ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ศั ก ย ภ า พ ม นุ ษ ย์ ที่ ส า ม า ร ถ พั ฒ น า ไ ด้ มี อ ยู่ 4 ตั ว ค่ ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Miss M@ry 072

Miss M@ry 072
  • Members
  • 84 โพสต์
  • Location:บ้านสีขาว
  • Interests:สนใจแต่ศูนย์กลางกายของเราค่ะ

โพสต์เมื่อ 17 March 2006 - 12:52 AM

ในหนังสือ ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข คุณระริน อุทกพันธุ์ จากอมรินทร์ พริ้นติ้งฯ ฝากมาส่งท้ายปีเก่า ดร.สนอง วรอุไร อธิบายถึงศักยภาพมนุษย์ที่สามารถพัฒนาได้ มีอยู่ที่ 4 ตัว

ตัวแรก..ไอคิว..ปัญญาความคิด..ซึ่งเกิดจากการฟังมาก อ่านมาก คิดมาก วิเคราะห์วิจัยมาก

ตัวสอง..อีคิว..ความฉลาดทางอารมณ์ ความฉับไวในความรู้สึกนึกคิด ที่เกิดขึ้นกับจิต ซึ่งเรียกว่าสติสัมปชัญญะ...


แม้ว่าไอคิวจะทำให้คนเก่ง แต่ชีวิตจะประสบความสำเร็จนั้น ต้องพึ่งอีคิวเป็นหลัก

ดร.โกแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคิว ระบุว่า คนที่ประสบความ สำเร็จ ใช้ความรู้ไอคิวที่เรียนมาแทบตายเพียง 20% แต่ใช้อีคิว สิ่งที่ไม่ได้เรียนมาเลยถึง 80%

สิ่งที่ต้องระวัง...ไอคิวกับอีคิวมักจะแปรผกผันกัน คนที่ไอคิวสูง อีคิวมักต่ำ

เพราะจิตเป็นทาสของอัตตา แสวงหาสิ่งต่างๆมาประดับตัวตน หาเงินมาพอกตัวตนให้ดูเด่นดีเหนือคนอื่น กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว

ยิ่งยึดติด ตกเป็นทาสของวัตถุ อำนาจ ตำแหน่ง คำอุปโลกน์ สรรเสริญเยินยอ เหมือนลิงติดตัง เสือติดจั่น อิสรภาพทางใจก็ลดน้อยไปเรื่อยๆ


ส่วนตัวสาม..เอ็มคิว เป็นส่วนหนึ่งของอีคิว..เกี่ยวกับจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรมประจำใจ เป็นตัวควบคุมการคิด การพูด การทำที่ดี

ตัวตน อัตตา ความเห็นแก่ตัว จะถูกฝังไว้ลึกลงในจิต ใต้สำนึก มีจิตสำนึกที่ดีควบคุมไว้


ดร.สนอง บอกว่า เอ็มคิวเป็นตัวกำหนดคุณธรรม หากสังคมใดมีผู้ปกครองที่มีพร้อม ทั้งไอคิว อีคิว และเอ็มคิว บ้านเมืองนั้นจะมีแต่ความสุข ความสงบ ... พัฒนาสุดๆ ทั้งทางวัตถุและจิตใจ


ตัวสี่ เอสคิว..คนที่มีเอสคิว จิตใจเป็นอิสระต่อโลก ไม่ตก เป็นทาสสรรพสิ่ง ใครด่าก็ไม่โกรธ ยกมือไหว้ และขอบคุณคนด่าได้

ได้ตำแหน่งก็รับไว้อย่างรู้เท่าทัน ทำประโยชน์ในตำแหน่งได้เต็มที่ หมดวาระก็ลุกจากเก้าอี้ได้สบายๆ ไม่ต้องหิ้วเก้าอี้ไปด้วย



*** ดร.สนองเชื่อว่า คนที่มีเอสคิว เมื่อตายก็สามารถเลือก เกิดในภพภูมิที่ดีได้ ***


#2 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 17 March 2006 - 09:53 AM

จากบทความ:
สิ่งที่ต้องระวัง...ไอคิวกับอีคิวมักจะแปรผกผันกัน คนที่ไอคิวสูง อีคิวมักต่ำ
เพราะจิตเป็นทาสของอัตตา แสวงหาสิ่งต่างๆมาประดับตัวตน หาเงินมาพอกตัวตนให้ดูเด่นดีเหนือคนอื่น กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
ยิ่งยึดติด ตกเป็นทาสของวัตถุ อำนาจ ตำแหน่ง คำอุปโลกน์ สรรเสริญเยินยอ เหมือนลิงติดตัง เสือติดจั่น อิสรภาพทางใจก็ลดน้อยไปเรื่อยๆ
ส่วนตัวสาม..เอ็มคิว เป็นส่วนหนึ่งของอีคิว..เกี่ยวกับจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรมประจำใจ เป็นตัวควบคุมการคิด การพูด การทำที่ดี
ตัวตน อัตตา ความเห็นแก่ตัว จะถูกฝังไว้ลึกลงในจิต ใต้สำนึก มีจิตสำนึกที่ดีควบคุมไว้
............................................................
อยากขอให้ระวังคำว่า "อัตตา" ในบทความนี้สักนิดค่ะ
เพราะที่ทราบมา "อัตตา" เป็นคำกลางๆ ค่ะ แปลว่า "ตัวตน" เฉยๆ
ไม่ได้มีความหมายไปในทางลบเหมือนในบทความนี้
ซึ่งทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า "อัตตา คือ ego"
เรียนถามท่านผู้รู้อีกทีนะค่ะ ช่วยให้ความกระจ่าง
ไม่อยากให้เข้าใจผิดกันไปมากกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ





#3 laity

laity
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2006 - 10:14 AM

ดีครับ เห็นด้วย
น่าจะหาคำสอดคล้องกับคำว่า ego มากกว่า อัตตา ที่ปกติมักใช้กันอยู่
อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางในชีวิตการสร้างบารมี และ
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา

โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

#4 LoveMeditation

LoveMeditation
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 March 2006 - 12:19 AM

ขอบคุณ ครับ


#5 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 04:00 PM

จากบทความ:
สิ่งที่ต้องระวัง...ไอคิวกับอีคิวมักจะแปรผกผันกัน คนที่ไอคิวสูง อีคิวมักต่ำ
เพราะจิตเป็นทาสของอัตตา แสวงหาสิ่งต่างๆมาประดับตัวตน หาเงินมาพอกตัวตนให้ดูเด่นดีเหนือคนอื่น กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนเก่งแต่ไม่เป็นคนดี ในสังคมนี้มีมากมาย สังคมจึงไม่น่าอยู่

#6 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 30 March 2006 - 02:46 PM

ไม่ขอออกความเห็นกับสิ่งที่นักวิชาการคิดค้นได้ค่ะ
เพราะว่ามันไม่ครบถ้วน และยังไม่เป็นจริงทั้งหมด

อริยบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบันถือว่าเป็นบุคคลที่เป็นอัจฉริยะที่สุด
ความรู้ความเห็นครบถ้วนจริง ถ้าเอามาเทียบกับทฤษฏีนักวิชาการก็ถูกต้องหมด

แต่นักวิชชาการรู้ไม่หมดว่าท่านมีอะไรในตัวต่างหาก

ฝึกศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้ศักยภาพทั้ง 4 ของเราพัฒนาครบถ้วนได้เอง

ยิ่งได้อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ถือว่าได้ศักยภาพสูงล้ำเหนือคน เลยทีเดียวค่ะ



The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด

#7 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 04:56 PM

เป็นความคิดที่ดี
หนูเห็นด้วยค่ะ

เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#8 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 17 October 2006 - 09:03 PM

น่าสนใจเป็นความคิดที่นะศึกษามาเลย
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี