โปรแกรมหน้าวิญญานอาฆาต2
#1
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 09:38 AM
1. คิดว่าพี่ๆเพื่อนๆหลายๆคนคงเคยได้ดูหนังผีมาบ้าง จะเห็นว่าหนังผีหลายเรื่องมีการสะกดวิญญาน เช่นจับลงหม้อบ้าง จับใส่กระบอกบ้าง อย่างผีแม่นาค กุมารทองเป็นต้น ผมอยากทราบว่า วิธีการสะกดวิญญานที่มีกันในหนัง ของจริงนั้นมีจริงๆหรือไม่ หากมีจริงแล้ววิญญานที่ถูกสะกดจะสามารถได้รับบุญที่ผู้อื่นอุทิศไปให้ได้อยู่หรือไม่ และหากวิญญานที่ถูกสะกดหมดกรรมจะสามารถไปเกิดได้หรือไม่
2. จากหนังเรื่องโปรแกรมหน้า เนื้อเรื่องเกี่ยวกับวิญญานอาฆาตที่ถูกฆ่าโดยไม่ได้เจตนาแล้วฝังความแค้นไว้ในหนัง ตามฆ่าคนที่ดูหนังเรื่องนี้ ผู้ที่ถูกวิญญานอาฆาตนี้ฆ่าจะถูกกักขังไว้ในแผ่นหนังเช่นกัน อยากทราบว่า ในความเป็นจริงจะมีเหมือนอย่างในหนังหรือไม่ที่วิญญานฝังความแค้นไว้ในสิ่งของแล้วคอยทำร้ายผู้ที่ได้ครอบครองสิ่งของชิ้นนั้นๆเหมือนอย่างในหนังหลายๆเรื่องที่ทำกัน หากมีจริงวิญญานเหล่านี้จะบาปไหมหากลงมือกระทำสำเร็จ แล้วบาปที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้ไปลงอบายภูมิเลยหรือไม่
3. หากผมจำไม่ผิด เคยได้ยินมาว่าวิญญานที่เป็นกายทิพย์ก็มีการต่อสู้เหมือนกัน เช่น ครุฑคอยจับนาคกิน พระอินทร์สู้กับยักษ์ซึ่งเป็นอดีตกายทิพย์บนสวรรค์แต่ถูกขับไล่เพราะมัวเมาอยู่แต่นําทิพย์บนสวรรค์ จึงเกิดการเครียดแค้นและหาทางรุกรานอยู่ตลอด อยากทราบว่า หากกายทิพย์ที่เอ่ยมานี้ต่อสู้กันจนตาย จะมีบาปเพิ่มขึ้นหรือไม่ บาปนั้นจะส่งผลเช่นไร และกายทิพย์ที่ตายจะเป็นยังไงต่อไปครับ
คำถามเหล่านี้ดูแล้วอาจเป็นคำถามที่ไร้ประโยชน์แต่เป็นคำถามที่ผมสงสัยค้างคาใจผมมานาน ใคร่อยากรู้และได้คำตอบตามประสามนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง หากพี่ๆเพื่อนๆท่านใดคิดว่าไร้สาระพี่WMจะลบทิ้งก็ไม่ว่ากันนะครับ ^ ^
แค่อยากรู้เฉยๆ
ปล. คำถามทิ้งท้าย ไม่เกี่ยวกับผีแล้วครับ
ผมขอบอกตามตรง ทุกวันนี้ เวลาที่มีการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ทุกครั้งที่คุณครูไม่ใหญ่นำแผ่เมตตา ทุกครั้งที่ผมนั่งสมาธิ แม้ผมจะยังไม่มีดวงตาเห็นธรรม แต่ผมมักจะกำหนดแผ่เมตตาไม่ใช่แค่เฉพาะภพภูมิเราเท่านั้นแต่ผมจะแผ่เมตตาให้ทุกชีวิตทั่วอนันตจักรวาล ทุกภพภูมิ อาจจะดูบ้าไปนิด แต่ขอยอมรับตามตรงว่าผมเคยแผ่เมตตาให้พญามารด้วย อยากทราบว่าการที่ผมแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแบบนี้ ทุกชีวิตทั่วอนันตจักรวาล ทั่วภพภูมิและแม้แต่พญามารจะได้รับหรือไม่ ผมควรจะทำหรือไม่การแผ่เมตตาให้พญามารเช่นที่ผมกระทำอยู่
ขอขอบพระคุณกับทุกความเห็นล่วงหน้านะครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#2
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 11:23 AM
มันจะดีหรืดครับ
#3
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 12:33 PM
#4
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 12:49 PM
1. การสะกดวิญญาณโดยจับใส่โน้นนี่ ผมไม่แน่ใจว่ามีจริงหรือเปล่า แต่การทำให้วิญญาณตกอยู่ในอำนาจของตน โดยใช้วิชาไสยเวทย์ เพื่อเอาไว้คอยใช้งานต่างๆ นั้น มีจริงครับ
ศึกษาได้จาก Case Study เรื่องกุมารทอง โดยพิมพ์ Search คำว่า กุมารทองในช่อง Case Study เดี๋ยวเรื่องราวของกุมารทองต่างๆ ก็จะผุดขึ้นมาให้ศึกษาเป็นดอกเห็ดเชียวครับ
สำหรับเรื่องกุมารทองที่ตกอยู่ในอำนาจหมอไสยเวทย์นั้น เขาสามารถรับบุญได้ครับ และหากมีบุญมากพอ ก็จะสามารถหลุดพ้นจากอำนาจหมอไสยเวทย์ได้เช่นกันครับ
2. ไม่ทราบเหมือนกันครับว่ามีหรือไม่ แต่ในเคสจะมีเรื่องคล้ายๆ กันอยู่ถึง 3 เคสครับ แต่ขี้เกียจค้นให้ อ่านฉบับย่อๆ ก็แล้วกันนะครับ
2.1 เคสแรกเป็นเรื่องของ ชายคนหนึ่งมีทาส ต่อมาทาสขโมยของ เลยฆ่าทาสตายฝังไว้ในแผ่นศิลา ชาตินี้เขากลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เป็นผู้นำบุญ เขามาเจอแผ่นศิลานี้อีกครั้ง และเกิดความรู้สึกว่า มีสายตาอาฆาตจ้องมองเขาอยู่ ตอนหลังเขาตัดสินใจ นำแผ่นศิลานี้ไปถวายวัดต่างจังหวัด
2.2 เคสต่อมาเป็นเรืองสามีภรรยา ที่อธิษฐานว่า จะครองคู่ไปทุกชาติ ต่อมาสามีนอกใจ ภรรยาจึงอาฆาตข้ามชาติ ชาติปัจจบัีน แม้เป็นผีก็ตามอาฆาตสามี หลวงพ่อแนะนำ สามีต้องบวชอย่างเดียว จึงจะพ้นกรรม
2.3 เคสต่อมา เป็นเรื่องของชายคนหนึ่ีง ที่ภรรยาถูกคนบ้าฆ่าตาย พอฝันในฝันไปแล้ว ปรากฏว่า คนบ้านี้ถูกวิญญาณยักษ์ตนหนึ่งที่เคยจองเวรข้ามชาติมา สิงอยู่ พอเห็นคู่เวรยักษ์ก็แค้น เลยไปสิงคนบ้า มาฆ่าภรรยาเจ้าของเคสตาย เคสนี้ก็มีครับ
3. ครุฑจับนาคกินได้นั้น เป็นเวรที่ผูกกันมา เพราะฉะนั้นย่อมไม่ทำให้ครุฑต้องไปอบาย แต่อาจจะทำให้ครุฑไปเกิดเป็นนาค ส่วนนาคไปเกิดเป็นครุฑ แล้วสลับกันผูกเวรบ้าง หรือ ไปเป็นสัตว์อื่นที่ผูกเวรกันได้ เป็นต้น
แต่ส่วนกายทิพย์อื่นๆ เช่น พระอินทร์นั้น ผมว่าถ้าฆ่ากันจริง ก็ต้องไปอบายครับ ในสมัยอดีตกาล ก็มีเรื่องคล้ายๆ กัน คือ พระเทวทัต เกิดเป็น อธรรมเทพบุตร ส่วนพระะพุทธเจ้าเกิดเป็น ธรรมเทพบุตร
ปรากฏว่า ขับราชรถสวนทางกัน (ยังไม่ถึงกับฆ่ากัน) แต่อธรรมเทพบุตร มีศักดิ์น้อยกว่า ธรรมดาต้องหลีกทางให้ แต่เขาไม่ยอมหลีกทาง ทำให้ธรรมะเทพบุตรซึ่งมีศักดิ์ใหญ่กว่า หลีกทางให้แทน
ผลก็คือ กระแสบาปดึงดูดอธรรมเทพบุตรลงอบายทันที (ยังไม่ได้ฆ่ากันเลย)
4. ความจริงแล้ว ทางวัดก็สอนให้อุทิศบุญให้ถ้วนทั่วอนันต์จักรวาลเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วครับ เช่น พระอาจารย์บางรูปจะนำอุทิศบุญว่า ขอให้กระแสใจของพวกเรา แผ่ความปรารถนาดีไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ที่ใดที่แสงเดือนแสงตะวันสาดส่องไปถึง ขอให้กระแสใจของพวกเราแผ่ไปถึงด้วยเช่นกัน... เป็นต้น
ส่วนเรื่องการอุทิศบุญให้พญามารนั้น เป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพญามารในที่นี้ ก็คือ สรรพสัตว์ผู้หลงผิดเพราะถูกกิเลสมารเข้าครอบงำนั่นเอง อุทิศให้เขา เขาจะได้มีกำลังบุญพ้นจากกิเลสมารได้ครับ
และความจริง พระอาจารย์ในวัด พระทั่วแผ่นดินไทย สาธุชนทั่วโลก ที่สวดมนต์ทำวัตรเย็น ย่อมได้ชื่อว่า อุทิศบุญให้มารทั้งนั้นแหละครับ เำพราะในบท อุทิสสะนะคาถาโย จะมีบทอุิทิศให้มารครับ ลองอ่านตามกระทู้เก่าๆ ได้ครับ
http://www.dmc.tv/fo...php/t14131.html
ดังนั้นคุณทำถูกแล้ว จงทำต่อไปครับ
#5
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 02:08 PM
#6
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 02:16 PM
ถ้าคุณยังสวดมนต์ทำวัตรเย็น เหมือนกับที่พระโยมทั้งหลายสวดกันทุกวันล่ะก็ จงอย่ากังวลเรื่องอุทิศบุญให้มารเลย นะครับ เพราะอุทิศอยู่ทุกๆ วันอยู่ครับ
อิมินา ปุญญะ กัมเมนะ ด้วยบุญนี้ อุทิศให้
อุปัชฌายา คุณุตตะรา อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
อาจาริยูปาการา จะ แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน
มาตา ปิตา จะ ญาตะกา ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สุริโย จันทิมา ราชา สูริยะจันทร์ แลราชา
คุณะ วันตา นะ ราปิ จะ ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหมะ มารา จะอินทาจะ พรหมมาร และอินทราช
โลกะ ปาลา จะ เทวะตา ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ ยมราช มนุษย์มิตร
เห็นมั้ยครับ อุทิศให้ทั้งพรหร มาร และสรรพสัตว์เลย
#7
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 04:08 PM
#8
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 05:06 PM
#9
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 06:05 PM
อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันที่ได้ให้รายละเอียดของการแผ่เมตตาและการให้ธรรมทานนี้ด้วยครับ สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 06:30 PM
#11
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 07:22 PM
ส่วนมารตัวจริงนั้น หลวงพ่อเคยเทศน์ว่าโปรดไม่ได้ ต้องปราบอย่างเดียวครับ
#12
โพสต์เมื่อ 11 November 2008 - 10:07 AM
#13
โพสต์เมื่อ 11 November 2008 - 11:15 AM
#14
โพสต์เมื่อ 11 November 2008 - 11:49 AM
มารเขาไม่ได้เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย หากเรายังไม่มีใจรวมครับ
คุณครูบอกว่า มารกลัวอะไร มารกลัวผู้มีใจรวมครับ หากใจไม่รวม ครุ่นคิดปราบมารไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร สู้ฝึกฝนตัวเองให้มีใจรวมก่อนดีกว่า ทำอะไรให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนแล้วจะดี
นี่แหละครับ คุณครูท่านถึงได้พูดว่า ภารกิจของท่านคือ รวมใจผู้มีใจรวม คือ นำผู้มีใจรวมจำนวนมากๆ (ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง) มารวมกัน เพื่อปราบมาร หากใจยังไม่รวม ก็ใจเย็นทำไปตามขั้นตอนของเรา คือ สร้้างบุญสั่งสมบารมีไปก่อน เรื่องของเขาอย่าเพิ่งไปพูดถึงมากเลย น่ะครับ