ภรรยาใช้สามีซักผ้าถุงซักชุดชั้นในรีดผ้าถูบ้านเขาจะบาปใหม
#1
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:05 PM
#3
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:13 PM
คุณก็บอกภรรยานะว่า ถ้าใช้ผมอีกครั้ง ผมจะออกบวช ไม่สึก (แล้วก็ต้องทำจริงๆ ด้วย) นี่แหล่ะกรรมทันตาเห็น โทษฐานที่ใช้สามี ฮ่าๆๆ
อ้อ พาภรรยาเข้าวัด ดูดีเอ็มซีด้วยสิคะ เดี๋ยวหลวงพ่อท่านสอนเอง
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:13 PM
แต่ก็ดีแล้วครับ สุจิปุลิ ฟังคิดถามเขียน หัวใจนักปราชญ์ครับ อนุโมทนาด้วย
#5
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:21 PM
เคยมีเพื่อนหลาย ๆ คนชอบพูดเหมือนกับว่าแฟนเค้ารักเค้ามาก ซักชุดชั้นใน ทำให้ทุกอย่าง...เราก็เลยถามเค้าว่า นั่นเป็นสิ่งที่ดีเหรอ? นั่นคือความรักเหรอ?
#6
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:36 PM
ดิฉันกลับคิดว่า เกิดเป็นหญิง เหมือนเป็นทาสในเรือนเบี้ย ยังไงก้อไม่รู้ พอแต่งงานแล้วต้อง ฝึกทำอาหาร (กางตำรากันเลย) ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า รดน้ำต้นไม้ ล้างห้องน้ำ ล้างรถ แถมยังต้องฝึกเป็นหมอนวดอีกนะ ต้องไปหาตำรามาอ่านทั้งนวดเท้า นวดตัว พอตัวเองดูโทรม ต้องลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเองอีก เสื้อผ้า หน้าผม ลดน้ำหนัก โอยย สารพัดสุดจะบรรยาย เวลาเหนื่อยๆ นะ อยากย้อนเวลากลับไป ..เป็นโสดดีกว่า แถมตอนนี้มีปัญหา กับญาติของสามีอีก...เบื่อมากกกกก
ดีนะ ที่มีหลวงพ่อ เป็นกำลังใจทุกวัน ทำให้รู้สึกว่า ชีวิต มี คุณค่า ขึ้นมาบ้าง
เป็นไงคะ คุณสาคร ชีวิตเราฟังดู คล้าย ๆ กันมั้ยคะ......ชาติก่อนเราคงไปทำกรรมอะไรมา เหมือนๆ กันละมั้ง 5555
ที่คุณถามมา ดิฉันไม่มีคำตอบให้หรอกค่ะ แต่ เป็นกำลังใจให้ละกัน เพราะเราหัวอกเดียวกัน 5555 ขำๆ เนอะ
#7
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:45 PM
ลองให้คุณแม่บ้านดู DMC สิคะ พักหลังรู้สึกจะ case ที่ให้คุณแม่บ้านปัฏิบัติกับสามีเหมือนเทวดา ตื่นก่อนนอนทีหลัง อะไรแบบนี้บ่อยค่ะ
แต่คิดดูอีกที คุณเป็นพ่อบ้านตัวอย่างได้เลยนะเนี่ย
#8
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:53 PM
#9
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:54 PM
#10
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:57 PM
โอออออออออออออออออออออออออออออ บรรยายได้เห็นภาพจริงๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 คนเลยค่ะ ไม่มีคำแนะนำจริงๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
น้าจี้
#11
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 03:09 PM
#12
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 03:11 PM
#13
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 03:55 PM
แต่เรื่องจริงคงเศร้าน่าดูเลย
ไปอ่านดูนะครับเรื่อง
ภรรยา 7 ประเภท ในมงคลเรื่อง สงเคราะห์ภรรยา-สามี
ในหนังสือมงคลชีวิต
แล้วจะเข้าใจว่าคุณเจอภรรยาแบบไหน
ผม copy มาให้อ่านนะครับ ลองเข้าไปอ่านดูทั้งหมดนะ
http://www.kmitl.ac....gkol/index.html
ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ภ ร ร ย า
ภรรยาทั้งหลายในโลกนี้ แบ่งได้เป็น ๗ ประเภท คือ
๑. วธกาภริยา ภรรยาเสมอด้วยเพชฌฆาต คือภรรยาที่มีใจคิดล้างผลาญชีวิตสามี พยายามฆ่าสามี ยินดีในชายอื่น ตบตี แช่งด่าสามี
๒. โจรีภริยา ภรรยาเสมอด้วยโจร คือภรรยาที่ชอบล้างผลาญทรัพย์สามี ใช้ทรัพย์ไม่เป็นบ้าง ยักยอกทรัพย์เพื่อความสุขส่วนตัวบ้าง สร้างหนี้สิน ให้ตามใช้บ้าง
