ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระถังซัมจั๋ง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 17 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 nemo

nemo
  • Members
  • 77 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:14 PM

อยากอ่านบันทึกของพระถังซัมจั๋งที่ท่านได้เดินทางไปอินเดีย เพื่อไปอัญเชิญพระไตรปิฎกมายังประเทศจีน จะพอหาอ่านที่ไหนได้บ้างครับ ขอบคุณครับ

#2 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:35 PM

ได้ข้อมูลมาอย่างนี้ถูกผิดประการใด...ขออภัยด้วยค่า
...............................................................................

“ไซอิ๋ว” เป็นวรรณกรรมจีนที่คนไทยรู้จักดีพอๆ กับเรื่อง “สามก๊ก” แต่ที่เป็นข้อพิเศษแตกต่างกันไปจาก “สามก๊ก” ก็คือ “ไซอิ๋ว” เป็นวรรณกรรมที่มีมิติของเนื้อหาอยู่ ๒ มิติ คือ
มิติแรก เป็นวรรณกรรมที่ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลินเหมือนกับวรรณกรรมทั่วๆไป ในมิตินี้ เราจะพบกับการผจญภัยของพระถังซัมจั๋ง เห้งเจีย โป้ยก่าย และซัวเจ๋ง เป็นต้น

มิติที่สอง เป็นวรรณกรรมศาสนา ที่แต่ละตัวละคร ต่างเป็นสัญลักษณ์ทางธรรม ของพระพุทธศาสนา เช่น เห้งเจีย เป็นสัญลักษณ์ของ ปัญญา โป้ยก่าย เป็นสัญลักษณ์ของ ศีล และ ซัวเจ๋ง เป็นสัญลักษณ์ของ สมาธิ เป็นต้น

โดยทั้ง ปัญญา ศีล และสมาธิ นี้ยังไม่สมบูรณ์เพราะยังมี ราคะ โทสะ และโลภะ ดำรงอยู่ ยังต้องผ่านการทดสอบในโลกียะจนกว่าจะบรรลุถึง สัจธรรม
และสิ่งที่มาทดสอบนั้นก็มิอะไรอื่น หากคือบรรดาปีศาจต่างๆ ที่ตัวละครเหล่านี้ต้องผจญภัย
นอกจากนี้ ในหลายกรณีที่บรรดาสิงสาราสัตว์ แม่น้ำลำธาร ขุนเขา ป่าไม้ อาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ ก็เป็นสัญลักษณ์อยู่ด้วย

จะเห็นได้ว่า ในมิติที่สองนี้ มีความลึกล้ำซับซ้อน ต่อการทำความเข้าใจไม่น้อย และเป็นวิธีที่เข้าสู่สัจธรรมในแบบ มหายาน อันเป็นนิกายพื้นฐานของศาสนาพุทธในจีน

ดังนั้นในมิตินี้ จึงอาจจะไม่ให้ความสนุกสนานอะไรแก่ผู้อ่านเท่ากับมิติแรก แต่ในขณะเดียวกัน ความสนุกสนาน ที่ได้จากมิติแรก ก็ใช่ว่าจะเป็นพิษเป็นภัย เพราะอย่างน้อยก็ยังคงเป็นวรรณกรรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว

แม้ไซอิ๋วจะมีฐานะวรรณกรรมเช่นนั้น และเป็นวรรณกรรมที่แต่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง
(Ming Dynasty, B.E.1368 – 1644) โดย อู่ เฉิง เอิน (Wu Cheng-en, B.E.1500 – 1582) ก็ตาม แต่ไซอิ๋วจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยหากในโลกแห่งความเป็นจริงเมื่อสมัยราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty, B.E.618 – 907) ไม่มีพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งมีสมณฉายาว่า “เสวียนจั้ง” (Xuan-zang, B.E.569 – 664) หรือ “ซานฉางฝ่าซือ” (San-cang-fa-shi) เกิดขึ้น

ซานฉางฝ่าซือ ที่พอถอดเป็นภาษาไทยได้ว่า “พระธรรมาจารย์ไตรปิฎก” อันเป็นคนเดียวกับ “พระถังซัมจั๋ง”

พระถังซัมจั๋ง มีชีวิตอยู่ในสมัยจักรพรรดิ ไท่จง (Taizong, B.E.626 – 649) ด้วยความศรัทธาของพระถังซัมจั๋ง และการเป็นองค์ศาสนูปถัมภกของจักรพรรดิไท่จง พระถังซัมจั๋งจึงได้เดินทางไปยัง “ชมพูทวีป” เพื่อศึกษาพระไตรปิฎก และนำพระไตรปิฎกกลับมายังจีนเพื่อทำการแปล

ซึ่งนับแต่ปีที่ออกเดินทางไป จนกระทั่งกลับมายังจีนอีกครั้งหนึ่งนั้น ปรากฎว่า พระถังซัมจั๋ง ได้ใช้เวลานานถึง ๑๖ ปี (B.E.629 – 647)
และคงเป็นเพราะเหตุนี้เอง จักรพรรดิไท่จง จึงทรงให้พระถังซัมจั๋งเขียนบันทึก บอกเล่าเรื่องราว ที่ได้ไปพบเห็นมาระหว่างช่วงเวลานั้นถวายต่อพระองค์ เรื่องราวที่พระถังซัมจั๋งเขียนขึ้นมีชื่อว่า “ต้าถัง ซี-ยวี่-จี้” (Da Tang-xi-yu-ji) หรือ “จดหมายเหตุดินแดนตะวันตกแห่งมหาราชวงศ์ถัง”

โดยดินแดนตะวันตกในที่นี้ก็คือ “ชมพูทวีป” เพราะเป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศจีน บันทึกฉบับนี้ได้ให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์(โดยเฉพาะของประเทศอินเดีย) อย่างมากมาย
นอกจากบันทึกฉบับนี้แล้ว ยังมีอีกฉบับหนึ่งที่ให้ประโยชน์ไม่แพ้กัน คือ “ต้าถังต้าฉือเอินซื่อ ซานฉางฝ่าซือ ฉวน” (Da-Tang-Daci-Ensi-Sancangfashi-Chaun) ซึ่งพอแปลได้ว่า “ประวัติพระมหาธรรมาจารย์ไตรปิฎก ณ. วัดการุณยาราม แห่งมหาราชวงศ์ถัง”
อันที่จริงแล้ว ทั้งก่อนและหลังการเกิดบันทึกทั้งสองฉบับนี้ขึ้นในจีน ยังมีบันทึกอีกจำนวนหนึ่งที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชมพูทวีปเช่นกัน ผู้บันทึกมีทั้งบรรพชิต และ ฆราวาส ที่ได้เดินทางไป และ เห็นดินแดนนี้มา
ข้อมูลเหล่านี้ให้ประโยชน์แตกต่างกันไป แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีฉบับไหน ที่ได้รับการขยายความ หรือพัฒนามาเป็นวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้มากเท่ากับบันทึกสองฉบับนั้น ซึ่งต่อมาถูกทำให้กลายเป็น “ไซอิ๋ว” ดังที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ไซอิ๋ว ที่เป็นวรรณกรรมนั้นมีชื่อเต็มว่า “ซี โหยว จี้” (Xi-you-ji) แปลว่า “บันทึกตะวันตกสัญจร” ความเชื่อมโยง ที่เกี่ยวพันกับบันทึกทั้งสองฉบับข้างต้น อยู่ตรงที่เรื่องราว ยังคงบอกเล่าถึงการเดินทาง ไปชมพูทวีป เพื่อนำพระไตรปิฎก กลับมายังประเทศจีนประการหนึ่ง และอยู่ตรงที่มีตัวละครที่ชื่อ “พระถังซัมจั๋ง” เหมือนๆกันอีกประการหนึ่ง

ผู้แต่งวรรณกรรมเรื่องนี้ เป็นผู้มีเจตนาดีต่อพระพุทธศาสนา ทำประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะแต่งให้พระถังซัมจั๋ง ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากประเทศอินเดีย มาเผยแพร่ในประเทศจีน แต่ผู้แต่งศึกษาเรื่ององพระพุทธศาสนายังไม่ตลอด ยังไม่เข้าใจพระธรรมวินัยดีพอ เป็นธรรมดาของปุถุชนผู้ที่ยังมีกิเลส ย่อมมีข้อตำหนิ มีข้อผิดพลาดในการแต่งเนื้อเรื่องอยู่บ้าง ดังนี้:

๑. พระถังซำจั๋งมีบทบาทน้อยไป ต้องมีผู้ช่วยมากมายราวกับว่าท่านไม่มีความสามารถ ไม่มีคุณวิเศษ ซึ่งพระภิกษุผู้มีศีลบริสุทธิ์ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ย่อมมีคุณวิเศษเอาตัวรอดได้โดยไม่ต้องมีผู้ช่วย

๒. พระถังซำจั๋งแต่งตัวหรูหรา ประดับประดามาก มีการสวมมงกุฎ ถือคทา ใส่ลูกประคำ จีวรประดับประดางดงาม ผิดสมณะสาระรูป เหมือนการแต่งตัวของนางคณิกา เหมือนการแต่งตัวของพวกขุนนางผู้สูงศักดิ์ ไม่ใช่การนุ่งห่มของสมณะ ผู้มักน้อยสันโดษ

๓. เห้งเจียซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง มีความทะลึ่งตึงตัง ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ไม่รู้จักเจียมตัว จริงอยู่ที่เห้งเจียเป็นลิง แต่ลิงพันธุ์ที่ไม่ทะลึ่งไม่ซุกซนก็มี อย่างน้อยเห้งเจียต้อง ได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากพระถังซำจั๋งบ้าง เพราะเป็นลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด คงเป็นเจตนาของผู้แต่งให้เรื่องมีความสนุกสนาน แต่จะเป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับผู้อ่าน
อีกอย่างหนึ่ง เห้งเจียมีฤทธิ์มาก สามารถเหาะเหิรเดินอากาศ ไปเที่ยวรุกรานเทวดาบนสวรรค์ มีฤทธิ์มากเช่นนี้ได้อย่างไร??

๔. มีตัวละครมากมาย แต่ละคนส่งบท รับบทต่อๆกัน ทำให้เรื่องราวสลับซับซ้อนและยืดเรื่องให้ยาว ผู้แต่งหวังความสนุกแบบโลกๆมากเกินไป

๕. เมื่อพระถังซำจั๋งและคณะนำพระไตรปิฎกมาจากอินเดียแล้ว ทำตกทะเลเปียกน้ำหมด ต้องนำขึ้นมาผึ่งตากแดด เมื่อแห้งแล้วกระดาษบางส่วนติดกันบ้าง ติดกับพื้นหินที่วางตากบ้าง ต้องลอกออกแคะออกทำให้เกิดการฉีกขาด ตัวหนังสือเลอะเลือนเสียหาย จึงเกิดเป็นสำนวนว่า “พระไตรปิฎกผ่านเหตุการณ์มามากมายย่อมขาดตกบกพร่อง พระธรรมวินัยย่อมขาดตกบกพร่อง ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ที่สุด” ตามความเป็นจริง รัตนะทั้งสามประกอบด้วย พุทธรัตนะ ธรรมะรัตนะ และสังฆรัตนะ พระไตรปิฎกก็คือ ธรรมะรัตนะ เป็นสิ่งวิเศษ เป็นของสูงและศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดารักษาไม่ให้เสื่อมเสีย ผู้แต่งเรื่องนี้ไม่เข้าใจ ผู้แต่งๆให้เห้งเจียบ้าง เทวดาบ้าง ช่วยสิ่งอื่นๆให้แคล้วคลาดปลอดภัยได้ แต่กลับไม่ยอมช่วยพระไตรปิฎกซึ่งอุตส่าห์เดินทางไปอัญเชิญด้วยความยากลำบากให้พ้นภัย และเมื่อผู้อ่านเชื่อคล้อยตามเนื้อเรื่อง ย่อมเกิดความกังขาในพระไตรปิฎก เกิดความกังขาในพระพุทธศาสนา ทำให้ชาวโลกเข้าใจพระพุทธศาสนาผิดไป ย่อมเป็นบาปแก่ผู้แต่งและผู้อ่านที่เชื่อตาม

#3 nemo

nemo
  • Members
  • 77 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:47 PM

อยากได้ตัวบันทึกที่แปลเป็นไทย ของท่านเลยน่ะครับ

#4 sun of peace

sun of peace
  • Members
  • 101 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 08:21 PM

สาธุครับ คุณสายน้ำทิพย์
จะครองเรือนไปสักกี่ร้อยปีก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเค้าทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้

#5 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 09:23 PM

นับถือคุณหนูชื่อสายนำทิพย์จังค่ะ มีข้อมูลต่างๆมากมายจริงๆเลยค่ะ เห็นบ่อยมากเลยใน dmc.tv เนี่ยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุค่ะ

#6 ideal

ideal
  • Members
  • 605 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:TRANG
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 10:50 PM

http://en.wikipedia.org/wiki/Xuanzang

http://www.iep.utm.edu/x/xuanzang.htm



DMC The only one

ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย


คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

#7 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 09:30 AM

QUOTE
นับถือคุณหนูชื่อสายนำทิพย์จังค่ะ มีข้อมูลต่างๆมากมายจริงๆเลยค่ะ เห็นบ่อยมากเลยใน dmc.tv เนี่ยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุค่ะ
สาธุ...ขอบคุณค่ะ...จริง ๆ แล้วเวลาใครหาอะไรก็อยากช่วยหาไปหมด... แต่ แต่ แต่ว่าบางทีก็ไม่รู้ว่าข้อมูลที่หามาให้ถูกต้องสักแค่ไหนred_smile.gif red_smile.gif laugh.gif

#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 11:27 AM

ผมขอเสริมในเรื่องจริงที่ตอนหลังมีการถามมาเป็นเคส Study น่ะครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในอดีต มีเด็กน้อยคนหนึ่ง อายุยังไม่ครบบวช แต่กลับไปยืนเข้าแถวขอบวช พระเถระท่านถามว่า บวชไปเพื่ออะไรล่ะ (คล้ายๆ ท่านต้องการจะบอกว่า การบวชนี่ไม่ใช่การมาเล่นสนุกๆ นะ) แต่เด็กคนนั้น ประกายตาฉายแวว กลับตอบว่า จะบวชเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนาครับ

พระเถระประทับใจมาก จึงให้เด็กคนนี้ได้บวช เด็กคนนี้ก็คือ พระถังซัมจั๋งนั่นเอง เมื่อท่านเจริญวัยขึ้นเป็นหนุ่ม ปรากฏว่า ท่านเห็นตำราที่ใช้สอนพระพุทธศาสนานั้น ไม่ทราบแหล่งอ้างอิงชัดเจน จึงทำให้คนยุคนั้น ถกเถียงกัน ท่านจึงคิดจะไปอัญเชิญ พระไตรปิฎกมาจากเมืองอินเดีย จึงได้ไปชักชวนเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆ ไม่มีใครไปด้วยเลย เพราะฮ่องเต้สมัยนั้น ไม่อนุญาติให้ออกนอกประเทศ ใครไปจะประหารชีวิต

พระถังซัมจั๋งไม่สนใจ ท่านไปของท่านรูปเดียว ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ น่าๆ ในที่สุดก็ไปถึง และได้ศึกษาอยู่ที่สถานศึกษาพระพุทธศาสนาทางอินเดียอยู่ 2 ปี ปัญญาแตกฉานมาก กิติศัพท์เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดกษัตริย์ของอินเดียรั้งตัวไว้ทีเดียว แต่สุดท้ายพระถังซัมจั๋งก็ขอกลับ และก็อัญเชิญพระไตรปิฎกกลับประเทศจีน ฮ่องเต้จีนก็มาต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ เพราะสร้างชื่อไว้มาก และขอให้สึกมาช่วยราชการ แต่ท่านยืนกรานไม่สึก และได้แปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาจีน

เคส Study พระถังซำจั๋งเป็นใคร เหตุใดจึงคิดบวชตั้งแต่เด็ก และมาอัญเชิญพระไตรปิฎก
ฝันในฝัน
ในสมัยพุทธกาล ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น ตอนนั้น ก็มีเทพบุตรองค์หนึ่งจากสวรรค์ชั้นดุสิต เสด็จตามพุทธมารดาลงมาฟังธรรม ที่ดาวดึงส์ด้วย เทพบุตรองค์สร้างบารมีมาไม่ธรรมดาเช่นกัน มีบารมีขนาดที่ใกล้จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตแล้ว พอแสดงธรรมจบ พระพุทธเจ้าของเราก็พยากรณ์เทพบุตรองค์นี้ว่า ต่อไปจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งได้อนาคต

เทพบุตรองค์นี้ดีใจมาก กลับสวรรค์ด้วยความเบิกบาน ต่อมาทราบข่าวว่า พระพุทธศาสนาในเมืองจีนกำลังเสื่อมความนิยมลง เนื่องจากพวกภุมเทวา อากาศเทวา โจษจันกันต่อๆ กันมา จนมาถึงพระอินทร์ พระอินทร์ก็บอกต่อกับเทพบุตรชั้นดุสิตที่มาไหว้พระเจดีย์จุฬามณี เทพบุตรก็นำไปบอกในที่ประชุม ทำให้เทพบุตรองค์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์นี้ ขันอาสาลงมากู้พระพุทธศาสนา แล้วท่านก็กลับวิมาณ อธิษฐานจิตจุติลงมาเป็นพระถังซัมจั๋งนี่แหละครับ

ตอนนี้ท่านกลับวิมาณไป ด้วยความปลื้มในผลบุญที่ท่านได้กระทำอย่างสุดประมาณ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 ปาราวตี

ปาราวตี
  • Members
  • 12 โพสต์
  • Location: จ.นนทบุรี

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 02:04 PM

ถาม คุณหัดฝัน ในกระทู้ที่ 8 ว่าหาอ่านได้จากที่ไหนค่ะ ทำไมถึงมาเกี่ยวโยงกันได้อย่างประหลาด อยากรู้ที่มาค่ะจะได้ไปอ่านบ้าง

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 03:25 PM

ไปย้อนฝันฝันเคส Study ประมาณช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาสิครับ อยู่ในช่วงตอนที่หลวงพ่อพูดถึงเมืองจีนไงล่ะครับ ที่บอกว่า มีกษัตริย์เห็นนิมิตไฟ 5 สิพวยพุ่ง และแผ่นดินไหว แล้วหลังจากนั้น ไปให้โหรทำนาย โหรบอกว่า ทางทิศตะวันตก(ของจีน) มีศาสนาเอกถือกำเนิดขึ้นมา อีก 1000 ปี จะเผยแผ่มาที่จีนไงครับ ตอนช่วงนั้นแหละ ลองไปฟังดู
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 06:21 PM

โห คุณหัดฝัน ผู้เอาความกระจ่างมาเปิดเผย smile.gif
อนุโมทนาบุญค่ะ

#12 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 10:21 PM

ขออนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันค่ะ สาธุ

และคุณหนูชื่อสายน้ำทิพย์ ก็มีความขยันในการหาข้อมูล หาเรื่องราวมาตั้งกระทู้ในdmc.tv จริงด้วยค่ะ
ใจของคุณหนูชื่อสายน้ำทิพย์ ผูกพันกับธรรมะทุกวันเลย
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#13 lZephirothZl

lZephirothZl
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 10:17 PM

โอ้ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

#14 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 July 2006 - 01:22 AM

โอออออออออออออ สุดยอดค่ะ พี่หัดฝัน อันนี้ไม่ได้ฟังอะ พลาดได้ไงเนี้ย ขอบพระคุณพี่ มาก ๆค่ะ ดีใจจังมีโอกาสอ่าน
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#15 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 12:30 PM

สุดยอด กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ

#16 cha072

cha072
  • Members
  • 9 โพสต์
  • Interests:Pali-Sanskrit

โพสต์เมื่อ 11 January 2014 - 06:27 PM

จาก รายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2549 (ตอนกล่าวถึงพระถังซัมจั๋ง 唐三藏 、玄奘)

          พระถังซัมจั๋ง มาจากที่ใด  ทำไมท่านมีความตั้งใจอยากบวชตั้งแต่เด็กจนบวชได้ตลอดชีวิต และได้ไปทำหน้าที่อัญเชิญพระไตรปิฎกมาที่เมืองจีน  ปัจจุบันท่านได้ไปอยู่ ณ ที่ใด

          ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหลายที .... 

         พระถั๋งซัมจั๋ง ท่านดูเหมือนมีมโนปณิธานคล้าย ๆ กับท่านคุณานันทะ ที่ประเทศศรีลังกา คือท่านได้มาฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในยามที่พระพุทธศาสนามีภัยหรือมีความแตกต่าง กันมาก จนแทบจะไม่เหลือร่อยรอยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไรให้ไปในทิศทางเดียวกัน ต่างคนต่างก็ปฏิบัติกันไป คิด พูด ทำกันไปคนละทาง ทำให้สับสน ซึ่งเป็นอันตรายต่อการดำเนินชีวิต  หรือมีภัยจากการคิดที่จะทำลายล้างพระพุทธศาสนา  พระโพธิสัตว์มักจะมาเกิดในช่วงนี้  คล้ายๆ กันนะ ท่านคุณานันทะท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณร บวชวันเดียวก็เทศน์ทั้งคืนเลย  ไม่ใช่ว่าไม่มีคนฟัง คนฟังมากกว่าพระเทศน์  ล้นศาลากันไปเลย ฟังสามเณรน้อยเทศน์ทั้งคืนได้อย่างไร ทั้งผู้เทศน์และผู้ฟังทำไมไม่มีใครง่วงนอนเลย  ต่างฟังด้วยปีติเบิกบาน ได้ยินได้ฟังก็ปลื้มว่าทำไมสามเณรเก่งจังเลย ไปศึกษามาตั้งแต่ไหน เพราะหายาก  บวชวันเดียวเทศน์วันนั้น เทศน์คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างแตกฉาน ราวกะว่าศึกษากันมาข้ามชาติ หลายชาติกันมาแล้ว ดูเหมือนสามเณรน้อยเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก  เหมือนเป็นพระมหาเถระอยู่ในร่างสามเณร เป็นประดุจท่อน้ำที่ให้ธารธรรมกระแสธาราไหลผ่านมาอย่างพร่างพรูทีเดียว  ใครได้ยินได้ฟังก็มีแต่ความปิติยินดีหายง่วงเลย  อยากฟังต่อแล้วเสียงไม่มีตก ยิ่งพูดยิ่งดัง ๆ ไปเรื่อยๆ นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ทีเดียว ถ้าเราไม่ลืม จะจำได้   ........(กล่าวทบทวนเรื่องของท่านคุณานันทะ)......

           องค์นี้(พระถังฯ) เป็นนิยตโพธิสัตว์เหมือนกัน อยู่ที่ดุสิตบุรี สวรรค์ชั้นที่ 4 อีกวิมานหนึ่ง องค์แรก(ท่านคุณานันทะ)รับอาสา  แต่องค์นี้สมัครใจมา  อยากฟังหรือเปล่า อยากฟัง ฟังเลย

          เป็นปกติของพระโพธิสัตว์ เมื่อเกิดมาสร้างบารมี ก็จะสร้างกันตั้งแต่เยาว์วัย   ท่านก็เป็นนิยตโพธิสัตว์ ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่กี่พระองค์ ว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต และครั้งล่าสุดที่ได้รับพุทธพยากรณ์ก็เมื่อ 2,500 กว่าปี  แต่ท่านไม่ได้ลงมาเกิดในเมืองมนุษย์  จะอยู่ในช่วงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเสด็จไปที่ดาวดึงส์โปรดพุทธมารดา  เทวดาทั้งหลายก็ลงมาฟังธรรมกัน เทพบุตรจากชั้นดุสิตท่านนี้ก็มาฟังธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็แสดงธรรม พระอภิธรรมปิฎก โปรดพุทธมารดา  ในช่วงนั้นแหล่ะ  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ตรัสพยากรณ์เทพบุตรที่มาจากสวรรค์ชั้นดุสิตท่าน หนึ่ง  ว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า  ทรงพระนามว่าอย่างนั้นอย่างนี้ก็ว่ากันไป มีพุทธบิดา พุทธมารดา ชื่อว่าอย่างนั้น จะมีพระอัครสาวกชื่ออะไรก็ว่ากันไปตามพุทธธรรมเนียมอย่างนั้นนะจ๊ะ   ท่านก็มีความปลื้มปิติ  พอถึงเวลาก็กลับไปสวรรค์ชั้นดุสิต ก็มีความปลื้มปิติยินดีในพุทธพยากรณ์นั้น  ก็ตรึกระลึกนึกถึงบุญด้วยความเบิกบานมีปิติสุข  ราวประหนึ่งว่าจะได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันพรุ่งนี้ ก็อยู่บน สวรรค์ชั้นดุสิตเรื่อยมา

         จนกระทั่งเทวดาโจษจัน ในแผ่นดินจีนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และก็อีกพันปี  ฮ่องเต้ฮั่นหมิงตี้ (汉明帝) ก็ได้ส่งทูต 18 คนพร้อมกับม้าขาวไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่มาพร้อมกับภิกษุ 2 รูปซึ่งเป็นชาวเอเชียกลางผสมอินเดีย มาเผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินจีนมากทีเดียว  ผู้มีบุญก็มาเกิดเยอะ แต่ว่าต่อมา  คือคนที่มาเกิดเป็นมนุษย์มันก็ยังมีกิเลส  บ้านเมืองก็เปลี่ยนแปลงกันไปสารพัด พุทธบริษัท 4 ก็หย่อนยานเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา การให้ความเคารพกับพระรัตนตรัย เรื่องอะไรต่ออะไรต่าง ๆ กับมีเรื่องของเทวนิยมเข้ามาผสมและเรื่องของความหย่อนยานในการศึกษาในธรรม วินัยเป็นต้น พระพุทธศาสนาก็เริ่มเสื่อม  การปฏิบัติก็แตกต่าง คำสอนก็แตกต่าง  แตกต่างคือการแตกแยก เพราะงั้น สงฆ์ก็ไม่รวมกัน ผู้ที่มาภายหลังก็ไม่ทราบว่าเอาสิ่งไหนมาเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต ก็สับสนกันเรื่อยมา พระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่แค่มีอาภรณ์เท่านั้นเอง  ข้อวัตรปฏิบัติมันแตกต่างกันไปแล้ว  ถึงตอนนี้แหละ เทวดาก็โจษจันในทำนองเดียวกันว่าถึงเวลาที่เทวบุตรพระโพธิสัตว์องค์ใดองค์ หนึ่งจะต้องลงมาบังเกิดขึ้น กู้ภัยตรงนี้  แล้วเทวบุตรท่านนี้ ที่ได้รับพยากรณ์ที่ชั้นดาวดึงส์ อาสาลงมาบังเกิดในแผ่นดินจีน  ท่านก็คือพระถังซัมจั๋งนี่แหละ  พอลงมาเกิดแล้ว  ใจท่านฝักใฝ่ในธรรมตั้งแต่เด็ก   สิบสามขวบก็บวช  มีเด็กที่ไหนในโลก อยากจะบวชทั้งๆ ที่ชีวิตครอบครัวก็มีความพร้อม ไม่ใช่เป็นผู้ด้อยโอกาส  แต่เป็นผู้ได้โอกาส มีดวงปัญญาดี ไปเว้าวอน ขอสอบในการเป็นพระแม้อายุยังน้อย  ต้องสอบผ่านและฮ่องเต้อนุญาตจึงจะบวชได้  อายุก็ไม่ครบบวช  ขอเป็นสามเณรก็เอา  หัวหน้าผู้ควบคุมการสอบก็มาถาม ว่าเด็กอะไรทำไมมีความคิด  อยากบวชไปทำไม มีวัตถุประสงค์อะไร  ท่านตอบไปดี ๆ  เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาอะไรต่างๆ อย่างที่เราได้ยินได้ฟังกันมา  เกิด กุศลศรัทธาขึ้นมา เปิดโอกาสให้สอบ  แล้วภารกิจต่าง ๆ ก็เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้นอย่างที่เราได้ทราบที่ผ่านๆ มา  ไปเดินทางเท้าเปล่าข้ามไปอินเดีย ไปอินเดีย 18 ปี  เรียนภาษาสันสกฤต 5 ปี แตกฉานในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บันทึกไว้เป็นภาษาสันสกฤต แล้วก็เมื่อพระเจ้าศีลาทิตย์ ใช่มั้ยจ๊ะ ประชุมศาสนาทุกศาสนา แล้วก็มีการแสดงธรรม  มหาวิทยาลัยนาลันทาส่งท่านเป็นภิกษุรูปเดียวไปแสดงธรรม  แล้วก็ประกาศว่าใครจะคัดค้าน โต้แย้งหัวข้อที่ท่านแสดงธรรมไปนั้น ก็ขึ้นมา เปิดโอกาส แต่ 18 วันที่ประกาศไปนั้นก็ไม่มีผู้ใด  เวทีก็ว่างเปล่า แสดงว่าท่านทำลายข้อสงสัยของทุกคน ดวงปัญญาของท่านครอบคลุมดวงปัญญาของนักบวชทั้งหลาย หรือผู้รู้ทั้งหลายในแผ่นดินนั้นทั้งหมดเลย  พระราชาก็อาราธนาให้ท่านอยู่ แต่ท่านไม่ยอมอยู่ เพราะมีมโนปณิธานว่ามาเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎก  ศึกษาให้แตกฉานแล้วก็จะรวบรวมไปแปลที่โน่น  ในที่สุดก็กลับไปแปล ใช้เวลาถึง 19 ปี  เดินทางเมื่ออายุ 26 อยู่อินเดียอีก 18 กลับไปแปลอีก 19  รวมแล้วก็ 60 กว่าปี หลังจากแปลเสร็จ อีกไม่กี่ปีท่านก็มรณภาพ  พอมรณภาพ เมื่อพระศาสนาตั้งในแผ่นดินจีนได้แล้ว นับจากปัจจุบันขึ้นไป 1,300 ปี  สังขารของมนุษย์ก็มีข้อจำกัด  ใช้ไปเพื่อการนี้ทั้งหมด  มันก็ถึงเวลาต้องเสื่อมสลาย แตกสลายกันไป  เมื่อท่านมรณภาพแล้วนี่  ขบวนอัญเชิญท่านเทวดาอลังการจากพื้นโลกมนุษย์จนถึงสวรรค์ชั้นดุสิต  กลับวิมานเดิมใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าเดิม บริวารก็เพิ่มขึ้น  อยู่ในวงของนิยตโพธิสัตว์  ที่ได้รับพยากรณ์แล้วว่าต่อไปจะต้องเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตพระองค์ หนึ่ง กำลังปลื้มปิติในผลบุญที่ท่านทำผ่านมา แต่นั่นคือ 1,300 ปี  แต่นับจากนี้ถอยหลังไป 500 ปี  ก็มีการปลอมพงศาวดาร  โดยเอาเรื่องไซอิ๋ว 《西游记》 มาผสม  ด้วยความตั้งใจดีของท่านอู๋เฉิงเอิน(吴 承恩)ที่ไม่ประสบความสำเร็จของชีวิตทางโลก  ก็เลยมาเอาดีทางการเขียนวรรณกรรมแล้วก็มาผนวกกัน โดยเจตนาดีที่จะให้เป็นบทเรียนที่จะศึกษา แล้วคนก็สนใจศึกษาด้วย  เพราะว่าพระถังซัมจั๋งที่ท่านถ่ายทอดมาน่ะ  มันเป็นวิชาการ คนเค้าไม่ค่อยอ่าน  พอมันผสมไซอิ๋วเข้าไป อ่านกันใหญ่เลย  อ่านไปกระทั่งเลยถือเป็นจริงเป็นจัง  ว่าที่ท่านไปอินเดียน่ะ มีหงอคง (孙悟空) ซัวเจ๋ง (沙和尚) ตือโป๊ยก่าย (猪八戒)ไปกันด้วย ก็เลยไปกันใหญ่  ซึ่งก็ไปบดบังภูมิธรรมภูมิรู้  มโนปณิธาน ความยิ่งใหญ่ของท่านพระถังซัมจั๋ง หมดไปเลย  คนเนี่ย รู้จักพระถั๋งซัมจั๋งนิดเดียว แต่รู้จัก 3 อันนั้นมากกว่า  ในที่สุดก็มีเจ้าพ่อเห้งเจีย มีศาลเจ้าพ่อเห้งเจียขึ้นมา แล้วมีคนนับถือเรื่อย ๆ กันมาเลย  เพราะฉะนั้น ของควรกับของไม่ควรมันก็ไม่ควร พระถังซัมจั๋งเป็นของควรอยู่ในที่บูชา  เอาของไม่ควรที่เป็นวรรณกรรมไปผสม มันก็ไม่ควร  เพราะงั้นรุ่นนี้ 1,300 ปีมาจนถึงปัจจุบันนี้  จึงมีเรื่องเทพเจ้าเข้ามาผสม  ทำให้ความสำคัญของพระถังซัมจั๋งน้อยลงไป   ที่จริงเราควรยกท่านไว้อยู่บนหิ้งบูชาที่สูงส่ง  เพราะท่านมีคุณูปการต่อประเทศจีนมาก   ต่อชาวพุทธมาก  จำนวนวัดในแผ่นดินจีน ก่อน 60 ปีนี้ มีเป็นแสนวัด  ภิกษุนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงว่ามีประมาณเท่าไหร่  มันถึงยุคที่เราจะต้องเทิดทูน  ท่านก็จะได้มองด้วยทิพพจักขุจากสวรรค์ชั้นดุสิตมา ว่าเออ ท่านไม่ได้เหนื่อยฟรี ในการที่ได้ลงมาในคราวนั้น บวชตั้งแต่ยังเยาว์วัย  ศึกษาธรรมะอยู่ 5 ปีอยู่ที่วัดต้าเฉิน  อายุ 26 ก็เดินทางด้วยเท้าเปล่า เสี่ยงราชภัยจากการถูกประหารชีวิต  ไปตามลำพัง  แม้พรหมแดนติดกัน แต่การเดินทางมันใกล้ตา แต่ไกล...งั้นแหล่ะ คือมันมองเหมือนใกล้นิดเดียว แต่เดินมันไกล เราควรเทิดท่านไว้ที่สูง  ตอนนี้ท่านก็อยู่ที่ดุสิตบุรี  นี่ก็เป็นนิยายปรัมปรา     สาธุ...

  

    ( สำหรับประวัติและรายละเอียดของท่านภาคภาษาไทย อาจอ่านได้จาก http://www.mcu.ac.th...p?ct=1&t_id=131
 



#17 Mind Good

Mind Good
  • Members
  • 39 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 January 2014 - 02:22 PM

Download Video ฝันในฝัน 9 มี.ค.49

http://download.dmc....490309.wmv.html


ดาวน์โหลดธรรมะฟรี ขอบคุณ Drive Google + ควรใช้เบราเซอร์ Google Chrome

https://drive.google...E&usp=drive_web


#18 Mind Good

Mind Good
  • Members
  • 39 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 January 2014 - 02:58 PM

ผมชอบลายเซ็นคุณ :D

"sun of peace"

จะครองเรือนไปสักกี่ร้อยปีก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเค้าทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้


ดาวน์โหลดธรรมะฟรี ขอบคุณ Drive Google + ควรใช้เบราเซอร์ Google Chrome

https://drive.google...E&usp=drive_web