ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระพุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 21 March 2006 - 10:28 PM

พระมหา สุวิทย์ ธัมมสิริ

คัดลอกมาบางส่วน

พระพุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้แพร่ขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เริ่มมาจากการทำสังคายนาครั้งที่ ๓

นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างให้พระมหากษัตริย์ที่เป็นพุทธมามกะ ดำเนินตามคือ
อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
ดังปรากฏในศิลาจารึก ฉบับน้อย จารึกฉบับใต้ ตอนที่ ๑ ความว่า

“…………..นับเป็นเวลาเกินกว่า ๒ ปีครึ่งแล้วที่ข้า ฯ ได้เป็นอุบาสก
แต่ตลอดเวลา ๑ ปี
ข้าฯ มิได้กรำทำความพากเพียรใดๆ อย่างจริงจังเลย
และนับแต่เป็นเวลาปีเศษแล้วที่ข้าฯ ได้เข้าหาสงฆ์
ข้าฯ จึงได้ลงมือทำความเพียรอย่างจริงจังนับแต่นั้นมา”


พระจริยาวัตรนี้ พระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย
จนถึงปัจจุบันได้ปฏิบัติมาโดยไม่ขาดสาย
จริยาวัตรที่งดงามอีกหลายประการเช่น

- การแต่งตั้งอำมาตย์ผู้แนะนำประชาชนให้ตั้งอยู่ในธรรม
- การประกาศให้ข้าราชการรักษาอุโบสถศีลในวันพระ หรือวันอุโบสถ

- การขุดบ่อน้ำเพื่อสาธารณประโยชน์
- การปลูกต้นไม้เพื่อพักในการเดินทาง หรือ

- การตั้งโรงพยาบาลรักษาทั้งมนุษย์และสัตว์


แต่ที่เป็นหลักฐานสำหรับนักประวัติศาสตร์รุ่นหลังคือ

จารึกของพระองค์ ที่ทำให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความจริง


ที่มีบุคคลและประวัติศาสตร์ สถานที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาปรากฏให้โลกรับทราบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลาจารึกที่ลุมพินี ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พระพุทธเจ้าประสูติที่ลุมพินี
เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องเล่า หรือนิยายปรัมปรา


นอกจากนี้ พระเจ้าอโศกมหาราชยังได้ประกาศห้ามมิให้ฆ่าสัตว์เพื่อการกีฬาและกินเป็นอาหาร
และประกาศนี้ ส่งผลให้ชาวอินเดียเกือบทั้งหมด ไม่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร กินแต่พืชผักผลไม้
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง

รัฐบาลอินเดียได้ประกาศให้รูปสลักบนเสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช คือ
สิงห์สี่ตัวนั่งหันหลังชนกัน
(สลักจากหินก้อนเดียว อยู่บนเสาศิลาจารึกที่ป่าอิสิปตนะ มฤคทายวัน เมืองพาราณสี)
เป็นตราประจำประเทศอินเดียมาจนถึงปัจจุบัน


สำหรับจารึกของพระเจ้าอโศกนั้น มีเป็นจำนวนมาก พบเกือบทั่วทวีปเอเชียตอนใต้ และเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทีสำคัญของพระพุทธศาสนาและของโลก
แต่สำหรับในทีนี้เห็นว่ายาวเกินไป จึงไม่ขอนำมากล่าว

ปัจจุบันถึงแม้ว่า นครปาฏลีบุตรจะไม่รุ่งเรืองเหมือนดังเดิม วัดอโศการาม สถานที่ทำสังคายนาครั้งที่ ๓ เหลือเพียงซากปรักหักพังและถูกน้ำท่วมในฤดูฝน

แต่เกียรติคุณของพระเจ้าอโศกมหาราชยังคงอยู่ความทรงจำของชาวพุทธและประชาชนทั่วโลก ในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยธรรม พระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย
ก็สืบเนื่องมาจากการสังคายนาครั้งที่ ๓ เกียรติประวัติของพระองค์ได้ถูกยกย่องไว้เป็นอย่างมาก
ดังที่นายเอ็ช จี เวลส์ ( H G Wels) เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง
เปิดเผยประวัติศาสตร์( OUTLINE OF HISTORY) ว่า


“ ในท่ามกลางพระนามของราชามหากษัตริย์นับได้จำนวนหมื่นๆ พระองค์
ซึ่งปรากฏอย่างมากมายในหน้ากระดาษประวัติศาสตร์
ในท่ามกลางพระนามของพระเจ้าแผ่นดินและเจ้าฟ้าราชันผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย พระนามของพระเจ้าอโศกพระองค์เดียวเท่านั้นก็แทบจะว่าได้ส่องแสงจรัสจ้าดังดวงดารา
ตั้งแต่ดินแดนในลุ่มน้ำวอลก้าจนถึงประเทศญี่ปุ่น

พระนามของพระเจ้าอโศกยังคงได้รับการคารวะอยู่แม้กระทั่งในยุคปัจจุบัน จีน ทิเบต และแม้แต่อินเดียซึงได้ละทิ้งหลักธรรมของพระเจ้าอโศกเสียแล้ว
ก็ยังคงรักษาประเพณีนิยมแห่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์ไว้

ทุกวันนี้มวลมนุษย์เทิดทูนกิตติคุณของพระเจ้าอโศกมากยิ่งกว่าที่เราได้ฟังพระนาม
ของคอนสตันไตน์(Constantine) หรือชาร์ลมาญ(Charlemagne) เสียอีก”



ประวัติของพระเจ้าอโศกมหาราช
อดีตชาติของพระเจ้าอโศก (ตามจดหมายเหตุของหลวงจีนฟาเหียน)
หลวงจีนฟาเหียนได้เล่าไว้เพียงเล็กน้อย ดังต่อไปนี้

ในอดีตชาติ พระเจ้าอโศกเกิดเป็นเด็กเล็กๆ เล่นอยู่บนถนน และได้พบกับพระพุทธเจ้า
พระนามว่ากัสปะกำลังเสด็จมาบิณฑบาต
เด็กชายอโศกได้เอากอบเอาดินเต็มกำมือไปถวายแด่พระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าทรงรับและทรงเทลงบนพื้นดิน และเสด็จไป ฯ

ด้วยผลบุญนี้
เด็กชายอโศกจึงกลับชาติมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์
ปกครองชมพูทวีปทั้งหมดแด่เพียงผู้เดียว
ในมงคลทีปนี ภาคที่ ๒ ข้อที่ ๓๖ กล่าวไว้ ดังต่อไปนี้


ในอดีตได้มีพ่อค้าขายน้ำผึ้งคนหนึ่งในเมืองพาราณสี ฯ
พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งอาพาธ พระอีกรูปหนึ่งจึงไปบิณฑบาตเพื่อนำน้ำผึ้ง
มาปรุงเป็นยาถวายพระที่อาพาธจึงได้เข้าไปในเมืองพาราณสี ฯ หญิงชาวบ้านคนหนึ่งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทราบว่าท่านต้องการจะไปบิณฑบาตน้ำผึ้งในเมือง
จึงชี้บอกทางไปร้านขายน้ำผึ้ง พร้อมกับคิดว่าถ้าพ่อค้าไม่ถวายน้ำผึ้งแก่พระคุณเจ้า เราจะจัดถวายเอง ฯ

พ่อค้าน้ำผึ้งเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ถวายน้ำผึ้งจนล้นบาตร
พร้อมตั้งความปรารถนาว่า
ท่านขอครับ ด้วยบุญกุศลนี้ กระผมพึงเป็นใหญ่ในชมพูทวีป
อำนาจจงแผ่ในทั้งบนอากาศและบนบกประมาณ โยชน์หนึ่ง ฯ
พระปัจเจกพุทธเจ้าจึงอนุโมทนา ฯ


ต่อมาหญิงชาวบ้านพบพระอีกครั้งหนึ่ง
ทราบว่าท่านได้น้ำผึ้งแล้วและรู้ว่าพ่อค้าน้ำผึ้งตั้งความปรารถนาไว้อย่างนี้
จึงอธิษฐานขอให้เกิดเป็นเมียของพ่อค้าน้ำผึ้งในอนาคต ฯ

ในปัจจุบันชาติพ่อค้ากลับชาติมาเกิดเป็นพระเจ้าอโศกมหาราช
หญิงชาวบ้านเป็นอัครมเหสีของพระองค์ ฯ


ในอรรถกถาสมันตปาสาทิกา (ภาคภาษาบาลี) ภาคที่ ๑
ตอนการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ หน้าที่ ๕๐ เป็นต้นไป บันทึกประวัติของพระเจ้าอโศกไว้ดังต่อไปนี้

พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสองค์หนึ่งในจำนวน ๑๐๑ พระองค์ของพระเจ้าพินทุสาร ซึ่งต่อมาได้ฆ่าพระราชกุมารพี่น้องเกือบหมดยกเว้นแต่พระติสสกุมารที่เกิดจากพระมารดาพระองค์เดียวกัน
พระเจ้าอโศกได้เป็นอุปราชปกครองเมืองอุชเชนี และได้อภิเษกกับลูกชาวเศรษฐีชื่อว่า เวทิสา แห่งเมืองเวทิสา มีพระราชโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า มหินทะ และพระราชธิดาพระนาม สังฆมิตตา


เมื่อพระเจ้าพินทุสารพระราชบิดาทรงชราภาพ พระเจ้าอโศกได้ย้ายมาจากเมืองอุชเชนีสู่เมืองปาฏลีบุตร
และได้ฆ่าพี่น้องเป็นจำนวนมากผู้ขัดขวางการครองราชสมบัติของพระองค์เป็นระยะเวลาถึง๔ ปี
จึงได้ครองราชสมบัติที่กรุงปาฏลีบุตร
พระองค์เมื่อทรงได้ครองราชสมบัติแล้ว ก็ได้เลื่อมใสในศาสนาพราหมณ์ตามพระบิดาเป็นระยะเวลาถึง ๓ ปี
และได้ถวายทาน และปัจจัยอื่นๆ นักบวชในศาสนาพราหมณ์เป็นประจำ

พระเจ้าอโศกได้ถวายทานสืบต่อมา โดยตั้งโรงทานในเมืองวันหนึ่งทรงยืนที่หน้าต่าง
ได้เห็นพวกปริพพาชกและพราหมณ์ที่มารับอาหารทาน มีกิริยามารยาทีไม่เรียบร้อย จึงทรงดำริที่จะนิมนต์นักบวชที่มีความประพฤติดีมานับอาหารบิณฑบาต จึงรับสั่งให้พวกอำมาตย์ไปนิมนต์นักบวชที่มีความประพฤติดีมารับบิณฑบาตภายในวัง
พวกอำมาตย์จึงพาพวกนักบวชเหมือนเดิมเข้ามา แต่ก็ไม่ทรงพอพระทั


ต่อมาได้เห็นสามเณร นิโครธ เดินบิณฑบาต ด้วยกิริยาสำรวม สงบ สง่างาม น่าเลื่อมใส
ในที่สุดจึงได้ให้ราชบุรุษนิมนต์มารับภัตตาหาร และได้สนทนาธรรม จนเกิดความเลื่อมใสอย่างยิ่งในคำสอนและวัตรปฏิบัติของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา
จึงได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาและทำนุบำรุง เผยแผ่พระธรรมไปทั่วชมพูทวีปในที่สุด ....

ไฟล์แนบ



#2 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 March 2006 - 10:40 PM

สาธุครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#3 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 21 March 2006 - 10:47 PM

QUOTE
พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสองค์หนึ่งในจำนวน ๑๐๑ พระองค์ของพระเจ้าพินทุสาร ซึ่งต่อมาได้ฆ่าพระราชกุมารพี่น้องเกือบหมดยกเว้นแต่พระติสสกุมารที่เกิดจากพระมารดาพระองค์เดียวกัน
พระเจ้าอโศกได้เป็นอุปราชปกครองเมืองอุชเชนี และได้อภิเษกกับลูกชาวเศรษฐีชื่อว่า เวทิสา แห่งเมืองเวทิสา มีพระราชโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า มหินทะ และพระราชธิดาพระนาม สังฆมิตตา
เมื่อพระเจ้าพินทุสารพระราชบิดาทรงชราภาพ พระเจ้าอโศกได้ย้ายมาจากเมืองอุชเชนีสู่เมืองปาฏลีบุตร
และได้ฆ่าพี่น้องเป็นจำนวนมากผู้ขัดขวางการครองราชสมบัติของพระองค์เป็นระยะเวลาถึง๔ ปี
จึงได้ครองราชสมบัติที่กรุงปาฏลีบุตร

จะว่าไปแล้วก็คล้ายๆ กันกับการฆ่าชิงบัลลังก์ในสายราชตระกูลของพระเจ้าอชาตศัตรูเลยนะครับเนี่ย


#4 laity

laity
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 March 2006 - 09:03 AM

สาธุครับ
อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางในชีวิตการสร้างบารมี และ
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา

โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 22 March 2006 - 11:25 AM

แต่เกียรติคุณของพระเจ้าอโศกมหาราชยังคงอยู่ความทรงจำของชาวพุทธและประชาชนทั่วโลก ในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยธรรม

เด็กชายอโศกจึงกลับชาติมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ปกครองชมพูทวีปทั้งหมดแด่เพียงผู้เดียว

ตกลงที่ว่า พระเจ้าอโศกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หมายถึง สมมุติจักรพรรดิ ใช่ไหม

#6 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 March 2006 - 12:36 PM

เป็นสมมุติจักรพรรดิครับ ไม่ใช่พระเจ้าจักรพรรดิที่ครอบครองรัตนะ 7 ครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#7 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 22 March 2006 - 05:43 PM

คนสมัยนี้ชอบเอาคำว่าจักรพรรดิมาใช้ผิดเนอะ

คำว่าจักรพรรดิหมายถึงการทำให้จักรหมุนเคลื่อนไป
แต่ไม่เห็นมีคนไหนทำได้เลย กลับมาใช้เสียนี่

สาธุค่ะพี่แดงดี
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#8 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 22 March 2006 - 07:22 PM

เคยสงสัยว่า ทำไม สังคมที่นับถือพระพุทธศาสนา เช่น ชาวอยุธยา พม่า ไปจนถึงยุคพุทธกาล
ยังมีการแย่งชิงราชสมบัติ ฆ่าล้างโคตร
นอกจาก คำตอบง่ายๆว่า เพราะกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ แล้ว
ท่านใดมีความรู้เพิ่มเติมบ้างครับ

ป.ล. 1 ถ้าใครเกิดผิดยุค คงต้องอาดูร ยาวนาน


ป.ล. 2 Dhamma For Internationals
ที่คุณ Muralath แนะนำ ทันสมัยดีครับ สาธุ


#9 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 02:46 PM

สึดยอดเลยไปหามาจากใหนอ่ะ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#10 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 19 March 2007 - 04:40 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ

#11 ถนนมีไว้เดิน

ถนนมีไว้เดิน
  • Members
  • 22 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2007 - 04:06 AM

สาธุๆๆๆ

“ความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่เพราะมันจากไป หากแต่เพราะมันยังอยู่ต่างหาก”