ปะการังรีสอร์ท
กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
1/1/48
กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
1/1/48
เจ้าของเคสเกิดในครอบครัวชนบท จังหวัดพังงา มีพี่น้องด้วยกัน 5 คน เจ้าของเคสเป็นลูกชายคนเดียวและคนสุดท้องของครอบครัว ในวัยเด็กเจ้าของเคสและพี่ๆ ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อแม่เพราะพ่อแม่เจ้าของเคสส่งลูกๆ รวมทั้งเจ้าของเคสไปเรียนหนังสือที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วเจ้าของเคสได้มารู้จักวัดพระธรรมกายและเขาก็ได้สร้างบารมีอย่างเต็มที่ เช่น บวชธรรมทายาทรุ่นที่ 24 บวชรุ่น 59 ปีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ บวชสามเณรแก้ว บวชอุบาสกแก้ว ทำหน้าที่ผู้นำบุญ ผู้นำรถ และติดตั้งจานดาวธรรม และเจ้าของเคสได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้กับทุกคนในบ้านครบทุกคน ตลอดจนถึงชวนญาติพี่น้องให้ได้มาสร้างบารมีด้วย
ปัจจุบันก็ได้มีญาติห่างๆ ของเจ้าของเคสคนหนึ่งมีศักดิ์เป็นน้า เขาเป็นเจ้าของรีสอร์ทและได้มามีโอกาสร่วมทำบุญกับหมู่คณะด้วย เจ้าของเคส พี่สาวและพ่อก็ได้ทำงานอยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้ รีสอร์ทนี้อยู่ที่แหลมปะการัง อ. เขาหลัก จ. พังงา มีชื่อว่า “ปะการังรีสอร์ท” ซึ่งหลายคนคงรู้จักดีเพราะญาติของเจ้าของเคสเคยอนุญาตให้หมู่คณะมาใช้ปฏิบัติธรรมหลายครั้ง และญาติของเจ้าของเคสก็ให้การสนับสนุนการปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ทำให้จัดได้ในราคาที่ต่ำมาก เอาเพียงแค่พออยู่ได้เพราะต้องการสนับสนุนการปฏิบัติธรรม และหวังว่าพ่อแม่ของญาติเจ้าของเคสซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินจะได้รับบุญนี้ด้วย
เจ้าของเคสและพ่อทำงานอย่างใกล้ชิดกับญาติผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้มาก เรียกว่าไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นอย่างดี พ่อของเจ้าของเคสเดิมก็มีอาชีพทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นคนมีฐานะ ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านและก็ลาออก พ่อเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในละแวกนั้น แต่ท่านมีนิสัยชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนันเป็นประจำ ซึ่งเจ้าของเคสก็พยายามเตือนพ่อหลายครั้ง พ่อบอกว่าพ่อก็รู้แต่ก็อดไม่ได้
ในวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 วันที่เกิดคลื่นยักษ์ถล่มนั้น เวลาประมาณ 10.00 น. พ่อและเพื่อนๆ ของพ่ออีกประมาณ 4 คนกำลังทำงานอยู่ในปะการังรีสอร์ท ได้เห็นเหตุการณ์น้ำลดลงอย่างฉับพลัน รู้สึกว่าเป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์แปลกประหลาด จึงเดินลงไปดูในทะเล เดินไปได้ประมาณ 100 เมตรจากฝั่ง คลื่นก็ได้ก่อตัวขึ้นมาประมาณ 2 – 3 เมตร แล้วก็ค่อยๆ สูงขึ้นประมาณ 10 เมตร โถมเข้าใส่ทุกคนทะลักเข้าไปในรีสอร์ท ทำให้บังกะโลที่มีอยู่ถูกน้ำทะเลกวาดไปเกลี้ยง บ้าน 2 ชั้นที่มีอยู่เหลือเพียงโครงกำแพง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ประตู หน้าต่างที่หลุดไปได้ ก็หายไปกับสายน้ำ พนักงานที่มาทำงานส่วนใหญ่ตายหมด สภาพชายหาดถูกน้ำพัดลึกเข้าไปไม่ต่ำกว่า 3 กิโลเมตร มองมาจากภูเขาแล้วเหมือนชายหาดทั้งหมดได้หวนกลับคืนสู่สภาพธรรมชาติที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ หวนกลับไปที่เดิม
หลังจากคลื่นสงบลงแล้ว คุณพ่อของเจ้าของเคสก็ได้สูญหายไป ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ของพ่อปลอดภัย เจ้าของเคสตามหาพ่อประมาณ 2 วันจึงพบว่า พ่อตกอยู่ในสภาพเกาะโคนต้นมะพร้าวแน่น ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าของเคสเคยจอดรถเพื่อหาพ่อแต่มองไม่เห็น เจ้าของเคสคิดว่าพ่อคงจะเสียชีวิตทันทีในวันเกิดเหตุ รวมอายุได้ 56 ปี ในคืนที่ 5 นับจากวันที่เสียชีวิตที่บ้านได้กลิ่นเหม็นแรงมาก เจ้าของเคสและพี่ๆ เข้าใจว่าพ่อคงมาหา
ส่วนปะการังรีสอร์ทที่เจ้าของเคสและพ่อทำงานอยู่นั้นโดนคลื่นน้ำทะเลทำลายจนหมดตลอดถึงโรงแรมของพี่สาวของญาติเจ้าของเคสที่อยู่ติดกันซึ่งเพิ่งเปิดดำเนินการได้แค่ 2 เดือน และของน้องชายญาติเจ้าของเคสซึ่งกำลังจะเปิดดำเนินการก็โดนด้วยเช่นกัน ทำให้ครอบครัวของญาติเจ้าของเคสมีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
ส่วนตัวของญาติเจ้าของเคสที่เป็นเจ้าของปะการังรีสอร์ทนั้นปกติจะขยันไปรีสอร์ทแต่เช้า แต่วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ เขาคิดว่าไม่อยากจะรีบเข้าไป เหมือนมีอะไรมาดลใจเขาก็ไม่ทราบ เขาพักอยู่จนสายแล้ว พี่สาวของเขาที่ทำธุรกิจโรงแรมที่หาดกะรนที่จังหวัดภูเก็ตได้โทรมาบอกว่า ให้รีบมาช่วยกันหน่อย เพราะตอนนี้โรงแรมที่ภูเก็ตถูกคลื่นน้ำทะเลพัดเข้ามาเสียหายใหญ่แล้ว ญาติเจ้าของเคสจึงคิดถึงปะการังรีสอร์ทแล้วก็รีบเข้าไปดูรีสอร์ททันที ตัวญาติของเจ้าของเคสจึงรอดมามาได้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างนั้นด้วย
มีพนักงานระดับบริหารอยู่คนหนึ่งเป็นชาวสิงคโปร์ เพิ่งจ้างมาบริหารโรงแรมได้ประมาณ 3 เดือน ในเช้าวันเกิดเหตุเขาเล่าว่าเมื่อเขาเปิดโต๊ะทำงานขึ้นมาก่อนเกิดเหตุไม่กี่วินาที เขาได้พบองค์พระอยู่ภายในโต๊ะ ซึ่งน่าแปลกตรงที่ว่าตั้งแต่ทำงานมา เขาไม่เคยเห็นองค์พระนี้มาก่อน เหมือนเป็นนิมิตหมายที่ดีให้กับเขา เขาจึงได้หยิบใส่กระเป๋าไว้ แต่วันนั้นเขาไม่ค่อยสบาย ปวดศีรษะ จึงไปหายากินและขึ้นไปนอนพักบนชั้น 2 ของโรงแรม มารู้ตัวอีกทีก็มีน้ำทะลักไหลเข้ามาในห้องจนถึงเพดาน จนเกือบไม่มีช่องอากาศให้หายใจ ผู้จัดการท่านนี้จึงกลั้นใจดำน้ำออกมาภายนอกอาคาร และได้เจอกับแผ่นไม้แผ่นหนึ่งลอยมาจึงเกาะแผ่นไม้นั้นไว้ และได้ใช้ไม้แผ่นนั้นช่วยชีวิตพนักงานไว้ได้อีก 3 – 4 คนด้วย
ฝันในฝัน
1. พ่อของเจ้าของเคสมีวิบากกรรมอะไรจึงต้องมาเสียชีวิตด้วยคลื่นยักษ์ครั้งนี้ แต่ทำไมเพื่อนๆ ของท่านจึงรอดมาได้ ตอนพ่อเสียชีวิตใหม่ๆ พ่อรู้สึกอย่างไร ตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง และรู้ตัวหรือยังว่าตายแล้ว พ่อมีอะไรฝากถึงลูกๆ หรือไม่ กลิ่นเหม็นที่ได้รับเมื่อตอนกลางคืนนั้นใช่กลิ่นของพ่อหรือไม่ ถ้าใช่ พ่อมาเพื่อต้องการอะไร
ตอบ พ่อของเจ้าของเคสเสียชีวิตเพราะคลื่นยักษ์ครั้งนี้ แต่เพื่อนๆ รอด เพราะกรรมในอดีตพ่อเป็นชาวประมงได้ทำปาณาติบาต จับปลาเอาไว้เยอะ เมื่อกรรมตามมาส่งผล ก็ทำให้อายุสั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่ประสบภัยคลื่นยักษ์จนกระทั่งต้องเสียชีวิตเพราะกรรมปาณาติบาตทั้งนั้น ส่วนเพื่อนที่รอดเพราะกรรมปาณาติบาตของเขาเบาบางลงแล้ว จึงไม่ตายแค่ให้อกสั่นขวัญแขวนเท่านั้นเอง ตอนเสียชีวิตใหม่ๆ พ่อของเจ้าของเคสก็ตระหนกตกใจ เมื่อน้ำลดลง ท่านก็เห็นศพตัวเอง จึงรู้ว่าตัวเองตาย ยังวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นในช่วงแรกๆ และในที่สุดก็เดินกลับมาที่บ้านอย่างอ่อนระโหยโรยแรง กลิ่นเหม็นที่ได้รับตอนกลางคืนนั้นก็คือพ่อของเจ้าของเคสนั่นเองซึ่งจิตใจตอนนั้นเศร้าหมองและก็ยังไม่ค่อยได้สั่งสมบุญมากนัก นอกจากบางครั้งบุญทำตามประเพณีเท่านั้น และก็มีอาจิณกรรมดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนันเป็นประจำ พ่อของเจ้าของเคสมาเพราะพ่อไม่รู้จะไปไหน และก็ยังทำอะไรไม่ถูกเพราะว่าใจห่อเหี่ยว คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง
2. ทำไมเจ้าของเคสถึงหาศพพ่อไม่พบ ทั้งๆ ที่อยู่ตรงจุดที่เจ้าของเคสเคยจอดรถนั่นเอง เจ้าของเคสควรจะทำบุญอะไรให้พ่อ เพื่อให้พ่อมีความเป็นอยู่ที่ดี
ตอบ เพราะความเครียดและกังวลจึงทำให้เจ้าของเคสไปหาที่ไกลๆ ก็เลยไม่ได้สังเกตดูใกล้ๆ ไม่ได้มีอะไรมาบดบัง ท่านก็อยู่ของท่านอยู่ตรงนั้น เจ้าของเคสควรทำบุญทุกบุญและก็อุทิศไปให้ท่าน โดยเฉพาะถ้าเจ้าของเคสได้บวชอีกครั้งหนึ่งจะดีมาก แม้จะบวชหลายครั้ง และตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่ให้ดีกว่าที่เคยบวชมาหลายครั้งแล้ว แล้วก็อุทิศบุญไปให้ท่าน ท่านก็จะมีสภาพที่ดีขึ้นกว่านี้ เพราะบุญที่เจ้าของเคสเคยบวชอยู่หลายครั้งช่วยปิดอบายให้ท่าน จริงๆ แล้วพ่อของเจ้าของเคสต้องไปอบาย เพราะดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนัน แต่บุญบวชของเจ้าของเคสช่วยไว้
3. ญาติที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทประกอบเหตุมาอย่างไร รีสอร์ทจึงเสียหายมากมายขนาดนี้ และควรจะทำบุญอะไร หรือควรจะแก้ไขอย่างไรเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายเช่นนี้อีก มีอะไรมาดลใจให้เขามารอดจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์นี้ได้ ทั้งที่ปกติเขาต้องไปทำงานในเวลาที่เกิดคลื่นยักษ์นี้
ตอบ ญาติที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทประสบความเสียหายมากมายอย่างนี้เพราะกรรมในอดีตเป็นพ่อค้าอยู่ในแคว้นแห่งหนึ่งซึ่งมีสงครามกับอีกแคว้นหนึ่ง ตัวเองต้องส่งภาษีและเงินพิเศษให้แก่ทางหลวงเพื่อสนับสนุนกองทัพไปรบ และก็มีจิตอนุโมทนาบาปให้แคว้นของตนคือเชียร์แคว้นของตนรบให้ชนะ ไปทำความเสียหายให้แก่อีกแคว้นหนึ่ง อันที่จริงญาติที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทจะต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย แต่บุญที่เคยทำในพระพุทธศาสนาและในปัจจุบันเคยช่วยสนับสนุนการจัดปฏิบัติธรรมหลายครั้งมาคุ้มครองเอาไว้ จึงทำให้มีเหตุให้รอดตายในคราวนี้ เพราะฉะนั้นกรรมนี้เลยทำได้แค่รีสอร์ทเสียหายมากมาย คือเสียของแต่ไม่เสียชีวิต จะแก้ไขวิบากกรรมก็จะต้องสร้างบุญทุกบุญบ่อยๆ และเป็นบุญใหญ่ๆ ให้ได้หลายๆ ครั้ง และอธิษฐานให้บุญคุ้มครอง อย่าให้ทรัพย์พิบัติด้วยภัยต่างๆ
4. พนักงานระดับบริหารชาวสิงคโปร์นั้นรอดชีวิตมาได้ด้วยบุญอะไร มีอะไรมาบันดาลให้เขามาได้พบกับกระดานที่พาชีวิตเขาให้รอดมาได้
ตอบ พนักงานระดับบริหารชาวสิงคโปร์รอดชีวิตมาได้ เพราะไม่มีกรรมปาณาติบาต และบุญที่ตัวเขาเองเคยเป็นชาวพุทธได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนา จึงทำให้บุญคุ้มครองเอาไว้ แล้วบันดาลให้เขาได้พบหนทางที่ทำให้รอดชีวิตมาได้
5. พนักงานที่เสียชีวิตหลายสิบคนส่วนใหญ่จะเสียชีวิตอยู่ในโรงแรม จะช่วยพนักงานเหล่านี้อย่างไรดีครับ และพวกเขามีบุพกรรมอะไรถึงมาเสียชีวิตในครั้งนี้
ตอบ พนักงานหลายสิบคนเสียชีวิตในโรงแรมเพราะแต่ละคนก็มีกรรมปาณาติบาตเฉพาะตัวจึงทำให้เสียชีวิต บางคนก็ทำกรรมปาณาติบาตร่วมกัน บางคนก็ต่างกรรมต่างวาระ ให้ทำบุญทุกบุญในพระพุทธศาสนา ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น แล้วอุทิศบุญไปให้ทุกๆ คนก็จะทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น
6. เจ้าของเคสและครอบครัวมีความเกี่ยวพันกันอย่างไรกับญาติผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ทจึงต้องมาเกื้อกูลกัน และก็สนิทสนมกันมาก เจ้าของเคสควรให้กำลังใจเขาอย่างไรกับความสูญเสียรีสอร์ทขนาดใหญ่ทั้งหมด
ตอบ เจ้าของเคสและครอบครัวก็เคยเป็นญาติและเป็นกัลยาณมิตรกันมากับเจ้าของรีสอร์ท และโดยส่วนใหญ่เจ้าของเคสมักจะเป็นคนชวนให้เขามาสร้างบุญร่วมกับหมู่คณะ ในอดีตที่ผ่านมารวมทั้งปัจจุบันนี้ โดยตัวเจ้าของเคสจะมีบุญชวนมากกว่าบุญทำด้วยตัวเอง คือ ชวนเค้ามาทำ แต่ไม่ค่อยได้ทำเอง ดังนั้นจึงมาเป็นเครือญาติกัน แต่เค้าทำเค้าเลยรวย แต่เจ้าของเคสก็จะมีพวกพ้องที่รวย แต่เจ้าของเคสไม่รวย เพราะว่าไม่ได้สร้างมหาทานบารมี เจ้าของเคสก็ต้องให้เขามีความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม ก็จะให้ความทุกข์ของเขาเบาบางลงว่า “เราจะต้องมีการพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นของรักเป็นเรื่องธรรมดา” ให้เขาตัดใจจากสิ่งต่างๆ ที่สูญเสียทั้งหมดแล้วให้เขาเริ่มต้นใหม่ด้วยกำลังใจอันสูงส่ง พร้อมทั้งสั่งสมบุญควบคู่กันไปด้วย อย่าไปคิดว่าบุญไม่ช่วย แบบชาวพุทธบางคนที่ไม่เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม บุญก็ช่วยไปแล้ว ทำให้เสียแค่ของ ทำให้ไม่เสียชีวิต
7. ก่อนมาเกิดเจ้าของเคสมาจากไหน ทำไมเจ้าของเคสถึงเกิดในชนบท ห่างไกลจากหมู่คณะ เจ้าของเคสเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะหรือไม่ ถ้าเคยเจ้าของเคสอยู่ฝ่ายไหนครับ
ตอบ เจ้าของเคสก็มาจากที่ที่ควรมา และก็ได้สร้างบารมีมากับหมู่คณะตลอดโดยเป็นกองเสบียง ที่ไปเกิดที่ชนบทที่ห่างไกลจากหมู่คณะเพราะบางช่วงระหว่างสร้างบารมีในภพที่ผ่านมา เจ้าของเคสน้อยใจ หงุดหงิดใจ และมีการกระทบกระทั่งกับบางคนในหมู่คณะบ้าง เลยทำให้บางครั้งแอบคิดว่าอยากไปอยู่ไกลๆ หมู่คณะ จึงทำให้บุญตกๆ หล่นๆ และก็ไปเกิดจากที่ไกลๆ ไกลจากหมู่คณะ แต่บุญที่ได้ทำกับหมู่คณะก็ได้ดึงดูดกลับเข้ามาจ้า
