มี 25 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[มองอย่างแมว]

พอดีได้อ่านมาครับ เห็นว่าประเด็นน่าสนใจดี
เลยอยากจะลองให้คิดกันดู อยากรู้ว่าเราจะช่วยกันได้กี่คน

(คนรู้คำตอบแล้วอย่าเพิ่งเฉลยนะครับ)

---------------------------------------------------------------

ณ. เมืองหนึ่ง ตรงกับวันเกิดของพระราชา พระราชาจึงประกาศนิรโทษกรรม โดยมีกฎ
กติกาง่าย ๆ 6 ข้อ สำหรับนักโทษ

1 ให้ทั้ง 100 คนยืนเรียงแถวตอนเรียงหนึ่ง กำหนดว่าแต่ละคนจะมองเห็นหัวของคน
ข้างหน้าได้ชัดเจนทั้งหมด (แน่นอนว่าไม่เห็นหัวตัวเองกับคนข้างหลัง)

2 มีหมวกอยู่จำนวนมาก คละกันระหว่างสีขาวและดำ
ผู้คุมจะสุ่มหยิบหมวกใส่หัวนักโทษคนละใบ
(อาจจะเป็นสีขาวหรือสีดำกี่ใบก็ได้ อาจจะขาวหมดหรือดำหมดเลยก็ได้)

3 ให้นักโทษแต่ละคน เลือกตอบสีหมวกตัวเอง
โดยจะพูดตอบได้แค่ " ขาว " กับ " ดำ " อย่างใดอย่างหนึ่ง
และตอบได้ครั้งเดียวเท่านั้น (ไม่มีว่า ขาวววววว ลากเสียงยาว หรือ ดำตะโกน ดำกระซิบ)
โดยที่ทุกคนในแถวจะได้ยินเสียงของคนอื่นได้ชัดเจน

4 การตอบให้พูดตอบทีละคนเรียงจากคนหลังสุด(ท้ายแถว)ไปยังคนหน้าสุด(หัวแถว)

5 ถ้านักโทษคนไหน ตอบชื่อสีออกมาได้ตรงกับสีหมวกของตัวเอง ก็จะรอดชีวิต
ถ้าตอบผิดก็ไปรับโทษประหาร

6 ห้ามส่งซิกแนลใดๆ ทั้งสิ้น (รวมถึงในวงเล็บในข้อที่ 3 ด้วย) ถ้ามีใครไม่ยอม
พูดอะไรเลยถือ ให้ตายทั้งหมด

พอเรื่องมาถึงตรงนี้ พระราชาก็ให้เวลานักโทษทั้ง 100 คน อยู่ด้วยกัน 1 วัน
(เพื่อทดสอบ ปัญญา) แล้วก็มีนักโทษคนหนึ่ง ออกความเห็นว่า ถ้าให้พวกเราเดาออกไปเนี่ย
ก็คงรอดครึ่งหนึ่ง ตายครึ่งหนึ่ง ฉะนั้นอย่างน้อยก็น่าจะคิดหาวิธีให้รอดชีวิตออกมาให้ได้มากที่สุด

*** โดยเขาคิดวิธีออกมาว่า ให้คนที่อยู่หลังสุดแทนที่จะเดาสีหมวกของตัวเอง ก็ตอบ
สีหมวก ของคนต่อ ไปให้เลย คนที่อยู่ข้างหน้าจะได้รอดตายชัวร์

(อย่างเช่น คนที่ 100เห็นคนที่ 99 หมวกสีขาวก็ให้ตอบไปว่าขาว คนที่ 99 ก็จะตอบว่าขาวตาม ก็จะรอด
แต่คนที่ 99 ก็จะตอบสีหมวกของ คนที่ 98 ให้ไม่ได้ เพราะต้องบอกสีของตัวเองให้รอด
ฉะนั้น คนที่ 98 ก็จะมีหน้าที่พูดสีหัวของคนที่ 97 ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆจนครบทุกคน)
** ถ้าทำวิธีนี้ ก็จะรอดตายได้ 50 คน ** ( อีก 50 เสี่ยงดวงครึ่งๆ)

คำถามก็คือ คุณคิดว่าเรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร จะมีวิธีช่วยให้รอดชีวิต
ได้ถึง 99 คนจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง จะใช้วิธีอย่างไร ??

[คนรักวัด]

คิดคิดเท่าไรคิดไม่ออกสักที

[เพียงพอ]

^^น่าสนุก ขอเวลาคิดหน่อยนะครับ
50คิดได้ แต่ 99ไม่ไหว
----

[น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14]

โหยตายละปวดหัวเลย เดี๋ยวขอคิดก่อนนะคะ

[นักท่องเที่ยว]

น่าคิด

[สาคร]

คุณมองอย่างแมว คุณช่วยเอายาแก้ปวดหัวมาให้ด้วย ตึบๆเลย โห..ช่างทำกันได้จนป่านนี้ยังคิดไม่ออกเลย

[Chadawee]

น้องมองอย่างแมว พระราชาอนุญาตให้ใช้กระจกได้หรือเปล่า ก็ใช้กระจกส่องดูหมวกนักโทษอ่ะ แล้วค่อยตอบ (อันนี้ไม่รู้นะ)

พี่เปิ้ล

ปล. ทำไมพี่โพสต์ไฟล์ "แบบทดสอบจอหงวน.xls" ไม่ได้อ่ะ น้องๆ เลยอดเล่นเลยอ่ะ

[Aujung]

1.จากคำถามไม่มีข้อห้ามไม่ให้นักโทษถอดหมวกมาดูได้มิใช่หรือ ก็ถอดหมวกออกมาดูซิคะ
2.ถ้ามีข้อห้ามถอดหมวกออกมาดู ตอนที่ผู้คุมสุ่มเลือกหมวกมาใส่ให้ ก็ดูสีหมวกซะตอนที่อยู่ในมือผู้คุมตอนหยิบมาใส่ซีคะ ของใครของมันจำกันเอาเอง

[มองอย่างแมว]

เพื่มเติมให้คุณ Chadawee กับคุณ Aujung นะครับ

- ไม่สามารถให้ใช้อุปกรณ์อะไรอื่นๆได้อีกครับผม
- นักโทษห้ามถอดหมวกมาดูเองครับ
- ตอนที่ผู้คุมหยิบหมวก นักโทษไม่สามารแอบมองได้ครับ

เพราะฉะนั้น นักโทษจะมองเห็นหมวกของคนที่อยู่ด้านหน้าของเขาเท่านั้น
จะไม่มีวันเห็นหมวกของตัวเองหรือคนที่อยู่ข้างหลังไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น


เสริมครับจากกฏข้อ 1
หมายความว่านักโทษสามารถมองเห็นหมวกของคนข้างหน้าได้ทุกคนนะครับ
เช่นคนที่ 100 (ท้ายแถว)จะมองเห็นสีหมวกของเพื่อนหมดทั้ง 99 คน แต่มองไม่เห็นหมวกตัวเอง
คนที่ 99 จะมองเห็นสีหมวกของเพื่อนทั้ง 98 คน (มองไม่เห็นของตัวเองกับของคนที่ 100)
อย่างนี้นะครับ

[Chadawee]

ก็ให้คนท้ายแถวนับจำนวนหมวกตามสี แล้วจำไว้

ครั้งที่ 1 .........นักโทษคนสุดท้ายนับไป เช่น ถ้าเขานับได้ว่านักโทษข้างหน้าเขาใส่หมวกสีดำอยู่ 50 ใบ และสวมหมวกสีขาวอยู่ 49 ใบ แสดงว่านักโทษที่อยู่ท้ายแถวใส่หมวกสีขาว

ครั้งที่ 2..........นักโทษคนเกือบสุดท้าย ก็นับหมวกคนที่อยู่ข้างหน้า ก็จะเกิด 2 กรณี คือ
2.1 หมวกสีดำ = 50 ใบเท่าเดิม และได้หมวกสีขาวอยู่ 48 ใบ แสดงว่าเขาสวมหมวกสีขาว หรือ
2.2 หมวกสีดำ = 49 ใบ และหมวกสีขาวได้ 49 ใบ แสดงว่าเขาสวมหมวกสีดำ

ครั้งที่ 3..........นักโทษถัดจากคนเกือบสุดท้ายก็นับหมวกคนที่อยู่ข้างหน้า ก็จะเกิด 2 กรณีคล้ายๆ กับครั้งที่ 2 คือ
3.1 หมวกสีดำมีจำนวนเท่าเดิมและหมวกสีขาวลดลง 1 ใบ แสดงว่าเขาใส่หมวกสีขาว
3.2 หมวกสีดำลดลง 1 ใบ และหมวกสีขาวมีจำนวนเท่าเดิม แสดงว่าเขาสวมหมวกสีดำ

.......ให้ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดังนั้นพอถึงคนที่ 1 ถ้าหมวกไหนเป็น 0 และอีกสี เป็น 1 ก็แสดงว่าสวมสีนั้นอยู่


