มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[puff]

ผมต้องการบวช ช่วงปิดเทอมนี้ ตัวผมเองพึ่งจะจบ ป.โท ต้องการบวช แล้วจึงไปทำงาน แต่พ่อไม่อนุญาต พ่อให้เหตุผลว่า ยังไม่พร้อม

ท่านต้องการจัดงานใหญ่ สำหรับการบวช แต่ผมไม่ต้องการ ผมเห็นว่าการบวชไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดงานใหญ่ อาจจะไปบวช หมู่ หรือ เชิญแต่ญาติพี่น้องก็พอ และด้วยเหตุที่ต้องการจัดงานใหญ่ ทำให้ไม่พร้อมในเรื่องการเงิน

ผมเองอยากจะบวช ช่วงปิดเทอมนี้ ไม่ว่าจะเป็นบวชหมู่ หรืองานเล็กๆ ผมไม่เกี่ยงทั้งนั้น ส่วนเรื่องเงินผมก็พอจะมีเงินเก็บ อยู่บ้างซื่งพอจะออกเองได้ แต่ติดปัญหาอยู่ที่พ่อยื่นกรานว่าไม่อนุญาต

ผมได้ ปรึกษากับแม่ และพี่น้องที่บ้าน รวมถึงญาติๆ ทุกคนยินดีกับผมที่จะให้ผม บวช ยกเว้นพ่อคนเดียว ตอนนี้ผมกลุ้มใจมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร มีคนบอกว่า ให้ญาติผู้ใหญ่ เช่น ลุงรับเป็นลูกบุญธรรม แล้วให้ท่านอนุญาตให้บวช แทนพ่อได้

แต่ผมไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะผิดกฏอะไร หรือเปล่า ผมจึงอยากถามผู้รู้ในที่นี้ให้ ช่วยแนะนำ หรือแนวทางแก้ไข อื่นๆ เพราะพ่อผมเป็นคนหัวแข็ง และชอบเอาชนะ การที่จะให้ท่านเปลี่ยนความคิด เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งผม แม่ และญาติผู้ใหญ่ ที่พ่อเคารบได้ พูดคุยกับพ่อแล้ว แต่ท่านก็ยังไม่ยอมอนุญาต

[ฟ้ายังฟ้าอยู่]

ถ้าอยากจะจัดงานใหญ่ๆ ก็มาบวชที่วัดพระธรรมกายสิคะ ไม่ต้องใช้เงินเลย พาญาติมางานบวชได้เลยค่ะ มาเป็นรถบัสก็ได้ และรับรองว่า งานบวชที่วัดพระธรรมกาย ยิ่งใหญ่ อลังการมากๆ บอกได้เลยว่ายิ่งใหญ่ กว่าที่ไหนๆ ที่เคยจัดมีมาตามจังหวัดต่างๆ ด้วยค่ะ อีกอย่าง ไม่มีการเลี้ยงเหล้าเบียร์ โต๊ะจีน ให้ยุ่งยากใจ บวชแล้ว ยังได้ศึกษาพระธรรม ได้ทำพระนิพพานให้แจ้งอย่างแท้จริง ได้ฝึกตนสารพัด ไม่ต้องลองผิดลองถูกถึงวิธีการทำสมาธิแบบที่อื่น ที่เค้าให้ฝึกนั่งกันเอง เพราะที่นี่มีพระพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดในการแนะนำการฝึกสมาธิ วันละไม่ต่ำกว่า 6 ชม.แน่นอน

อีกอย่าง รับรองได้ค่ะ ว่ากลับออกไป จะกลายเป็นคนดีของสังคมจริงๆ แถมเป็นลูกกตัญญูมากกว่าเดิมเสียอีก เห็นมาหลายคนแล้วค่ะ

http://dtayat.dmdy.o...le/bujatham.htm

[Pungpa]

ทำบุญ ทำใจให้ใส

อธิษฐานสม่ำเสมอ ขอให้ได้บวชตามที่เราปรารถนา

เหมือนหนู ตอนแรกพ่อไม่อนุญาตให้มาอบรมมัชฌิมหญิงที่วัด

พระอาจารย์ที่วัดบอกว่า เราทำบุญ ทำใจให้ใสๆ ตลอด แล้วอธิษฐานสม่ำเสมอ

บุญก็จะส่งผล อย่าทำให้ใจขุ่นเด็ดขาด ไม่งั้นจะไม่สำเร็จ

ขอเป็นกำลังใจในการบวชนะคะ ขอให้ขอคุณพ่อให้ได้แล้วได้บวชนะคะ


อนุโมทนาบุญสำหรับใจที่ใสๆคิดที่จะบวชค่ะ

_/|\_ สาธุ..!!!

[สิริปโภ]

ลองสะกดคำนี้สิครับ " ช้างมาฉุดก็ห้ามไม่อยู่ "


แต่ต้องนุ่มนวลและมีเหตุผลนะครับ อย่าไปโต้เถียงท่าน เดี๋ยวจะกลายเป็นบาป

[SmilingCat]

ถ้าพ่อยังมีความคิดต่อต้านการบวชอยู่ ก็ลองอธิบายให้ท่านฟังดูก่อนว่าบวชแล้วจะได้อะไร
มีประโยชน์อะไรบ้าง เอาง่าย ๆ นะ ถ้าคุณพ่อชอบดูเทนนิส เราก็ยกตัวอย่าง ภราดร ศรีชาพันธ์
ที่ใช้ประโยชน์จากการบวช โดยการฝึกสมาธิ ทำให้ผลการแข่งขันดีขึ้น อย่างทันตาเห็น เมื่อบวช
แล้วยังได้บุญ คุณพ่อจะพอได้รับบุญไปด้วย ประเด็นที่ว่ายังไม่พร้อมนั้น คุณพึ่งเรียนจบยังไม่มี
ภาระอะไรบวชเสียก่อนจะดีที่สุด เมื่อทำงานมีครอบครัวมีภาระแล้วอาจจะไม่มีโอกาศบวชอีก
เลยก็เป็นได้ งานบวชใหญ่ที่ทำพิธีได้ถูกต้อง ก็ที่วัดธรรมกายครับจัดการอุปสมบทหมู่ ผมได้ไป
ร่วมงานบวชแล้ว ปลื้มใจมาก เรื่องค่าใช้จ่ายถ้าออกเองก็ไม่แพง การขัดใจท่านในเรื่องบวชนี้
ไม่น่าจะบาปนะ เพียงอย่าไปทะเลาะกับท่านเท่านั้นเอง ตอนหลังบวชมาท่านก็จะปลื้มไปเอง


ขอ อนุโมทนาสาธุกับการบวชด้วยครับ และขอให้คุณสามารถบวชได้สมดังใจ สาธุ ๆๆๆๆ

[laity]

ชีวิตเป็นของคุณ ถ้าคุณจะเป็นผู้นำคนต่อไป คุณต้องเริ่มตัดสินใจ ซึ่งบางครั้งต้องตัดใจจากสิ่งที่ชอบ บางครั้งอาจเจ็บปวดบ้าง อาจต้องเสียใจบ้าง แต่ถ้าการตัดสินใจนั้น อยู่บนพื้นฐานถูกต้องและดีงาม ก็ไม่ต้องกลัวจะได้รับผลที่ไม่ดี... ชีวิตเป็นของคุณ ผมว่าคุณเรียนรู้ข้อดีของการบวชมาแล้ว จึงมีคำถามแบบนี้่ขึ้นมา...

ผมไม่แน่ใจคุณใช้พ่อเป็นข้ออ้างหรือเปล่า เรื่องบวช ไม่ว่าจะใช่หรือไม่.. ถ้าคุณมีโอกาสได้บวชแล้วจงบวชเถอะครับ และอีกหลาย ๆ อย่างที่ดี ๆ ในชีวิตจะตามมา.. ผมเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ชีวิตที่เคยมีโอกาสได้บวช การบวชครั้งนั้น ซึ่งระยะเวลาหลังจากนั้น ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิง

คุณต้องตัดสินใจในอนาคตคุณด้วยตัวคุณเอง! คุณแน่ใจหรือว่า พรุ่งนี้คุณจะได้บวชเมื่อคุณอยากจะบวช! คุณแน่ใจแล้วหรือว่า คุณจะมีชีวิตถึงวันพรุ่งนี้! คุณต้องตัดสินใจในชีวิตของคุณวันนี้ ทำซะเดี๋ยวนี้นะครับ

[joey]

ให้นึกถึงบุญที่เคยทำมา แล้วอธิษฐานจิต อย่าได้มีอุปสรรคในการบวช

[laity]

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3150

[VCO]

เราก็มีพ่ออยู่คนเดี้ยว อย่าไปพยายามเลี่ยงบาลีโดยการหาพ่อบุญธรรมอะไรทำนองนั้นเลยค่ะ คุณพ่อท่านรักท่านเป็นห่วงหนะ... ค่อย ๆ ปรับความเข้าใจดีกว่า อย่าทำให้ท่านเสียใจเลยค่ะ ท่านควรจะใจใสและได้มีส่วนอนุโมทนาบุญด้วยความปิติอย่างถึงที่สุด

(นี่ถ้าน้องๆ คนไหนของดิฉันมาขออนุญาติบวชนะ จะยุให้บวชไม่สึกไปเสียด้วยซ้ำ ส่วนพ่อแม่ไม่ต้องห่วงเราดูแลให้เอง!!)


ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นนะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

[Omena]

ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุด

สาธุกับความตั้งใจนะคะ

[xlmen]

ตอบง่ายๆ ครับ คิดมาก ห่วงมากก็ไม่ต้องบวชครับ

คนจะบวชต้องละปลิโพธ เครื่องกังวลใจให้ได้ก่อนครับ

ถ้ายังมีห่วงคือ ราหุล ก็ยากที่จะบวชได้ครับ

เจ้าชายสิทธัตถะเราท่านได้หาวิธีแก้ให้แล้วครับคือ

"หนีบวช"

ปล. แน่วแน่อุดมการณ์ ไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคครับ ขอให้โชคดีครับ
หนีบวชใช่หนีตามหญิง กล้าทำดีใช่กล้าทำชั่ว จะมัวลังเลอยู่ทำไมให้ป่วยการ หนีบวชสิหนานี้ท่าจะดีนะ

[หัดฝัน]

เรื่องนี้ คงต้องดูตัวอย่างจากสมัยพุทธกาลครับ ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดพุทธบิดาจนได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันเรียบร้อยแล้ว และญาติๆ ก็ทูลขอบวชหลายๆ พระองค์ ในตอนนั้นเอง พระนางพิมพาจึงให้พระราหุลไปทูลขอราชสมบัติจากพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธองค์ยังมีชื่อเป็นผู้ครอบครอบราชสมบัติของกรุงกบิลพรรดิ์อยู่

พระราหุลจึงเข้าไปทูลขอราชสมบัติ แต่พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า โภคทรัพย์ จะประเสริฐกว่า อริยทรัพย์ได้อย่างไร ว่าแล้วพระองค์ก็ทรงมอบอริยทรัพย์ คือ ประทานให้พระราหุลได้บวชสามเณร ฝ่ายพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อทราบเรื่อง พระองค์จึงมาทูลขอกับพระพุทธเจ้าว่า ต่อไปถ้ากุลบุตรท่านใดจะบวช ขอให้ได้รับอนุญาติจากบิดามารดา เสียก่อน เพราะการที่พระราหุลบวชในครั้งนี้ก็ไม่มีใครสืบทอดราชสมบัติเสียแล้ว

ซึ่งพระพุทธองค์คงจะเห็นสถานการณ์ในอนาคตว่า ถ้าใครจะมาบวชโดยไม่ขออนุญาติจากบิดามารดาผู้เลี้ยงดูมา อาจจะเกิดข้อขัดแย้งทำให้เกิดกระแสการมองพระพุทธศาสนาในแง่ลบจากสังคมที่ยังไม่เข้าใจโลกและชีวิตในระดับสูงสุดได้ ดังนั้น พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาติตามที่พระเจ้าสุทโธทนะขอ คือ ท่านใดที่จะบวชให้ไปเคลียร เอ้ย ขออนุญาติบิดามารดา (ส่วนภรรยาไม่เป็นไร) ให้เรียบร้อยเสียก่อน เรื่องราวจึงเป็นเช่นนี้แหละครับ

ดังนั้น เมื่อคุณเจ้าของกระทู้ทราบสาเหตุของเรื่องนี้แล้ว ก็ควรทำตามพุทธประสงค์นะครับ คือ ขออนุญาติบิดามารดาให้เรียบร้อยก่อนนะครับ พูดให้ท่านเข้าใจ ถ้าท่านยังไม่เข้าใจก็ให้รอเวลาก่อน อย่าไปใช้วิธีบิดากำมะลอ คือ หาใครมาเป็นบิดาแทนเลย นั่นไม่ใช่พุทธประสงค์ครับ

คุณอาจจะแย้งว่า ก็ตอนแรกที่พระพุทธเจ้าบวชยังหนีบิดามารดาไปบวชเลย ใช่ครับนั่นมันตอนแรก แต่ต่อมาเมื่อศาสนาตั้งขึ้นแล้ว พระพุทธองค์ก็ทรงประกาศพระวินัยให้รัดกุม ตรงไหนเป็นจุดอ่อนก็แก้ไข ดังเรื่องของพระเจ้าสุทโธทนะที่ยกมาให้อ่าน ดังนั้น ขอให้มีสติ อย่ากลุ้มใจ ใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ให้รอเวลาที่เหมาะสม สะสมบุญเข้าไป เดี๋ยวเวลาที่เหมาะสมก็จะมาหาคุณเอง

สมัยหลวงพ่อทัตตะจะบวช ท่านไปขออนุญาติพ่อ แต่พ่อไม่ยอม หลวงพ่อธัมมะท่านยังต้องมาคุยกับพ่อให้เลย จนพ่ออนุโมทนา แล้วถึงค่อยให้หลวงพ่อทัตตะบวช ทำตามครูบาอาจารย์สิครับ อย่าลัดขั้นตอน

[Jengiskhan]

สู้เขาครับ ผมก็เหมือนกันตอนนั้น เรียนจบแล้วแต่ทางพ่อแม่ไม่ยอมให้บวช มาอีกปีหนึ่งก็ขอท่านอีกท่านก็ยอมครับ ใช้เวลาให้ท่านยินดีกับเราสักนิดครับ ท่านอาจยังไม่เตรียมตัวกับการให้ทำแบบนี้ ก็อธิบายท่านไปเรื่อยๆ ของเหตุผลของเราและให้ท่านลองตรองดู

[minori]

อย่างผมน่ะ...ขอแล้วไม่ว่าผู้ปกครองให้บวชหรือไม่ให้บวช( ท่านไม่ให้ผมบวช ) ผมก็จะบวช...มาบวชเอาซะดื้อๆน่ะ...แล้วก็บวชจนได้ " ดื้อที่จะทำความดี " ดื้ออย่างผมก็ได้น่ะครับ

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

เรื่องนี้ผมขอแสดงความเห็นว่า ขอให้พี่เป็นตัวของตัวเองนะครับ เพราะชีวิตร่างกายนี้เป็นของเรา มือก็มือเรา เท้าก็เท้าเรา จิตก็จิตเรา สำหรับความเห็นที่บรรดากัลยาณมิตรทั้งหลายได้เสนอมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงทางเลือก แต่เราต้องเป็นผู้ลิขิตชีวิตของตัวเราเองนะครับ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่นั้น ผมขอแนะนำให้ใช้วิธีแบบ "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" ค่อยๆ พูด ค่อยๆ คุยกันด้วยเหตุและผลเสียจะดีกว่าครับ เพราะบิดามารดานั้น ได้ชื่อว่า เป็นพระอรหัต เป็นพระอรหันต์ของลูก การที่เราไปทำให้ท่านทุกข์กายก็ดี ทุกข์ใจก็ดี ขุ่นเคืองใจก็ดี น้ำตาตกในก็ดี (แม้ในสิ่งที่เราปรารถนาจะเป็นทางมาแห่งบุญกุศลให้กับตัวของเราเองก็ตาม) ล้วนเป็นทางมาแห่งบาปใหญ่ ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่งครับ

[gioia]

ถ้าทำอะไรแล้วทำจริง
มีหรือจะไม่สำเร็จ

คำตอบอยู่ในใจคุณเองค่ะ เพียงแต่คุณลังเลที่จะรู้ว่า คุณรู้
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

[saowanee15]

พาท่านมาวัดเราเลยค่ะ...ให้มาเห็นภาพงานบวชเก่า ๆ วัดคงมีงานบวชเก่าเก็บไว้อยู่แล้วค่ะ
ขั้นตอนกว่าจะได้เป็นธรรมทายาท ลำบากแค่ไหน...
หากเจ้าของกระทู้พร้อมบวช สมัครไปเลย...(สนับสนุน โตแล้วนะ คิดได้แล้ว)
เราดื้อดีนะค่ะ ไม่ใช่ดื้อด้าน...บวชปีนี้ท่านอาจยังไม่ยินดีมากนัก แต่เชื่อว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่
เห็นลูกมีความสุขท่านยอมยินดีด้วยอยู่แล้วนะ ท่านคงไม่ขัดขวางงานบวช...หากวันงานท่านไม่มา ให้คนที่บ้านถ่ายวีดีโอไปให้ท่านดู ท่านอาจมีมาดสักหน่อย
แต่เชื่อว่า พอเวลาผ่านไป ท่านดูแน่ ๆ หรือท่านใจแข็งมาก ๆ
ก็ต้องปล่อยไปก่อนค่ะ...วันนี้ไม่ พรุ่งนี้อาจใช่ วันหน้าอาจยินดี...
เจ้าของกระทู้ก็อย่าเสียใจน้อยใจนะค่ะ พยายามทำใจใส ๆ อยู่ในบุญตลอดเวลา คิดซะว่า
ท่านยังไม่เข้าใจ แต่เราตั้งใจบวชให้ท่าน ขอให้ปลื้ม ๆ อยู่ในบุญตลอดก็ใช้ได้แล้วค่ะ..
ท่านรับรู้ได้แน่ ๆ ค่ะ อานุภาพของใจคนเรามันยิ่งใหญ่นะค่ะ
ส่วนเรื่องพ่อปีนี้ท่านอาจยังไม่ปลื้มสุด ๆ ...ปีหน้ายังมี...ก็บวชอีกได้เนี่ยะค่ะ
ส่วนในเรื่องท่านอยากจะจัดงานใหญ่ ๆ ให้ท่านเป็นจัดภาพงานบวชก็ได้เนี่ยะค่ะ
เมื่อท่านมาเห็นงานบวช...ท่านอาจปลื้มใจก็ได้
ให้ท่านเห็นว่าการบวชที่แท้จริงไม่ใช่การจัดงานที่ใหญ่โต..มันอยู่ที่การเตรียมตัวกายวาจาใจของผู้บวชเป็นหลัก...ไม่ใช่งานบวชที่จัดใหญ่โต มีลิเกมีวงดนตรีมีหนัง ฯลฯ
ถึงแม้มันเหมือนเป็นธรรมเนียมเก่า ๆ ยังนั้น คนไม่มีเงินก็อดบวชลูกชายนะซิ ธรรมเนียมของคนมีเงิน อยากได้หน้าได้ตาด้วยส่วนหนึ่งมากกว่า (ตรงไปเปล่าค่ะ) ถึงแม้จะปลื้มกับที่ลูกหลานบวชแต่ปลื้มมากกว่าฉันเป็นเจ้าภาพงานบวช..(มันผิดหลักวิชชาไปหน่อยหนึ่ง) เป็นธรรมเนียมเสียตังค์เอาการเลยนะ อย่างที่บ้านน้องสะใภ้ก็เป็นเค้าจะบวชน้องชายพรรษานี้
เราก็บอกว่า บวชหมู่ก็ได้ แต่ตัวพี่ชาย ไม่เอา
บอกว่าไม่มีเงินพอ เฮ้อ! ได้แต่ถอนหายใจ
เราบอกว่า มันอยู่ที่กระทำของเด็กเมื่อบวชเป็นพระหรือเณรแล้ว
เค้าสนใจศึกษาพระธรรมแค่ไหน สนใจคัดเกลาจิตใจตัวเองแค่ไหน
จัดงานมันแค่ เรื่องปลายแถว ให้ชาวบ้านรับรู้และอนุโมทนาด้วยเท่านั่น..
บางบ้านเสียเงินเป็นเรือนหมื่นเรือนแสน คนรุ่นเก่า ๆ จะเป็นอย่างนั้นนะหรือคนที่ยังคงยึดติดกับธรรมเนียมเก่า ๆ จะมีความคิดอย่างนี้ ได้เอาไปคุยไงค่ะว่า ฉันจัดงานบวชลูก ๆ หลาน ๆ เสียเงินไปเท่าโน้นเท่านี้ ไม่ได้เอาไปคุยว่า ลูกชายฉันบวชวัดโน้นวัดนี้ ถึงแม้จะมีการคุยในหัวข้อที่ว่า ลูกชายฉันบวชวัดโน้น พระท่านดีนะ ก็หวังให้ลูกได้เรียนรู้จากท่าน ฯลฯ คุยเหมือนแต่มันกลายเป็นเรื่องรองไป