ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

มิจฉาทิฏฐิ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 April 2006 - 09:24 PM

เมื่อคุยกับเพื่อนคนหนึ่งเขาบอกว่า การทำบุญให้ทานนั้นไม่จำเป็นต้องทำให้มากก็ได้
บางทีอยู่บ้านนั่งสมาธิ สวดมนต์ รักษาศีล เอาก็ได้บุญเหมือนกัน ชวนไปวัดก็ไม่ไปบอกว่าวัดนั้นไม่ดี
วัดนี้ไม่ดีทำมาหากิน พระปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ ไอ้ขิก (รูปร่างคล้ายศิวลึงค์) ไซดักเงิน
พระผง เหรียญต่าง ๆ

การเห็นว่าสวดมนต์อยู่บ้านนั่งสมาธิ รักษาศีล ไม่ต้องไปวัดทำบุญทำทาน เป็นมิจฉาทิษฐิหรือไม่ ?


วัดที่ทำเครื่องรางของขลังออกให้บูชาเหล่านั้น ทำถูกพระวินัยหรือไม่ เพราะอะไร ?


เครื่องรางบางชนิด เป็น ดิรัจฉานวิชา (วิชาที่ขัดกับความเป็นพระ) มีลักษณะเช่นใด ?

#2 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2006 - 11:08 PM

มิจฉาทิษฐิ แปลว่าอะไรค่ะ??
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#3 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 10 April 2006 - 11:29 PM

ดูๆแล้วอาจจะเข้าข่ายข้อแรกของมิจฉาทิฐิได้ครับ
"เห็นว่าการให้ทานไม่มีผลจริง"
ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนคนนั้นที่ไม่ยอมทำทานเพราะเหตุผลอะไร
ถ้าเขาเชื่อว่า พระทั้งหมดทั่วประเทศไม่มีรูปไหนน่าเลื่อมใส
แต่เขายังเชื่อว่าการทำทานนั้นมีผล อย่างนี้ไม่น่าจะเป็นมิจฉาทิฐิครับ

แต่กลับกัน ถ้าไม่ให้ทานเพราะเชื่อว่าทานไม่มีผล อย่างนี้เป็นมิจฉาทิฐิครับ

ผมว่าประเด็นสำคัญไม่ใช่อยู่ที่เขาจะเป็นมิจฉาทิฐิหรือไม่
แต่อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้เขาเข้าใจการทำทานมากขึ้นครับ
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#4 CEO

CEO
  • Members
  • 577 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 12:41 AM

เนื่องจากพิมพ์มาว่า
" ไม่จำเป็นต้องทำมากก็ได้ "
แสดงว่าเขาก็ทำไม่ใช่หรือครับ
ไม่น่าเข้าข่ายนะครับ
เนื่องจากมิจฉาทิฐิ
มีหลักใหญ่ๆอยู่ 3 ข้อ
ซึ่งผมก็จำไม่ค่อยได้
แต่ไม่เข้าข่ายแน่นอนครับ
สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้

#5 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 01:47 AM

มิจฉาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นที่วิปริตผิดแผกไปจากความเป็นจริง (ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม) ซึ่งมิจฉาทิฏฐิที่สำเร็จเป็นอกุศลกรรมบถนั้น เรียกว่า "นิยตมิจฉาทิฏฐิ" ดังปรากฏอยู่ในสามัญผลสูตร ฑีฆนิกาย สีลขันธวรรค มี ๓ ประการดังต่อไปนี้คือ

๑. นัตถิกทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า จะทำสิ่งใดก็ตาม ทำแล้วก็แล้วกันไป ไม่มีผลเกิดขึ้น (ปฏิเสธผล)
๒. อเหตุกทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า วิถีแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลายที่กำลังเป็นไปอยู่ มิได้มีเหตุนำ เหตุหนุน เหตุเนื่องอยู่เบื้องหลัง ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดและเป็นขึ้นได้เอง (ปฏิเสธเหตุ)
๓. อกิริยทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า การกระทำของสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่สำเร็จเป็นบุญ-บาปแต่อย่างใด เป็นสักแต่ว่ากิริยาอาการเท่านั้น (ปฏิเสธทั้งเหตุและผล)

ในบรรดานิยตมิจฉาทิฏฐิทั้ง ๓ ประการนั้น ผู้ที่มีนัตถิกทิฏฐิย่อมมีความเห็นผิดดังต่อไปนี้

๑. นตฺถิ ทินฺนํ เชื่อว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
๒. นตฺถิ ยิฏฺฐํ เชื่อว่า การบูชาบุคคลที่ควรแก่การบูชา มีบิดามารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ และอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย เป็นต้น ไม่มีผล
๓. นตฺถิ หุตํ เชื่อว่า การปฏิสันถารบุคคลที่ควรแก่การต้อนรับเชื้อเชิญไม่มีผล
๔. นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํวิปาโก เชื่อว่า กฎแห่งกรรมไม่มีจริง
๕. นตฺถิ อยํ โลโก นตฺถิ ปโร โลโก เชื่อว่า โลกนี้ โลกหน้าไม่มี (เชื่อว่า "ตายแล้วสูญ" นั่นเอง)
๖. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตา เชื่อว่า พระคุณของบิดามารดาไม่มี
๗. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา เชื่อว่า สัตว์โลกที่เกิดขึ้นแล้วโตทันที (โอปปาติกะ) อาทิ เทวดาและสัตว์นรก เป็นต้น ไม่มีจริง
๘. นตฺถิ โลเก สมณพฺรหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนติ เชื่อว่า สมณะผู้สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเผาผลาญอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ อาทิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันตสาวกไม่มีจริง

ในบรรดาโทษของอกุศลกรรมทุกชนิดนั้น โทษอันเกี่ยวเนื่องกับนิยตมิจฉาทิฏฐิ จัดเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุด สมดังมีพระพุทธดำรัสไว้ ในอังคุตตรพระบาลีว่า

"ปรมานิ ภิกฺขเว วชฺชานิ"
ดูกร! ภิกษุทั้งหลาย ความเห็นผิดที่เป็นนิยตมิจฉาทิฏฐินี้ มีโทษภัยอันใหญ่หลวงที่สุด

ปล. อนันตริยกรรม ๕ ลงมหานรกขุมอเวจี แต่สำหรับนิยตมิจฉาทิฏฐินั้น มีโทษถึงลงโลกันตร์ครับ


#6 บุญรักษา

บุญรักษา
  • Members
  • 189 โพสต์
  • Interests:ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส ขอทุกก้าวคือก้าวที่มั่นใจ ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 01:59 AM

เห็นด้วยกับ โพส 3 กับ คุณมองอย่างแมว ครับ
ส่วนตัวผมมีคิดว่า
มิจฉาทิฐิ คือความเห็นผิด การที่จะทำให้เขามีสัมมาทิฐิได้คือความเห็นถูกได้ ต้องค่อย ๆ กะล่อม ๆ ภาษาชาวบ้านน่ะครับ หมายถึง ค่อย ๆ แจก ค่อย ๆ แจง ด้วยเหตุและผลให้เขาฟัง ทำให้ดูด้วย เพราะพูดอย่างเดียวไม่ได้พวกจับผิดอีก บุ่มบ่ามไป ปุถุชนรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะดื้อครับ เดี๋ยวงอนไม่พูดด้วย ล่ะยุ่งเลย

ก็ต้องเอา DMC ไม่ใช่กองกลางแมนยูน่ะครับ ให้ DMC จานดาวธรรมไปนั่งดูหยั่งเชิงก่อน
หากทำให้เขาดูเป็นประจำไปได้ ก็ OK ล่ะ ไม่ใช่บัวใต้ตมล่ะก่ะ (ทุกคนเป็นคนดี) ด้วยองศาน้อย ๆ ฮับผม

#7 real

real
  • Members
  • 33 โพสต์
  • Location:yeah
  • Interests:yeah

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 04:21 AM

ที่เขามองว่า ถ้าอยู่ที่บ้านนั่งสมาธิ ก็ได้บุญเหมือนกัน ก็ถูกนะ เพราะพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะ ก็เคยเทศน์เอาไว้ชัดเจน เกี่ยวกับเรื่องทางมาแห่งบุญ ที่จริงการหาบุญมีตั้งหลายวิธี ซึ่งเค้าก็คิดว่า ถ้าอยู่ที่บ้านถือศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วได้บุญ ก็ถูกกก!!!
แต่ยังถูกไม่หมดแค่นั้นเอง
1.ทาน ทำให้ มีทรัพย์ สมบัติ ไม่หิว ไม่อดยาก
2.ศีล ทำให้ มีรูปร่างสมส่วน
3.ภาวนา(สมาธิ) ทำให้เกิดปัญญา
และ เท่าที่คุณเล่ามา เพื่อนคุณเพิ่งทำไปได้ 2 ข้อเอง คือ ศีล กับ สมาธิ ยังขาด อะไรไปเอ่ย???
เคยได้ยินเรื่องราวในสมัยพุทธกาล เกี่ยวกับ พระอรหันต์องค์ หนึ่งไหมว่า ตอนท่านบวช อยู่นั้นไม่มีไครใส่บาตรท่านเลย ทำให้อด และ หิวเป็นอันมาก และ ขนาดสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ท่านยังไม่ได้ฉันข้าวเลย ต้อง ให้พระโมกคัลลา ช่วยประคองบาตรให้ จึงได้ข้าวจากโยม มาฉัน เมื่อย้อนไปดูในอดีตก่อนที่ท่านจะบรรลุอรหันต์ก็พบว่าท่านไม่ได้ทำทาน เลย แม้ภพชาติสุดท้ายก็ยังต้องทนหิว ก่อนเข้านิพพาน จะเห็นได้ว่า...ท่านก็เข้านิพพานได้เหมือนกัน คุณล่ะ??? คุณคิดว่าจะเข้านิพพานแบบไหนดี จะทน หิวแทบขาดใจก่อนเข้านิพพาน หรือ จะ เข้าแบบอิ่มทั้งโลกียทรัพย์ ทั้งอริยทรัพย์ก่อนเข้านิพพาน ก็เลือกเอาเองแล้วกันครับ

#8 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 07:01 AM

แปลก แล้วทำไมไม่คิดทำมากๆกัน ในเมื่อทำน้อยก็ยังดี ทำมากก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ถ้ามีโอกาสแล้วทำให้มากๆก็ดีสิ ทั้งทาน ศีล ภาวนาเลย เอาให้ครบ เหมือนกับคนบางคน บางกลุ่มบอกว่า ไม่จำเป็นต้องนั่งลงทำสมาธิ แค่ทำใจให้มีสติอยู่ตลอดเวลาก็พอแล้ว หรือ เป็นคนธรรมดาก็ทำดีได้ไม่จำเป็นต้องบวชพระ เป็นงั้นไป พวกนี้เข้าข่ายขี้เกียจ กับตระหนี่ เสียมากกว่า คล้ายๆกับเวลาทำงานหรือทำข้อสอบ คนพวกนี้ชอบเอาแค่พอผ่านด้วยความขี้เกียจหรือความสามารถตัวเองไม่ถึง พอมาคุยกับคนที่พยายามจะทำให้ได้คะแนนเต็มก็พูดเข้าข้างตัวเองส่งๆไปว่าเอาแค่พอผ่านก็พอ ไม่จำเป็นต้องทำให้ได้เต็มเลย ในเมื่อประสิทธิภาพในตัวสามารถทำได้ดีกว่าที่ทำอยู่แล้วจะไปกั๊กๆไว้ทำไมทำความดีให้ครบทุกชนิดน่าจะคุ้มค่าชีวิตกว่า (บ่นๆ อย่าถือสาค่ะ)

#9 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 04:27 PM

ครับก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคำพูดของคนที่ผมพยายามชวนเขามาวัดและได้รับการปฏิเสธ
และคำถามต่าง ๆ ถามไว้ ก็เพื่อจะตอบปัญหาของเขาและหาทางชวนมาให้ได้

ขอบคุณครับ ทุกคำตอบ การไม่เชื่อว่าผลของทานมีจริง นี่คือมิจฉาทิษฐิ ข้อ ๑ ผมขอ
ฟันธงไปเลยครับ เพื่อนคนนี้เป็นมิจฉาทิษฐิแน่นอน เขาบอกว่าทำทานไม่ต้องทำให้มากก็ได้
หมายความว่า เขาไม่เชื่อในผลของทานถ้าเขาเชื่อเขาควรจะต้องขวนขวายทำให้มากกว่านี้ เมื่อ
ชวนมาวัดเขาอ้างว่า วัดทำมาหากิน ( เครื่องรางของขลังนั้น ) บางวัดที่ไม่มีการทำเครื่องลาง
ของขลังเลยก็น่าจะมี ถ้าหากเขาเชื่อว่าผลของทานมีจริง เขาจะต้องไม่บอกว่าทานไม่ต้องทำให้
มากก็ได้เด็ดขาด เพราะมันเป็นการขัดขวางการสร้างทานของผู้อื่นด้วย และผลทำทานน้อยก็
คือการ ขาดทรัพย์สมบัติ มีความทุกข์ ไม่มี และลำบากในการหาเลี้ยงชีพ คิดว่าในโลกนี้ไม่มี
ใครต้องการ ผมคงจะนำไปใช้อธิบายบอกเขาได้แล้วเรื่องมิจฉาทิษฐิ

และถ้าเพื่อน ๆ จะตอบคำถามเรื่องการสร้างเครื่องลางของขลัง ๒ ข้อที่เหลือให้ด้วยก็ขอบ
คุณครับ เพื่อจะได้ใช้ว่า วัดที่ทำเครื่องลางของขลังนั้นไม่ได้ทำผิดพระวินัย และพุทธโอวาท..
และเครื่องลางของขลังนั้น แบบไหนที่ควรและไม่ควร

หยุดคือตัวสำเร็จ

#10 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 05:44 PM

ถ้าให้แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ปนกับ ถามต่อยอดจากท่านผู้ตั้งกระทู้นะคะ

ดิฉันก็มีความรู้สึกคล้าย ๆ กับเพื่อนของคุณที่ตั้งกระทู้ในเรื่องเครื่องรางของขลังค่ะ ว่าไม่ชอบ และ หากทราบว่าวัด หรือ พระรูปใดทำ เครื่องราง ก็จะไม่ค่อยอยากไปวัดนั้น ๆ

เพราะดิฉันมีกติกาส่วนตัวอยู่ว่า เครื่องรางของขลังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่ไม่ได้ทำให้ดิฉันระลึกถึงพระรัตนตรัย ดิฉันไม่เอาทั้งนั้น และไม่เห็นด้วยที่พระภิกษุสงฆ์จะทำเพื่อออกแจกจ่าย ไม่ว่าจะเพื่อเรี่ยไรหรือแจกฟรี ไม่ว่าจะมีฤทธิ์จริงหรือไม่มี สักยันต์ก็เหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องสักยันต์ และมีคำถามในใจมาตลอดว่าสิ่งเหล่านี้ป้องกันภัยได้จริงหรือ

ยิ่งไอ้ขิกยิ่งไม่เอาใหญ่ เรื่องอะไรจะเอาของประเภทนี้มาห้อยคอ (เฮ้อ หนุ่ม ๆ สมัยนี้นี่นา แหมมีอันเดียวยังวุ่นไม่พอไม่พอเหรอ ต้องหามาห้อยเพิ่ม เวรกรรม เวรกรรม )

แต่ถ้าเป็นพระสำหรับล้อมกรอบ หรือเหรียญพระอาจารย์ต่าง ๆ สำหรับห้อยสายสร้อย เพื่อให้เราระลึกถึงบุญ และเตือนสติให้ยึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย อันนี้เห็นด้วยไม่มีปัญหา

ดิฉันคิดอย่างนี้ถูกหรือไม่


#11 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 11:01 PM

QUOTE
แต่ถ้าเป็นพระสำหรับล้อมกรอบ หรือเหรียญพระอาจารย์ต่าง ๆ สำหรับห้อยสายสร้อย เพื่อให้เราระลึกถึงบุญ และเตือนสติให้ยึดมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย อันนี้เห็นด้วยไม่มีปัญหา

ดิฉันคิดอย่างนี้ถูกหรือไม่

สาธุ... ถูกต้องแล้ว


#12 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 11:36 PM

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนในโพสต์ลำดับที่ ๕ เพื่อความถูกต้องและสมบูรณ์ของกระทู้นะครับ

#13 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2006 - 05:37 AM

อืม.. ถูกต้องแล้วครับ พุทธโอวาทไม่ได้ห้ามแต่ว่าการทำเครื่องรางของขลังนั้นไม่ถูกต้อง
ถ้าเป็น พระเหรียญ พระผง เพื่อระลึกถึงพุทธคุณนั้นก็พอควร เพราะมีรูปพระรัตนตรัยให้บูชา
อย่างอื่น ไม่ควรบูชา อืมม.. ได้คำตอบแล้วครับ ผมคงชวนคนเข้าวัดได้ และใช้ตอบคำถาม
หลาย ๆ คนได้เรื่อง การทำบุญไม่ต้องทำมาก หลายเวปนั้นมีกระทู้ประเภทนี้เยอะมากครับ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#14 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2006 - 05:54 AM

ขอบคุณพี่เกียรติก้องธรนินทร์ที่ช่วยเสริมให้ครับ
เวปบอร์ดแห่งนี้ดูน่านับถือ สมกับเป็นเวปบอร์ดเผยแพร่ธรรมะ
เนื่องจากมีผู้ดูแลตลอด
ผมขอใช้บริการทีนี่ นาน ๆ นะครับ

หยุดคือตัวสำเร็จ

#15 จ.ใจเดียว

จ.ใจเดียว
  • Members
  • 92 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 April 2006 - 09:23 PM

พอเข้าใจๆๆ