใหญ่บังเกิดในยุคอายุขัยยาวๆ แต่มีอยู่พระองค์หนึ่ง บังเกิดขึ้นในขณะที่มนุษย์มีอายุขัยเพียง100ปี แล้วทำไมพระเจ้าจักรพรรดิจะมีอายุขัยสัก150-250 ปีไม่ได้
ถึงแม้จะเป็นกัปไขลงแต่อายุขัยยืนยาวขึ้นก็จริงแต่มันก็ไม่ได้กระทบอายุของมหากัปเพราะมันเพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆระยะ
เวลาก็ไม่นานมากเมื่อเทียบกับอายุของมหากัปที่มหาศาล เหมือนเติมน้ำ1 ขันลงมหาสมุทร ทะเลก็ไม่เอ่อล้นท่วมโลกหรอก พอหมดยุคพระจักพรรดิ 1000 ปีเศษ อายุขัยมนุษย์ก็จะค่อยๆลดลงไปเหมือนตอนปรกติ
และคุณต้อง ไปดูองค์ประกอบของศีลข้อ 3 มาให้ดี
พระโ พธิสัตว์ทุกพระองค์ก่อนออกบวชแ ล้วตรัสรู้ก็มีเยอะทุกพระองค์ครับ องค์ปัจจุบันคุณคิดว่ามีแต่มารดาพระราหุล แต่ไม่ใช่ มีอีกตั้ง 84,000 นาง พระศรีอารย์ก่อนบวช 700,000 นาง ในทศชาติชาดก ชาติไหนไม่ได้ออกบวช บางชาติท่านก็มีมาก
ยุคนี้เป็นยุค ผัวเดียวเมียเดียว แต่ยุคอื่นๆผู้ชายคนหนึ่งอาจจะมีของเขาหลายคน

คนที่ขอข้อมูลมาจะพิจารณาส่งข้อมูลให้ทางข้อความส่วนตัว จะพิจารณาเป็นรายๆไปครับ

แก้ไขโดย Bruce Wayne 13 May 2009 - 09:44 PM


#15 tasawun

tasawun
  • Members
  • 58 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2008 - 09:50 AM

เรามาทำใจให้หยุดนิ่ง ให้เข้าถึงพระภายในกันเถิด ประเสริฐนัก และเราจะรู้ว่า เราเกิดมาไม่เสียชาติเกิดครับ อย่าประมาทอยู่เลย

#16 เด็กน้อย

เด็กน้อย
  • Members
  • 45 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 10:21 PM

ตอบดีครับ
มามัวแต่คิดเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นอยู่ได้
5555555555
555555555
55555555555
ไร้สาระ