ผมฟังคำสอนคำสอนคุณยายเล่ม1 จาก http://www.kalyanami...menu_yay_1.html
แล้ว สงสัยมาก ตรงข้อที่ 9 ครับ "มาเอาบุญ" แปลว่าอะไรครับ ลองฟังดูก็ไม่เข้าใจ
ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับ
มี 21 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#2
ฟ้ายังฟ้าอยู่
-
- Members
- 2511 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 03:26 PM
มาเอาบุญ
ตามความเห็นของดิฉัน:
จริงๆแล้วก็แปลว่า "มาทำบุญกันเถอะ" บอกให้คนที่อยู่ รุ่นแรกๆ หรือรุ่นพี่ ไปตามคนที่ยังไม่รู้ ไม่เห็น หรือตามความหมายของคุณยายก็คือ "น้องๆที่มาทีหลัง" ไปตามเค้าให้มาทำบุญมาสร้างบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะโดยเร็ว เพราะยิ่งช้าเท่าไร เวลาของทุกคนก็น้อยลงเท่านั้น คุณยายท่านสงสาร ถ้าหากว่าเค้ามาช้า กว่าจะเข้าใจกัน กว่าจะทุ่มสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ก็จะเหลือเวลาอยู่นิดเดียว เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร แล้วหมู่คณะก็เร่งสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่มัวรอใคร เพราะฉะนั้น เวลาเหลือน้อย บุญเค้าก็อาจจะได้น้อย แล้วถ้าบุญน้อย ก็มีสิทธิ์ที่วิบากกรรมจะส่งผลทัน ทำให้มีสิทธิ์พลัดหลงกับหมู่คณะไปอีกแสนยาวนาน
ตามความเห็นของดิฉัน:
จริงๆแล้วก็แปลว่า "มาทำบุญกันเถอะ" บอกให้คนที่อยู่ รุ่นแรกๆ หรือรุ่นพี่ ไปตามคนที่ยังไม่รู้ ไม่เห็น หรือตามความหมายของคุณยายก็คือ "น้องๆที่มาทีหลัง" ไปตามเค้าให้มาทำบุญมาสร้างบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะโดยเร็ว เพราะยิ่งช้าเท่าไร เวลาของทุกคนก็น้อยลงเท่านั้น คุณยายท่านสงสาร ถ้าหากว่าเค้ามาช้า กว่าจะเข้าใจกัน กว่าจะทุ่มสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ก็จะเหลือเวลาอยู่นิดเดียว เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร แล้วหมู่คณะก็เร่งสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่มัวรอใคร เพราะฉะนั้น เวลาเหลือน้อย บุญเค้าก็อาจจะได้น้อย แล้วถ้าบุญน้อย ก็มีสิทธิ์ที่วิบากกรรมจะส่งผลทัน ทำให้มีสิทธิ์พลัดหลงกับหมู่คณะไปอีกแสนยาวนาน
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
crystal.mind
-
- Members
- 280 โพสต์
- Gender:Female
- Location:BKK
- Interests:Book Music
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 03:44 PM
"มาเอาบุญ" แปลงไปเป็นคำว่า "มาทำบุญ" ก็น่าจะได้ความหมายที่ชัดเจนนะคะ
เพราะ "บุญ นั้นไม่มีขาย.... อยากจะได้... จะต้องทำเอง"
บุญของเรา ไม่มีใครมาปล้นไปได้
อยากมา"เอาบุญ" จะมาหยิบฉวย บุญได้ก็ต้อง นี่เลย..
1. ทำทาน 2.รักษาศีล 3.เจริญสมาธิภาวนา
แต่ถ้ามาวัดเรา ก็ได้ได้บุญมากกกกกกก เป็นพิเศษ
เพราะ หลวงพ่อ จะคิดแล้วคิดอีก เพื่อให้ "ทุกบุญ" ที่ลูกๆๆ ทำ ได้บุญมากเป็นพิเศษ
เช่น สร้างเสาแก้ว"พันปี" ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "อยู่ได้พันปี"
ดังนั้น คิดดูว่า "บุญมากกกกก ขนาดไหนนนนนนน.... ตั้ง พันนนนนน....ปี" นะจ๊ะ
แล้วเสาแก้วก็เป็นส่วนหนึงของวิหาร ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติธรรม ของผู้คนที่มาจากทั่งทุกทิศ
ซึ่งบุญนี้ มีอานอสงค์ ยิ่งกว่า สังฆทาน อีก ..นะจะบอกให้
เพราะ "บุญ นั้นไม่มีขาย.... อยากจะได้... จะต้องทำเอง"
บุญของเรา ไม่มีใครมาปล้นไปได้
อยากมา"เอาบุญ" จะมาหยิบฉวย บุญได้ก็ต้อง นี่เลย..
1. ทำทาน 2.รักษาศีล 3.เจริญสมาธิภาวนา
แต่ถ้ามาวัดเรา ก็ได้ได้บุญมากกกกกกก เป็นพิเศษ
เพราะ หลวงพ่อ จะคิดแล้วคิดอีก เพื่อให้ "ทุกบุญ" ที่ลูกๆๆ ทำ ได้บุญมากเป็นพิเศษ
เช่น สร้างเสาแก้ว"พันปี" ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "อยู่ได้พันปี"
ดังนั้น คิดดูว่า "บุญมากกกกก ขนาดไหนนนนนนน.... ตั้ง พันนนนนน....ปี" นะจ๊ะ
แล้วเสาแก้วก็เป็นส่วนหนึงของวิหาร ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติธรรม ของผู้คนที่มาจากทั่งทุกทิศ
ซึ่งบุญนี้ มีอานอสงค์ ยิ่งกว่า สังฆทาน อีก ..นะจะบอกให้
#4
xlmen
-
- Members
- 978 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 05:09 PM
มาเอาบุญ แปลว่า ทำใจให้เป็นบุญ ถ้าทำบุญเสียเงินเสียทองแล้วใจไม่เป็นบุญก็ไม่ได้บุญครับ
..............ถ้าทำบุญด้วยกิเลสคือความอยากแบบนี้ไม่เรียกว่า "มาเอาบุญ" แต่เรียก "มาเติมกิเลส"
เช่น อยากไปดุสิตบุรี อยากรวย อยากได้สมบัติจักรพรรดิ แบบนี้หมดสิทธิครับ
ถ้าพูดถึงบุญระดับต้นสุด คือ ทานบารมี ผู้ให้จะต้องให้เพื่อหวังที่จะให้ผู้ที่ได้รับได้รับประโยชน์คิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นเป็นหลัก
จึงจะจัดเป็นทานครับเหมือนอย่างคำสอนของหลวงพ่อสด ที่ท่านเทศน์เรื่องการให้ทานว่า
การให้ทานเหมือนกับการที่เราให้ข้าวสุนัข ถ้าผู้ให้คิดหวังจะได้ประโยชน์จากสุนัขเช่น ให้มันเฝ้าบ้าน แบบนี้ไม่จัดเป็นทาน
แต่ถ้าให้ด้วยจิตซื่อตรง ไม่ได้หวังสิ่งใดนอกจากหวังให้สุนัขมันพ้นจากความทุกข์คือความหิว เห็นประโยชน์คือถ้าเราไม่ให้มันก็จะพลอยอดข้าวซะเปล่า ๆ ถ้าเราไม่ให้มันมาก ๆ มันก็จะตายซะเปล่า ๆ แบบนี้ "จัดเป็นการให้ทานครับ"
ถ้าทำบุญโดยเลือกเฉพาะเจาะจงผู้ให้จะไม่สามารถทำลายกิเลสคือความตระหนี่ได้จริง เพราะยังหวงบุญ อยากดี อยากเด่น อยากได้ทิพย์สมบัติ เมื่ออยากมากกิเลสก็จูงจมูกลากไปเท่านั้น
ดูอย่างพระเวสสันดรเถิด ท่านให้ทานกับคนทุกระดับ ถ้าใครประสงค์สิ่งใดถ้าท่านให้ได้ท่านจะให้ แต่ถ้าทำบุญกับพระ แล้วไม่ทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์ทั้งหลาย ท่านก็จะได้บุญเหมือนกันแต่เป็นบุญหัวตอครับ
เพราะการไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ถ้าท่านผู้มีบุญทั้งหลายเมินคนจน คนทุกข์ยาก หรือสัตว์เดียรฉาน ไม่ให้ทานแก่สัพสัตว์เหล่านั้น ยังเลือกที่รัก ผลักที่ชังอยู่ ไม่สงเคราะห์โลก ปรารถนาแต่บุญส่วนตัวอยู่ในวัฏฎะก็กินบุญเสียข้าวสุขเปล่า ๆ ถ้าปรารถนาแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม
..............ถ้าทำบุญด้วยกิเลสคือความอยากแบบนี้ไม่เรียกว่า "มาเอาบุญ" แต่เรียก "มาเติมกิเลส"
เช่น อยากไปดุสิตบุรี อยากรวย อยากได้สมบัติจักรพรรดิ แบบนี้หมดสิทธิครับ
ถ้าพูดถึงบุญระดับต้นสุด คือ ทานบารมี ผู้ให้จะต้องให้เพื่อหวังที่จะให้ผู้ที่ได้รับได้รับประโยชน์คิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นเป็นหลัก
จึงจะจัดเป็นทานครับเหมือนอย่างคำสอนของหลวงพ่อสด ที่ท่านเทศน์เรื่องการให้ทานว่า
การให้ทานเหมือนกับการที่เราให้ข้าวสุนัข ถ้าผู้ให้คิดหวังจะได้ประโยชน์จากสุนัขเช่น ให้มันเฝ้าบ้าน แบบนี้ไม่จัดเป็นทาน
แต่ถ้าให้ด้วยจิตซื่อตรง ไม่ได้หวังสิ่งใดนอกจากหวังให้สุนัขมันพ้นจากความทุกข์คือความหิว เห็นประโยชน์คือถ้าเราไม่ให้มันก็จะพลอยอดข้าวซะเปล่า ๆ ถ้าเราไม่ให้มันมาก ๆ มันก็จะตายซะเปล่า ๆ แบบนี้ "จัดเป็นการให้ทานครับ"
ถ้าทำบุญโดยเลือกเฉพาะเจาะจงผู้ให้จะไม่สามารถทำลายกิเลสคือความตระหนี่ได้จริง เพราะยังหวงบุญ อยากดี อยากเด่น อยากได้ทิพย์สมบัติ เมื่ออยากมากกิเลสก็จูงจมูกลากไปเท่านั้น
ดูอย่างพระเวสสันดรเถิด ท่านให้ทานกับคนทุกระดับ ถ้าใครประสงค์สิ่งใดถ้าท่านให้ได้ท่านจะให้ แต่ถ้าทำบุญกับพระ แล้วไม่ทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์ทั้งหลาย ท่านก็จะได้บุญเหมือนกันแต่เป็นบุญหัวตอครับ
เพราะการไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ถ้าท่านผู้มีบุญทั้งหลายเมินคนจน คนทุกข์ยาก หรือสัตว์เดียรฉาน ไม่ให้ทานแก่สัพสัตว์เหล่านั้น ยังเลือกที่รัก ผลักที่ชังอยู่ ไม่สงเคราะห์โลก ปรารถนาแต่บุญส่วนตัวอยู่ในวัฏฎะก็กินบุญเสียข้าวสุขเปล่า ๆ ถ้าปรารถนาแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
หัดฝัน
-
- Members
- 4531 โพสต์
- Gender:Male
- Interests:ธรรมะ
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 05:29 PM
ตอบคุณ xlmen
เจตนาในการให้ทานของคนในโลก มีหลายแบบครับ สำหรับเจตนาที่ให้ทานแล้วหวังผลตอบแทนในทันที เช่น ทำดีเพราะหวังได้รางวัล อย่างนี้ไม่ได้บุญถูกต้องแล้วครับ
แต่เจตนาที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น คือ ผลหวังตอบแทนในภพเบื้องหน้า เช่น หวังรวย หวังไปสวรรค์ อย่างนี้ได้บุญครับ เช่น พระพุทธเจ้าสอนสะใภ้ท่านอนาถบิณทกะเศรษฐีว่า ภรรยามี 7 จำพวก ที่เลว และที่ดี ภรรยาที่เลวไปนรก ภรรยาที่ดีไปสวรรค์ ไม่ได้ทรงพูดต่อไปถึงนิพพาน หรือ แม้แต่ทรงพบสิงคาลกมาณพ ผู้ไหว้ทิศ 6 อยู่
พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนเรื่องทิศ 6 ที่ถูกต้อง คือ ครอบครัว การไหว้ทิศที่ดี คือ การปฏิบัติตัวดีๆ ต่อครอบครัว ทำเช่นนี้จะได้ไปสวรรค์
แสดงว่า สิงคาลกมาณพ ก็หวังไปแค่สวรรค์ แล้วทำตัวดี ก็จะเป็นบุญให้ได้ไปสวรรค์ (เพราะพระพุทธเจ้าสอนแค่นั้น)
แต่เจตนาที่สมบูรณ์กว่านั้น คือ การปรารถนาช่วยเพื่อนมนุษย์ มีพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก็จะได้บุญมากขึ้นไปอีก
และเจตนาที่สมบูรณ์ที่สุด คือ พัฒนาคุณภาพใจของตนเองไปสู่จุดที่สมบูรณ์ที่สุด นั่นหละจึงเป็นบุญมากที่สุด
แต่บุคคลมีหลายระดับ จู่ๆ จะให้สมบูรณ์พร้อมตั้งแต่แรกย่อมไม่ได้ เหมือนจะให้เด็กขยันเรียน จะมัวไปสอนว่า ขยันนะ แล้วจะดีกับตัว อย่างเดียวย่อมไม่ได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการให้รางวัลเด็กก่อนว่า ขยันเรียนนะ สอบได้จะให้รางวัล เมื่อเด็กขยันจนเป็นนิสัย พอโตขึ้น เขาก็จะรู้เองว่า ขยันแล้วดีอย่างไร นี่เป็นเทคนิคการสอนคนของพระพุทธเจ้าครับ
การไปสู่ที่สุดแห่งธรรมต้องไม่เมินคนจนถูกต้องแล้วครับ แต่การช่วยคนจนที่แท้จริง ไม่ใช่การให้ทานกับคนจนไปตลอดครับ ที่ถูกต้องคือ ให้ทานกับเขาแค่ช่วงหนึ่ง จนเขามีแรงแล้ว ก็ต้องให้ความรู้กับเขา เหมือน ปรัชญาจีนว่า จงอย่ายื่นแต่ข้าวสารให้เขา แต่จงยื่นเมล็ดข้าว แล้วสอนให้เขาปลูก(เอง)
และสุดยอดความรู้ที่ต้องให้แก่เขา คือ สาเหตุของความจน คือ ความตระหนี่ ต้องสอนในคนจน ให้ทานออกมา นั่นแหละครับ ช่วยคนจนอย่างแท้จริง
เจตนาในการให้ทานของคนในโลก มีหลายแบบครับ สำหรับเจตนาที่ให้ทานแล้วหวังผลตอบแทนในทันที เช่น ทำดีเพราะหวังได้รางวัล อย่างนี้ไม่ได้บุญถูกต้องแล้วครับ
แต่เจตนาที่สูงยิ่งขึ้นไปกว่านั้น คือ ผลหวังตอบแทนในภพเบื้องหน้า เช่น หวังรวย หวังไปสวรรค์ อย่างนี้ได้บุญครับ เช่น พระพุทธเจ้าสอนสะใภ้ท่านอนาถบิณทกะเศรษฐีว่า ภรรยามี 7 จำพวก ที่เลว และที่ดี ภรรยาที่เลวไปนรก ภรรยาที่ดีไปสวรรค์ ไม่ได้ทรงพูดต่อไปถึงนิพพาน หรือ แม้แต่ทรงพบสิงคาลกมาณพ ผู้ไหว้ทิศ 6 อยู่
พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนเรื่องทิศ 6 ที่ถูกต้อง คือ ครอบครัว การไหว้ทิศที่ดี คือ การปฏิบัติตัวดีๆ ต่อครอบครัว ทำเช่นนี้จะได้ไปสวรรค์
แสดงว่า สิงคาลกมาณพ ก็หวังไปแค่สวรรค์ แล้วทำตัวดี ก็จะเป็นบุญให้ได้ไปสวรรค์ (เพราะพระพุทธเจ้าสอนแค่นั้น)
แต่เจตนาที่สมบูรณ์กว่านั้น คือ การปรารถนาช่วยเพื่อนมนุษย์ มีพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก็จะได้บุญมากขึ้นไปอีก
และเจตนาที่สมบูรณ์ที่สุด คือ พัฒนาคุณภาพใจของตนเองไปสู่จุดที่สมบูรณ์ที่สุด นั่นหละจึงเป็นบุญมากที่สุด
แต่บุคคลมีหลายระดับ จู่ๆ จะให้สมบูรณ์พร้อมตั้งแต่แรกย่อมไม่ได้ เหมือนจะให้เด็กขยันเรียน จะมัวไปสอนว่า ขยันนะ แล้วจะดีกับตัว อย่างเดียวย่อมไม่ได้ ต้องเริ่มต้นด้วยการให้รางวัลเด็กก่อนว่า ขยันเรียนนะ สอบได้จะให้รางวัล เมื่อเด็กขยันจนเป็นนิสัย พอโตขึ้น เขาก็จะรู้เองว่า ขยันแล้วดีอย่างไร นี่เป็นเทคนิคการสอนคนของพระพุทธเจ้าครับ
การไปสู่ที่สุดแห่งธรรมต้องไม่เมินคนจนถูกต้องแล้วครับ แต่การช่วยคนจนที่แท้จริง ไม่ใช่การให้ทานกับคนจนไปตลอดครับ ที่ถูกต้องคือ ให้ทานกับเขาแค่ช่วงหนึ่ง จนเขามีแรงแล้ว ก็ต้องให้ความรู้กับเขา เหมือน ปรัชญาจีนว่า จงอย่ายื่นแต่ข้าวสารให้เขา แต่จงยื่นเมล็ดข้าว แล้วสอนให้เขาปลูก(เอง)
และสุดยอดความรู้ที่ต้องให้แก่เขา คือ สาเหตุของความจน คือ ความตระหนี่ ต้องสอนในคนจน ให้ทานออกมา นั่นแหละครับ ช่วยคนจนอย่างแท้จริง
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#6
ฟ้ายังฟ้าอยู่
-
- Members
- 2511 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 05:47 PM
คุณหัดฝันตอบได้กระจ่างแจ้งมากค่ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#7
xlmen
-
- Members
- 978 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 08:20 PM
ขอบคุณ คุณหัดฝันที่ช่วยอธิบาย
ถ้าโครงการของทางวัดต้องการช่วยเหลือคนยากจนจริง ดังคำที่คุณหัดฝันว่า "จงอย่ายื่นแต่ข้าวสารให้เขา แต่จงยื่นเมล็ดข้าว แล้วสอนให้เขาปลูก(เอง)" ผมก็อยากจะเห็นโครงการ โรงเรียนธรรมกาย โรงพยาบาลธรรมกาย ศูนย์ส่งเสริมอาชีพธรรมกาย เช่นกันครับ มหาชนคือคนกลุ่มใหญ่ คนจนมีมากกว่าคนรวย ถ้าคิดจะชนะใจมหาชนก็ไม่ควรมองข้ามกระแสความคิดของมหาชนด้วยครับ
วัดปากน้ำหลวงพ่อสดสร้าง โรงเรียน ไม่มีคนว่า เพราะทำเพื่อสังคม หลวงพ่อคูณ สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ไม่มีคนว่าเพราะทำเพื่อมหาชน พระพยอม ทำโครงการช่วยเหลือคนยากจนไร้อาชีพ ไม่มีคนว่าเพราะทำเพื่อมหาชน
ถ้าวัดพระธรรมกายหัดทำโครงการแบบนี้ตั้งแต่ 4 ปี ที่แล้ว จะดียิ่งกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้มากครับเพราะกำลังของทางวัดมีมากอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย ทุกวันนี้ที่ผมกลับมาเข้าวัดใหม่เพราะโครงการของหลวงพ่อที่เริ่มช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อมาเพิ่มเป็น 4 จังหวัด การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกมากที่คิดแบบผม
ถ้าโครงการของทางวัดต้องการช่วยเหลือคนยากจนจริง ดังคำที่คุณหัดฝันว่า "จงอย่ายื่นแต่ข้าวสารให้เขา แต่จงยื่นเมล็ดข้าว แล้วสอนให้เขาปลูก(เอง)" ผมก็อยากจะเห็นโครงการ โรงเรียนธรรมกาย โรงพยาบาลธรรมกาย ศูนย์ส่งเสริมอาชีพธรรมกาย เช่นกันครับ มหาชนคือคนกลุ่มใหญ่ คนจนมีมากกว่าคนรวย ถ้าคิดจะชนะใจมหาชนก็ไม่ควรมองข้ามกระแสความคิดของมหาชนด้วยครับ
วัดปากน้ำหลวงพ่อสดสร้าง โรงเรียน ไม่มีคนว่า เพราะทำเพื่อสังคม หลวงพ่อคูณ สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ไม่มีคนว่าเพราะทำเพื่อมหาชน พระพยอม ทำโครงการช่วยเหลือคนยากจนไร้อาชีพ ไม่มีคนว่าเพราะทำเพื่อมหาชน
ถ้าวัดพระธรรมกายหัดทำโครงการแบบนี้ตั้งแต่ 4 ปี ที่แล้ว จะดียิ่งกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้มากครับเพราะกำลังของทางวัดมีมากอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย ทุกวันนี้ที่ผมกลับมาเข้าวัดใหม่เพราะโครงการของหลวงพ่อที่เริ่มช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อมาเพิ่มเป็น 4 จังหวัด การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกมากที่คิดแบบผม
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#8
*ผู้มาเยือน*
*ผู้มาเยือน*
-
- Guests
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 08:43 PM
ตอบคุณ xlmen เพิ่มเติมจากคุณหัดฝันครับ
ขึ้นชื่อว่า การทำบุญ ไม่ว่าจะปรารถนาสิ่งตอบแทนหรือไม่ ทำบุญย่อมได้บุญครับ เหมือนการทำบาป ถ้าเราไม่เจตนาทำบาป แต่พลั้งไปทำโดยบังเอิญเช่น มือไปปัดโดนมดตาย อันนี้ก็บาปเช่นกัน เพียงแต่เป็นบาปที่ให้ผลหลังจากที่ไม่มีบาปอื่นส่งผลแล้ว
การทำบุญนั้น แล้วปรารถนาสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การบรรลุพระนิพพาน การถึงที่สุดแห่งธรรม การหวังไปสวรรค์ หรือแม้แต่การขอให้ถูกหวย ถ้าจะใช้ศัพท์ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า เป็น การอธิษฐาน ครับ ซึ่งเป็น 1 ในบารมี 10 ทัศ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ต้องบำเพ็ญให้เต็มเปี่ยม จะเปรียบเทียบไปการอธิษฐานก็เหมือนการตั้งเข็มทิศให้บุญที่เราทำลงไปส่งผลในทิศทางใด แต่ถ้าทำบุญแล้วไม่อธิษฐาน แน่นอนครับบุญก็ย่อมส่งผลให้แต่ไม่มีทิศทาง
ตัวอย่างเช่น ถ้าทำบุญแล้วอธิษฐาน ขอให้รวยโดยสัมมาอาชีพ บุญก็จะบันดาลให้เรามีช่องทางทำชีพสุจริตแล้วรวยได้ในที่สุด แต่ในทางกลับกัน ถ้าทำบุญแล้วไม่อธิษฐาน เมื่อบุญส่งผลก็จะทำให้เรารวยได้เช่นกัน เพียงแต่ว่า จะรวยด้วยการทำงานอะไรล่ะ ถ้าช่วงนั้นบาปแทรกมาส่งผลด้วย เราก็จะรวยด้วยมิจฉาอาชีวะได้ครับ เช่น มีไอเดียค้าขายเหล้า แล้วก็ทำขึ้นเสียด้วย ซึ่งบุญและบาปมาส่งผลรวมกัน บุญทำให้ค้าขายขึ้น แต่บาปแทรกให้พลาดไปค้าเหล้าครับ เรียกว่าทำบุญแล้วไม่ล้อมกรอบตั้งเข็มชีวิตให้ดี
แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ เราทำบุญแล้ว เราปรารถนาในสิ่งใด สิ่งที่เราปรารถนาประกอบไปด้วยปัญญาหรือไม่ ถ้าทำบุญแล้วอธิษฐานให้รวยเพื่อเอาสมบัติมาสร้างบารมีต่อ อันนี้เป็นการอธิษฐานที่ประกอบไปด้วยปัญญา พอรวยแล้วก็ตั้งเข็มทิศชีวิตว่าจะสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เรียกว่า เอาบุญมาต่อบุญ สมบัติมาต่อสมบัติ
แต่ถ้าอธิษฐานให้รวยอย่างเดียว เมื่อบุญส่งผลแล้วก็รวยสมปรารถนา แต่รวยแล้วอาจจะเอาความรวยไปทำในสิ่งที่ผิด เรียกว่า เอาบุญมาต่อบาป เอาสมบัติมาต่อวิบัติ ชีวิตก็จะตกต่ำลงครับ
ขึ้นชื่อว่า การทำบุญ ไม่ว่าจะปรารถนาสิ่งตอบแทนหรือไม่ ทำบุญย่อมได้บุญครับ เหมือนการทำบาป ถ้าเราไม่เจตนาทำบาป แต่พลั้งไปทำโดยบังเอิญเช่น มือไปปัดโดนมดตาย อันนี้ก็บาปเช่นกัน เพียงแต่เป็นบาปที่ให้ผลหลังจากที่ไม่มีบาปอื่นส่งผลแล้ว
การทำบุญนั้น แล้วปรารถนาสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การบรรลุพระนิพพาน การถึงที่สุดแห่งธรรม การหวังไปสวรรค์ หรือแม้แต่การขอให้ถูกหวย ถ้าจะใช้ศัพท์ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า เป็น การอธิษฐาน ครับ ซึ่งเป็น 1 ในบารมี 10 ทัศ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ต้องบำเพ็ญให้เต็มเปี่ยม จะเปรียบเทียบไปการอธิษฐานก็เหมือนการตั้งเข็มทิศให้บุญที่เราทำลงไปส่งผลในทิศทางใด แต่ถ้าทำบุญแล้วไม่อธิษฐาน แน่นอนครับบุญก็ย่อมส่งผลให้แต่ไม่มีทิศทาง
ตัวอย่างเช่น ถ้าทำบุญแล้วอธิษฐาน ขอให้รวยโดยสัมมาอาชีพ บุญก็จะบันดาลให้เรามีช่องทางทำชีพสุจริตแล้วรวยได้ในที่สุด แต่ในทางกลับกัน ถ้าทำบุญแล้วไม่อธิษฐาน เมื่อบุญส่งผลก็จะทำให้เรารวยได้เช่นกัน เพียงแต่ว่า จะรวยด้วยการทำงานอะไรล่ะ ถ้าช่วงนั้นบาปแทรกมาส่งผลด้วย เราก็จะรวยด้วยมิจฉาอาชีวะได้ครับ เช่น มีไอเดียค้าขายเหล้า แล้วก็ทำขึ้นเสียด้วย ซึ่งบุญและบาปมาส่งผลรวมกัน บุญทำให้ค้าขายขึ้น แต่บาปแทรกให้พลาดไปค้าเหล้าครับ เรียกว่าทำบุญแล้วไม่ล้อมกรอบตั้งเข็มชีวิตให้ดี
แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ เราทำบุญแล้ว เราปรารถนาในสิ่งใด สิ่งที่เราปรารถนาประกอบไปด้วยปัญญาหรือไม่ ถ้าทำบุญแล้วอธิษฐานให้รวยเพื่อเอาสมบัติมาสร้างบารมีต่อ อันนี้เป็นการอธิษฐานที่ประกอบไปด้วยปัญญา พอรวยแล้วก็ตั้งเข็มทิศชีวิตว่าจะสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เรียกว่า เอาบุญมาต่อบุญ สมบัติมาต่อสมบัติ
แต่ถ้าอธิษฐานให้รวยอย่างเดียว เมื่อบุญส่งผลแล้วก็รวยสมปรารถนา แต่รวยแล้วอาจจะเอาความรวยไปทำในสิ่งที่ผิด เรียกว่า เอาบุญมาต่อบาป เอาสมบัติมาต่อวิบัติ ชีวิตก็จะตกต่ำลงครับ
#9
*ผู้มาเยือน*
*ผู้มาเยือน*
-
- Guests
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 09:03 PM
ตอบคุณ xlmen
ผมเห็นด้วยนะครับ สำหรับโครงการที่คุณว่า แต่ผมอยากจะให้ข้อคิดตามแนวหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานิดนึงครับ
จริงๆ แล้ว พระไม่ได้มีหน้าที่มาสอนอาชีพให้ชาวโลกนะครับ แต่ถ้าจะมีพระรูปไหนอยากจะทำหน้าที่สอนอาชีพ เราก็ไม่ว่ากัน แต่อย่างไรก็ดี ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า จริงแล้วแล้วพระมีหน้าหลักคือ
1) บำเพ็ญสมณธรรมเพื่อขจัดกิเลสให้หมดไปจากใจ บรรลุเป็นพระอรหันต์
2) เมื่อบำเพ็ญสมณธรรมแล้วจะทำกิเลสลดลงไป ใจก็จะบริสุทธิ์ขึ้นแล้วทำหน้าที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก แก่ฆราวาสผู้แสวงบุญ
3) เมื่อบำเพ็ญสมณธรรม ร่ำเรียนธรรมะแล้ว ก็จะเอาความรู้เหนือโลก ที่เป็นความรู้เพื่อเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ไ ม่ใช่ความรู้ในการทำมาหากิน มาสั่งสอนชาวโลกให้รู้จักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องในสังสารวัฏ
ทั้งนี้เพราะมนุษย์เกิดมา ไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำมาหากิน ดำรงวงศ์สกุลเท่านั้น แต่มีหน้าที่หลักคือ การหาทางเลิกเกิดครับ เพียงแต่ว่า สังขารยังต้องการปัจจัย 4 จึงต้องมีการทำมาหากิน แล้วดำรงวงศ์สกุลเพื่อให้มนุษย์ได้มีช่องทางแห่งการเกิด เพราะ มนุษย์จะเกิดได้ต้องมีพ่อ มีแม่ ดังนั้นหลวงพ่อจำย้ำว่า การมีความสัมพันธ์กันของสามี ภรรยา เป็นของสูงส่ง เป็นช่องทางให้มนุษย์มาเกิดเพื่อสร้างความดี ไม่ใช่เป็นของสำส่อน เพื่อบำบัดความใคร่
จริงอยู่ครับ การจัดให้มีโครงการ โรงเรียนธรรมกาย โรงพยาบาลธรรมกาย ศูนย์ส่งเสริมอาชีพธรรมกาย อาจจะเป็นการประชาสัมพันธ์ ดึงดูดมวลชนมาได้มาก แต่จริงๆ แล้วสิ่งดังกล่าว ไม่ใช่หน้าที่ของพระสงฆ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติไว้เลยนะครับ ผมไม่อยากให้เอาโครงการดังกล่าวมาเป็นเรื่องหลัก แต่ถ้าทางวัดจะจัดให้มีบ้างก็ดีครับ ถือว่าเป็นเรื่องรอง เป็นการสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวโลก อย่างน้อยก็อาจจะเป็นช่องทางให้คนมีเข้าใจวัดมากขึ้น พอคนเหล่านี้มาวัดแล้วก็ให้ความรู้เรื่องความเป็นจริงของชีวิตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระสงฆ์สั่งสอน อนุเคราะห์แก่ชาวโลกครับ
ผมเห็นด้วยนะครับ สำหรับโครงการที่คุณว่า แต่ผมอยากจะให้ข้อคิดตามแนวหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานิดนึงครับ
จริงๆ แล้ว พระไม่ได้มีหน้าที่มาสอนอาชีพให้ชาวโลกนะครับ แต่ถ้าจะมีพระรูปไหนอยากจะทำหน้าที่สอนอาชีพ เราก็ไม่ว่ากัน แต่อย่างไรก็ดี ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า จริงแล้วแล้วพระมีหน้าหลักคือ
1) บำเพ็ญสมณธรรมเพื่อขจัดกิเลสให้หมดไปจากใจ บรรลุเป็นพระอรหันต์
2) เมื่อบำเพ็ญสมณธรรมแล้วจะทำกิเลสลดลงไป ใจก็จะบริสุทธิ์ขึ้นแล้วทำหน้าที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก แก่ฆราวาสผู้แสวงบุญ
3) เมื่อบำเพ็ญสมณธรรม ร่ำเรียนธรรมะแล้ว ก็จะเอาความรู้เหนือโลก ที่เป็นความรู้เพื่อเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ไ ม่ใช่ความรู้ในการทำมาหากิน มาสั่งสอนชาวโลกให้รู้จักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องในสังสารวัฏ
ทั้งนี้เพราะมนุษย์เกิดมา ไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำมาหากิน ดำรงวงศ์สกุลเท่านั้น แต่มีหน้าที่หลักคือ การหาทางเลิกเกิดครับ เพียงแต่ว่า สังขารยังต้องการปัจจัย 4 จึงต้องมีการทำมาหากิน แล้วดำรงวงศ์สกุลเพื่อให้มนุษย์ได้มีช่องทางแห่งการเกิด เพราะ มนุษย์จะเกิดได้ต้องมีพ่อ มีแม่ ดังนั้นหลวงพ่อจำย้ำว่า การมีความสัมพันธ์กันของสามี ภรรยา เป็นของสูงส่ง เป็นช่องทางให้มนุษย์มาเกิดเพื่อสร้างความดี ไม่ใช่เป็นของสำส่อน เพื่อบำบัดความใคร่
จริงอยู่ครับ การจัดให้มีโครงการ โรงเรียนธรรมกาย โรงพยาบาลธรรมกาย ศูนย์ส่งเสริมอาชีพธรรมกาย อาจจะเป็นการประชาสัมพันธ์ ดึงดูดมวลชนมาได้มาก แต่จริงๆ แล้วสิ่งดังกล่าว ไม่ใช่หน้าที่ของพระสงฆ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติไว้เลยนะครับ ผมไม่อยากให้เอาโครงการดังกล่าวมาเป็นเรื่องหลัก แต่ถ้าทางวัดจะจัดให้มีบ้างก็ดีครับ ถือว่าเป็นเรื่องรอง เป็นการสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือชาวโลก อย่างน้อยก็อาจจะเป็นช่องทางให้คนมีเข้าใจวัดมากขึ้น พอคนเหล่านี้มาวัดแล้วก็ให้ความรู้เรื่องความเป็นจริงของชีวิตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระสงฆ์สั่งสอน อนุเคราะห์แก่ชาวโลกครับ
#10
xlmen
-
- Members
- 978 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 09:27 PM
สาธุ....ขอบคุณ คุณผู้มาเยือน มากครับ
คุณให้คำตอบได้กระจ่างดีมากครับ....ถ้าเลือกได้ผมอยากให้ทุกคนที่คิดจะให้ทานเขาทำกระแสจิตปรารถนาดีกับผู้อื่นก่อน หากความจริงใจที่จะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีความสุข ยังไม่เกิดก็ยังไม่ควรอธิฐานจิตใด ๆ จนกว่ากระแสจิตจะจริงใจช่วยเหลือสัตว์โลกนั่นแหละครับ จึงค่อยอธิฐานตั้งเป้าหมายชีวิต เพราะการอธิฐาน ก็คือการตั้งเป้าหมายที่แน่ชัดและแน่วแน่ ถ้าเป้าหมายเป็นบุญต้องไม่เปิดช่องให้ความอยากเพื่อสนองกิเลสครอบงำได้ครับ
สำหรับเรื่องโครงการต่าง ๆ ผมเห็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับวัดเท่านั้นเอง และไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็ถูกต้องส่วนหนึ่งครับ แต่พุทธศาสนาไม่ใช่ของพระเพียงอย่างเดียวครับ แต่หมายถึงพุทธบริษัท 4 ถ้ามีคนทำบุญกับพระมากและพระเสนอโครงการช่วยเพื่อนมนุษย์ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานวัดพระธรรมกายจะเข้าไปอยู่ในใจมนุษย์ทั้งโลกได้จริงครับ ขอเพียงท่านดำริโครงการเหล่านี้ เหล่าอุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลายก็พร้อมใจที่จะทำอยู่แล้วไม่เสียกิจสงฆ์แน่นอนครับ
คนป่วยมาโรงพยาบาลธรรมกาย คนตกงาน เด็ก นักเรียน ได้ดู DMC ได้ฟังเทศน์ บุญที่เกิดจากการทำลายความแตกแยกทางความคิดให้เกิดความสามัคคีจะสูงมากทีเดียวครับ (บาปใดไม่ร้ายเท่าการทำสงฆ์แตกแยก และบาปใดไม่ร้ายเท่าการทำพุทธบริษัท 4 ให้แตกแยกครับ) ผมปรารถนาให้วัดอยู่ในใจทุกคนแม้ผู้ที่ไม่ชอบหน้าวัด และผู้ที่ไม่ชอบธรรมกายเจดีย์ด้วยครับ เพราะถ้าวัดทำเพื่อมหาชนดังว่าแล้ว วัดจะเป็นที่รักของคนนอกต่อให้สร้างเจดีย์ 2 ชั้นไม่ต้องบอกบุญคนทั้งหลายก็จะมาเองครับ
คุณให้คำตอบได้กระจ่างดีมากครับ....ถ้าเลือกได้ผมอยากให้ทุกคนที่คิดจะให้ทานเขาทำกระแสจิตปรารถนาดีกับผู้อื่นก่อน หากความจริงใจที่จะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีความสุข ยังไม่เกิดก็ยังไม่ควรอธิฐานจิตใด ๆ จนกว่ากระแสจิตจะจริงใจช่วยเหลือสัตว์โลกนั่นแหละครับ จึงค่อยอธิฐานตั้งเป้าหมายชีวิต เพราะการอธิฐาน ก็คือการตั้งเป้าหมายที่แน่ชัดและแน่วแน่ ถ้าเป้าหมายเป็นบุญต้องไม่เปิดช่องให้ความอยากเพื่อสนองกิเลสครอบงำได้ครับ
สำหรับเรื่องโครงการต่าง ๆ ผมเห็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับวัดเท่านั้นเอง และไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็ถูกต้องส่วนหนึ่งครับ แต่พุทธศาสนาไม่ใช่ของพระเพียงอย่างเดียวครับ แต่หมายถึงพุทธบริษัท 4 ถ้ามีคนทำบุญกับพระมากและพระเสนอโครงการช่วยเพื่อนมนุษย์ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานวัดพระธรรมกายจะเข้าไปอยู่ในใจมนุษย์ทั้งโลกได้จริงครับ ขอเพียงท่านดำริโครงการเหล่านี้ เหล่าอุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลายก็พร้อมใจที่จะทำอยู่แล้วไม่เสียกิจสงฆ์แน่นอนครับ
คนป่วยมาโรงพยาบาลธรรมกาย คนตกงาน เด็ก นักเรียน ได้ดู DMC ได้ฟังเทศน์ บุญที่เกิดจากการทำลายความแตกแยกทางความคิดให้เกิดความสามัคคีจะสูงมากทีเดียวครับ (บาปใดไม่ร้ายเท่าการทำสงฆ์แตกแยก และบาปใดไม่ร้ายเท่าการทำพุทธบริษัท 4 ให้แตกแยกครับ) ผมปรารถนาให้วัดอยู่ในใจทุกคนแม้ผู้ที่ไม่ชอบหน้าวัด และผู้ที่ไม่ชอบธรรมกายเจดีย์ด้วยครับ เพราะถ้าวัดทำเพื่อมหาชนดังว่าแล้ว วัดจะเป็นที่รักของคนนอกต่อให้สร้างเจดีย์ 2 ชั้นไม่ต้องบอกบุญคนทั้งหลายก็จะมาเองครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#11
*ผู้มาเยือน*
*ผู้มาเยือน*
-
- Guests
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 10:49 PM
ส่วนหนึ่งที่คุณ xlmen ให้ความเห็นมา ทางวัดได้เตรียมการอยู่ครับ ในอนาคต ไม่ใช่มีแค่โรงเรียน แต่จะมีมหาวิทยาลัยธรรมกาย ตอนนี้เป็นหลักสูตร DOU ไปก่อน
#12
danaiporn
-
- Members
- 73 โพสต์
โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 11:22 PM
ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นส่วนตัว
ยายบอกว่าไปตามมาเอาบุญกัน คือให้ไปตามคนมาทำบุญ สร้างบุญกัน ซึ่งก็มีทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
ถ้าคนเราไม่ไปทำบุญเพิ่ม ก็ต้องใช้บุญเก่า ซึ่งก็มีวันหมด หรือวิบากกรรมอื่น ที่เคยทำมาได้ช่อง ก็จะได้รับวิบากกรรมที่เคยทำมา
ไม่อย่างงั้น ก็จะเหมือนที่ยายพูด ว่า กลัวว่าเขาจะตกนรกกัน เพราะว่า กุศลกรรมที่ทำไว้มันหมด และบาปอกุศลมาส่งผล มันจะทำให้เราลำบากและใจเศร้าหมองได้
ยายบอกว่าไปตามมาเอาบุญกัน คือให้ไปตามคนมาทำบุญ สร้างบุญกัน ซึ่งก็มีทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
ถ้าคนเราไม่ไปทำบุญเพิ่ม ก็ต้องใช้บุญเก่า ซึ่งก็มีวันหมด หรือวิบากกรรมอื่น ที่เคยทำมาได้ช่อง ก็จะได้รับวิบากกรรมที่เคยทำมา
ไม่อย่างงั้น ก็จะเหมือนที่ยายพูด ว่า กลัวว่าเขาจะตกนรกกัน เพราะว่า กุศลกรรมที่ทำไว้มันหมด และบาปอกุศลมาส่งผล มันจะทำให้เราลำบากและใจเศร้าหมองได้
#13
crystal.mind
-
- Members
- 280 โพสต์
- Gender:Female
- Location:BKK
- Interests:Book Music
โพสต์เมื่อ 23 December 2005 - 01:08 AM
ตัวเอง เห็นว่า ความอยากทำความดี ถ้าถือเป็นกิเลส
กิเลส ตัวนี้ น่าจะมีมากๆ อย่าเพิ่งให้มันหลุดร่อนไปจนหมด :-)
ตราบใด ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ก็อย่าเพิ่ง รังเกียจกิเลส(บางอย่าง) เช่น
รัก ความดี
เกลียด ความชั่ว
อยาก มีบุญมากๆ / อยากให้โลกสงบสุข / อยากให้มีคนดียั๊วเยี้ยเลย...
อืมม... เรื่อง "ชวนคนมาเอาบุญ" นี่ก็สำคัญนะคะ
เพราะ ถ้า เราไม่ชวน เขาก็ไม่รู้ ใช่ไหมล่ะ
เหมือนเราไปกินก๋วยเตี๋ยว ร้าน"สุดยอดอร่อย" .... ถ้าเราไม่ชวนเพื่อนไปกิน เพื่อนก็อด นะสิ น่าสงสารนะ ... อร่อยคนเดียว เรียก "ใจร้ายยยย"
พอคนไปกินเยอะๆ เพราะร้านนี้อร่อย + สุดสะอาด
ร่านอื่นๆ ก็ต้องพัฒนา ร้านตัวเองขึ้น ปรับปรุงร้านให้สะอาด ปรับรสชาติให้ถูกลิ้น(จริต) คนกิน
สรุป แล้ว ดีด้วยกันทุกฝ่าย เลยเชียว (เห็นด้วยบ่ ?)
กิเลส ตัวนี้ น่าจะมีมากๆ อย่าเพิ่งให้มันหลุดร่อนไปจนหมด :-)
ตราบใด ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ก็อย่าเพิ่ง รังเกียจกิเลส(บางอย่าง) เช่น
รัก ความดี
เกลียด ความชั่ว
อยาก มีบุญมากๆ / อยากให้โลกสงบสุข / อยากให้มีคนดียั๊วเยี้ยเลย...
อืมม... เรื่อง "ชวนคนมาเอาบุญ" นี่ก็สำคัญนะคะ
เพราะ ถ้า เราไม่ชวน เขาก็ไม่รู้ ใช่ไหมล่ะ
เหมือนเราไปกินก๋วยเตี๋ยว ร้าน"สุดยอดอร่อย" .... ถ้าเราไม่ชวนเพื่อนไปกิน เพื่อนก็อด นะสิ น่าสงสารนะ ... อร่อยคนเดียว เรียก "ใจร้ายยยย"
พอคนไปกินเยอะๆ เพราะร้านนี้อร่อย + สุดสะอาด
ร่านอื่นๆ ก็ต้องพัฒนา ร้านตัวเองขึ้น ปรับปรุงร้านให้สะอาด ปรับรสชาติให้ถูกลิ้น(จริต) คนกิน
สรุป แล้ว ดีด้วยกันทุกฝ่าย เลยเชียว (เห็นด้วยบ่ ?)
#14
*ผู้มาเยือน*
*ผู้มาเยือน*
-
- Guests
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 08:19 PM
การสร้างโรงเรียนธรรมกาย โรงพยาบาลธรรมกายหรืออะไร อะไรทีเป็นการสงเคราะห์สังคมก็ดีนะครับ ขอชื่นชมว่าเป็นแนวความคิดที่ดี เพราะว่าสังคมก็จะยอมรับวัดเราได้มากขึ้น แต่ผมว่าวัดคงคิดจะทำอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ซึ่งตอนนี้เองวัดจะเน้นเป็นต้นแบบและให้แนวทางไปก่อน คือเน้นปลูกฝังธรรมะเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ก็ปรากฏว่ามีโรงพยาบาลที่ใช้ธรรมะไปบริหาร เสมือนเป็นโรงพยาบาลธรรมกายไปแล้วหลายโรงพยาบาล หรือแม้แต่โรงเรียนก็มีจำนวนมากที่ใช้แนวทางต้นแบบแห่งธรรมของวัด จนมีชี่อเสียงและได้รับการยอมรับมากมายจากภาครัฐ ก็อาจถือได้ว่าเป็นโรงเรียนธรรมกายได้
เพราะเป้าหมายหลักของวัด คือ สร้างศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก ซึ่งเป็นงานที่หนักมากเลยทีเดียว เพราะเป้าหมายคือจะรวมทุกนิกายให้เป็นหนึ่งเดียวกันซึ่งพระพุทธศาสนาจะเข้มแข็งมาก สันติสุขก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตว่าวัดจะทำทุกอย่างให้เป็นสากลนะครับ นั่นหมายความว่า แม้แต่สิ่งก่อสร้าง พิธีกรรม ทุกอย่างเป็นสากลหมด ซึ่งจะเป็นการทำให้ชาวต่างประเทศต่างศาสนาต่างชาติเข้าถึงและเข้าใจได้เร็ว ในที่สุด ถ้าพุทธศาสนาเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกแล้ว ผมว่าวัดคงจะเริ่มทำโครงการนี้ เนื่องจากการทำโครงการสังคมสงเคราะห์ ก็มีปัญหามีข้อจำกัดตามมาหลายประการซึ่งจะทำให้เป้าหมายหลักเบี่ยงเบนไปและไม่สำเร็จตามเวลาซึ่งจะมีผลต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา การทำโครงการสังคมสงเคราะห์นั้นต้องดูแลในด้านบุคลากรการควบคุมคุณภาพ (ซึ่งก็เป็นคนที่ยังมีกิเลสอยู่ ย่อมมีปัญหาหลายประการ)คือ ถ้าทำดีก็ถูกชมแต่ถ้าทำไม่ดีก็ถูกตำหนิดิเตียน ได้ ดังนั้นก็ต้องตั้งใจทำกันจริงๆ จังๆ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายหลักของวัดไม่สำเร็จตามเวลา
การทำอะไรต้องมีเป้าหมายวัดพระธรรมกายก็มีเป้าหมายหลัก เป้าหมายรอง เป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายระยะยาว
ก็ต้องดูไปตามเป้าหมายว่าวัดเราสร้างมาเพราะอะไรก่อนนะครับ เหมือนเราสมมุติว่าเรากำลังเรียนหนังสืออยู่วิชาหนึ่ง แต่เราอยากให้เรียนอีกวิชาได้ดีด้วย ก็เลยนำการบ้านหรือหนังสืออีกวิชามาอ่านไปด้วย สรุปแล้วอาจจะไม่ได้ดีทั้งสองวิชา เลยก็ได้
เพราะเป้าหมายหลักของวัด คือ สร้างศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก ซึ่งเป็นงานที่หนักมากเลยทีเดียว เพราะเป้าหมายคือจะรวมทุกนิกายให้เป็นหนึ่งเดียวกันซึ่งพระพุทธศาสนาจะเข้มแข็งมาก สันติสุขก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สังเกตว่าวัดจะทำทุกอย่างให้เป็นสากลนะครับ นั่นหมายความว่า แม้แต่สิ่งก่อสร้าง พิธีกรรม ทุกอย่างเป็นสากลหมด ซึ่งจะเป็นการทำให้ชาวต่างประเทศต่างศาสนาต่างชาติเข้าถึงและเข้าใจได้เร็ว ในที่สุด ถ้าพุทธศาสนาเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกแล้ว ผมว่าวัดคงจะเริ่มทำโครงการนี้ เนื่องจากการทำโครงการสังคมสงเคราะห์ ก็มีปัญหามีข้อจำกัดตามมาหลายประการซึ่งจะทำให้เป้าหมายหลักเบี่ยงเบนไปและไม่สำเร็จตามเวลาซึ่งจะมีผลต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา การทำโครงการสังคมสงเคราะห์นั้นต้องดูแลในด้านบุคลากรการควบคุมคุณภาพ (ซึ่งก็เป็นคนที่ยังมีกิเลสอยู่ ย่อมมีปัญหาหลายประการ)คือ ถ้าทำดีก็ถูกชมแต่ถ้าทำไม่ดีก็ถูกตำหนิดิเตียน ได้ ดังนั้นก็ต้องตั้งใจทำกันจริงๆ จังๆ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายหลักของวัดไม่สำเร็จตามเวลา
การทำอะไรต้องมีเป้าหมายวัดพระธรรมกายก็มีเป้าหมายหลัก เป้าหมายรอง เป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายระยะยาว
ก็ต้องดูไปตามเป้าหมายว่าวัดเราสร้างมาเพราะอะไรก่อนนะครับ เหมือนเราสมมุติว่าเรากำลังเรียนหนังสืออยู่วิชาหนึ่ง แต่เราอยากให้เรียนอีกวิชาได้ดีด้วย ก็เลยนำการบ้านหรือหนังสืออีกวิชามาอ่านไปด้วย สรุปแล้วอาจจะไม่ได้ดีทั้งสองวิชา เลยก็ได้
#15
*ผู้มาเยือน*
*ผู้มาเยือน*
-
- Guests
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 08:21 PM
ใครทีเป็นสมาชิกช่วยแนะนำด้วยครับอยากเป็นสมาชิกมากเลยลองสมัครหลายครั้งแล้วก็ไม่สำเร็จซักที ใครเจอปัญหาเหมือนกันบ้าง ก็เลยไม่สามารถโพสคำถามได้เลย
[email protected] อาทร
[email protected] อาทร
#16
ปาลินารี
-
- Members
- 258 โพสต์
โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 08:33 PM
เดี๋ยวนี้ กระทู้ของเวป dmc คึกคักน่าอ่านมากเลย
#17
xlmen
-
- Members
- 978 โพสต์
โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 11:03 PM
สาธุครับ....หนทางร้อยลี้ยังต้องมีก้าวแรก ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับถ้าวัดอื่นทำได้วัดเรา(วัดพระธรรมกาย) ก็ต้องทำได้เช่นกันครับผมเชื่อเช่นนั้น
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#18
Pro
-
- Members
- 134 โพสต์
โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 09:13 AM
เห็นด้วยกับคุณ crystal.mind ครับ
อนุโมทนาบุญครับ
อนุโมทนาบุญครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ
#20
biggg
-
- Members
- 2 โพสต์
โพสต์เมื่อ 14 February 2006 - 01:35 PM
เมื่อ ปี 2539 ฝันเห็นคุณยาย 2549 ฟังธรรมจากคุณครูไม่ใหญ่ บอกว่าคุณยายเสียบุญไปเยอะที่ได้ออกไปตามลูกๆๆ หลานๆๆ สาธุ สาธุ
#21
biggg
-
- Members
- 2 โพสต์
โพสต์เมื่อ 14 February 2006 - 01:45 PM
มาเอาบุญคืออะไร การฟังธรรม น่าจะใช่ การรักษาศีลก็ใช่ การใส่บาตรก็ใช่ การปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิภาวนา ยิ่งทำมาก บุญยิ่งมาก คำว่ามาเอาบุญ น่าจะหมายถึงการปฏิบัติ คือ ไปวัดแหล่งศูนย์รวมแห่งบุญ พบเนื้อนาบุญ
#22
ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
-
- Members
- 4109 โพสต์
- Gender:Male
- Location:จ. สงขลา
โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 03:20 PM
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ
