![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/e61b50e38a3ccfe91b7acb07687978ef?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ผมจะเห็นธรรมกายไหมครับ
#1
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 01:44 PM
#2
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 02:51 PM
แต่ไม่มีใครทำให้เห็นได้หรอกนะครับ
#3
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 03:48 PM
อยู่ที่ว่าได้ลงมือทำหรือยัง ถ้ายังไม่ลงมือทำอีกกี่ภพกี่ชาติก็ไม่มีสิทธิได้เห็น
คุณต้องลงมือศึกษาและปฏิบัติ โดยถือว่าการนั่งสมาธิเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต เมื่อปฏิบัติถึงจุดๆ หนึ่ง คุณจึงจะเชื่อมั่น เชื่อจากใจจริงของคุณเอง ว่าตัวคุณสามารถเข้าถึงพระธรรมกายได้ และเป็นสิ่งที่ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
อนุโมทนาบุญ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#4
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 03:53 PM
สภาวะธรรมนี้ คือองค์พระธรรมกายภายในมีอยู่เป็นอยู่ภายในของทุกคน ต้องเห็นได้ครับ
อกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปนยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ครับ
...............
แต่เริ่มต้นที่ นั่งเพื่อความสงบ ผ่อนคลาย ให้มีสมาธิตั้งมั่น สงบ ปล่อยวาง มีสติพิจารณาธรรม ก่อเกิดสติปัญญา เป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพาน ดีกว่านะครับ
เพราะการที่มุ่งมั่นแต่นั่งเพื่อจะเห็น อาจจะกลายเป็นเพียงความอยากที่จะบรรลุคุณวิเศษแบบโลกิยะไปได้นะครับ มันอาจจะเข้าไปทางนั้น พอไม่เห็นก็เลยท้อแท้ พอท้อแท้ก็ไม่สนใจธรรมะมันแล้ว อิอิ จึงเรียนไว้ให้ทราบครับ
เพราะเคยเห็นมาเยอะครับ บางท่านมุ่งแต่จะนั่งให้เห็น กลายเป็นคนซีเรียส กิเลศเอยอารมณ์เอยก็ไม่เคยพิจารณา ไปๆมาๆ ท้อแท้ หนีหายไปเลย น้าาน
บางท่านน่าเสียดายมาก ที่สามารถเข้าถึงและเห็นองค์พระได้แล้ว แต่พี่ทั่นก็นั่งแช่อิ่มเสมือนชาตร์แบตในช่องฟรีสส เป็นสิบๆชั่วโมง ไม่พิจารณาวิปัสสนา ไม่เจริญวิชชาที่สูงไปกว่านั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก (แต่ทำได้เท่านั้นก็ดีมากแล้ว ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่ควรเพิ่มให้สมบูรณ์เป็นสัมมาสมาธิ)
ผมก็เลยชวนเสวนาเพิ่มเติมให้นะครับ
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#5
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 06:04 PM
#6
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 08:37 PM
..ผมมักจะบอกกับเพื่อนๆเสมอๆว่า นั่งสมาธิแล้วไม่เกิดความสบายจะนั่งไปทำไม? นั่งแล้วเกิดกิเลสอยากได้โน่นอยากได้นี่จะนั่งไปทำไม? เพื่อนๆผมเข้าใจ และมองว่าเป็นสิ่งที่เป็นจริง เพราะเราเสียเวลา สละมานั่งสมาธิแล้ว ควรตักตวงความสบาย ความสงบ และความปลอดโปร่งใส่ตัวเราให้มากที่สุด และให้ติดในสิ่งนั่น จะได้หมั่นฝึก หมั่นนั่งเองบ่อยๆ นานๆ ทุกวันนี้เพื่อนๆก็เริ่มสว่างกันแล้ว
#7
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 12:26 AM
บางท่านน่าเสียดายมาก ที่สามารถเข้าถึงและเห็นองค์พระได้แล้ว แต่พี่ทั่นก็นั่งแช่อิ่มเสมือนชาตร์แบตในช่องฟรีสส เป็นสิบๆชั่วโมง ไม่พิจารณาวิปัสสนา ไม่เจริญวิชชาที่สูงไปกว่านั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก (แต่ทำได้เท่านั้นก็ดีมากแล้ว ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่ควรเพิ่มให้สมบูรณ์เป็นสัมมาสมาธิ)
แต่หากเรายังไม่เห็นอะไรเลย แม้ยังมืดตื้อมืดมิด จริงๆ ก็ควรเจริญวิปัสสนาไปด้วย
#8
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 12:58 AM
แต่หากเรายังไม่เห็นอะไรเลย แม้ยังมืดตื้อมืดมิด จริงๆ ก็ควรเจริญวิปัสสนาไปด้วย
ขอเรียนให้ความรู้เพิ่มเติมนะครับ
หากนั่งแล้วยังไม่เห็นดวงปฐมมรรค และองค์พระธรรมกาย หรือเห็นแล้วแต่ยังไม่สามารถเจริญฌานได้ เราก็ควรโยนิโสมสิการในธรรมะไปก่อนครับ
ตรงนี้สายอื่นเขาก็เข้าใจว่าเป็นวิปัสสนาแล้ว แต่สายวิชชาธรรมกายยังครับ สายเราเรียกว่า โยนิโสมนสิการ พิจารณาธรรมะ ให้เห็นไตรลักษณ์ให้มากๆ พิจารณาเบญจขันธ์ ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ
การที่ใช้สัญญาความจำความคิดมาเจริญธรรมะแล้วเข้าใจว่าเป็นวิปัสสนานั้น ความจริงเป็นแค่สัญญาวิปัสสนา หรือวิปัสสนึกเท่านั้นเอง แต่ก็ควรทำบ่อยๆครับ แล้วจะช่วยให้เข้าถึงธรรมได้ง่าย เป็นปัจจัยแก่พระนิพพานครับ
หากภายหน้าเข้าถึงพระธรรมกายและเจริญฌานได้ก็จะได้เริ่มวิปัสสนาแท้ๆเต็มขั้นต่อไปครับ วิชชาธรรมกายละเอียดสมบูรณ์มากครับ
ย้ำอีกทีสายเราหลายๆท่าน มักเข้าใจแต่อยากจะเห็น นั่งเอาเป็นเอาตาย เครียสอีก แล้วไม่พิจารณาธรรมะอะไรเลย เป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ และทำให้คนสายอื่นที่เขาไม่ศึกษาสายเราให้ดีปรามาสเอาได้ว่าติดแต่สมถะ ติดแต่ความอยากเห็นนิมิตต
อย่างน้อยสุด นั่งให้สงบ สบาย ปล่อยวาง ตั้งมั่นในอารมณ์สงบ มีสติเบิกบาน สดชื่น ตื่นตัว พอสมควรแล้ว ก็พิจารณาธรรมะต่างๆบ้างก็ยังดีครับ
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย