สงสัยเรื่องการนับเป็นสามี-ภรรรยากันน่ะคะ
ในกฎหมายนับจาก การจดทะเบียนสมรส
และในกฎแห่งกรรมนับอย่างไรคะ
ประเภทที่เป็นแฟนกัน แล้วชิงสุกก่อนห่าม นี่นับเป็นสามีภรรยากันหรือเปล่าคะ
ถามเรื่อง กฎหมาย VS กฎแห่งกรรม คะ
เริ่มโดย หรรษา, Mar 04 2008 11:30 PM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 04 March 2008 - 11:30 PM
#2
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 06:50 AM
ต้องกลับไปดูที่หลวงพ่อทัตตชีโวท่านเคยพูดเอาไว้นะครับ การจะนับเป็นสามีภรรยาต้องมีการจดทะเบียน หรือ อย่างน้อยก็ต้องมีพิธีกรรมอะไรสักอย่างที่แสดงว่ามีการแต่งงานแล้วนะครับ
สำหรับเด็กที่ชิงสุกก่นห่ามนั้น ผิดศีลแน่นอน การที่จะไม่ผิดศีลนั้น ทั้งคู่ต้องสามารถดำรงชีวิตอยู่โดยที่ไม่ต้องพึ่งผู้ปกครองแล้ว เช่น สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้แล้ว แต่ถ้ายังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ก็ยังถือว่าผิดอยู่
ทางที่ดีที่สุดคือ ทำพิธีสมรสให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่าครับ
สำหรับเด็กที่ชิงสุกก่นห่ามนั้น ผิดศีลแน่นอน การที่จะไม่ผิดศีลนั้น ทั้งคู่ต้องสามารถดำรงชีวิตอยู่โดยที่ไม่ต้องพึ่งผู้ปกครองแล้ว เช่น สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้แล้ว แต่ถ้ายังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ก็ยังถือว่าผิดอยู่
ทางที่ดีที่สุดคือ ทำพิธีสมรสให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่าครับ
#3
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 12:32 PM
เคยมีเคสเรื่องนี้แล้วครับ ก็ถ้าอยู่ในวัยที่ดูแลตัวเองได้แล้ว (หาเงินได้เอง รับผิดชอบตัวเองได้) ก็จัดว่าเป็นสามีภรรยากันครับ แต่หลวงพ่อก็ยังแนะนำให้ไปจัดพิธีแต่งงานแต่งการให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่า
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 01:46 PM
ถ้ายังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ก็แสดงว่ายังไม่ถูกต้องนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 05 March 2008 - 02:14 PM
QUOTE
ในกฎหมายนับจาก การจดทะเบียนสมรส
- เพิ่มเติม คือ ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนกันแต่มีพฤติกรรมอยู่กินเช่นสามีภรรยา หรือ มีทายาทด้วยกัน ตามที่เพื่อนบ้านยืนยันQUOTE
กฎแห่งกรรมนับอย่างไรคะ
- มีพิธีกรรมรองรับการเป็นสามีภรรยาQUOTE
ประเภทที่เป็นแฟนกัน แล้วชิงสุกก่อนห่าม นี่นับเป็นสามีภรรยากันหรือเปล่าคะ
- ไม่นับเพราะยังไม่บรรลุนิติภาวะทางกฎหมาย ผู้ใหญ่ยังไม่ได้รับทราบ ผิดประเพณี แถมยังเป็นการทุศีลระวังนะ อย่าไปท้าทายงิ้ว น่ะ งิ้ว
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#6
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 12:28 PM
แล้วถ้าอยู่กินกันอย่างเปิดเผยก่อนแต่ง แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้ว แบบนี้เข้าข่ายผิดศีลธรรมอ๊ะเปล่า
#7
โพสต์เมื่อ 06 March 2008 - 10:45 PM
อ่าน lovely Love สิคะ ... เป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งจริงๆคะ
อ่านแล้วจะวางไม่ลงเลยทีเดียว...
อ่านแล้วจะวางไม่ลงเลยทีเดียว...
.....บุกเบิกไปให้ก้าวไกล ถึงคราวพวกเราเติบใหญ่ ชาติไทยได้พัฒนา....
#8
โพสต์เมื่อ 07 March 2008 - 04:33 PM
ชิงสุกก่อนห่าม หรือ รักในวัยเรียน ต้องระวัง โทษต่อไปนี้
1. เสียการเรียน
2. เสียทรัพย์ ( หานรกให้พ่อแม่ )
3. เสียคน ( ถ้าห้ามใจไม่อยู่ จะท้อง หรือ แท้ง ระหว่างเรียน )
ระหว่างเรียน ควรเตือนตัวเอง 3 เรื่อง คือ
1. ขณะนี้ กำลังศึกษา หาความรู้ใส่ตัว
2. ยังดูคน ไม่เป็น
3. ความคิดเห็นยังแคบ ตัวเองยังดีไม่พอ ต้องใช้เวลาปรับปรุงความประพฤติ พอสมควร
ประเพณีไทย เป็นวัฒนธรรมที่ควรสืบทอด ก็มีการสอนเรื่อง กุลสตรี การวางตัว เข้าตามตรอกออกตามประตู การชิงสุกก่อนห่าม ก็เปรียบเทียบไว้ดีแล้ว ของที่ยังดิบ ถึงแม้จะพอใช้ได้ แต่ก็ยังนับว่า ยังไม่ถึงเวลา ไม่ใช่ของที่ดีที่สุด ค่ะ
สาธุ
1. เสียการเรียน
2. เสียทรัพย์ ( หานรกให้พ่อแม่ )
3. เสียคน ( ถ้าห้ามใจไม่อยู่ จะท้อง หรือ แท้ง ระหว่างเรียน )
ระหว่างเรียน ควรเตือนตัวเอง 3 เรื่อง คือ
1. ขณะนี้ กำลังศึกษา หาความรู้ใส่ตัว
2. ยังดูคน ไม่เป็น
3. ความคิดเห็นยังแคบ ตัวเองยังดีไม่พอ ต้องใช้เวลาปรับปรุงความประพฤติ พอสมควร
ประเพณีไทย เป็นวัฒนธรรมที่ควรสืบทอด ก็มีการสอนเรื่อง กุลสตรี การวางตัว เข้าตามตรอกออกตามประตู การชิงสุกก่อนห่าม ก็เปรียบเทียบไว้ดีแล้ว ของที่ยังดิบ ถึงแม้จะพอใช้ได้ แต่ก็ยังนับว่า ยังไม่ถึงเวลา ไม่ใช่ของที่ดีที่สุด ค่ะ
สาธุ
#9
โพสต์เมื่อ 09 March 2008 - 08:42 PM
การแต่งงาน คือการเปลี่ยนฐานะจากคนธรรมดา เป็นพระอรหันต์ในบ้าน ขอให้ทำถูกต้องตามประเพณี และเป็นที่ยอมรับในสังคมทั้ง สองฝ่าย เป็นการดี
การชิงสุกก่อนห่าม ถือว่าเป็นการผิดศีล ข้อ 3 เพราะว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีผู้ปกครอง ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง ญาติ ฯลฯ และยังไม่ได้รับอนุญาตอย่าง ถูกต้อง จากผู้ปกครอง และสังคม
การชิงสุกก่อนห่าม ถือว่าเป็นการผิดศีล ข้อ 3 เพราะว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีผู้ปกครอง ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง ญาติ ฯลฯ และยังไม่ได้รับอนุญาตอย่าง ถูกต้อง จากผู้ปกครอง และสังคม