ไปที่เนื้อหา


about

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 Feb 2008
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Jul 07 2009 01:13 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

เรื่องเล่าสู่กันฟัง

17 February 2009 - 07:37 PM

วันนี้ไปเสนองานกับลูกค้า และจะนำใบเสนอราคาไปให้ลูกค้าเซ็นต์ ซึ่งตอนแรกที่คุยรายละเอียดกันทางโทรศัพท์ เราก็ไม่รู้ว่า บริษัทลูกค้าทำเกี่ยวกับอะไร

พอขับรถไป ฝ่ารถติดนานนับชัวโมง พอเห็นโลโก้เบียร์หน้าบริษัท เราก็ไม่อยากเข้าไปเลย เพราะรู้แล้วว่าบริษัทนี้ทำเกี่ยวกับอะไร แต่ก็ไหนๆมาถึงแล้ว เข้าไปคุยดูเผื่อสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด


พนักงานแต่ละคนก็ดูอายุยังน้อยๆ เพิ่งจบใหม่ ทำงานซะยุ่งเชียว วิ่งกันหัวฟู งานเยอะมาก

เราถามลูกค้าคำแรกเลยว่า บริษัทฯนี้ทำเกี่ยวกับอะไร ใช่เลย จริงด้วย เป็นบริษัทนำเข้าเบียร์จากเยอรมัน เราก็เลยบอก
ไปว่า บริษัทฯเราไม่มีนโยบาย ขายสินค้าหรือบริการต่างๆ ให้กับ บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกบริษัท ต้องขอโทษจริงๆ
(เจ้านายใหญ่ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ก็บอกกับพนักงานของเขาอย่างฉุนเฉียว ว่า next time please select the famous supplier
not the small one, it 's not acceptable that they refused my order)

เราไม่รู้สึกเสียดาย order เลย ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย รู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่รู้ก่อน

แม้ว่าเราเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เราก็มีศักดิ์ศรี ธุรกิจต้องห้าม ผิดหลักจริยธรรม เราไม่ขาย

(เราไม่กล้าจอดรถบริเวณหน้าบริษัทเลยนะ ต้องจอดใกล้ๆแล้วเดินเอา เพราะรถเรามีองค์หลวงปู่ มีป้าย DMC ไม่ควรไปจอดในบริษัทฯนี้เป็นอย่างยิ่ง)

เลยนำเรื่องดีๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ




เจ้านายแปลกๆ

31 January 2009 - 06:57 PM

มีเพื่อนคนหนึ่ง ตั้งใจทำงาน มาโดยตลอด อายุงานประมาณ 4 ปี แต่ปีนี้เจ้านายไม่ให้โบนัส เพราะ สัปดาห์หน้าบริษัทฯจะพาไปเที่ยว แต่เพื่อนไปไม่ได้ เพราะติดวันมาฆบูชา ต้องมาวัด เจ้านายเลยไม่ให้โบนัสเพราะไม่พอใจที่ปฏิเสธการไปเที่ยว (บรรยากาศในที่ทำงานตอนนี้ คงอึดอัดน่าดู)

มีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ

แต่ครั้งนี้อาจเป็นบุญของเพื่อนก็ได้ ที่เข้าวัดมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ จนถึงวันนี้ก็ 13 ปี แล้ว อาจเป็นช่องทางให้ได้ทำธุรกิจของตัวเอง มีโอกาสมาวัดทำบุญ สร้างบุญบารมี โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ เหมือนที่ผ่านมา เพราะจะมาวัดงานบุญใหญ่แต่ละครั้ง ต้องลุ้นว่าเจ้านายจะให้ลาหรือไม่

อยากรู้ว่าเจ้านายแบบนี้จะมีได้รับวิบากกรรมอะไรมั้ยคะ ที่ถามเพราะ

1. เจ้านายคนเดียวกันนี้ บอกให้เพื่อนนำพระพุทธรูป และ หลวงปู่ กลับบ้านให้หมด เหตุผล เพราะของเจ้านายก็คือ ในบริษัทเดียวกัน ควรมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งเพียงที่เดียว คือห้องเจ้านาย นอกนั้นให้นำกลับบ้าน

2. เจ้านายคนนี้เหมือนกัน ที่ ไม่ค่อยอนุญาตให้ลา เวลามีงานบุญใหญ่

3. และเจ้านายคนนี้แหละ ที่เคยไม่ให้โบนัสเพื่อนคนเดิม เหตุผล เพราะ ลาไปดูอาการแม่ ซึ่งป่วยประมาณ 2 สัปดาห์ และ เสียชีวิตลง รวมจัดการงานศพก็ประมาณ 3 สัปดาห์


แต่เพื่อนเป็นคนเข้มแข็ง และค่อนข้างเข้าใจในชีวิต แม้จะเจออุปสรรค ก็ยังตั้งใจมาวัดได้ทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถึงแม้ไม่ได้โบนัส เหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ยืนยันที่จะไปร่วมงานวันมาฆบูชาที่วัด ไม่ไปเที่ยวเหมือนเดิม

(ถ้า กระทู้นี้ไม่เหมาะสม ลบทิ้งได้เลยนะคะ)


ขอสอบถามเรื่องอยู่ธุดงค์ปีใหม่

15 December 2008 - 05:48 PM

ขอสอบถามเรื่อง ธุดงค์ปีใหม่หน่อยนะคะ มีกำหนดการคร่าวๆ มั้ยคะ

เอาบุญมาฝากค่ะ ไปทอดกฐินที่ผาซ่อนแก้ว

29 October 2008 - 02:59 PM

วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไปปฏิบัติธรรมที่ผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์มาค่ะ อยู่ใกล้เขาค้อ หลวงพ่อเจ้าอาวาส มีดำริที่จะสร้างพระเจดีย์ ให้อยู่คู่กับพระพุทธศาสนา ไปอีก หลายพันปี (เราชอบเพราะคำสอนของหลวงพ่อเจ้าอาวาส เหมือนกับคำสอนของวัดหลายอย่างๆ) ไปร่วมสร้างพระเจดีย์ด้วยค่ะ จึงนำบุญมาฝาก

หมาขี้เรื้อน สอนดีนะอยากให้อ่านกัน

20 May 2008 - 02:13 PM

Subject: Fw: หมาขี้เรื้อน--- สอนดีนะอยากให้อ่านกัน

ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมือง
นอก
ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว
ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน
พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย
เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน...

แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน
ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด
และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ
วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือน
อย่างตน
ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย
ไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่

ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็น ก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่า
จะสิ้นสุดยุติได้ก็
นั่งจนขาเป็นเหน็บชา
ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำาจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้

โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้...ถือดีว่าตัวเอง

มีชาติตระกูลสูง
มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น
ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้าน ชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด
มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู นึกแล้วก็ยิ้ม
กระหยิ่มอยู่ในใจ

กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลังรอวัน
สึกด้วยใจจดจ่อ
อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่
ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง
วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้)
สอนก็ไม่สอน
การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง

เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่ง เพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าว
ไกลมามากแล้ว
ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก
อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้
หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้น เทศน์ให้
มากขึ้น
และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงาน อย่างการซักจีวรเอง เป็นต้น ด้วยตน
เอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า

เย็นวันนั้นเป็นวันพระ 15 ค่ำ หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลาน
ทรายด้วย

ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลาย
ฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน
อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่ม
สามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่
อยู่ใกล้ๆ

เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว

ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไป-มาทั้งวัน
เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นาน...เพราะมัน
คัน
แต่พวกเธอรู้ไหม...เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน

เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า...
เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก
พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่าได้เวลาภาวนา
หลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้วขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น

ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบแต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง

นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมา...จับผิดตัวเอง

เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัว
ท่านก็ยังไม่ยอมสึก
'อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสัก 1
พรรษา'
โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถ พลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่า

คำว่า 'หมาขี้เรื้อน' ของพระลูกชาย หมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ?
ถ้าเรายังเป็น 'โรคอยู่ในใจ' ไม่ว่า เราย้ายงานไปที่ไหน เราก็บ่นว่าสถานที่เหล่านั้น
สกปรก สิ้นดี


**********************************************************
*
ขอบุญจากธรรมทานนี้...จงถึงแก่นายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและ
ครอบครัวที่มาถึงตัวทุกภพภูมิ
ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
หากไม่ถึงเพียงใด...ขอให้คำว่าไม่มี ไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า

ขอให้เกิดในภพภูมิ เขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ลึกซึ้ง
ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ.