ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

โลกันต์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 mungkorn

mungkorn
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 04:26 PM

ได้ยินมาว่านรกโลกันต์อยู่นอกภพ 3 นิพพาน ก็อยู่นอกภพ ไม่ต้องมาเกิดอีก แล้วนรกโลกันต์ใครตกขุมนี้แล้วอยู่ตลอดแบบไม่ได้ผุดได้เกิดอีกใช่ไหมครับเพราะอยู่นอกภพ ขอผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับสงสัยมานาน

#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 05:38 PM

อธิบายว่า "โลกันตร์" นั้น เป็นอายตนะหนึ่งที่อยู่นอกภพสามลงไปเบื้องล่างอย่างหาประมาณมิได้ (ดูภาพประกอบ) อายตนะนี้มีไว้สำหรับทำทัณฑ์ทรมานเหล่าสัตว์ผู้เต็มไปด้วยนิยตมิจฉาทิฏฐิอย่างแรงกล้า อันได้แก่

๑. เชื่อว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
๒. เชื่อว่า การบูชาบุคคลที่ควรแก่การบูชา มีบิดามารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ และอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย เป็นต้น ไม่มีผล
๓. เชื่อว่า การปฏิสันถารบุคคลผู้ควรแก่การต้อนรับเชื้อเชิญ (บัณฑิต) ไม่มีผล
๔. เชื่อว่า กฎแห่งกรรมไม่มีจริง
๕. เชื่อว่า โลกนี้ โลกหน้าไม่มี (เชื่อว่า "ตายแล้วสูญ" นั่นเอง)
๖. เชื่อว่า พระคุณของบิดามารดาไม่มี
๗. เชื่อว่า สัตว์โลกที่เกิดขึ้นแล้วโตทันที (โอปปาติกะ) อาทิ เทวดาและสัตว์นรก เป็นต้น ไม่มี
๘. เชื่อว่า สมณะผู้สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเผาผลาญอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ อาทิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันตสาวก ไม่มี

แนบไฟล์  ??__??.jpg   46.29K   186 ดาวน์โหลด

ภาพ อายตนะทั้ง ๓ ใน ๑ จักรวาล (นิพพาน ภพ ๓ และโลกันต์/โลกันตร์)

QUOTE
นรกโลกันต์ ใครตกขุมนี้แล้วต้องอยู่ตลอดแบบไม่ได้ผุดได้เกิดอีกใช่ไหมครับ? เพราะอยู่นอกภพ

ไม่ใช่ครับ ยามใดที่สัตว์โลกันตร์ใกล้จะหมดวิบากผลที่ตนต้องชดใช้แล้ว ก็สามารถกลับมาสู่ภพสามนี้ได้อีก และสามารถเริ่มตั้งต้นสั่งสมความดี เพื่อมุ่งไปสู่ความวิมุตติหลุดพ้น คือ "นิพพาน" ได้ แต่ทั้งนี้ มิได้หมายความว่า ยามใดที่ยังเสวยวิบากผลอยู่ในโลกันตร์นั้น จะสามารถติดต่อกับภพ ๓ ด้วยอาการปกติธรรมดานั้น หามิได้ ซึ่งสัตว์โลกันตร์นั้น มีอายุขัยเฉลี่ยโดยประมาณ ๑ พุทธันดร (หมายถึง ช่วงระยะเวลานับตั้งแต่พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งไปสู่อีกพระองค์หนึ่ง)



บรรณานุกรม

ฉลวย สมบัติสุข นวรัตน์ หิรัญรักษ์ และสมทรง สุดสาคร. ๒๔๙๒. คู่มือสมภาร.


#3 mungkorn

mungkorn
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 06:01 PM

ขอบคุณมากครับแต่ไม่กระจ่าง
ผมได้ยินได้ฟังจาก DMC และจากหนังสือ ขอไปค้นก่อนครับจำไม่ได้ว่าจากเล่มไหน นรกขุมใหญ่มี 8 ขุม อเวจีขุม 8 ไม่รู้ว่าโลกันต์อยู่ตรงไหน อย่าหาว่าถามเรื่องที่ไม่ทำพ้นทุกข์เลยนะครับ ในหนังสือ DMC guide ก็พูดถึงนรกแค่ 8 ขุมและยังบอกว่า อเวจีมีอายุยืนยาวกว่าขุมอื่นๆ ไม่พูดถึงโลกันต์เลย ขอท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ ขอยืนยันว่าได้ยินมาว่าโลกันต์อยู่นอกภพ สามจริงๆ

ขอบคุณมากครับ เข้าใจแล้วครับ

#4 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 07:05 PM

โลกันต์มหานรกเป็นนรกขุมพิเศษ ที่มีแต่ความมืด สัตว์นรกมีร่างกายใหญ่โต ใช้เล็บมือเท้าเกาะห้อยโหนอยู่ตามเชิงจักรวาล เมื่อปีนป่ายไปถูกเนื้อตัวสัตว์นรกด้วยกันก็จะนึกว่าเป็นอาหาร ก็จะฆ่าให้ตายแล้วกิน ถ้าพลาดพลัดตกลง ก็จะตกลงไปในทะเลน้ำกรด ละลายแหลกเหลว แล้วก็กลับมาเกิดเช่นเดิมอีก วนอยู่เช่นนี้จนกว่าพระพุทธองค์มาอุบัติขึ้นในโลกอีกครั้ง

สาเหตุที่ต้องมาเกิดในโลกันต์มหานรกก็เพราะเป็นคนมีมิจฉาทิฐิอย่างแรง เที่ยงทำอกุศลกรรม ทำร้ายผู้ทรงศีลเป็นประจำ

รายละเอียดโดยย่อจาก จักรวาลวิทยา DOU ครับผม

#5 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 07:29 PM

โลกันต์

โลกันตริกนรก ที่ซึ่งไม่ใช่ที่เปิดเผย มีแต่ความมืดมิดซึ่งดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ มีอิทธานุภาพมากอย่างนี้ ส่องแสงไปไม่ถึง

ที่มา : เล่ม 14 พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[๑๗๓๙] ... ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกันตนรกมีแต่ความทุกข์ มืดคลุ้มมัวเป็นหมอกสัตว์ในโลกันตนรกนั้น ไม่ได้รับรัศมีพระจันทร์และพระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้.

ที่มา : เล่ม 19 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[๘๗๘] ในโลกันตนรกนั้นมืดที่สุด ไม่มีพระจันทร์และพระอาทิตย์ โลกันตนรกมืดตื้ออยู่ทุกเมื่อ น่ากลัว กลางคืนกลางวันไม่ ปรากฏ ผู้ต้องการทรัพย์คนไรเล่า จะพึงเที่ยวไปในสถานที่ เช่นนั้นได้ ฯ

[๘๗๙] ในโลกันตนรกนั้นมีสุนัข ๒ เหล่า คือ ด่างเหล่า ๑ ดำ เหล่า ๑ ล้วนมีร่างกายกำยำล่ำสันแข็งแรง ย่อมพากันมา กัดกินผู้ที่จุติจากมนุษยโลกนี้ ไปตกอยู่ในโลกันตนรก ด้วย เขี้ยวเหล็ก ใครเล่าจะไปทวงทรัพย์พันหนึ่ง ในปรโลก กะมหาบพิตรผู้ตกอยู่ในนรก ถูกสุนัขอันทารุณร้ายกาจ นำทุกข์มาให้ รุมกัดกินตัวขาดกระจัดกระจายเลือดไหลโทรมได้.

[๘๘๑] ในโลกันตนรกนั้น มีห่าฝนต่างๆ ชนิด คือ หอก ดาบ แหลม หลาว มีประกายวาวดังถ่านเพลิง ตกลงบนศีรษะ สายอัสนีศิลาอันแดงโชน ตกต้องสัตว์นรกผู้มีกรรมหยาบช้า และในนรกนั้นมีลมร้อนยากที่จะทน ได้ สัตว์ในนรกนั้น ย่อมไม่ได้รับความสุขแม้แต่น้อย ใครเล่าจะพึงไป ทวงทรัพย์พันหนึ่งในปรโลก กะมหาบพิตรซึ่งทรงกระสับกระส่ายวิ่งไป มาหาที่ซ่อนเร้นมิได้.

ที่มา : เล่ม 28 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายชาดก ภาค 2
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ในรูปจุดสีแดงๆ คือหลุมดำในสุริยะจักรวาลของเราครับ



ในรูปประจำตัวผมก็คือหลุมดำเช่นกันครับแต่เป็นหลุมดำที่กำลังกลืนกินดาวฤกษ์อยู่ ทำให้เกิดหางเป็นทางยาวครับ
ภายในหลุมดำจะไม่ปรากฎว่ามีแสงใดๆ เล็ดลอดออกมาได้ครับ แต่การที่เรามองเห็นหลุดดำได้นั้นเป็นเพราะแสงที่เกิดจากดาวฤกษ์ได้ถูกหลุมดำดูดกลืนแสงเข้าไปทำให้แสงเกิดการเดินทางบิดเบี้ยวหรือโค้งงอนั่นเอง

วิเคราะห์ในความคิดของผมคิดว่าโลกันต์นี้น่าจะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับหลุดดำ(black hole)ในอวกาศมากครับ ส่วนที่ว่าหลุมดำจะมีภพซ้อนอยู่ภายในหรือไม่ถ้าจะให้แจ้งคงต้องไปดูให้เห็นกับตาด้วยตาทิพย์ของแต่ละท่านเองแล้วหละครับ

QUOTE
นรกโลกันต์ใครตกขุมนี้แล้วอยู่ตลอดแบบไม่ได้ผุดได้เกิดอีกใช่ไหมครับเพราะอยู่นอกภพ

การที่คนโบราณบอกว่าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเพราะว่าระยะเวลาในโลกันต์ยาวนานมากๆ จนนับกันไม่ไหว และที่สำคัญถ้าใครลงไปแล้วอุปมาเหมือนโยนแท่งศิลาลงไปในบ่อที่ไม่มีก้นทีเดียว เป็นภพมืด ความมืดนี้จะบังคับใจของสัตว์ในโลกันต์ให้ทุกข์ร้อนมัวหมองตลอดเวลา โอกาสบุญจะส่งผลจึงแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ จนกว่าจะมีผู้ที่สามารถส่งแสงเข้าไปยังโลกันต์ได้ นั่นคือพระพุทธเจ้า สัตว์เหล่านี้ถึงจะมีโอกาสได้ได้ผุดออกมาจากโลกันต์มายังนรก 8 ขุมดังกล่าวได้ครับ มีคำกล่าวที่ว่า "นิพพานอยู่ส่วนบน ภพ 3 เป็นลำต้น โลกันต์เป็นรากแก้ว กายสัตว์โลกเป็นผู้อยู่อาศัย"

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 07:40 PM

จากที่คุณ Yosawat ได้กล่าวว่า "เที่ยวทำอกุศลกรรม ทำร้ายผู้ทรงศีลเป็นประจำ" นั้น ทำให้นึกถึงอนาคตของกลุ่มขจก. ภาคใต้ ที่เที่ยวเข่นฆ่าพระภิกษุสงฆ์ไม่เว้นแต่ละวันจังเลยครับ สำหรับพี่ xlmen ผมมีความเห็นว่า เยี่ยมมากครับ ที่เข้าใจหารูปภาพซึ่งเป็นหลักความจริงทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ และทำให้ได้รู้ถึงภาพ/มุมมองอีกมุมหนึ่งของอายตนะโลกันต์/โลกันตร์ ซึ่งมีรายละเอียดดังปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกอีกด้วยครับ

#7 mungkorn

mungkorn
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 08:13 PM

ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ความกระจ่าง
แต่ถ้าเป็น นิยตมิจฉาทิฏฐิ ก็คงอยู่ตลอดไป คงไม่เป็นมิจฉาทิฎฐิ เหมือนกับ นิยตโพธิสัตว์ยังไงก็ต้องตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน พวกนิยตมิจฉาทิฏฐิ คงหมดสิทธิไปนิพพาน
ผมเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันได้ไม่นาน มีอะสงสัยอีกหลายอย่าง คงได้รับวิทยาจากพวกท่านนะครับ

#8 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 10:45 PM

โลกันต์ เป็นที่ๆเย็นมากๆๆๆๆๆๆๆครับ

#9 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 12:08 AM

คุณสิริปโภเล่าให้ฟังเป็นนิทาน ยาวๆ หน่อยสิครับ ผมอยากฟังครับ อิอิอิ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#10 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 12:48 PM

ถ้าฟังเพลงไตเติ้ลของ รร.อนุบาล จะมีคำร้อง"ฉันเป็น นร.อนุบาล ศึกษานิพพาน ภพ3 โลกันต์ เรียนความจริงของชีวันต์"(อาจตกๆหล่นๆบ้าง ช่วยแก้ด้วยนะ)

โลกันต์ ไม่ได้อยู่ในภพ3

มีคำกล่าวว่า โลกันต์ คือใต้ฐานเทวทัต(อเวจีมหานรก)

ถ้าเล่าเป็นนิทาน เอาเป็นว่า หยินกับหยาง มีขาวมีดำ มีมืดมีสว่าง มีฝ่ายบุญมีฝ่ายบาป มีธรรมะมีอธรรม ซึ่งมีภพ3 เป็นสมรภูมิ

#11 IQ0

IQ0
  • Members
  • 366 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:MS16
  • Interests:อยากสร้่างบ้านพักคนชราไว้รองรับจนทให้อยู่ใกล้ๆวัด

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 03:35 PM

โลกันตริกนรกขุมหนึ่งๆ อยู่ในระหว่างจักรวาลทุกๆ ๓ จักรวาล
เปรียบเหมือนช่องว่างในท่ามกลางของล้อเกวียน ๓ ล้อ หรือบาตร ๓ ใบ ซึ่งจรดกันและกันตั้งอยู่
โลกันตริกนรกนั้นมีปริมาณ ๘,๐๐๐ โยชน์

คำว่า ไม่ถูกคลุม หมายความว่า เปิดโล่งอยู่เป็นนิตย์
คำว่า ไม่ถูกปิด หมายความว่า แม้เบื้องล่างก็ไม่มีที่เหยียบยืน
คำว่า มืด คือเป็นที่มืด
คำว่า มืดสนิท หมายความว่า ประกอบด้วยความมืดอันทำให้ตาบอด โดยห้ามเสียซึ่งความบังเกิดขึ้นแห่งจักษุวิญญาณ
(หมายความว่า ถึงจะมีนัยน์ตา แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมืดมาก จักษุวิญญาณคือความรู้สึกว่ามองเห็นจึงไม่เกิด มีอาการดุจตาบอดนั่นเอง)
ได้ยินว่าจักษุวิญญาณไม่เกิดขึ้นได้ในโลกันตริกนรกนั้น

อัตตภาพของสัตว์นรกเหล่านั้น มีประมาณ ๓ คาวุต เป็นสัตว์มีเล็บยาวดุจค้างคาว
สัตว์นรกเหล่านั้นเอาเล็บเกี่ยวที่เชิงหรือขอบจักรวาลเหมือนค้างคาวเอาเล็บเกี่ยวที่ต้นไม้
ในเวลาที่เอามือควานไปถูกกันและกันเข้าก็จะคิดว่าได้อาหารแล้ว กระเถิบเข้าหา (เพื่อจะจับกิน)
หรือบางทีควานไปถูกอีกมือหนึ่งของตัวเองก็คิดว่าได้อาหาร ก็จะตะปบคว้า
ก็กลิ้งจะตกไปบนน้ำรองโลก เมื่อถูกลมกระทบก็แตกราวกะผลมะซางสุกตกไปในน้ำ
และพอตกลงไปก็ย่อยไปเหมือนก้อนแป้งในน้ำกรดอย่างแรง

สัตว์นรกในโลกันตนรกนี้เมื่อตกลงไปถูกน้ำกรดเย็นกัดกินละลาย เจ็บปวดแสบปวดร้อน เย็นยะเยือกถึงกระดูกจนเละไปแล้ว
ก็กลับเป็นขึ้นมาใหม่ ตะเกียกตะกายขึ้นไปเกาะตามขอบเขาจักรวาลนั้นอีก วนเวียนทุกข์ทรมานต่อๆ ไปอยู่อย่างนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด
คือไม่อาจจะนับเวลาที่จะสิ้นสุดเวรกรรมเช่นนี้เมื่อใด และเห็นว่าเวรกรรมที่หนักที่เขาได้ประกอบกรรมทำเข็ญมาแล้วนั้น
เป็นเพราะ “มิจฉาทิฏฐิ” เป็นเหตุเป็นปัจจัยหนุนนำให้ทำอกุศลกรรมต่างๆ
ไม้ต้นเดียว ...........ไม่เป็นผืนป่า
ด้ายเส้นเดียว .........ไม่เป็นผืนผ้า
อิฐก้อนเดียว .... ไม่เป็นบ้านเรือน
ทำบุญคนเดียว ...ไม่เป็นกัลยาณมิตร

#12 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 05:27 PM

QUOTE
คุณสิริปโภเล่าให้ฟังเป็นนิทาน ยาวๆ หน่อยสิครับ ผมอยากฟังครับ อิอิอิ


จากหนังสือ วิชามรรคผลพิสดาร ของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

[attachmentid=1741][attachmentid=1742]

[attachmentid=1743][attachmentid=1744]

[attachmentid=1745][attachmentid=1746]

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  1_054.jpg   35.14K   129 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1_055.jpg   52.25K   144 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1_056.jpg   60.26K   112 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1_057.jpg   68.63K   108 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1_058.jpg   64.9K   111 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1_059.jpg   7.23K   27 ดาวน์โหลด


#13 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 07:59 PM

โมทนาสาธุครับ คุณสิริปโภ อ่านแล้วเพลินๆ ดีครับ เป็นนิทานที่เหมาะกับคนที่ฝึกมากเลยครับไม่เหมาะกับนักวิจารณ์ หรือนักคิดครับสาธุ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#14 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 05:45 PM

Well done all the replyer!!
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#15 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 12:51 AM

สาธุค่ะ เยี่ยมจริงๆ ทุกท่านเลยค่ะ happy.gif

#16 yujiro

yujiro
  • Members
  • 37 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 03:19 PM

oh! my buddha

#17 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 04:55 PM

เป็นความรู้ที่ควรรู้
ให้เกิดความความเกรงกลัวต่อผลของบาป
หิริ โอตตัปปะ ควรมีกับทุกคน

#18 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 July 2007 - 05:12 PM

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#19 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 January 2008 - 09:43 PM

เป็นความรู้ที่ควรรู้
ให้เกิดความความเกรงกลัวต่อผลของบาป

พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#20 usr21238

usr21238
  • Members
  • 233 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 07:46 PM

สาธุ

#21 live in peace

live in peace
  • Members
  • 17 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 November 2008 - 09:55 PM

สาธุครับ ดีมากเลยครับ