๓. อัยยาภริยา ภรรยาเสมอด้วยนาย คือภรรยาที่ชอบล้างผลาญศักดิ์-ศรีสามี ไม่สนใจช่วยการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย กล่าวคำหยาบ ชอบข่มขี่สามีซึ่งขยันขันแข็ง เหมือนเจ้านายข่มขี้ข้า ภูมิใจที่ข่มสามีได้
๔. มาตาภริยา ภรรยาเสมอด้วยแม่ คือภรรยาที่มีความรัก เมตตาสามีไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนมารดารักบุตร เช่น สามีจะตกต่ำหมดบุญวาสนา จะป่วยจะพิการตลอดชีวิตก็ไม่ทอดทิ้ง ไม่พูด ไม่ทำให้สะเทือนใจ แม้ตายจากไปตั้งแต่ตนยังสาวก็ไม่ยอมมีสามีใหม่
๕. ภคินีภริยา ภรรยาเสมอด้วยน้องสาว คือภรรยาที่เคารพสามี มีความรักยั่งยืน แต่มีขัดใจกันบ้าง ทั้งซน ทั้งงอน ทั้งขี้ยั่ว ทั้งขี้แย ต้องทั้งขู่ทั้งปลอบ ประเดี๋ยวจะเที่ยว ประเดี๋ยวจะกิน จะแต่งตัว แต่ก็ซื่อสัตย์ต่อสามี
๖. สขีภริยา ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน คือภรรยาที่มีรสนิยม มีความชอบเหมือนสามี ถูกคอกัน เป็นคนมีศีลธรรม มีความประพฤติดี แต่อาจมีความทะนงตัวโดยถือว่าเสมอกัน หากฝ่ายตรงข้ามขาดเหตุผลก็ไม่ยอมกันก็เป็นได้
๗. ทาสีภริยา ภรรยาเสมอด้วยคนใช้ คือภรรยาที่ทำตัวเหมือนคนใช้ ถึงสามีจะเฆี่ยนตี ดุด่า ขู่ตะคอก ก็ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้ อยู่ในอำนาจสามี
จะดูว่าใครเป็นสามี-ภรรยาชนิดไหน ต้องดูหลังจากแต่งงานแล้วสัก ระยะหนึ่งจึงจะชัด การแต่งงานมีอยู่ ๒ ระยะ คือ
- ระยะแต่ง คือก่อนเป็นสามีภรรยากัน ต่างคนต่างแต่ง ทั้งแต่งตัว แต่งท่าทาง อวดคุณสมบัติให้อีกฝ่ายหนึ่งเห็น
- ระยะงาน คือหลังจากเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต่างคนต่างต้องทำงานตามหน้าที่ ใครมีข้อดีข้อเสีย มีความรู้ความสามารถ มีความประพฤติอย่างไรก็จะปรากฏชัดออกมา
ที่มา : มงคลชีวิต 38 ประการ
พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 04:44 PM
#15
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 05:09 PM
เพราะแต่งงานแล้วนิ อีกอย่างคุณเองอาจจะเคยทำกับเค้าแบบนี้ในชาติที่แล้วละ
ทำใจเถอะ แต่ขอบอกว่าถ้าขู่ว่าบวชเป็นพระนะ ทำร้ายจิตใจกันจังเลย
หางทางคุยกันดีๆพออารมย์ดีๆไปนั่งทานข้าวลองคิดถึงตอนที่รักกันใหม่ๆดูนะ
บอกเค้าแบบนี้ดิ
#16
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 06:59 PM
#17
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 07:40 PM
นี้คือภาพของกรรมที่เคยทำในอดีตชาติของตัวเราเองรึปะ
ทนๆ สอนๆ ยิ้มๆ
----------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#18
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 07:46 PM
#19
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 01:12 AM
พาเข้าวัดสิคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#20
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 09:02 AM
เสียดายจังเคยอ่านบทความบทความหนึ่ง...ประมาณว่า คนคนนั้นพูดจาดี เอาใจคนอื่นทุกคน ยกเว้นคนในบ้าน บทความนั้นใช้ถ้อยคำให้หันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวบ้าง...ถ้าหาเจอแล้วเดี๋ยวเอามาฝากนะคะ จะได้ Printout ออกไปแอบตั้งให้ภรรยาอ่านค่ะ
#21
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 09:25 AM
การครองเรือนมันก็ทุกข์อย่างนี้แหละ ใครเป็นผู้ชายอย่าแต่งงานเลย
ออกบวชดีกว่า ช่วยหลวงพ่อเผ่ยแผ่ธรรมะดีกว่า
ใครทําได้ สาธุด้วยคะ 頑張りましょうね。。。。
มองดูรอบตัวขณะนี้ทุกคนต่างดิ้นรน
ต่างวุ่นวายเพื่ออะไรกันหนอ.........
