นิพพานเป็นสิ่งสูงสุด ชั้นของนิพพานคืออยู่บนพรหม?
#1
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 12:39 PM
#2
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 12:49 PM
เหมือนอย่างนี้ไงล่ะครับ ยกตัวอย่าง เหมือนเราเดินเรืออยู่ในทะเล แล้วดันหลงทางอยู่กลางทะเล หากเราต้องการอยากจะกลับเข้าหาฝั่งเดิมที่เราจากมา ในวิชาการเดินเรือ เขาให้ดูเข็มทิศ หรือ ดูดาวเหนือใช่มั้ยครับ ดูเพื่ออะไร ดูเพื่อจะกำหนดทิศทางที่จะหัวหน้าเรือกลับ แล้วแล่นเรือตรงที่ตามทิศนั้น โดยที่ไม่มีรู้หรอกครับ ฝั่งอยู่ตรงไหน ฝั่งอยู่อีกไกลเท่าไร เราไม่รู้ใช่มั้ยครับ
อ้าว ถ้าไม่รู้ว่า ฝั่งอยู่ตรงไหน อีกทั้งไม่รู้ว่า ฝั่งอยู่ไกลเท่าไร แล้วไม่กลัวว่า จะแล่นไปไม่ถึงฝั่งหรืออย่างไร
คำตอบคือ ไม่กลัวใช่มั้ยครับ เพราะแม้ไม่รู้ว่า ฝั่งอยู่ที่ไหน แต่รู้ทิศทางที่จะแล่นไปหาฝั่ง แล้วแล่นเรือไปตามทิศนั้น เมื่อถึงฝั่งแล้วก็จะรู้ได้เอง เพราะลักษณะของฝั่ง ต่างจากลักษณะของทะเลชัดเจน เด็กๆ ก็สังเกตุออก
เช่นเดียวกัน แม้ไม่รู้ว่า นิพพานอยู่ที่ไหน (แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้อยู่ในภพสามแน่นอน) แต่หากรู้วิธีไปนิพพาน คือ ทาน ศีล ภาวนา แล้วก็ลงมือปฏิบัติเพื่อไปนิพพาน เมื่อสภาวะจิตถึงนิพพานแล้ว ก็จะรู้ได้เอง เพราะแตกต่างจากภพสามชัดเจนครับ
#3
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 12:53 PM
ไม่ได้อยู่ในภพ 3 แต่อยู่เหนือภพ 3 ขึ้นไป 3 เท่า ของภพ 3
ลองฟังพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เรื่อง โอวาทปาติโมกข์ดู
http://www.kalyanami...ayer.asp?id=369
ประมาณนาทีที่ 20
#4
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 01:41 PM
อันที่จริงแล้วคำว่า อยู่นอกภพ 3 น่าจะใช่มากกว่า
#5
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 01:52 PM
#6
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 04:07 PM
แต่วิธีการ เราก็รู้ดีกันอยู่แล้ว
เหลือแต่ปฏิบัติ...
#7
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 04:54 PM
#8
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 05:21 PM
#9
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 08:11 PM
#10
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 08:19 PM
นักเรียนอนุบาลฯ:ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีครับ/ค่ะ
ครูไม่ใหญ่:พระนิพพานอยู่ที่ไหนจ๊ะ
นักเรียนอนุบาลฯ:อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเหนือสะดือสองนิ้วมือครับ/ค่ะ
#11
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 08:30 PM
#12
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 08:39 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#13
โพสต์เมื่อ 01 October 2010 - 10:05 PM
ในแต่ละจักรวาล ประกอบด้วย นิพพาน ภพสาม โลกันตร์ แยกกันอย่างสิ้นเชิง แต่อยู่ในแต่ละจักรวาลเดียวกัน
มีรูปภาพอยู่ แต่ยังหาภาพไม่เจอครับ
จำนวนความเห็น: 17ความคิดเห็น #7 |
บ้านเดิมที่เราออกมา และกำลังจะกลับไป
แบบนี้เป็นความเข้าใจของศาสนาพรามณ์แล้วครับ มิใช่พระพุทธศาสนานะครับ เรียนให้ทราบโดยธรรมนะครับ...
..........................
แต่หากจะได้ยินมาจากหมู่คณะเราก็คือดุสิตบุรีที่เราอยู่ร่วมกันและอธิษฐานลงมาสร้างบารมี ก็อีกเรื่องนะครับ
โลกกิยะ โลกุตตระ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีเองเป็นเองแยกกันชัดเจนนะครับ โลกิยะมีที่สิ้นสุด แต่พระนิพพานนั้นเป็นอนันต์ แล้วจะหาพุทธพจน์มาให้ครับ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 02 October 2010 - 09:34 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 October 2010 - 05:59 PM
#16
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 07:02 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#17
โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 09:52 AM
- ส่วนอายตนะนิพพานเพื่อนสมาชิกเกริ่นบ้างแล้ว