ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ใช้หนี้กรรมสุนัข แมว...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 JOYSA

JOYSA
  • Members
  • 234 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 February 2006 - 05:48 PM

หลักพระอภิธรรม ๗ พระคัมภีร์ บอกไว้ว่า เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ เจตนาเป็นตัวกรรม ถ้าไม่เจตนาเป็นกิริยา ยกตัวอย่างโยมมารักษาศีลกัน จะรู้อย่างไรว่าศีลขาด ตอบได้อย่างเดียวคือ เจตนา ถ้าไม่เจตนา ศีลไม่ขาดหรอก ยกตัวอย่าง โยมเดินออกไป มีผ้าคลุมแมวอยู่ ก็ไม่ทราบนึกว่าผ้าเช็ดเท้า ก็ไปเหยียบผ้าเข้า ถูกลูกแมว พอเปิดผ้าออกมา ตาย เหยียบเสียเละแล้ว ศีลขาดไหม ไม่ขาด แต่ใจเศร้าหมอง พิโธ่เอ๋ย ไม่น่าจะมาขวางพระบาทเลย ตายแล้วศีลไม่ขาด แต่ด่างพร้อย ใจเศร้าหมอง เป็นกิริยา โดยกิริยาต้องใช้
หมายความว่าอย่างไร ยกตัวอย่างอาตมาไปร้านโยมขายแก้ว อาตมาก็ไปเลือกแก้ว โดยไม่เจตนา แก้วลื่นหลุดมือแตกเพล้ง! แตกแล้ว อาตมาต้องถามโยมแม่ค้าว่า

"แก้วใบละเท่าไรจ๊ะ"
"ใบละ ๒ บาทค่ะ"
"เอาไปเลย ๒ บาท"
"อ๋อไม่เป็นไร ท่านมีบุญคุณกับดิฉัน หลวงพ่อเจ้าคะ แค่ ๒ บาทเท่านั้น"


เรียกว่าอโหสิกรรม ไม่ต้องใช้ เข้าใจไหมนี่

แต่ถ้าโยมกับอาตมาไม่รู้จักกันเลย ไม่เคยสร้างความดีต่อกันเลย ก็ต้องใช้ตามระเบียบ ๒ บาท
นี่เป็นกิริยาต้องใช้นะบางทีพระอาจารย์อธิบายไม่ถูก โอ๊ยไม่ต้องใช้ ยกตัวอย่าง อาตมาสร้างความดีกระทุ้งพื้นหอประชุม ตอนนั้นยังไม่มีหลังคาไม่มีฝา อยู่ริมตรงข้างทาง จะเลิกกระทุ้ง มองดูแล้วไม่มีอะไรขวางก็เหวี่ยงขอนไม้ออกไป เพื่อกองรวมกันไว้ พอดีมีสุนัขบ้านวิ่งมาจากไหนไม่ทราบ ขอนไม้ชนจมูกอย่างแรง เลือดพุ่งฉูดเลย
อย่างนี้เป็นกิริยา เพราะไม่ได้เจตนา สุนัขตัวนี้วิ่งมาโดยบังเอิญ เราไม่ได้เลี้ยงมันนะ ถ้าเลี้ยงมันอาจจะอโหสิกรรมให้เราก็ได้อาตมาเลยไปเอารางจืดอยู่ที่หลังกุฏิอาตมา มาโขลกกับน้ำซาวข้าว กรอกเข้าไปในปากสุนัข ปรากฏว่า สุนัขฟื้น ลุกวิ่งได้เลย อยู่ต่อมาได้เดือนเดียว อาตมาไปพูดที่ศาลาประชาคม ลพบุรีตอนเพลไปฉันที่บ้านนายอำเภอฉันเสร็จแล้วก็ไปดูวัดสร้างใหม่ ที่เมืองใหม่ มีเต้นท์อยู่ คนฟังประมาณ ๑๐๐ คน อาตมาก็ไปนั่งที่กุฏิสมภาร มีสมภารนั่งอยู่ก่อนแล้ว พอดีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สมภารก็ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ในกุฏิ

พออาตมาไปถึง สมภารลุกไปเท่านั้นแหละ ลมเกย์มาเลย แปลเป็นภาษาไทยว่า ลมแดง ภาษาชาวบ้านเรียกว่าลมบ้าหมู หมุนจนเต็นท์พังหมด คนทั้ง ๑๐๐ คน ไม่เป็นอะไร แต่ลมพัดไม้แป ซึ่งแหลมพอดีเลย มาทิ่มที่จมูกอาตมาคนเดียว ถ้าสมภารนั่งอยู่ด้วยกัน ต้องตายก่อน เพราะอยู่ข้างหน้า พอโดนจมูกอาตมาเลือดพุ่งแล้ว ลมบ้าหมูหายไปเลย ไม่มีอีกเลย เห็นไหมนี่ กฎแห่งกรรม โดยกิริยาต้องใช้อย่างนี้


ถ้าหากว่าเราไม่สร้างความดีเลยนะ ยังไม่รับใช้ ไปใช้ชาติหน้าเลย ขอฝากไว้ด้วย ความดีจะมีอุปสรรคถ้าเราสร้างความดี ต้องมีคนด่า คนว่า ต้องทนต่อไป พระเอกในเรื่องหนังละครต้องลำบากอย่างนี้แหละ ถ้าใครชอบสบาย ไม่ใช่พระเอกนางเอก ใช้ไม่ได้เป็นตัวเบ็ดเตล็ด เป็นตัวหางเครื่อง อันนี้เข้าใจนะ อาตมาก็เลือดไหลไปเลย พวกโยมรีบลุกจะมาพยุง อาตมาบอก "ไม่ต้อง เรื่องเล็ก" เลยเล่าให้สมภารฟัง คนที่นั่นนั่งฟังไปด้วย บรรยายธรรมะเรื่องกฎแห่งกรรมให้ฟัง ที่ศาลาประชาคม เขาให้พูดเรื่องความสามัคคี เลือดยังอยู่เต็มที่จมูกอาตมา หมอเข้ามาจะเช็ดให้ อาตมาบอกไม่ต้อง เดี๋ยวจะเอาไว้เป็นพยาน แว่นกระเด็นไป แต่ไม่มีกฎแห่งกรรมเรื่องแว่น แว่นเลยไม่แตก เพราะเราเหวี่ยงขอนไม้ไป สุนัขไม่มีแว่น ถ้าสุนัขมีแว่น แว่นเราก็ต้องแตก เห็นชัดไหมนี่ อาตมาไปพูด นายกเทศมนตรีถามว่า หลวงพ่อที่จมูกมีเลือดเป็นอะไรน่ะ อาตมาบอก เฉย ๆ เดี๋ยวรู้ เลยพูด ๑ ชั่วโมง จบรายการ ว่าเป็นกฎแห่งกรรมของเราอยู่มาไม่ช้า เป็นกิริยาอีก เมื่อปีนี้เอง ปี ๒๕๓๒ อาตมาพูดจากหอประชุมเสร็จแล้วก็ไปที่กุฏิชั้นบน ตี ๒ แล้ว ไม่มีใครเดินแล้ว อาตมาเทน้ำร้อนจากกระติกใส่ขัน สาดลงทางหน้าต่าง แมววิ่งมาพอดีเลย โดนแมวร้องแป๊ว ตายหรือเปล่าก็ไม่ทราบอยู่ต่อมาไม่พอเดือนนะ กระติกที่มีเกลียว มันระเบิด น้ำลวกตรงหน้าขาอาตมาเลย กำลังห่มผ้าอย่างนี้ ไม่รู้จักร้อน พอเลิกผ้าออกมาหน่อยเท่านั้น หนังลอกออกลึกพอสมควร แต่หายแล้ว ไม่ต้องดูนะอยู่ในผ้า ถ้าไม่เชื่อจะเปิดให้ดูลึกเลย จริง ๆ นะนี่แหละ เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ เจตนาเป็นตัวกรรม ไม่ได้เจตนาเป็นตัวกิริยาแต่สร้างความดี ต้องใช้ไปเลย ชาติหน้าไม่ต้องไปใช้หนี้ ถ้าคนสร้างความดีมาก ต้องรีบใช้ในชาตินี้ ถ้าคนสร้างความดีแต่ยังไม่ละความชั่ว ยังใช้หนี้ชาตินี้ไม่ได้ รวมทั้งดอกทั้งต้นไปใช้ในนรกโน่น ใช้ชาตินี้ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมีกรรม จะไม่ดีกว่าหรือ ขอฝากไว้ด้วย

คัดลอกจาก:
หนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๔
http://www.jarun.org...ule04r1101.html


#2 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 February 2006 - 12:27 AM

โอ้โห ไม่ว่าจะเจตนาทำกรรมหรือไม่ทำกรรม ไม่ว่าจะเป็นกิริยาหรือไม่ดูเหมือนกฎแห่งกรรมจะไม่เคยละเว้นผู้ใดเลยครับ ขนาดพระสงฆ์มีศีล 227 ข้อ ท่านยังเลี่ยงกรรมไม่ได้เลยนี่แสดงว่า กฎแห่งกรรมน่ากลัวทีเดียว
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#3 saowanee15

saowanee15
  • Members
  • 207 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 February 2006 - 10:31 PM

อนูโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ ^/\^
ก็เหมือนที่หลวงพ่อธัมมะท่านสอนพวกเราบ่อย ๆ ละค่ะว่า กฎแห่งกรรมไม่เลือกว่าเค้าคนนั่น คนทำ เป็นเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ เป็นฆราวาส หรือ พระ ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย คนรวย หรือ คนจน ทำกรรมใดไว้ ถึงแม้เราไม่คิด เรานึกว่าสนุกของเราไปเรื่อยเปื่อย แต่กฎแห่งกรรมเค้าไม่คิดเช่นนั้นด้วย

#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 15 February 2006 - 11:39 PM

สำหรับกฎแห่งกรรมนั้น กลับมีมุมมองที่แตกต่างว่า "เด็กในวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในอดีต" ครับ

#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 08 December 2010 - 02:03 PM

อนุโมทนาบุญครับ