ต้องรีบตื่นมาแต่เช้า
เด็กก็ต้องรีบไปเรียนผู้ใหญ่ก็ต้องทำงานเพื่อหาทรัพย์มาให้
แล้วเด็กก็เรียนจนจบ
จากนั้นก็ทำงาน
แต่งงานมีครอบครัวใหม่
มีลูก........แล้วลูกก็มาทำเหมือนกับที่ตัวเองเคยทำ
คือ....เรียน.......ทำงาน.........มีครอบครัว.......เลี้ยงลูก
ทุกคนต่างเกิดความเคยชิน
เหมือนเป็นกรอบของสังคมที่สร้างไว้ให้เราเดิน
สุดท้ายได้อะไร.........
มีใครบ้างหนอ
ที่คิดจะออกนอกกรอบนี้
มีใครบ้างหนอ
ที่คิดแล้วสามารถทำได้สำเร็จ
กี่คนกันที่ทำได้................
#22
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 11:09 AM
#23
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 12:42 PM
ขอให้พาภรรยามาฟังเทศน์ที่วัด หรือฟังDMC แบบตั้งใจ น่าจะดีขึ้นนะ
ช่วงไหนอารมณ์ดีๆ พร้อมกันทั้งสองคน ก็ค่อยๆ พูดจาภาษาดอกไม้ ปรับความเข้าใจกันว่า
ใครอยากได้ยังไง อยากเป็นยังไง แต่มีกติกาว่าห้ามโกรธกันนะ
#24
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:23 PM
ดีครับ
กระทู้นี้ของคุณมีประโยชน์ดีครับ เหมาะสำหรับคนที่กำลังคิดจะไปเป็นแบบคุณ 5555
คุณเขียนได้เห็นภาพและขำดีจริงๆครับ
#25
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:26 PM
ถ้าเราทำได้โดยไม่คิดอะไรก็ดี
แต่ถ้าเราไม่ชอบ คุยกันก่อน พาเค้าเข้าวัดเลยค่ะ
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#26
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 03:41 PM
..............................................
เป็น บาป นะ คะ..
สา มี ประ ดุจ เทวดา..
ไม่ ได้ อยู่ ใน เพศ อาภัพ..ถ้า บวช ก็ เข้า นิพพาน แล้ว นั้น
ถ้า ตั้ง ใจ ปฏิบัติธรรม..
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#27
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 10:09 PM
ก่อนอื่นในฐานะที่เป็นพวกเดียวกัน (สมาชิกบอร์ดเหมือนกันนะคะ) ก็คงมีความเห็นเหมือนกับทุกท่านที่กล่าวมานะคะ ว่า คุณสาคร ผู้น่าสงสารคงเลี้ยวผิดทางไปหน่อยน่ะค่ะ ถ้าเดินตรงมาตั้งแต่แรกๆ คงไม่หลงทาง และคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพ ซินเดอเรลลาเช่นนี้นะคะ ทีนี้คุณสาครต้องเพิ่มหน้าที่อีกอย่างแล้วค่ะ หลังจากที่ทำหน้าที่ของ ซินเดอเรลลาจบแล้วในแต่ละวัน พาภรรยาไปนั่งพักผ่อนสบายๆ นะคะ แล้วอ่านหนังสือให้ฟังเพิ่มด้วยอีกอย่างนึงค่ะ แนะนำหนังสือ ครอบครัวอบอุ่น ของที่วัดนะคะ มีโอกาสได้ไปวัดมั๊ยคะ ถ้าไม่ได้ไป แจ้งที่อยู่ที่จัดส่งเอกสารสะดวกได้เลยค่ะ เดี๋ยวจัดส่งไปให้ เพราะตอนนี้กำลังมี project ส่งหนังสือเล่มนี้ให้ พี่ น้อง และเพื่อนๆ อยู่ค่ะ (แต่จะส่งได้หลังวันที่ 3 นะคะ เพราะไปวัดวันนั้น) เขียนดี อ่านเข้าใจง่าย รับรองว่า อ่านให้ภรรยาฟังแล้วไม่โดนดุ อาจเปลี่ยนเป็น ภรรยาผู้น่ารักได้ด้วยนะคะ เนื้อหาว่าด้วยเรื่องของคนโสดที่ยังไม่มีคู่ ที่กำลังหาคู่ และคนที่มีครอบครัวแล้ว เทคนิคการครองเรือน วิธีการปฏิบัติตัว ของ สามี และภรรยา ดีมากๆค่ะ ภรรยาคุณสาคร อาจชอบก็ได้ค่ะ
ที่นี้ ในฐานะของผู้หญิง อิ อิ พอดีไม่ทราบว่า การแบ่งหน้าที่ของคุณสาครและภรรยาเป็นเช่นไรค่ะ เพราะถ้าเท่าที่ดู คุณสาครจะมีเวลานั่งหน้าคอมฯเยอะหน่อย แปลว่าเป็นพ่อบ้านรึเปล่าคะ ถ้าเป็นพ่อบ้านแล้วต้องทำหน้าที่นี้ ก็ไม่แปลกนะคะ เพราะ เพื่อนของ koonpatt บางคน ก็เป็นฝ่ายออกไปทำงาน เพราะมีกิจการของตัวเอง แต่งานบ้านไม่เก่ง สามีทำงานบ้านได้ดีกว่า ก็เลยลาออกจากงาน มาเป็นพ่อบ้านค่ะ เพราะดูแลบ้านช่องห้องหับ ได้เรียบร้อยกว่า เลี้ยงลูกได้ดีกว่า สอนลูกได้ดีกว่า ก็แบ่งกันค่ะ ก็เห็นไม่มีปัญหานะคะ ถ้าตกลงกันได้ลงตัว และมีความสุขทั้งสองฝ่าย (อันนี้พูดถึงในกรณีของคนที่มีครอบครัวไปแล้วนะคะ) แต่ถ้าไม่ใช่แบบเพื่อนของ koonpatt ก็เห็นใจค่ะ แต่...ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ เวลาเพื่อนมีปัญหาครอบครัว koonpatt พูดได้คำเดียวค่ะ ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก เลือกเองนะ....เลือกเอง
แต่ก็ขอบพระคุณ คุณสาครนะคะ ทำให้เข้าใจได้อีกอย่างนึงว่า ผู้ชายก็ บ่น ภรรยา(ลับหลัง)ได้เหมือนกัน จะได้ยืนหยัดมั่นคงในอุดมการณ์ต่อไปค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#28
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 01:57 AM
เห็นใจจริงๆค่ะ - -"
แม้จะเป็นเด็กน้อยอยุ่แต่ก็เจอปัญหานี้อยู่รางๆ - -"
เวลาเค้ามีปัญหา(ส่วนมาก)เค้าพึ่งเรา เวลาเรามีปัญหา(ส่วนมาก)ต้องพึ่งตัวเอง
#29
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 04:09 PM
#30
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 04:49 PM
โธ่..ลำบากซะขนาดนี้ยังทนครองเรือนอยู่ทำไมคะเนี่ย..(ไม่เข้าใจจริงๆ)
ถ้ายังคิดอะไรไม่ออก ก็ออกจากความคิดก่อนก็แล้วกันนะคะ
สักวันคงมีวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ..ขอให้โชคดีค่ะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน