ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2545-11-13: ทำบุญโดยไม่มีกุศลศรัทธา


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 06:56 PM

ย่อเรื่อง ทำบุญโดยไม่มีกุศลศรัทธา (13-15 พฤศจิกายน 2545) โดย Extra

พ่อของหัวหน้าชั้นนับถืออีกศาสนาหนึ่ง คุณแม่นับถือพุทธศาสนา มีลูกทั้งหมด 6 คนอยู่ที่เกาะมุก อำเภอกันตรัง จังหวัดตรัง คุณพ่อเป็นกำนัน วันนั้นเกิดมรสุมกลางทะเลเรืออับปางลง เสียชีวิตไปเจอศพอีกวันหนึ่ง ศพลอยไปที่บ้านเกิด เพราะทำปาณาติบาต คือทำอาชีพประมง เป็นที่รักของชาวบ้าน จึงยกให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นกำนัน เหตุใดท่านถึงได้จมน้ำตาย ทำไมถึงทำอาชีพประมง ตายแล้วไปไหน

ท่านมีอัธยาศัยอยู่อย่างหนึ่ง ลูกไม่นับถือศาสนาเดียวกับท่านไม่เป็นไร ลูกนับถือศาสนาพุทธทุกคน ท่านเคยถามลูกชายคนเล็กว่านับถือศาสนาอะไร ลูกคนเล็กตอบว่าพุทธ แล้วทำไมถึงนับถือศาสนาพุทธ ลูกคนเล็กตอบว่า อยากกินหมู มันอร่อยดี ตอนนั้นลูกอายุ 5 ขวบ ท่านก็ตามใจ ไม่ว่าอะไร ทุกปีจะมีพระธุดงค์มาที่เกาะมุก โดยเฉพาะหัวหน้าชั้นชอบไปปรนนิบัติพระธุดงค์ พ่อก็ไม่ว่าอะไร ให้เสรีภาพในการนับถือ ลูกทำบุญในบุญเขตของพระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลัง ลูกชายทั้ง 5 คนบวชเป็นธรรมทายาท ลูกสาวอีก 1 คน ทำทุกบุญ ล่าสุดกฐินพระราชฯ อุทิศส่วนกุศลไปให้ จะได้รับไหมเพราะพ่อนับถือศาสนาอื่น ทำไมท่านจึงอยู่นอกบุญเขต เกิดอยู่ในตระกูลที่นับถือศาสนาอย่างนี้ แล้วทำไมลูกทุกคนต้องมาอยู่ตรงนี้

ย้อนไปหลายกัป ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง พ่อของคุณวินิจเป็นชาวบ้านไม่เชื่อความจริงของชีวิต คิดว่าตายแล้วก็เท่านั้น สิ้นสุดที่เชิงตะกอน ไม่เชื่อว่ามีพระอรหันต์ในโลก เอาตัวเองเป็นเกณฑ์ เรายังไม่หมดกิเลสเลย จะมีจริงได้อย่างไร กลายเป็นวจีกรรม มีเพื่อนรักคนหนึ่งชวนให้ไปสร้างมหาเจดีย์ใหญ่เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กลัวเสียเพื่อนเพราะรักเพื่อนคนนี้มาก ทำโดยไม่มีกุศลศรัทธา ไม่ได้อธิษฐาน ทำอย่างเต็มที่เพราะเห็นแก่เพื่อน ไม่ได้ทำเพื่อเห็นแก่บุญหรือพระศาสนา แม้พระเทศน์ก็ไม่เข้าใจ ฟัง ๆ ไปอย่างนั้น เห็นพระก็เลื่อมใสแต่หมายถึงว่าเห็นท่านมีกิริยามารยาทเรียบร้อยเท่านั้น

ละจากภพนั้นไป บุญที่ท่านทำ กรรมที่ท่านสร้าง ทำให้ท่านไม่ได้เกิดอยู่ในบุญเขตของพระพุทธศาสนา เพราะไม่ได้อธิษฐาน อานิสงส์จากชาตินั้นมาถึงชาตินี้ไม่เคยไปเกิดในทุคติภพเลย แม้ทำบุญแบบเสียมิได้ บุญก็ยังส่งผล มีฐานะรวยมาหลายชาติ แต่ไม่ได้ทำบุญต่อ จากรวยมากขนาดสุลต่านบรูไน มารวยปานกลาง และมารวยน้อยลง เพราะพลัดกับเพื่อนคนนั้น จนมาภพสุดท้ายไม่ค่อยรวย จึงหาอาชีพที่ง่ายที่สุด อยู่ชายทะเล ทำประมงเพื่อเลี้ยงชีพ เป็นนักคณิตศาสตร์ด้วย บุญเก่าที่สร้างเจดีย์ยังไม่หมด นิสัยที่ทำบุญแบบไม่ขัดใจเพื่อน จึงไม่ขัดใจลูก ทำอะไรก็ได้ที่เป็นความดี

เหตุที่จมน้ำตายเพราะกรรมปัจจุบัน กรรมปาณาติบาต เมื่อจมน้ำ กายละเอียดก็ถอดออกไปเลย ไปเดินใต้น้ำ หายใจในน้ำได้ ยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย เดินไปเดินมาไปเจอยักษ์น้ำ หล่อทีเดียวมากันเป็นกลุ่ม นุ่งผ้าหลากสีในผืนเดียวกัน มีเครื่องประดับเป็นสายสร้อยที่ข้อมือข้อเท้า ไม่ใส่เสื้อ มีเขี้ยว หัวหน้านุ่งสีเขียวสีเดียวมาชวนไปเที่ยวในภพของเขา ท่านก็เดินไปถึงภพของยักษ์น้ำ กายเปลี่ยนเป็นยักษ์น้ำ เป็นบริวารของเขา มีสมบัติเป็นโคตรเพชร โคตรทอง แรกๆ ยังไม่มีวิมาน มาได้บุญที่ลูกบวช ทุกบุญที่ลูกทำ เวลาลูกอุทิศส่วนกุศลต่าง ๆ รู้แต่ว่ามันสว่างวาบ เป็นสิ่งที่ดี ดีใจที่ลูกทำบุญมาให้ แต่อนุโมทนาไม่เป็น แล้วก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลัง ๆ เริ่มเข้าใจมากขึ้น จึงมีวิมานเป็นของตัวเอง ได้เป็นหัวหน้าเขต ๆ หนึ่ง มีบริวาร จะพ้นตรงนี้ได้ ถ้าลูกชายเข้าถึงธรรมกายแล้วมาโปรด มาแนะนำ


มารดาของหัวหน้าชั้นทำอาชีพประมงเช่นกัน เสียชีวิตด้วยโรคปัจจุบัน เมื่ออายุ 30 กว่าปี หมู่ญาติเชื่อว่า ท่านเสียชีวิตเพราะโดนยาสั่ง ยาสั่งทำให้คนตายพิลึกกึกกือ มีส่วนผสมของสัตว์ชนิดหนึ่งเรียกว่า ตัวจงโคร่งผสมอยู่ในตัวยา มีลักษณะคล้ายกบภูเขา มีหนังเป็นพิษ อยากให้ตายด้วยอะไรก็เอามาผสมกับสิ่งนี้ นำไปทำเป็นผงเอาไปให้คนนั้นกิน เป็นเครื่องรับอยู่ในร่างกาย เป็นแบคทีเรียที่ร้ายแรง แล้วก็ทำให้อยากกินอาหารชนิดนั้น เมื่อกินแล้วทำให้ตายอย่างหาสาเหตุไม่เจอ เห็นเพียงเล็บเป็นสีดำ ตอนนี้ยังพอมีอยู่บ้างแถวชายแดน ญาติเชื่อว่าตายอย่างนี้ ซึ่งก็เป็นความจริง ท่านมีกรรมอยู่ 2 อย่าง ปัจจุบันเป็นเวรปาณาติบาต ชาติในอดีตไปรักหนุ่มที่มีครอบครัวแล้ว จ้างให้ทำยาสั่งฆ่าภรรยาเขาตาย วิบากอันนี้ติดมา ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น

เมื่อละโลกไป ภาพปาณาติบาตของปลามาให้เห็น เกิดเป็นปลายาวนานทีเดียว เวลาอุทิศส่วนกุศลได้ผลนิดเดียว แต่บุญยังรออยู่ มีทางออกเหมือนอย่างนางสุชาดา ที่เป็นภรรยาคนสุดท้องของมัฆมานพ มัฆมานพมีภรรยา 4 คน 3 คนแรกร่วมทำบุญกับมัฆมานพ แต่น้องสุดท้องสุชาดารักสวยรักงามไม่ได้สร้างบุญกุศลเหมือนภรรยาทั้ง 3 และคิดว่า สามีทำ ภรรยาก็ต้องได้ แต่เรื่องบุญ ใครทำใครได้ ใครไม่ทำก็อด ตายไปนางสุชาดาไปเกิดเป็นนกกระยาง มัฆมานพไปเกิดเป็นท้าวสักกะ สอดส่องเห็นภรรยาขึ้นมา 3 คน หายไป 1 คน เห็นเดินแต่งใส่เสื้อชุดขาวยืนอยู่ริมน้ำ สอดส่องดู พบว่าไม่ทำบาปอะไร เพียงแต่ไม่ได้ทำบุญเอาไว้ พอโปรดกันได้ ด้วยเทวานุภาพไปบอกนกกระยางให้รักษาศีล โดยไม่กินปลาทำให้ผอม จนกระทั่งอดตาย จากนั้นไปเกิดเป็นลูกยักษ์ ในที่สุดไปอยู่บนชั้นดาวดึงส์ นี่เป็นผลจากเทวานุภาพบวกกับไม่ได้สร้างบาป

พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างบุญมากมาย ฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศ สร้างเจดีย์ 84,000 แห่ง ให้ลูกบวชและส่งไปเผยแผ่ต่างประเทศ ตอนใกล้ตายอยากจะสร้างทาน แต่เสนาบดีขัด กลัวเงินหมด ทำให้โกรธ บังเอิญจิตดับตอนนั้น กลายไปเป็นงูเหลือม พระลูกชายซึ่งเป็นพระอรหันต์ ชื่อพระมหินทร์มาโปรดให้รักษาศีล แล้วให้งูเหลือมรักษาศีลทั้ง ๆ ที่ต้องกินสัตว์ ต้องยอมอดตาย ละโลกแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ ประพฤติธรรมเข้าถึงพระอรหันต์

แม่ของหัวหน้าชั้นมาเกิดเป็นปลา ลูกจะต้องเข้าถึงพระธรรมกาย ศึกษาวิชชาธรรมกาย ไปรื้อผังที่เขาหุ้ม บาปที่เข้าหุ้มให้เป็นปลาจากชนิดนั้น ไปเป็นปลาชนิดนี้ มันหุ้ม ดวงจำ ดวงเห็น ดวงคิด ดวงรู้ จะไปทำแบบนางสุชาดาก็ไม่ได้ เพราะนางสุชาดาไม่ได้ทำบาป อย่างพระเจ้าอโศกมหาราชก็ทำบุญมามาก จึงไม่ยาก แต่แม่มีบาปปาณาติบาตและกรรมในอดีตหนาแน่นมาก ลูกของท่านทุกคนต้องปฏิบัติธรรมจะช่วยได้ ตอนนี้มารดาอยู่ในภูมิที่ไม่รู้เรื่อง


ผู้นำบุญของคุณพ่อที่สร้างมหาเจดีย์ร่วมกันได้จนกระทั่งสำเร็จ ละโลกไปแล้วอยู่สวรรค์ชั้น 5 นิมมานนรดี ทำบุญแล้วยังชวนคนอื่นทำด้วย ยังไม่ลงมาเลย จะมาอีกครั้งสมัยพระศรีอริยเมตไตรย แล้วจะบรรลุธรรมตอนนั้น ดังนั้น อานิสงส์ของผู้นำบุญไม่ใช่นิดหน่อยเท่านั้น

ทำไมลูกทั้ง 6 จึงมาเกิดกับท่าน มาเกิดที่เกาะสวยงาม ว่ายน้ำเป็น ใกล้หาดทราย ทิวมะพร้าว อาหารเหลือเฟือ การที่จะเป็นพ่อแม่ลูก มีหลายกรณี เคยสร้างบุญ สร้างวิบากกรรมร่วมกัน หรือไม่เคยสร้างร่วมกันเลย แต่บุญกรรมพอเหมาะกับพ่อแม่ประเภทนี้ เช่น พ่อชอบกินเหล้าลูกชอบทำกับแกล้ม เรียกว่าขันน้ำพานรอ พอกัน ดังนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่าไม่มีใครไม่เคยเป็นญาติกัน

ชาติหนึ่งที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ มีพระราชาอยู่องค์หนึ่งส่งทหาร 5 คนไปปราบข้าศึก พอจับข้าศึกมาได้ ก็เอาข้าศึกไปปล่อยเกาะ ทั้ง 5 เป็นทหารไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ต่อมาพระราชาไปเจอนักบวชท่านหนึ่ง เกิดศรัทธาตั้งแต่บุคลิกลักษณะ และคำสอน ทำให้พระราชาเบื่อหน่ายในทางโลก สละราชสมบัติ เมื่อออกบวช ขุนทหารทั้ง 5 ก็บวชตามด้วยความรัก บวช 4 คน ส่วนอีก 1 คนไม่ได้บวช มีภรรยาเป็นกองเสบียง ช่วงบวชใหม่ มีมานะทิฐิมาก ถือว่าตนเป็นขุนทหาร ถือตัว เวลาพระเถระอบรมสั่งสอนพระนวกะ ว่าเป็นพระต้องสงบเสงี่ยม สอนเรื่องกิริยามารยาท นั่งนอน ยืนเดิน พูดให้เป็นพระ ไม่ใช่ทหาร จะมาจับกลุ่มคุยกันเรื่องฆราวาสไม่ได้ ต่อหน้าพระเถระไม่มีปัญหา พอลับหลัง คุยกันในกลุ่มว่าคนอย่างเรารู้แล้วน่า ต่อมาบาปหนักเข้า พอผ่านพระเถระองค์นั้นก็พูดลอย ๆ ว่า ไม่ต้องมาสอนหรอก ข้าศึกใหญ่ ๆ ก็ผ่านมาเยอะ ทำกันอย่างนี้ตลอดมา เมื่อบวชนานเข้า มีวิญญาณเป็นพระ ไปขอขมาที่ล่วงเกินพระเถระ ขุนทหารทั้ง 4 ก็ได้เข้าถึงธรรม เห็นดวงธรรมใส ๆ ได้เห็นองค์พระ

ปัจจุบันขุนทหารทั้ง 4 มาเกิดที่เกาะ ๆ หนึ่ง เพราะมีทิฐิมานะ ทำให้เกิดในตระกูลที่ลำบาก ไม่ได้เกิดในปฏิรูประเทศ ไม่ใกล้เนื้อนาบุญ แม้เกิดในตระกูลที่ไม่ได้เกิดในบุญเขตพระพุทธศาสนา ยามใดที่เห็นพระ บุญเก่าที่เป็นพระก็จะดึงดูดเข้าหาพระ มาอยู่ในร่มเงาพระพุทธศาสนา แต่ได้บวชแค่ 4 อีก 1 เป็นกองเสบียง ภรรยาของหนึ่งในนั้นมาเกิดเป็นพี่สาว มาคอยสนับสนุนมาดูแลพระทั้ง 4 รูปเหมือนชาตินั้นที่เป็นเสบียงดูแลพระทั้ง 4 รูป


หลวงพ่อบอกให้นักเรียนฝันในฝันเอาบุญไปฝากคนที่บ้านด้วยความปลื้มปีติ พอเอาบุญมาฝาก บางคนนั่งซื่อบื้อ ทำไม่เป็น บางคนก็ถามว่า จะให้ทำยังไง ต้องสอนเขาให้อนุโมทนาบุญ


#2 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 07:42 PM

อนุโมทนาบุญนะครับ

ที่ช่วยทบทวนนะครับ

#3 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 08:56 PM

สาธุ ครับ สำหรับเคสเก่าที่นำมาเล่าสู่กันใหม่
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย