ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

“อาหลงตี๋น้อย 6 ขวบ” ติดเอดส์ผู้โดดเดี่ยวกับ “ชีวิตพลิกผันชั่วข้ามคืน”


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 phani

phani
  • Admin_Article_VDO
  • 425 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 11 October 2014 - 01:40 PM

“อาหลงตี๋น้อย 6 ขวบ” ติดเอดส์ผู้โดดเดี่ยวกับ “ชีวิตพลิกผันชั่วข้ามคืน”
 
แนบไฟล์  3.jpg   46.67K   22 ดาวน์โหลด
 
 “อาหลง” เด็กน้อยวัยหกขวบ ซึ่งติดเชื้อไวรัสเอชไอวี อาศัยอยู่ตามลำพังในหมู่บ้านหนิวเชอผิง เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง หลังจากพ่อแม่ของเขาตายจากไปด้วยโรคเอดส์ ชีวิตกลับพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน
 หลังจากผู้สื่อข่าวเผยเรื่องราวของเขาจนธารน้ำใจจากทั่วสารทิศก็ไหลหลั่งมาไม่ขาดสาย  เรื่องราวชีวิตของ “อาหลง”
หากลองตั้งคำถามว่า “ตอน 6 ขวบ เราอยู่อย่างไร” คำตอบคงเทียบไม่ได้กับชีวิตของ “อาหลง” เด็กน้อยที่ต้องเตรียมอาหารซักผ้า เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ด้วยตัวเอง ตลอดจนงานต่าง ๆ อาหลงก็ต้องรับผิดชอบดั่งคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พ่อแม่ของอาหลง ได้สร้างบ้านก่ออิฐไว้ในแถบภูเขาและอาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงแก่กรรมไปทีละคน ปล่อยให้อาหลงอาศัยอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ชาวบ้านในละแวกนั้นแวะเวียนมาช่วยเหลืออาหลง เช่นนำอาหาร เสื้อผ้า และผ้าห่ม มามอบให้บ้าง
 
แนบไฟล์  A9914442-81.jpg   94.85K   16 ดาวน์โหลด
 
 กระนั้น อาหลงก็ใช่ว่าจะไม่มีญาติเสียเลย อาหลงยังมียายและลุงแท้ๆ ซึ่งยายมักจะนำผักสดมาประกอบอาหารให้อาหลงกินเป็นประจำ เมื่อผู้สื่อข่าวถามยายว่า “ทำไมยายไม่มาอยู่ดูแลหลานถาวรไปเลย”  หญิงชราวัย 84 ได้แต่อ้ำอึ้ง และให้คำตอบว่า “ฉันกลัวที่จะต้องอยู่ที่นี่” นักข่าวถามต่อว่า “ให้อาหลงไปอยู่กับลุงไม่ได้หรือ”
หญิงชรากลับให้คำตอบด้วย “ความเงียบ”
 
แนบไฟล์  guangxi-china-aids-hiv-orphan-15.jpg   206.48K   18 ดาวน์โหลด
 
ตั้งแต่พ่อแม่ของเขาจากไป มีหลายคนต้องการอาหลงไปอุปการะ แต่พอผลตรวจเลือดออกมาว่าอาหลงติดเชื้อเอชไอวี คนเหล่านั้นก็เปลี่ยนความคิดทันที เด็กน้อยไม่ประสาด้วยซ้ำว่าอะไรคือ “โรคเอดส์” เขารู้เพียงว่าเพื่อนๆ ไม่ยอมเล่นกับเขา โรงเรียนก็ไม่รับเขาเข้าเรียน หมอก็ไม่กล้าจะฉีดยาให้เขา และแม้แต่ยายคนเดียวของเขาก็ไม่ยินดีที่จะอยู่ด้วย
 แต่โลกนี้ก็ไม่ได้มืดมนเสียทีเดียว อาหลงยังมีเพื่อนที่ดีที่สุดที่ยอมเล่นกับเขามันคือหมาดำชราตัวหนึ่ง นามว่า “เหล่าเฮย” เหล่าเฮย อยู่กับอาหลงมานาน ตั้งแต่เขาจำความได้ นอกจากนั้นยังมีเด็กหญิงแซ่เหลียงอีกคนแวะเวียนมา
 เล่นเป็นเพื่อนอาหลงบ่อยครั้ง  เหลียงบอกกับผู้สื่อข่าวว่า“พ่อแม่ของเธอไม่ยอมให้เธอมาเล่นกับอาหลง เพราะกลัวเธอติดเชื้อ” ขณะที่อาหลงบอกผู้สื่อข่าวว่า “เพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันไม่มีใครอยากเล่นกับผม ผมไม่อยากออกไปไหนทั้งนั้น”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการหมู่บ้านอนุมัติค่าครองชีพพื้นฐานให้แก่อาหลงเดือนละ 350 บาท รวมกับเงินบริจาคอื่น ๆ แล้วก็ยังห่างไกลกับคำว่า“พอประทังชีวิต”แต่ก็ยังดีที่ปีหน้า เงินที่อนุมัติจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 บาท เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเมืองหลิ่วโจวกล่าวว่า เขาสามารถให้ยาอาหลงได้ฟรีแต่นอกนั้นเขาทำอะไรไม่ได้  ครูใหญ่แซ่เฉิน ของโรงเรียนซึ่งอาหลงเคยเรียนมาก่อนกล่าวว่า“ผมถูกกดดันอย่างมาก ที่อนุญาตให้อาหลงเข้าเรียน”
 
แนบไฟล์  7.jpg   39.93K   10 ดาวน์โหลด
 
ยายของอาหลงพยายามนำอาหลงไปโรงเรียนเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้ปกครองนักเรียนคนอื่น ๆ ร่วมกันร่างจดหมายประท้วงไม่ให้อาหลงเข้าเรียน ท้ายที่สุด ครูใหญ่ก็ต้องยอมจำนนต่อเสียงผู้ปกครองส่วนใหญ่
 เจ้าหน้าที่องค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับเด็กกำพร้าโรคเอดส์ในเมืองหนันหนิง เมืองเอกของมณฑลก่วงสี กล่าวว่า“จะหาสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าให้อาหลงไปอยู่” แต่นั่นก็มิใช่ความปรารถนาของอาหลง
 เจ้าหน้าที่ทิ้งท้ายว่า“หากอาหลงมีญาติที่คอยดูแลเอาใจใส่ และให้ความอบอุ่นนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีความอบอุ่นใดจะมาทดแทนความอบอุ่นจากครอบครัวได้”
 
แนบไฟล์  125_82653_2835030b8ec6b9a.jpg   24.84K   22 ดาวน์โหลด
 
ชั่วข้ามคืน ชีวิตก็แจ่มใสขึ้นมา ดุจ “ฟ้าหลังฝน” เมื่อวันที่ 5 เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเรื่องราวของอาหลงได้เผยแพร่ลงสู่หนังสือพิมพ์ ชาวเมืองหลิ่วโจว จากเขตปกครองตนเองก่วงซี (กวางสี)จำนวนมากได้มาเยี่ยมเยียน บางคนถึงกับตามหาบ้านของอาหลงด้วยตนเอง บางคนก็ฝากอาหารและของเล่นมากับนักข่าว
 วันนั้นมีคนใจดีส่งทั้งอาหารและของเล่นมาให้มากมายเกือบเต็มห้อง ครูในโรงเรียนก็นำข่าวดีมาบอกแก่อาหลงว่า กลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้แล้ว ตกกลางวัน ยายจึงส่งเขาไปเรียนหนังสือ “โรงเรียนเป็นสิ่งเดียวที่จะพรากความเปลี่ยวเหงาออกจากใจเด็กน้อย”
ถัดจากนั้นอีกวันผู้คนมากหน้าหลายตาก็นำข้าวของมายังบ้านอาหลง หน้าบ้านของอาหลงเต็มไปด้วยรถราน้อยใหญ่ ชาวเมืองบางคนถึงกับถึงกับซื้อของใหม่มาให้ อาทิ มีดทำครัว บางคนถึงกับซื้อชุดเครื่องครัวใหม่ยกชุดมา
 มอบให้ บ้างก็ซื้ออ่างล้างจานใหม่ บ้างก็นำของเล่นและหนังสือมาให้
 
แนบไฟล์  A9914442-125.jpg   48.17K   12 ดาวน์โหลด
 
 ชายผู้หนึ่ง แซ่โจว โทรมาสอบถามนักข่าวที่อยู่บ้านของอาหลงว่า“ตอนนี้ผมอยู่ที่ศูนย์การค้า ไม่ราบว่ามีคนซื้อโทรทัศน์ไปให้อาหลงหรือยัง  หากไม่มีผมจะรับซื้อไปให้ทันที”1 ชั่วโมงต่อมา ชายแซ่โจวก็นำโทรทัศน์เครื่องใหม่ พร้อมกล่องรับสัญญาณมาติดตั้งให้ ทันทีที่เห็นโทรทัศน์เครื่องนี้ อาหลงก็ดีใจอย่างยิ่ง เพราะจะได้ดูรายการโปรดแล้ว
 มื้อเที่ยงของวันนี้ไม่เหงาเหมือนเคย สาว ๆ หลายคนมาทำอาหารแสนอร่อย ให้อาหลงเป็นกับข้าว 3 อย่าง และน้ำซุปหนึ่งชาม แม้จะเป็นอาหารที่แสนธรรมดา แต่ก็ถือว่าเพียบพร้อมบริบูรณ์ที่สุดที่อาหลงเคยกิน ขณะที่กินอาหาร 
 ทุกคนก็กินพร้อมกับอาหลงโดยไม่มีใครรู้สึกว่าอาหลงเป็นโรคติดเชื้อใดๆทั้งสิ้น
 เนื่องจากอาหลงยังเด็กเกินไป และยายก็อายุมากแล้ว เพื่อความปลอดภัยของเงินบริจาค พนักงานดูแลของคณะกรรมการหมู่บ้าน จึงเปิดสมุดบัญชีเงินฝากในชื่อของคุณยาย พร้อมทั้งทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้
 
แนบไฟล์  12.jpg   49.36K   14 ดาวน์โหลด
 
 ส่วนอนาคตข้างหน้าต่อไปนั้น ชีวิตอาหลงจะดำเนินไปอย่างไร สภาพของเขาก็ไม่ต่างจากประชาชนจีนที่ติดเชื้อเอชไอวีทั้งหลายที่อาจถูกปฏิเสธการอยู่ร่วม ทว่าหลายๆ คนอาจไม่โชคดีอย่างอาหลงที่ชีวิตพลิกผันด้วยรักและความเข้าใจ
(อ่านไปก็นึกไปว่าอาหลงทำกรรมอะไร  เชื้อเอชไอวี ไม่น่าจะพ้นผิดศีลข้อ 3 แล้วบุญอะไรที่มีคนแห่กันมาช่วยเหลือ  แต่เอ มันเป็นการแก้ปลายเหตุหรือเปล่า  ที่หลวงพ่อพยายามสอนให้คนรักษาศีล 5 เป็นปกติ  ถ้าไม่ผิดศีลกัน  เวรกรรมก็เล่นงานไม่ได้ แต่อาหลงนี่ยอดนักสู้ตัวจริง เด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้โชคชะตาชีวิต)