เจ้าของเคสมีประสบการณ์แปลก ๆ ที่หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ เมื่อเธออายุ 16 ปี ขณะกำลังนั่งเรียนหนังสือ ทั้ง ๆ ที่กำลังลืมตาอยู่ อยู่ ๆ ความรู้สึกของเธอก็หายไปหมดประมาณ 30 นาที จนกระทั่งครูเอาชอล์กปา เธอจึงรู้สึกตัว เธอไปหาหมอดูหลายคน หมอดูมักจะทักว่า เธอมีเทพรักษาอยู่ เธอไม่เชื่อ หลังจากนั้นสุขภาพของเธอก็เริ่มแย่ ใจสั่น ใจหวิว หนักที่หัวไหล่และต้นคอมาก เมื่อไปพบแพทย์ก็ตรวจไม่พบว่าเป็นอะไร เพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้เธอไปรับขันธ์ เธอไม่ยอม เพื่อนจึงแนะนำให้ไปหาพระทางภาคเหนือแทน พระท่านให้ท่องคำบาลี หลังจากเธอท่องได้เพียง 3 คำเท่านั้น เธอก็พูดภาษาแขกออกมาโดยไม่รู้ตัว พระท่านก็ให้หาผ้า 3 เมตร ธูป 9 ดอก ดอกบัว 9 ดอกมาถวาย พอถวายเสร็จ เธอรู้สึกสบายตัวอย่างแปลกประหลาด ใจโล่งไม่หนักเหมือนแต่ก่อน
ต่อมาเมื่อเจ้าของเคสอายุได้ประมาณ 39 ปี เธอได้ไปร่วมงานทางภาคเหนือ พบผู้หญิงคนหนึ่งเดินนำหน้าขบวน เธอเห็นแล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจ รู้สึกชอบหญิงคนนั้นขึ้นมาทันที คนข้าง ๆ บอกเธอว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นร่างทรงของปู่เจ้าน้ำจันทร์ มีกิจการทอผ้าและสามารถรักษาคนที่โดนของได้ ตอนนั้นเธอไม่ได้ติดใจอะไร แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น แม้เธอรู้สึกตัวทุกอย่าง แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ รู้อย่างเดียวว่าต้องไปหาผู้หญิงคนนั้นให้ได้ พอไปถึงบ้านหญิงคนนั้น เธอเห็นเจ้าของเคสก็ผงะไปเลย แล้วบอกว่า ขอเชิญท่านที่ศาลาก่อน เดี๋ยวจะตามไป ไม่นานนักเธอก็มาที่ศาลาแล้วตรงเข้ามากราบเจ้าของเคส พร้อมกับพูดว่า ดีใจที่เสด็จแม่มาเยี่ยม พอเธอพูดเสร็จ เจ้าของเคสก็รู้สึกว่ามีพลังมหาศาลที่จะถ่ายทอดให้ แล้วก็เอามือลูบและพูดออกมาเป็นเสียงที่ดังมาก เป็นการให้พรภาษาแขก ซึ่งเจ้าของเคสก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร พอให้พรเสร็จ เจ้าของเคสก็กลับมาควบคุมตัวเองได้ รู้สึกเขิน ๆ เจ้าของเคสรีบขอโทษและไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาที่บ้านหลังนี้ เธอรีบตอบเจ้าของเคสว่าเธอทราบ และบอกเจ้าของเคสว่าไม่ต้องเขิน เจ้าของเคสจึงถามว่า ที่คุณเห็นดิฉันเมื่อกี้ ทำไมคุณถึงต้องผงะออกไปด้วย เธอตอบว่าเพราะดิฉันเห็นแสงสว่างส่องมาที่ตัวคุณ แล้วเธอก็ถามเจ้าของเคสว่าเมื่อไหร่จะมาอีก เจ้าของเคสตอบด้วยความมั่นใจว่า ไม่มาแล้ว
เมื่อเจ้าของเคสอายุ 46 ปี เธอไปหาน้องสาวที่บ้านแถวลาดพร้าว ที่ท้ายซอยมีป้าคนหนึ่งมีอาชีพหมอดู อยู่ ๆ เจ้าของเคสก็มีอาการเหมือนเดิมคือไม่รู้สึกตัว แล้วหันมาถามน้องสาวว่า ป้าท้ายซอยอยู่บ้านไหม น้องสาวบอกว่า เดี๋ยวไปดูให้ พี่รออยู่ที่บ้านเราก่อนนะ ตอนนี้มีอำนาจมาบังคับให้เธอไม่รอ และต้องเดินตามน้องสาวไปจนถึงบ้านป้า ป้าเจ้าของบ้านมาถึงก็กราบเธอที่พื้นแล้วพูดว่า เสด็จแม่ขา ช่วยลูกด้วย ลูกจุดธูปเชิญเสด็จแม่ ถ้าเสด็จแม่ไม่ช่วยลูก ลูกตายแน่เพราะตอนนี้สามีกำลังจะขายบ้าน ถ้าลูกไม่ยอม เขาก็จะบีบคอทำร้าย ตอนนั้นเจ้าของเคสตอบไปว่า แม่จะช่วย ทำใจให้สบายนะ ป้าบอกต่อว่า แต่อย่าให้สามีถึงตายเลยนะคะ เธอตอบว่าได้ พูดจบ เธอก็ควบคุมตัวเองได้ เธอรีบบอกป้าว่า ขอโทษด้วย ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไป หลังจากนั้น 2-3 วัน สามีป้าที่หายออกจากบ้านไป 2 เดือนก็กลับมา แล้วไม่พูดเรื่องขายบ้านอีกเลย และดูแลป้าเป็นอย่างดี
ต่อมาเจ้าของเคสไปจุดธูป 16 ดอกกลางแจ้ง แล้วอธิษฐานว่า อย่ามาเข้าอีกเลย เธอรู้สึกสับสนมาก อยากแสวงหาคำตอบว่าคืออะไรกันแน่ จึงไปสำนักร่างทรงแห่งหนึ่ง วันนั้นร่างทรงรวมตัวกันมาไหว้ครู เมื่อเธอเดินเข้าไปในงาน ปรากฏว่า ร่างทรงทุกคนพากันมากราบเธอ แม้บางคนจะมีอายุมากกว่า พอเข้าพิธีไหว้ครู เธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อีก เดินขึ้นไปบนเวที มือไม้รำไปเอง พอเธอคุมตัวเองได้ก็อายมาก รีบหนีออกจากงาน
ต่อมาปี 2538 เจ้าของเคสไปปฏิบัติธรรมที่สวนบัวเป็นครั้งแรก เธอเห็นองค์พระขนาดใหญ่ผุดเป็นสาย ประสบการณ์ดีทุกวัน เธออิ่มเอิบใจมาก หลังจากเห็นองค์พระ เธอก็จุดธูปบอกว่าต่อไปนี้จะไม่เป็นร่างทรงของใครแล้ว ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ถ้าเกิดว่าเทพองค์ไหนยังไม่ไปไหนก็ขอให้อยู่บริเวณรอบนอก อย่าให้มาเข้าร่างอีก เดี๋ยวจะทำบุญให้ ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครมาเข้าร่างเธออีกเลย
เมื่อกลับจากสวนบัวไม่กี่เดือน เธอนั่งธรรมะน้อยลง องค์พระหายไป ตอนนั้นเป็นจุดก้ำกึ่งของชีวิตเธออีกครั้ง เรื่องมีอยู่ว่า มีวิญญาณมาเข้าร่างภรรยาของเพื่อนผู้ชายที่ลูกรู้จัก วิญญาณนั้นบอกว่าเป็นสามีของเจ้าของเคสในอดีตชาติมาตามหาเธอ ถ้าเธอไม่ไปหา ภรรยาของเพื่อนจะต้องตาย เธอจึงจำเป็นต้องไปหา เมื่อภรรยาของเพื่อนพูด เสียงกลับกลายเป็นเสียงผู้ชายสำเนียงแขกและบอกเธอว่า ผมคิดถึงคุณ เธอพยายามช่วยเหลือ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพราะวัดไม่รับรักษาคนผีเข้า จึงพาไปหาร่างทรงหลายที่ ในที่สุดวิญญาณนั้นก็ยอมไป แต่ก่อนจะจากไปวิญญาณก็บอกว่า ให้ฝึกวิชชาให้เก่งนะ อีก 4 ปีจะกลับมาใหม่ ปรากฏว่า 4 ปีต่อมา เขาก็กลับมาจริง ๆ มาบอกผ่านภรรยาของเพื่อนว่า จะไม่มายุ่งกับเธอ เพราะเธอไม่รักเขาแล้ว ให้เธอไปทำบุญที่วัดศาสนาฮินดูให้เขาด้วย เธอก็ไปทำให้ แล้วอโหสิกรรมในเหตุการณ์ที่ผูกพันกันมา แล้วเรื่องก็จบลง
คำถาม แสงจากเจ้าของเคสที่ผู้หญิงที่ภาคเหนือเห็น เกิดจากอะไร ตอนที่มีร่างทรงในตัวเจ้าของเคส เพราะอะไรร่างทรงคนอื่น ๆ ถึงเข้ามาไหว้ มาขอพรจากเธอ เธอเป็นร่างทรงของใคร ระหว่างพระนางสุรัสวดี (พระมเหสีของพระพรหม) หรือเจ้าแม่กวนอิม เธอเกี่ยวข้องกับองค์เทพอย่างไร ภรรยาของเพื่อนมีวิญญาณมาเข้าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตอนนี้วิญญาณไปอยู่ที่ไหน ทำไมต้องให้ไปทำบุญที่วัดแขก ขณะนี้เจ้าของเคสยังมีองค์เทพอยู่หรือไม่ เทพเหล่านั้นเป็นใคร มีรูปร่างอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะตัดได้เด็ดขาด เธอเป็นคนจิตอ่อนใช่หรือไม่ ภพชาติต่อไปจะป้องกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นแบบนี้อีก เธอจะไปดุสิตบุรีได้หรือไม่ เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว เจ้าของเคสเคยนึกว่า พ่อไม่รับผิดชอบ คิดอยู่ในใจตลอดว่า ไม่ต้องมีพ่อก็ได้ ปรากฏว่า ท่านเลือกที่จะมาตายในบ้านของเธอ เป็นด้วยความคิดของเธอหรือไม่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่
คำตอบ วิทยาธรมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง อยู่ในภพภูมิที่ใกล้กับมนุษย์ วิทยาธรที่เป็นผู้หญิงได้ร่ายเวทย์มาที่เจ้าของเคสเพื่อบังคับให้เป็นร่างทรง เพราะเธอมีวิบากกรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยในอดีตชาติเคยนับถือทรงเจ้าเข้าผีเป็นสรณะ และเคยเป็นร่างทรงมาก่อน จึงถูกบังคับได้ง่าย
ที่ผู้หญิงทางเหนือได้เห็นแสงส่องมาที่เจ้าของเคสเป็นเรื่องจริงที่เกิดจากการร่ายเวทมนตร์ของวิทยาธรหญิง วิทยาธรหญิงเป็นอดีตมนุษย์ที่นับถือเจ้าทรงผีสิงเป็นสรณะและเคยเป็นร่างทรงด้วย และมีบุญที่เคยทำเอาไว้บ้างในเรื่องสาธารณะกุศล ช่วยคนยากจน เป็นหลัก
ที่ร่างทรงอื่นได้เข้ามาไหว้และขอพรจากเจ้าของเคส เพราะเขาเห็นวิทยาธรที่บังคับเธอมีอายุมากกว่า คือ เขาไม่ได้มองที่เจ้าของเคส แต่เขามองเลยไปเห็นวิทยาธรที่อยู่ข้าง ๆ ที่เป็นผู้หญิงซึ่งอยู่มานานกว่า มีอายุมากกว่า มีเวทมนตร์มากกว่า มีฤทธิ์มากกว่าภุมเทวาที่เข้าสิงบุคคลนั้น พวกที่เข้าสิงบุคคลพวกนั้นเป็นภุมเทวาชั้นล่างที่อยู่มาไม่นาน ยังมีความรู้เวทมนตร์ของวิทยาธรยังน้อย
เจ้าของเคสเป็นร่างทรงของผู้ที่แอบอ้างว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิม หรือ พระนางสุรัสวดี มเหสีของมหาพรหม เจ้าแม่กวนอิมเป็นสิ่งที่ตั้งสมมติฐานขึ้นมา แล้วมาปรุงแต่งเรื่องราวกันไป และนำไปแอบอ้างกันมากมายทั่วโลก ส่วนมหาพรหมนั้น ท่านเป็นพรหมจรรย์ อยู่ในภพของรูปพรหม ไม่มีมเหสี คือพ้นจากเรื่องกามไปแล้ว ผู้ที่มาแอบอ้างว่าเป็นคนนั้นคนนี้ แล้วเข้าทรงเธอ เป็นพวกภุมเทวาที่มีอายุมากเกินร้อยปีมนุษย์ขึ้นไป พวกนี้ไปได้มนต์มาจากวิทยาธรที่อยู่มานานกว่า จึงพอมีฤทธิ์บ้าง ช่วยสะกดหรือปัดเป่าสิ่งต่างๆ ที่ง่าย ๆ ได้บ้าง
ภรรยาของเพื่อนมีวิญญาณแขกมาเข้าทรงเป็นเรื่องจริง เรื่องมีอยู่ว่าคือ เจ้าของเคสได้เจอหมู่คณะแล้วพลัดพรากจากหมู่คณะมาเป็นเวลานานเป็นพุทธันดรเพราะเรื่องกระทบกระทั่งกัน จึงออกจากหมู่คณะไป ได้เวียนว่ายตายเกิดมากมายตามวิบากกรรม จนกระทั่งมาเกิดเป็นผู้หญิงแขกฮินดู ที่นับถือเทพแบบฮินดู แล้วได้เป็นร่างทรงของพระนางสุรัสวดีบ้าง เจ้าแม่อุมาเทวีบ้าง ตามที่ผู้แอบอ้างว่าเป็นอย่างนั้นมาเข้าสิงทรง จึงทำให้มีวิบากกรรมนี้ เมื่อตายจากชาตินั้นได้มาเกิดเป็นภุมเทวาแขกที่สิงทรงมนุษย์อยู่ระยะหนึ่ง โดยมีภุมเทวาทั้งแขกและจีนเป็นเพื่อน โดยปกติภุมเทวาทั้งแขกและจีนบางกลุ่ม คือจะมีเป็นกลุ่ม ๆ เหมือนวัฒนธรรมในเมืองมนุษย์ บางกลุ่มถูกกัน บางกลุ่มก็ไม่ถูกกัน ชอบประลองฤทธิ์กัน คือถ้ามาอยู่รวมกันจะแข่งกัน และแข่งกันหาสานุศิษย์ให้มานับถือ จะได้มีลูกศิษย์ที่เป็นมนุษย์จำนวนมากๆ เจ้าของเคสมีเพื่อนที่เป็นภุมเทวาฝ่ายจีนชวนไปร่วมเทศกาลกินเจที่ภาคใต้ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี และมักไปเป็นประจำตามคำเชิญของเพื่อนภุมเทวาจีนทุกปี เพราะถูกคอกัน เมื่อไปบ่อย ๆ เข้า ก็ไปเอง เพราะเริ่มคุ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไปเองตามลำพัง มีกลุ่มภุมเทวาจีนที่เป็นเจ้าถิ่นรุมกันประลองฤทธิ์ ตัวเองโกรธมากเพราะสู้เขาไม่ได้ เพราะเขามีพวกมากกว่า เลยต้องหนีเขามา เนื่องจากโกรธมากที่สู้เขาไม่ได้ ตัวเองจึงต้องจุติจากอัตภาพนั้นมาเข้าท้องของครอบครัวปัจจุบัน ทำให้ภพปัจจุบันนี้ถูกภุมเทวาทั้งจีนและแขกมาสิงทรงได้เพราะมีเชื้อทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฉะนั้นจึงมีทั้งที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิม และที่แอบอ้างว่าเป็นพระนางสุรัสวดีมาเข้าสิงทรง
วิญญาณอดีตสามีแขกนับถือฮินดู จึงให้ไปทำบุญที่วัดแขก คือบอกให้เจ้าของเคสไปทำให้ แล้ววิญญาณแขกอดีตสามีก็ตามไปด้วย การไปที่วัดแขกก็เพื่อได้เครดิตจากภุมเทวาแขกเท่านั้นเอง การไปทำบุญ ถือว่าเราเป็นเสี่ยว เป็นพวกกัน ภุมเทวาแขกจะได้มองว่าวิญญาณนี้ดี อัธยาศัยดี ได้นำมนุษย์คนนี้มาทำบุญที่วัดนี้ ก็จะจะกลายเป็นเครดิตของภุมเทวาของวัดแขก ขณะนี้อดีตสามียังเป็นภุมเทวาแขกที่ยังไม่ค่อยสุขสบาย ความเป็นอยู่ดีกว่าผีตีนโรงตีนศาลนิดหน่อย
ขณะนี้เจ้าของเคสยังมีกรรมเก่าเพราะยังติดใจในเรื่องนี้อยู่มาก มีเชื้อเก่าที่ยังไม่หมด และยังทำของใหม่เพิ่ม ทั้ง ๆ ที่ทำไปแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่ได้มีเทพจริงๆ มีแต่พวกที่แอบอ้างดังกล่าว ซึ่งความจริงเป็นเพียงภุมเทวาที่ดีกว่าผีตีนโรงตีนศาลนิดหน่อยเท่านั้นที่มาเข้าทรง
เทวดาจริง ๆ ที่อยู่ตามสวรรค์ชั้นต่าง ๆ เขารังเกียจกายมนุษย์ เพราะเหม็นเหมือนสุนัขเน่าผูกคอ จึงไม่มาสิงทรง มีแต่พวกแอบอ้างเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับเดียวกัน ชาวสวรรค์อยู่บนสวรรค์ เขาไม่ลงมา พรหมไม่ต้องไปพูดถึง เขาไม่ลงมาในกามภพ เพราะเขาอยู่ในรูปภพ จะตัดขาดได้ก็ต้องหักดิบเลิกเลย ถ้าไม่หักดิบก็จะพลัดพรากกันอีกจากหมู่คณะ แล้ววงจรชีวิตก็จะเหมือนเดิมคือ ไปเข้าสิง ๆ ทรง ๆ ต่อไป
ส่วนพ่อไปเป็นภุมเทวาอยู่ศาลเจ้าแถวภาคใต้ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องบุญ และไม่ค่อยมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้รับบุญที่อุทิศให้ ทำให้สภาพที่ดีขึ้น แต่ยังอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม
"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น" 
