การที่เราโกหกบิดามารดาเพียงเพราะอยากให้ท่านสบายใจ ผิดใหมคะ
#1
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 02:29 AM
#2
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 02:33 AM
#3
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 04:30 AM
#4
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 05:37 AM
แต่บาปนั้นรับไปเน็ืืทๆ
ไม่คุ้มครับ
บางทีเราสามารถหาทางออกได้ไม่ยากครับ
อาจตอบไปว่า "เดี๋ยวคุยกับแม่เสร็จจะไปกินแล้ว" ก็ได้ครับ
(พอคุยเสร็จก็อย่าลืมไปต้มมาม่าหรือซื้อข้าวมากินนะครับ)
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#5
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 10:40 AM
อาจตอบท่านว่า"คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะเรื่องนี้"หรือไม่ก็พูดคุยกับท่านโดยเล่าเรื่องที่ฟังแล้วเพลิดเพลินเกี่ยวกับเรา"วันนี้หนูไปร่วมบุญปล่อยโค ปล่อยปลาไข่ กับเพื่อนๆชมรมพุทธค่ะ เอาบุญมาฝากนะค้ะ"
#6
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 12:08 PM
#7
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 01:43 PM
ส่วนวิบากโกหก ก็ทำให้ เราเป็นคนไม่น่าเชื่อถือครับ อันนี้เป็นวิบากในปัจจุบัน หรือถ้าส่งผลไปในอนาคต เคยเห็นมั๊ยครับ บางคนเราเจอครั้งแรก เรากลับรู้สึกว่า เค้าไม่ค่อยน่าเชื่อถือ น่ะครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 01:53 PM
๑. ต้องเตรียม make เรื่อง
๒. ลงมือโกหก
๓. ตามดูผลว่าผู้รับฟังข้อมูลข่าวสารนั้นๆ หลงเชื่อตามไปด้วยหรือไม่
สรุปว่า โกหกคนอื่นแม้เพียงครั้งเดียว เท่ากับโกหกตนเองถึง ๓ ครั้ง และเมื่อโกหกตอแหลจนคล่องปากแล้ว ย่อมเท่ากับว่าคนๆ นั้น ได้ผ่านการโกหกตนเองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สักวันหนึ่งก็จะเกิดอาการสับสนในตนเองในทำนองว่า "เอ! ไอ้ที่เราพูดนี่ เราพูดจริงหรือโกหกหว่า"
สำหรับผลกรรมเมื่อละโลก => ท่องอบายในมหานรกขุมที่ ๔ ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 03:07 PM
ถือเสียว่าเป็นการ เผลอ "พลั้งปาก" ไปก็แล้วกัน
คราวหน้า ตั้งสติให้ดีๆ จะ Happy ขึ้นครับ
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#10
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 03:17 PM
#11
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 05:32 PM
บาปทุกชนิดไม่คิดทำเพิ่มอีก ไม่ว่าบาปเล็ก หรือ บาปน้อยก็ตาม
#12
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 08:42 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#13
โพสต์เมื่อ 11 April 2006 - 09:20 PM
อย่างไรก็ตาม ผมก็เห็นด้วยกับการที่ ไม่ควรพูดโกหก ยกเว้น จำเป็น หรือ แค่ล้อเล่นกัน แบบ ขำๆ 555+
#14
โพสต์เมื่อ 12 April 2006 - 02:54 AM
แล้วตั้งใจไม่ทำมันอีก
และสั่งสมบุญไปตลอดชีวิต
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#15
โพสต์เมื่อ 14 April 2006 - 10:24 AM
เอาเป็นว่าคราวหน้า ถ้าท่านถามอีก เราก็สามารถเลือกที่จะตอบท่านได้ว่า
"ยังค่ะ เดี๋ยวหนูจะออกไปกิน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ" ประมาณนี้ดีไหมครับ
#16
โพสต์เมื่อ 15 April 2006 - 01:33 PM
ขอบคุณค่ะ ขออนุโมทนาบุญนะคะ
#17
โพสต์เมื่อ 15 April 2006 - 08:05 PM
#18
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 04:54 PM
ก็อย่างที่คุณบอกนั่นหล่ะค่ะ อยากที่จะให้คุณพ่อ คุณแม่สบายใจ เลยบอกว่า กินข้าวแล้ว นั้น ก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เป็นเจตนาดีของคุณ
ถ้าในเชิงลบ
มันเท่ากับการผิลศีล ค่ะ เพราะเป็นการพูดเท็จ
แต่ในกรณีนี้ มันไม่ได้หนักหนาสาหัส อย่างที่ว่า ไปลักขโมยใคร หรือไปบีดเบียนใครให้เขาเดือดร้อน ไม่สบายใจนั้น อย่างนี้สิ เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คราวหน้าก็อย่าที่จะทำอีกเลยดีกว่าน่ะค่ะ
พูดตรงไปตรงมา ดีกว่าค่ะ
พ่อแม่นั้น รักและเป็นห่วงลูกมากเสมอค่ะ
ทำใจให้สบาย ๆค่ะ
ยิ้ม ใส ปิ๊ง จ๊า...