จะลืมอกุศลกรรม (หนัก ๆ ) ที่เคยก่อไว้ได้อย่างไร
#1
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 07:28 PM
จะมีวิธีวางใจอย่างไร ให้ลืมบาปอกุศลกรรมที่เราเคยทำและรู้ว่าหนักหนาสาหัสมากเช่นการฆ่าคน ในเมื่อเรามักต้องอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เราไปฆ่าด้วย
1) เราควรจะรวบยอดไปเลยว่าให้เจ้ากรรมนายเวร โดยไม่ระบุถึงคนที่เราไปฆ่าเขามา เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องระลึกเสมอว่าเราเคยฆ่าใคร หรือ
2) เราควรจะระบุถึงคนที่เราไปฆ่าเขานั่นแหละ เพราะบุญที่เขาได้ จะได้รับไปเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งกับเจ้ากรรมนายเวรอื่นๆ และเป็นการแสดงให้เขารู้ว่าเราตั้งใจขอขมา ขอโทษ สำนึกผิด จริง ๆ นะ อย่าจองเวรกันเลย
3) แต่ถ้าเราต้องระบุถึงเขาทุกครั้งที่เราทำบุญ หรือนั่งสมาธิ แล้วเราจะลืมได้อย่างไรว่าเราเคยทำบาปมา
4) เราต้องเตรียมตัวทำใจให้ใสอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่รู้เวลาตายจะมาเมื่อไหร่ (มรณานุสติ) แต่ในเมื่อยังเข้าถึงองค์พระไม่ได้ และรู้ว่าถ้าตายไปก็ไปนรกแน่เลย จึงทำให้ใจเศร้าหมองมากเลย จะทำอย่างไรดี
5) เคยทราบจากแม่ชีธนพรว่าถ้ากรณีที่เจ้ากรรมนายเวรเค้าโกรธเรามากๆ เค้าจะจองเวร ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ทำงานก็ไม่รุ่ง ชีวิตมีปัญหาสารพัด วิธิแก้วิธีหนึ่งคือหาผู้ที่ปฏิบัติธรรมที่มีคุณธรรมสูงที่มีเมตตาจิตมาก ๆ ที่สามารถแผ่เมตตาบารมีให้กับเจ้ากรรมนายเวรผู้นั้นได้ แล้วพอเค้าได้บุญจุดหนึ่ง เค้าก็จะเลิกจองเวรกับเรา เพราะเวลาที่เราแผ่เอง เราอาจจะจิตนิ่งไม่พอ ทำให้เกิดการแผ่เมตตาจริง แต่มันไม่ถึงเจ้ากรรมนายเวรของเรามากเท่าผู้รู้ แต่เนื่องจาก ไม่ได้รู้จักพระอาจารย์ที่มีบารมีองค์ใดเป็นพิเศษ จะทำอย่างไรดี
#2
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 07:55 PM
2. บาปใหม่ทุกชนิด ก็งดทำด้วย ไม่ทำเพิ่มอีกเด็ดขาด
3. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทุกที่ทุกเวลา
4. หมั่นนึกถึงบุญที่ทำอยู่เสมอ
5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
อย่านึกถึงบาปอกุศลกรรมที่เคยทำนะคะ จะทำให้หมอง ปฏิบัติตาม 5 ข้อข้างต้น โดยเฉพาะข้อที่ 1 แต่เข้าใจนะคะ ว่าให้ลืมน่ะ ลืมไม่ได้หรอก แต่.......อย่าไปนึกถึงค่ะ เวลาที่แว่บนึกขึ้นมา ให้รีบบอกตัวเองว่า อย่าไปนึก แล้วก็คิดถึงเรื่องบุญแทนนะคะ ใหม่ๆ จะยากนิดนึงค่ะ แต่รับรองว่าทำได้แน่ๆ และถ้าทำได้ จะสบายใจขึ้น และมีความสุขกับบุญ ที่เราได้เริ่มทำตั้งแต่วินาทีต่อไป ชั่วโมงต่อไป พรุ่งนี้เช้า วันนี้ อาทิตย์หน้า และทำบุญต่อไปเรื่อยๆทุกวันนะคะ
5 ข้อด้านบน เอามาจากกระทู้ก่อนหน้านี้ จากคุณหัดฝันนะคะ เพราะตัวเองจำได้ แต่เรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดไม่เรียบร้อย สวยงามเหมือนของคุณหัดฝันค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะคุณหัดฝัน สา...ธุ ค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#3
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 08:28 PM
มักจะวนคิดซ้ำไปซ้ำมา
ทำให้จำเหตุการณ์อย่างที่ท่านกล่าวมา ผุดมาเรื่อยๆ ครับ
จิตคนนี่เป็นสิ่งอ่อนไหว ละมุนละไม ละเอียดอ่อน ครับ
ผมมีคาถาครับ...คาถาคือ..ช่างมัน ฉันบ่ฮู้
ข้อยจำบ่อได้ แกล้งๆลืม แบบครูไม่ใหญ่ท่านแนะนำครับ
ถ้าท่าน มีมโนทัศน์แวบ เข้ามาว่าเคยทำกรรมหนัก
หรือมโนทัศน์การกระทำที่ไม่ดี บ่อยๆ
จะเกิดสภาวะ Psychosomic disorders
(หมอบอกผมมาครับ)
จะทำให้ ปวดหัว ปวดเมือ่ย เป็นแผลในกระเพาะ
ถ่ายเป็นเลือด เป้นภูมิแพ้
แม้จะมียาดีแค่ใหน ก็ไม่หาย
มันเป็นผังสำเร็จ มาจากจิต ของท่านครับ
คนเรามักมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งมาก ครับ
เช่นในบอร์ด แสดงความเห็นขัดแย้งกัน ก็ขัดแย้งกัน
แต่ไม่ได้แปลว่า จะโกรธ ม่ายช่ายๆ เด้อ
ถ้าลองปรับตัวลืมไม่ได้ และแกล้งลืม ไม่ได้
ต้องอดทนกับมันล่ะครับ แต่จะไม่มีความสุข
นั่นคือ ตัวแปรเริ่มต้นของสถาวะจิตที่ไม่ดีครับ
ต้องบวชสัก 1 พรรษา อาจจะดีขึ้นครับ
ผมก็เป็นกำลังใจให้ลืมอดีตที่ผิดพลาดทั้งหมดให้ได้ในเร็ววันนะครับ ....ขออวยพร ครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#4
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 10:01 PM
ด้ายเส้นเดียว .........ไม่เป็นผืนผ้า
อิฐก้อนเดียว .... ไม่เป็นบ้านเรือน
ทำบุญคนเดียว ...ไม่เป็นกัลยาณมิตร
#5
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 10:29 PM
ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรนะค่ะ แต่เป็นคู่กรรมคู่เวรค่ะ
น้าจี้
#6
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:11 PM
เพราะบุญเรายังไม่มากพอ ต้องแบ่งบุญให้เขา แต่อย่าไปยกบุญให้ใคร
บางทีเราทำไม่ดีสิ่งนั้นมันก็แว๊บขึ้นมาโดยที่เราไม่ตั้งใจ ต้องลืมมันไปเร็วๆ ทางที่ดีจิตต้องอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา
เท่าที่ทำได้นะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:20 PM
1. ถ้าคนที่มีร่างกายแข็งแรง โดยการหมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เขาก็ไม่ต้องถึงกับห้ามอาบน้ำเย็น ไม่ต้องนอนห่มผ้าทุกคืน ไม่ต้องใส่เสื้อหนาๆ ให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอใช่มั้ยครับ เพราะร่างกายเขาแข็งแรงอยู่แล้ว
2. ถ้าคนที่ร่างกายไม่แข็งแรง วิธีป้องกันโรคไข้หวัดคือ ต้องห้ามอาบน้ำเย็น ต้องนอนห่มผ้าห่มทุกคืน ต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ เป็นต้น
จิตใจก็เช่นเดียวกันครับ จิตใจที่ไม่เข้มแข็ง ก็เหมือนร่างกายที่ไม่แข็งแรง ก็จะต้องป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้คิดถึงสิ่งไม่ดี ทำให้กิเลสความเศร้า ความท้อ เข้าครอบงำได้ แต่ถ้าจิตใจแข็งแรง ด้วยการฝึกจิตใจ นั่งสมาธิ ฯลฯ อยู่เป็นประจำ เดี๋ยวจิตใจจะเข้มแข็งมีกำลัง ไม่เศร้าหมองง่ายๆ เองแหละครับ
ทีนี้มาตอบคำถาม
1. หรือ 2. เวลาอุทิศบุญให้ผู้ที่เราเคยล่วงเกินมา จำเป็นต้องเอ่ยชื่อมั้ย หรือไม่ต้องดี
ตอบ จิตใจคุณยังไม่แข็งแรง การไม่เอ่ยชื่อจะดีกว่าเพราะจิตใจคุณไร้กำลังต้านทานความเศร้าหมองน่ะครับ แต่ถ้าจิตใจคุณเข้มแข็งมีพลัง คุณสามารถเอ่ยชื่อได้เลยครับ มันไม่อาจกระทบอะไรจิตใจคุณได้ แล้วทำไงจิตใจจะเข้มแข็งล่ะ 1 ในวิธีนั้น คือ การนั่งสมาธิน่ะครับ
3. ถ้าต้องระบุชื่อ จะลืมได้อย่างไร
ตอบ ก็ด้วยการฝึกใจให้เข้มแข็งมีพลังขึ้นมาไงล่ะครับ ในตอนต้น ผมพูดถึง สมาธิ อย่างเดียว แต่ตอนนี้ ผมจะแนะนำพลังใจทั้ง 5 ให้คุณรู้จัก พวกเขาจะช่วยคุณได้ ได้แก่
พลังสติ มีสติระลึกได้ เช่น เผลอแว็บคิดถึงความหลังอีกแล้ว ก็มีสติว่า เผลอแล้ว ตั้งสติไหม ไม่ให้เผลอ
พลังสมาธิ ฝึกสมาธิเป็นประจำให้ใจเข้มแข็งมีพลัง
พลังปัญญา หาข้อมูลคนสู้ชีวิตอ่าน เช่น คุณครูไม่ใหญ่เคยเทศน์ โสเภณี ยังนั่งสมาธิเข้าถึงธรรมเลย ไปหาฟังดู จิตใจจะมีกำลังเลียนแบบ หรือ คุณคำน้อย ขาขาดทั้งสองข้าง ยังสู้ชีวิต เรายังดีกว่าเยอะอวัยวะครบ แค่จิตใจหวั่นไหวไปเท่านั้นเอง ต้องฮึดใหม่
พลังศรัทธา ศรัทธาในในหลวง โอท่านไม่คิดถึงตัวเองเลย ทรงช่วยประชาชนทั่วประเทศ ต้องยึดท่านเป็นแบบอย่าง ทำสักครึ่งของท่านก็ยังดี
พลังความเพียร พากเพียรทำทาน ศีล ภาวนาเรื่อยๆ ไป
เดี๋ยวจิตใจจะเปี่ยมด้วยพลังกลับมา ให้คุณเอาชนะสิ่งเลวร้ายได้
4. จะทำอย่างไรดี
ตอบ ก็ทำดังข้อ 3 ที่ผมแนะนำ ผมว่า เรื่องเร่งด่วนที่คุณควรทำ คือ ฝึกพลังปัญญา ไปหาเรื่องของคุณคำน้อย มาฟัง เรื่องคนผิดหวัง แต่สู้ชีวิต มาฟัง แล้วหลังจากนั้น ก็ค่อยฝึกขุนพลทั้ง 5 เลย จะช่วยคุณได้ครับ
5. เรื่องคู่กรรมคู่เวร ถ้าเขาโกรธเรามาก จะทำอะไรไม่ขึ้นนั้น
ตอบ ไม่เป็นจริงครับ สิ่งที่จริงคือ ทำเรายังคงทำบาปกรรมมากๆ ไม่หยุด บาปนั้นแหละจะทำให้ทำอะไรไม่ขึ้น แต่ถ้าเราหยุดบาปกรรม สร้างแต่บุญจนเพียงพอ จะไม่มีใครจองเวรเราได้ครับ เหมือนพระพุทธเจ้า สมัยเป็นพระโพธิสัตว์ ทำบาปมากเป็นบางชาติ เจอคู่เวรคือ พระเทวทัต พระเทวทัตเอาถึงตายทีเดยว แต่พอชาติหลังๆ พระโพธิสัตว์ทำแต่บุญ บาปไม่ทำ แม้พระเทวทัตจองเวร แต่ทำอันตรายพระโพธิสัตว์ไม่ได้เลย เป็นต้นครับ
#8
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 02:11 PM
#9
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 03:10 PM
ทำความดีให้มากเข้าๆ จนกลายเป็นนิสัย พยายามลืมอดีตทิ้งไป ด้วยการทำดีให้เป็นนิสัย และข่มใจตัวเองตลอดเวลา เมื่อภาพอดีตเหล่านั้นปรากฎ
หมายความว่า ถ้าภาพไม่ดี ปรากฎเมื่อไร ก็ให้รีบตั้งสติ เอาใจหยุดนิ่งวางไว้ตรงศูนย์กลางกาย เมื่อทำแบบนี้กอปรกับสั่งสมบุญให้มากเข้าๆ รักษาศีลห้า ศีลแปดบ่อยเข้าบ่อยเข้า ปล่อยสัตว์ปล่อยปลา บ่อยเข้า่ๆ แล้วอุทิศไปให้คู่กรรมคู่เวร แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าอย่าให้ใครมาทำร้ายข้าพเจ้า และขออย่าให้ข้าพเจ้าไปทำร้ายใคร
มันจะไม่สามารถตัดภาพเหล่านั้นทิ้งได้ทันทีค่ะ แต่ถ้าทำความดีต่อเนื่อง มากเ้ข้าๆ บ่อยๆ ถี่ๆ ภาพเหล่านั้นก็จะูถูกภาพแห่งความดีกลบทับ ทำให้ใจเราไม่หมองเศร้าได้ค่ะ (ใช้เวลานิดนึง)
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#10
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 04:24 PM
1) หัดลืมเรื่องที่ควรลืม
2) นั่งสมาธิให้สม่ำเสมอ นั่งให้มากทุกวัน
ทำการบ้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้ต่อเนื่องไม่ขาด จะทำให้ใจจดจ่อองค์พระ ศูนย์กลางกาย
3) ต้องทำความดีแบบอุกฤษณ์
แบบสุดๆ บารมีที่ต้องใช้ทั้งแรงกาย (แบบใช้แรงกาย จะได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่หมกมุ่นไปด้วย)
ใช้ทั้งแรงใจ ความคิด สติปัญญา ที่ใจต้องคิดนึกแต่เรื่องบุญตลอดเวลา
งานบุญต่อเนื่องมากๆ ไม่มีเวลาว่างไปคิดเรื่องอื่นเลย
ทำให้ต่อเนื่องสักระยะหนึ่ง จนรู้สึกว่าเมื่ออยู่เฉยๆแล้วนึกเห็นแต่ภาพของตัวเราที่กำลังสร้างบุญ สร้างบารมีอยู่
(ถ้าให้แบบจำได้เลย ก็ต้องอาสามาสร้างบารมี เอาแบบลุยๆ สุดๆ จะได้จำติดใจ แบบไม่มีเว้นวรรค)
4) ให้อยู่ในแวดวงกัลยาณมิตร ที่พูดแต่เรื่องบุญกุศล ที่เข้าใจว่าไม่ควรรื้อฟื้นอดีตที่ผิดพลาดของใคร
#11
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 08:32 PM
เพราะกลไกของจิตนั่นเอง เพราะมีบางประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิตนั้นจะประทับอยู่ในความทรงจำเราไปตลอดชีวิต
ลืมยากหรือไม่มีทางลืมได้ค่ะ ต้องอาศัยเวลา และความเข้าใจที่จะหาทางออกจากความคิดนั้น จึงมีอาชีพจิตแพทย์ค่ะ
ลองมาฝึกเป็นจิตแพทย์ให้ตัวเองนะคะ
ขอเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่า เพราะทำแล้วได้ผลค่ะ
บางที อาจเป็นประโยชน์บ้าง
เมื่อลืมไม่ได้ ก็ฝึกคิดใหม่ค่ะ เมื่อภาพนั้นมาตอกย้ำบ่อยๆ ว่าเราทำผิด
แล้วจะเจ็บแปลบขึ้นมา กลัวผลแห่งกรรมนั้น ให้คิดถึงความดีที่เราเคยทำ และคิดจะทำค่ะ
เหมือนเอาสีขาวมาเจือจางในสีดำค่ะ ใจเราจะค่อยๆมีพลังขึ้น ให้คิดสิ่งที่ดีๆบ่อยๆ นึกถึงบุญบ่อยๆ
และทำบุญมากๆ บ่อยๆ ทำทุกบุญ และให้มั่นใจในบุญ
เมื่อเรามั่นใจว่าเรามีบุญมากแล้ว
ความเจ็บแปลบกลางใจ ความเศร้า หมองมัว เสียใจที่เราไปทำผิดจะค่อยๆหมดไป
ภาพสีดำในใจจะค่อยๆกลายเป็นสีเทา และขาวขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสีขาวบริสุทธ์ค่ะ
เอาตัว เอาใจ ไปแช่อยู่ในบุญค่ะ ให้ทั้งตัว ทั้งใจ เราอยู่แต่ในดวงบุญ
เมื่อเผลอคิดถึงคู่กรรม คู่เวรที่เราไปทำร้ายเขา ให้คิดแผ่เมตตา
และอาราธนาบุญบารมีธรรมของปูชนียาจารย์ของเราให้คุมบุญให้เรา ให้เอาบุญไปให้เขา
และขอให้เป็นอโหสิกรรมไป ขอให้บาปอย่าพึ่งส่งผล ขอให้บุญส่งผลก่อน
ขอให้เราได้ตามติดท่านอย่าได้พลัดหลงไปไหน ให้มั่นใจในบุญ ในปูชนียาจารย์ค่ะ
เราต้องให้โอกาสตัวเองนะคะ ให้โอกาสที่จะเป็นผู้มีบุญมาก
ทำใจให้เป็นกลาง ยอมรับในความสำนึกผิด
เราโกหกตัวเราเองไม่ได้ เรารู้แก่ใจทุกอย่าง
เราทำผิดเพราะเราไม่รู้ ตอนนี้เรารู้แล้ว จะไม่ทำผิดอีกเด็ดขาด
สำคัญต้องเด็ดเดี่ยว และมุ่งที่จะเอาบุญไปอย่างเดียว
ใจเราจะมีพลัง และจะไม่เจ็บแปลบหรืออาการใจสั่นอีก
เมื่อความสำนึกผิดผ่านเข้ามาในความคิด จะคิดอย่างไม่มีทุกข์
เหมือนมองภาพนั้นในความคิดอย่างเฉยๆ แต่ไม่ทุกข์ใจ ไม่ติดนิวรณ์นั้น
เพราะเรามั่นใจแล้วว่าเรามีบุญมาก และเราจะเอาบุญนำทาง
เอาใจจรดศูนย์ให้ได้ตลอด จะเป็นการกลั่นธาตุธรรมในตัวเราค่ะ
ใจเราก็จะใส สะอาดขึ้น คราบสกปรกจะหมดไป
จะมีความสุข สะอาด สว่างค่ะ
และศึกษาไปเรื่อยๆ และอย่าลืมทำการบ้านของคุณครูนะคะ
เมื่อเสื้อผ้าสกปรก เพื่อที่จะให้กลับมาสะอาดใหม่ก็ต้องซักล้างกันก่อน
ใจเราก็เหมือนกันค่ะ เมื่อคิดว่า ใจสกปรก ก็ให้เอาบุญมาเป็นเครื่องล้างใจ
ลองล้างดูนะคะ
ให้บุญรักษาค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 10:19 PM
อดีต ผ่านมาแล้วดีดมันไปเสียเถอะ อย่าไปคิดถึงมันเลย (ในเรื่องไม่ดี) ทำใจใสๆ ดีกว่า
#13
โพสต์เมื่อ 26 July 2006 - 07:54 PM
นึกถึงไปก็ไม่ทำให้หมองค่ะ
มีแต่จะปีติที่ให้ความรักความเมตตาต่อเขา
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#14
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 09:30 AM
#15
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:50 PM
#16
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:39 PM
ทำดีอย่างอุกฤษณ์นะครับ
นั่งสมาธิให้เข้าถึงธรรมกายให้ได้นะครับ
#17
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 05:21 PM
หากสนใจติดต่อผมที่ 01-1737995 ได้นะครับ
#18
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 09:06 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#19
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 12:18 AM
#20
โพสต์เมื่อ 16 March 2007 - 07:17 AM