เย๊ๆๆๆๆ ................ใช่ป่ะๆๆๆ

พี่เปิ้ล

[มองอย่างแมว]

คุณ Chadawee มาเกือบถูกทางแล้วครับ แต่มาพลาดตรงที่ว่า

ข้อ 2 บอกว่า

มีหมวกอยู่จำนวนมาก คละกันระหว่างสีขาวและดำ
ผู้คุมจะสุ่มหยิบหมวกใส่หัวนักโทษคนละใบ
(อาจจะเป็นสีขาวหรือสีดำกี่ใบก็ได้ อาจจะขาวหมดหรือดำหมดเลยก็ได้)

จำนวนของหมวกแต่ละสีจะไม่แน่นอน จำนวนสีขาวกับดำไม่จำเป็นจะต้องเป็น 50 50 เสมอไปครับ
(อาจจะเป็น ขาว 47 ดำ 53 หรือว่า ขาว 1 ดำ 99 ก็เป็นไปได้ครับ)
อย่างนี้วิธีของคุณ Chadawee จะใช้ไม่ได้ครับ

อิอิ เดี๋ยววันจันทร์มาเฉลยละกันนะครับ

[Aujung]

คำถามก็คือ จะมีวิธีช่วยให้รอดชีวิต ได้ถึง 99 คนจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง จะใช้วิธีอย่างไร ??

นักโทษ คนหนึ่งสามารถช่วยเพื่อนอีก 99 คนได้แน่นอน
ตามปกตินักโทษจะทำตามคำสั่งผู้คุม
จะต้องมีนักโทษ 1 คนที่เสียสละยอมตายแทนเพื่อน โดยอาจเลือกผู้เสียสละจากคนที่มีเสียงคล้ายผู้คุม
โดยจะต้องหาโอกาสใช้คำสั่งแบบผู้คุมเพื่อให้นักโทษอีก 99 คนทำตามคำสั่ง
ลักษณะคำสั่งให้นักโทษปฏิบัติ ก็เหมือนคำสั่งทหารที่อยู่ในแถว เช่นสั่งให้ซ้ายหัน ขวาหัน เลิกแถว เป็นต้น
แต่กรณีนี้ให้นักโทษที่เสียสละสั่งว่า "ถอดหมวก!! "
ซึ่งจะไม่ติดเงื่อนไขว่า - นักโทษห้ามถอดหมวกมาดูเอง เพราะเป็นการถอดหมวกตามคำสั่งมิใช่ถอดมาดูเอง
ถอดแล้วไม่ดูว่าหมวกสีอะไรก็ตัวใครตัวมันเถอะ
ส่วนเพื่อนนักโทษผู้เสียสละก็คงถูกลงโทษตามระเบียบ
แต่เพื่อนอีก 99 คน ก็ควรจะได้รอดชีวิตตามเงื่อนไข ที่ตอบได้ว่าหมวกสีอะไร

[kuanrit]

คนแรกที่ขานสีหมวกต้องเตี้ยมกับคนอื่นที่เหลือก่อนว่า ฉันจะนับจำนวนหมวกที่ฉันเห็นทั้งหมด99ใบ(เพราะไม่เห็นหมวกตัวเอง)โดยแยกเป็นสีดำ......ใบ สีขาว....ใบแล้วฉันจะขานสีที่มีจำนวนเป็นเลขคี่ก่อนเท่านั้น ถ้าฉันรอดตายก็ให้เพื่อนๆเอาตัวเลขสีหมวกที่ตัวเองเห็นบวกกับสีหมวกที่คนอื่นขานไปแล้วมารวมกันว่าเป็นสีดำกี่ใบสีขาวกี่ใบ แล้วให้เลือกตอบสีที่มีจำนวนคี่ตามฉันแล้วเพื่อนจะรอดตาย แต่ถ้าครั้งแรกทีฉันขาน(จากที่เตี้ยมว่าจะขานสีที่มีจำนวนเป็นเลขคี่ก่อน)แล้วต้องถูกประหารชีวิตก็ขอให้เพื่อนๆเลือกขานสีที่รวมแล้วเป็นจำนวนเลขคู่เท่านั้น(ทุกคนต้องจำให้ได้ว่าคนข้างหลังมีหมวกสีอะไรบ้างคือถ้าขานแล้วผิดแสดงว่าเป็นสีตรงข้าม)
อธิบาย1ผมรองถอดตัวเลขดูได้ความว่าตัวเลขสีหมวก99ใบหักสีหมวกทีตนเองไม่รู้ออก=ได้สีหมวกเลขคู่+สีหมวกเลขคี่เท่านั้น(โดยเรายังไม่รู้สีไหนเลขคู่เลขคี่)
2 ถ้าคนแรกใส่หมวกสีอะไรแล้วจำนวนหมวกสีนั้นที่ลองแยกตัวเลขดูเป็นเลขคี่มันก็จะเป็นรูปแบบนี้ทั้งหมดในทุกคนถ้าเป็นคู่ก็คู่ทั้งหมดคือสีที่ได้เป็นเลขคี่จากการแยกจำนวนก็จะตรงกับสีหมวกที่ตนเองใส่อยู่ทุกคน เช่นถ้าคนแรกใส่หมวกสีดำแล้วจำนวนหมวกสีดำที่ลองแยกตัวเลขดูได้จำนวนเป็นเลขคี่มันก็จะเป็นรูปแบบนี้ทั้งหมดคือสีที่ได้เป็นเลขคี่จากการแยกจำนวนของคนต่อๆไปก็จะตรงกับสีหมวกที่ตนเองใส่อยู่เสมอ

[มองอย่างแมว]

คุณ Aujung ก็นะครับ
อย่าพยายามหาทางหลบเลี่ยงด้วยการตึความคำพูดเลยครับ
ยังไงผมก็ไม่ให้ผ่านหรอก หุหุ

สรุปคือ ใช้วิธีคุณ Aujung ไม่ได้ครับ

-------------------------------------------

ของคุณ kuanrit นั้นใกล้เคียงมากๆเลยครับ
แต่ติดอยู่ตรงที่ วิธีการที่ตอบมานั้นจำเป็นต้องรู้ผลของการทาย ณ เดี๋ยวนั้น
เพื่อนๆนักโทษจึงจะสามารถทายต่อได้ถูกต้อง

ซึ่งเวลานักโทษตอบสีหมวกตัวเอง ผู้คุมจะไม่ได้มาเฉลยทันทีว่าตอบผิดหรือถูก
แต่แค่จดเอาไว้ว่าแต่ละคนตอบว่าอะไร
พอตอบเสร็จทุกคนแล้ว ค่อยมาเฉลย แล้วลงโทษกันไปตามที่ตอบไว้

พอเป็นแบบนี้ วิธีของคุณ kuanrit จะใช้ไม่ได้ครับ

ปล. แต่ใกล้มากๆแล้วครับ วิธีของคุณ kuanrit เนี่ย

[iMac24]

คิดกันใหญ่เลย

[เพียงพอ]

ก็จะอยากอะไร ก็ให้คนเสียสละคนนึง ไปยืนอยู่ท้าย
แล้วก็บอกเพื่อนว่า เราจะบอกเฉพาะหมวกสีดำนะ ว่าคนที่เท่าไรห่ใส่สีดำบ้าง ส่วนที่เหลือเป็นสีขาว จากหลังขึ้นไปตามลำดับไง ตะโกนให้หมดว่าคนที่เท่าไหร่ใส่สีดำบ้าง และคนตะโกนก็ต้องยอมตาย ส่วนที่เหลือรอดหมด อิอิ
----------------------

[Chadawee]

ให้ทุกคนนับหมวกตั้งแต่คนแรกสุดมาถึงก่อนตัวเอง (เพราะตัวเองจะไม่เห็น) ดังนั้นก็จะรู้จำนวนหมวกว่าสีขาวมีเท่าไหร่ สีดำมีเท่าไหร่ก่อนถึงตัวเอง พอถึงคนสุดท้ายก็จะรู้ทั้งหมดยกเว้นของตัวเอง คนสุดท้ายต้องเสียลสะโดย ตะโกนจำนวนหมวกสีดำ และหมวกสีขาว แล้วตะโกนบอกคนเกือบสุดท้ายว่าเค้าใส่หมวกสีอะไร ดังนั้นคนสุดท้ายก็จะใช้วิธีนับแล้วหักออก ในทำนองที่คล้ายๆ กับที่โพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ สมมติว่า คนสุดท้ายตะโกนว่า หมวกสีดำ 55 ใบ หมวกสีขาว 44 ใบ (รวมเป็น 99 ใบเพราะเค้าไม่รู้ว่าเค้าได้หมวกสีอะไร) แล้วก็ตะโกนบอกว่าคนที่อยู่เกือบสุดท้ายใส่หมวกสีอะไร เช่น สีดำ ก็จะได้ทำนองนี้

คนสุดท้าย (คนที่ 100) : ดำ 55 ขาว 44 คนที่ 99 ใส่หมวกสีดำ
คนที่ 99 : ดำ (เพราะคนที่ 100 บอก)
คนที่ 98 : จะรู้ว่าหมวกสีดำเหลือ 54 ขาว 44 แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับจำนวนที่ตัวเองนับ ถ้าตัวเองนับมาได้ ดำ 53 ขาว 44 ดังนั้นหมวกของเขาก็จะเป็นสีดำ แต่ถ้าตัวเองนับมาได้ ดำ 54 ขาว 43 ก็จะได้ว่าหมวกของเขาก็คือสีขาว แล้วก็ตะโกนสีหมวกออกไป
คนที่ 97 : ก็คิดทำนองเดียวกับคนที่ 98
คนที่ 96 ... คนที่ 1 ก็คิดทำนองเดียวกัน

ดังนั้นคนสุดท้ายจะม่อง แต่ที่เหลือจะรอด นั่นคือ 99 คน

ถูกหรือเปล่า

พี่เปิ้ล

[มองอย่างแมว]

ของน้อง เก้าตา กับคุณ Chadawee ใกล้เคียงมากๆๆๆๆๆแล้วครับ
เพราะมีกฎบอกไว้แล้วว่า "ห้ามส่งซิกแนลใดๆ ทั้งสิ้น"
คือรวมทั้งการบอกออกมาเป็นประโยคแบบนี้ก็ห้ามครับ

มันมีวิธีการที่ทำให้คนสุดท้ายสามารถเสี่ยงดวงครึ่งต่อครึ่ง
และยังสามารถบอกข้อมูลให้เพื่อนๆทราบอีกด้วยครับ
(วิธีการนี้คนสุดท้ายแค่ตอบว่า "ขาว" หรือ "ดำ" เท่านั้นเองไม่ต้องตอบเป็นประโยค)

ลองคิดดูนะครับว่าจะสามารถใช้แค่คำว่า "ขาว" หรือ "ดำ"
เข้ารหัสข้อมูลของจำนวนสีหมวกทั้งหมดให้ทุกคนรู้ได้ยังไง

[เพียงพอ]

อืมสนุกดี

[คนรักวัด]

ประเทืองปัญญาครับ

[มองอย่างแมว]

เฉลยนะครับ

ให้คนท้ายแถว นับจำนวนหมวกสีอะไรสักสี
แล้วตกลงกันว่าถ้าเป็นเลขคู่ ให้บอกขาว เลขคี่ให้บอกสีดำ

อธิบายครับ

สมมติว่านักโทษตกลงกันว่าจะให้คนท้ายแถวนับจำนวนของหมวกสีขาว
แล้วก็มาตกลงกันต่อเรื่อง คู่หรือคี่
ถ้าจำนวนหมวกขาวที่เห็นเป็นเลขคู่ คนท้ายแถวจะตอบว่า ขาว
ถ้าจำนวนหมวกขาวที่เห็นเป็นเลขคี่ คนท้ายแถวจะตอบว่า ดำ

ซึ่งตามกฎข้อ 3 แล้วทุกคนในแถวจะได้ยินเสียงของคนท้ายแถวได้ชัดเจน
พอคนท้ายแถวตอบออกมาแล้ว
ก็ให้ทุกคนนับจำนวนของหมวกขาวที่ตัวเองเห็นว่าเป็นคู่หรือคี่แล้วจำไว้

สมมติว่าคนที่ 100 นับหมวกขาวได้ 48 ใบ ก็ตอบไปว่า ขาว
(ตามที่ตกลงกันไว้ และก็ไปเสียงดวงเอาว่าตัวเองจะตายป่าว
เพราะคนที่ 100 ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตัวเองใส่หมวกสีอะไร)

(ต่อไปขอสมมติว่าคนที่ X จะชื่อว่า X เลยนะครับ ไม่งั้นเรียกยาวไป)

ทีนี้ 99 ก็รู้แล้วว่า 100 เห็นจำนวนหมวกขาวเป็นเลขคู่
แล้วก็มาดูว่าตัวเองมองเห็นหมวกขาวกี่ใบ
ถ้า 99 มองเห็นจำนวนหมวกขาวเป็นเลขคู่ก็จะรู้ว่าตัวเองใส่หมวกดำอยู่
แต่ถ้าเห็นเป็นเลขคี่แสดงว่าตัวเองใส่หมวกสีขาวอยู่

สมมติว่า 99 นับหมวกสีขาวที่เห็นได้เลขคู่
คนนี้ก็จะรู้ว่าตัวเองใส่สีดำอยู่ ก็ตอบไปว่า ดำ (และก็รอดตาย)

พอ 99 ตอบสีตัวเองไป
98 ก็ต้องคอยจำว่า 100 ตอบมาว่าอะไรและ 99 ตอบอะไร
จากตัวอย่าง 98 ก็ได้ยินแล้วว่า 100 ตอบว่า ขาว แสดงว่าหมวกขาวมีจำนวนเป็นเลขคู่
พอ 99 ตอบว่าดำไป 98 ได้ยินก็จะรู้ว่าจำนวนหมวกขาวที่เหลือยังเป็นเลขคู่อยู่

แล้ว 98 ก็ต้องมาดูว่าตัวเองมองเห็นหมวกขาวกี่ใบบ้าง
ถ้า 98 มองเห็นจำนวนหมวกขาวเป็นเลขคู่ก็จะรู้ว่าตัวเองใส่หมวกดำอยู่
แต่ถ้าเห็นเป็นเลขคี่แสดงว่าตัวเองใส่หมวกสีขาวอยู่

ทีนี้มันจะต้องพลิกแพลงนิดหน่อยหากคนด้านหลังเราใส่หมวกสีขาว
เพราะการใส่หมวกสีขาว ทำให้จำนวนของหมวกสีขาวเปลี่ยนจากคู่ไปคี่ หรือคี่ไปคู่ได้

เช่นถ้า 98 นับแล้วรู้ว่าตัวเองใส่หมวกขาว ก็ตอบไปว่าขาว (แล้วก็รอดตาย)
ทีนี่ 97 ซึ่งได้ยินแล้วว่า 98 ตอบว่าขาวแสดงว่าจำนวนหมวกขาวที่เหลือต้องเป็นเลขคี่
เพราะฉะนั้นถ้า 97 นับจำนวนหมวกขาวที่เห็นแล้ว
มองเห็นจำนวนหมวกขาวเป็นเลขคู่ก็จะรู้ว่าตัวเองใส่หมวกขาวอยู่
แต่ถ้าเห็นเป็นเลขคี่แสดงว่าตัวเองใส่หมวกสีดำอยู่
( criteria ตรงนี้มันกลับกับของ 98 เห็นรึเปล่าครับ )

ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนถึงคนที่ 1 ก็จะรอดตาย 99 คน
ส่วนคนที่ต้องเสี่ยงก็คือคนท้ายแถวคนเดียว

ทีนี้วิธีนี้ค่อนข้างเสี่ยงอยู่ตรงที่ทุกคนจะต้องตั้งใจฟังคำตอบของคนที่ตอบ
ผ่านมาให้ถูกต้อง ถ้าคนไหนดันตอบผิดคนข้างหน้าที่เหลือทั้งหมดก็ตาย
เพราะจะตอบผิดไปหมดเลย

[niwat]

(คนรู้คำตอบแล้วอย่าเพิ่งเฉลยนะครับ)

เอ่อ... หายใจออกซ่ะที เพราะน้องมองอย่างแมวได้เฉลยแล้ว

[หัดฝัน]

เยี่ยมจริงๆ พี่ก็พยายามคิดหารหัสอยู่ตั้งนาน ยังคิดไม่ออกเลยนะเนี่ย

[เพียงพอ]

เหอ อ่านโจทย์ข้อ1 ผิด ไปอ่านเป็น เห็นเฉพาะหมวกคนข้างหน้าเราคนเดียวเท่านั้น
อิอิ

[วัดในดวงใจ]

29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์


คงไม่มีผู้หญิงคนไหนปรารถนาที่จะมีตีนกาอยู่บนใบหน้าเป็นแน่ แต่เพราะตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เรื่องของริ้วรอยเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้!! อยากให้ริ้วรอยลดเลือนลงไป แถมมีกระดูกที่แข็งแรง และมีพลังมากกว่านี้บ้างมั้ยล่ะ ลองเติมสุดยอดอาหารเหล่านี้ลงในเมนูของคุณดูสิ...

สดใสดูอ่อนกว่าวัย Stay looking young
เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เพียงอย่างน้อย 1 อย่าง เป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้เส้นผมดำขลับ เงางาม ผิวพรรณผุดผ่องและดวงตาเป็นประกาย
1. บลูเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) สารเม็ดสีในบลูเบอร์รี่ ช่วยในการมองเห็น ขอแนะนำให้คุณลอง ปั่นบลูเบอร์รี่รวมกับนมหรือโยเกิร์ตดู
2. พริกหยวก : ทั้งพริกแดง พริกเขียว และพริกเหลืองต่างมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆ จากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรง ลองนำพริกไปทำซัลซ่า โดยผสมเข้ากับมะเขือเทศ กระเทียม พริกแดง แตงกว่า น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวดูสิ นอกจากจะได้ประโยชน์มหาศาลจากเหล่าสุดยอดอาหารแล้ว ยังได้อร่อยกับเมนูเด็ดจากฝีมือของคุณเองอีก
3. กะหล่ำปลี : เห็นเขียวๆ ม่วงๆ อย่างนี้รู้มั้ยว่ากะหล่ำปลีนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ, ซีและเบตาแคโรทีนที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพียงหั่นกะหล่ำปลีบางๆ แล้วนำลงไปผัดกับขิงและกระเทียม เพียงเท่านี้ก็ได้อาหารมื้อค่ำสำหรับตัวคุณเองแล้ว
4. วอลนัท : ทองแดงในวอลนัทช่วยคงสภาพสีผมของคุณไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัยอันควร ลองโรยวอล นัทลงบนสลัดหรือโยเกิร์ตก็ไม่เลวนะ
5. แอปริคอท : สารเบตาแคโรทีนในแอปริคอทช่วยชะลอการเสื่อมถอยของเลนส์ตา ช่วยในการมองเห็นได้ดี ใส่แอปริคอทลงไปในสตูว์ไก่ ผสมกับขิงและอบเชยให้ได้กลิ่นอายแบบโมร็อคโค
6. อะโวคาโด : การรับประทานอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี บดอะโวคาโดโรยหน้าโอ๊ตเค้กเป็นของทานเล่นดูก็ได้
7. สตรอเบอร์รี่ : วิตามินซีและ สารบางอย่างในสตรอเบอร์รี่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผนังเส้นเลือด ผลไม้สีแดงสดทรงเสน่ห์แบบนี้ เพียงแช่เย็นไว้จิ้มกินกับเกลือตอนนั่งดูทีวีก็เพลินดีไม่น้อย
8. เต้าหู้ : หยุดยั้งผิวที่ซีดและแห้งโดยการรับประทานอาหารอย่าง เต้าหู้ เพราะในเต้าหู้มีสารที่จะช่วยคืนสภาพผิวและป้องกันรอยเหี่ยวย่น ลองผัดรวมกับผักกรอบๆ หรือทำเป็นต้มจืดเอาไว้ทานเป็นมื้อเย็นนอกจากจะช่วยคืนสภาพผิวแล้ว ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
9. ข้าวโอ๊ต : เต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดอาการตึงเครียด จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นน้อยลง เพียง โรยข้าวโอ๊ตลงบนมูสลี่ หรือนมอุ่นๆ ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยแค่นี้ก็ทานได้แล้ว กระชุ่มกระชวยเหมือนแรกสาว Stay feeling young
10. กระเทียม : สมุนไพรกลิ่นแรงอย่างกระเทียมมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย ล้างพิษ และป้องกันไวรัส จากโรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่ไข้หวัดไปจนถึงมะเร็ง อาหารไทยส่วนใหญ่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว
11. แครนเบอร์รี่ : ผลไม้มหัศจรรย์ช่วยต้านการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ จากงานวิจัยล่าสุดพบว่ายังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้ชะงัดอีกด้วย อาจจะทำเป็นแยมไว้รับประทานกับขนมปังหรือทำเป็นซอสแครนเบอร์รี่ไว้ทาไก่หรือเนื้อย่างก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน
12. ลินสีด : ช่วยลดอาการเจ็บตามข้อต่อ เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ร่างกายใช้ในการสร้างฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติป้องกันอาการอักเสบ ลองเติมลงในน้ำปั่นหรือโรยหน้าสลัดดูก็ได้นะ
13. กีวี : วิตามินซีและสารอาหารบางอย่างในกีวีช่วยในการไหลเวียนของออกซิเจน ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคหืด หอบ หั่นกีวีเป็นลูกเต๋าเสียบไม้กับมะม่วงหรือกล้วย ทาด้วยน้ำผึ้ง แล้วนำไปย่าง อาจจะได้รสชาติแปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง
14. ลูกพลัม : อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของไขมันซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมอง นำลูกพลัมไปเคี่ยวกับน้ำส้ม และโรยลงไปบนมูสลี่ หรือจะกินเล่น เป็นขนมขบเคี้ยวก็ไม่มีใครว่า
15. กล้วย : เป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม นอกจากกล้วยจะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารแล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก แค่ผสมเข้ากับนม น้ำผึ้ง และอัลมอนด์ ก็จะได้อาหารเช้าที่แสนอร่อย
16. ส้ม : การรับประทานส้มทั้งผลแทนการดื่มน้ำส้มจะช่วยให้ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำ วิตามินซีในส้มยังช่วยป้องกันและเยียวยาโรคหวัด นอกจากนี้กากของส้มยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย
17. ข้าวกล้อง : ฮอตฮิต อินเทรนด์กันอยู่พักใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยแร่แมงกานีสที่จะช่วยให้พลังงานกับร่างกายโดยการให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบสีจัดจ้านของข้าวกล้องก็สามารถหุงข้าวกล้องรวมกับข้าวสวยได้
18. มะเขือม่วง : เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยนาซูนิน (nasunin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องสมองของคุณจากการถูกทำลาย เพื่อคงความฉลาดหลักแหลมของคุณไว้ ลองนำมะเขือม่วงไปทำแกง หรือรับประทานกับข้าวกล้องก็อร่อยไม่เบา
แข็งแรงได้ใจ Stay healthy!
จากการศึกษาพบว่า อะไรก็ตามที่คุณรับประทานเข้าไป มีโอกาสที่จะทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดีขึ้นได้ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ เพื่อให้อัตราการเสี่ยงของคุณลดน้อยลง ลองอาหารพวกนี้ดูสิ
19. ลูกพรุน : โพแทสเซียมในลูกพรุนช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือดและลดระดับความดันเลือด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ เสิร์ฟคู่กับโยเกิร์ตหรือกินเล่นเป็นของว่างก็ดี
20. คะน้า : ช่วยให้ตับของคุณผลิตเอ็นไซม์ในการต่อต้านมะเร็ง เมื่อคุณเคี้ยวคะน้า จากการวิจัยพบว่า สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ ฮืม...ม เลือกผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูมื้อกลางวันดีกว่า (อ้อ อย่าลืมทุบกระเทียมลงไปด้วยนะ)
21. ผักโขม : คุณจะได้รับแคลเซียมจากผักโขม ในขณะเดียวกันก็มีแมกนีเซียมที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดี การรับประทานใบอ่อนของผักโขมในสลัด จะช่วยให้ป้องกันโรคกระดูกเปราะและหักง่ายเนื่องจากขาดแคลเซียม
22. ราสเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่าสารแอนตี้ออกซิเดนท์ในราสเบอร์รี่สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายได้ ลองนำราสเบอร์รี่ไปราดด้วยช็อกโกแลตเหลวแล้วไปแช่เย็นดูสิ
23. ถั่วงอก : สารประกอบ ที่พบในถั่วงอก สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ถั่วงอกยังประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยเรื่องโรคเล็กๆ น้อยๆ ของสตรีในวัยหมดประจำเดือน ถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่เบา
24. บล็อคโคลี่ : การรับประทานบล็อคโคลี่เป็นประจำ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 20% และยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ และโรคไขข้ออักเสบได้ด้วย ลวกใส่ในสลัด หรือผัดกับกุ้งสดก็ไม่เลว
25. บีทรูท : เนื้อของบีทรูทอุดมไปด้วยเบต้าไซยานิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านมะเร็ง รับประทานโดยการนำไปตุ๋นหรือย่าง
26. องุ่นแดง : จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเลือดจับตัวเป็นก้อน และดักจับไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นเลือดแดงของคุณ ใส่องุ่นแดงลงในสลัดหรือดื่มไวน์แดงสักแก้วระหว่างมื้อค่ำ
27. ปลาที่มีไขมัน : แซลมอน หรือเนื้อปลาชนิดอื่นๆ ที่มีไขมันปนอยู่บ้างนั้น สามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บมากมาย อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลายังช่วยในเรื่องของสมอง ว่ากันว่าให้เด็กๆ กินปลาแล้วจะฉลาด ปลานึ่ง ปลาย่างราดซอสอร่อยๆ ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี
28. มะเขือเทศ : สารไลโคพีนี (lycopene) ในมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่สำคัญช่วยให้ผิวสวยอย่าบอกใครเลยเชียวล่ะ เลือกเอาเลยว่าคุณอยากจะใส่มะเขือเทศลงในอาหารอะไรบ้าง
29. หัวหอม : หัวหอมที่มีกลิ่นไม่หอมเหมือนชื่อนี้จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน ซอยเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ใส่ในไข่เจียว หรือซอยใส่อาหารประเภทยำช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียว

[yasavanso]

ใช้ parity bit นี่เอง
งงจริง