ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

จะทำอย่างไรจึงตัดการให้อาหารกับกิเลสได้


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr20754

usr20754
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 10:29 PM

ทำอย่างไรบ้างครับที่จะไม่ให้กิเลสได้รับอาหารครับหรือถ้าให้ให้เเบบน้อยที่สุดน่ะครับขอเรียนปรึกษาครับ

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 10:35 PM

สำรวมกาย วาจา ใจ ด้วยหิริโอตัปปะ ครับ
หรือฝึกตัวด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 11:55 AM

ทำได้โดยการไม่เปิดช่องทางให้กิเลสเข้ามาสู่จิตใจ หรือไม่ก็โดยการข่มกิเลส เพราะทุกคนล้วนมีกิเลส ขึ้นอยู่ว่ากิเลสจะมากหรือน้อย เพราะกิเลสนั้นได้สั่งสมทับทวีมาตั้งแต่ปฐมกัปจนถึงปัจจุบันชาติ นับภพนับชาติไม่ถ้วน จึงเป็นไปได้ว่าเราชินกับกิเลส จนถือเป็นเพื่อนสนิท ถ้าจะสร้างศัตรูกับกิเลส กิเลสก็จะเริ่มต่อสู้กับเราจนยากที่จะชนะ ทางที่ดีเราควรเป็นเพื่อนสนิทกับกิเลส เพราะกิเลสเป็นสิ่งคู่คน แล้วเราจึงใช้จิตกำหนดรู้ ว่าสิ่งไหนควรสิ่งไหนไม่ควร โดยมี หิริโอตตัปปะ ประกอบกับ ทานศ๊ลภาวนา เมื่อเราทำอย่างนี้เป็นอาจิณ กิเลสซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทของเรา ก็จะเบื่อเราและตีจากเราไปทีละนิดทีละนิด สภาวะจิตก็จะไปสู่ความสงบทางใจที่สัมผัสได้.....ด้วย "สมาธิ"

#4 จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม

จะไปให้ถึงทีสุดแห่งธรรม
  • Members
  • 160 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:belgium

โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 09:41 AM

ไม่ทราบว่าจะตรงจุึดหรือเปล่านะครับ

ถ้าจำไม่ผิด หลวงพ่อทัตตะท่านเคยเทศน์ไว้ว่า

จะชนะกิเลสได้ ก็ต้องใช้วิธีการ "เผา" กิเลส
การ "เผากิเลส" ถ้าจำไม่ผิด คือการ "บำเพ็ญตบะ"
การ "บำเพ็ญตบะ" ขั้นต้น น่าจะเป็นการ สมาทาน ศีล ๘
และพร้อมด้วยการอยู่ทุดงฯ บ่อย ๆ

ทำทั้งสองสิ่ง บ่อย ๆ พร้อม ๆ ไปกับการนั่งสมาธิ สำรวมใจ
สักวัน ก็คงจะชินกับ "นิสัยไม่ติดสุข" ในเรื่อง
"รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และ ธรรมารมณ์" เข้าสักวัน

กิเลสจะค่อย ๆ หลุดล่อนออกจากใจไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ
และสักวัน ก็คงจะได้พบกับความสุขอันยิ่งใหญ่นะครับ

(รู้แต่ทฤษฏีนะครับ กระผมเอง ยังกระท่อน กระแท่นอยู่)

ถ้าหากผิดพลาดประการใด รบกวน ร่วมกันแก้ไขด้วยนะครับ

ถ้าหากข้อคิดเห็นของกระผม

ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใด

เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ

ขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


#5 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 13 May 2008 - 11:18 AM

เวลากิเลศเริ่มครอบงำนะคะ ให้ท่อง สัมมา อะระหังๆๆๆๆ หรือเองรูปองค์พระมามอง คงช่วยให้ลดกำเลศได้

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป