ไปที่เนื้อหา


Lucky Girl

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 03 Oct 2008
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Aug 23 2010 11:26 AM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

ยกมือขึ้น

22 August 2010 - 07:09 PM

happy.gif

อุ้ย หลงทางอยู่ตั้งนาน กว่าจะหาทางกลับมาได้ อิ อิ มารายงานตัวเจ้าค่ะ รายงานตัวกับกัลฯ ทุกๆ คน
ก็น้องคอมพิวเตอร์เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ เข้าระบบมาไม่ได้เป็นเดือนๆ (ข้ออ้างที่หนึ่ง)

จริงๆ แล้ว ก็คงเหมือนเพื่อนๆ กัลฯ หลายๆ คน ที่โดนกระแสทางโลก พัดไปซ้ายที ขวาที หลงไปทางนั้นที ทางนี้ที (ข้ออ้างที่สอง)

biggrin.gif
ดีน่ะ มี www.dmc.tv กับหมู่กัลฯ ที่แสนดี มีทั้งเมตตาธรรม ความอดทนขั้นสูง ค่อยดึง ค่อยรั้ง เอาไว้ ไม่งั้น กู่ไม่กลับแน่ๆ wacko.gif

ไม่ว่าจะหลงไปทิศทางไหน แต่พอได้กลับมาบ้านหลังนี้ www.dmc.tv ก็กลับบ้านได้ไม่ยากค่ะ เพราะเราคุ้นทางอยู่แล้ว biggrin.gif

เพื่อนๆ กัลฯ คนไหน ยังหาทางกลับบ้านไม่ได้ รีบกลับบ้านด่วน เพื่อนกัลฯ คิดถึงหลายเด้อ รถด่วนขบวนสุดท้ายเคลื่อนตลอดเวลาน่ะจ้ะ ตกขบวนหล่ะแย่เลย ไม่มีเที่ยวสำรองด้วยซิ happy.gif

ขอบคุณน้อง sky noi ที่ตีตั๋วรถด่วนให้น่ะค่ะ เกือบขึ้นรถไม่ทัน glare.gif


กล่าวหาผู้อืน

09 April 2010 - 09:02 PM

มีเรื่องอยากถามเพื่อนๆ นรอ ค่ะ

จริงๆ เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว แต่นึกถึงครั้งใด ก็รู้สึกไม่ดี ยิ่งคิดถึงเรื่องพระเทวทัต ตอนพบพระพุทธเจ้าครั้งแรก หน้าก็ไม่เคยเห็นกัน แต่มีจิตอาฆาตจึงต้องจองเวรกันไปหลายภพหลายชาติ ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้รู้ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และก็ไม่ได้มีจิตอาฆาตตอบ เพราะท่านไม่ได้รับรู้ว่าไปตัดหน้าซื้อถาดทองคำและสร้างความเกลียดชังให้พ่อค้าอีกคน ท่านก็ได้ขึ้นเรือจากไปเรียบร้อยแล้ว

ไม่อยากมีคนมาจองเวรเราแบบนั้น ทั้งที่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ไม่คิดว่า เขาจะยังคงจองเวรอยู่ น่าแปลกใจจริง

เมื่อสิบปีก่อน มีการเข้าใจผิดเล็กน้อย กับร้านขายของชำในหมู่บ้าน เขาเข้าใจว่าเราเอาของ ของเขาไว้ แล้วไม่คืน มูลค่าก็ไม่ถึงร้อยบาท ตอนนั้นเราก็อธิบายแล้ว แต่เขาไม่ยอมฟัง แล้วก็ขับรถไป เราก็ถึอว่า เรื่องเล็กน้อย และได้อธิบายเหตุผลให้ฟังแล้ว ที่สำคัญ เรามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเราไม่ได้มั่วแน่ๆ

คนนี้เป็นคนที่ในหมู่บ้านทุกคนรู้ดีว่า เป็นคนปากร้าย ทะเลาะกับคนทั่วไปตามตลาดร้านค้า ชอบหาเรื่องคน เราจึงพยายามอยู่ห่างๆ ไม่ได้ไปซื้อของที่ร้านเขานานเป็นสิบปี ปกติไม่มีความจำเป็น เพราะเราซื้อจากห้างมาตุนเป็นปกติ

เมื่อสองวันก่อน บังเอิญขาดของทำกับข้าวเล็กน้อย ไม่อยากขับรถไปห้าง เลยเดินไปซื้อที่ร้านเขา ขณะที่รอจ่ายเงิน เขาก็พูดว่า คนโกง ทำบุญเท่าไหรก็ไม่คุ้มกันหรอก ฯลฯ พูดไปก็มองหน้าเราไป

เราก็เลยนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ตอนแรกก็นึกว่า เอ เขาพูดกับคนอื่นมั้ง มองไปมองมา คนอื่นก็ยืนเลือกของอยู่ ไม่ได้มีใครมาคุยหรือฟังเขา มีเรานี้แหละ ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เราก็นึกโกรธน่ะ ผู้หญิงคนนี้ จะเอายังไง ดีน่ะที่เข้าวัดแล้ว หลวงพ่อทัตตะสอนว่า ถ้าเจอคนพาล ก็ให้อยู่ห่างๆ คนพาลฤทธิ์มันเยอะ เราคิดในใจว่า เราไม่ได้ทำ วจีกรรมนี้จงคืนสนองคนที่กล่าวร้ายเรา เราถึอศีลห้าบริสุทธิ์เป็นปกติ จ่ายเงินค่าของเสร็จ ก็เดินออกมา ไม่ได้ต่อปากต่อคำด้วย เพราะเคยได้ยิน หลายๆ คนในหมู่บ้านกล่าวขวัญให้ฟังว่า เขาปากร้ายอย่างไร

กลับบ้านมา ในใจก็นึกโกรธ ยังคิดว่า ใครคิดไม่ดี ทำวจีกรรมไม่ดี ควรได้สิ่งนั้นตอบแทน เราไม่จองเวร แต่ไม่อโหสิกรรมให้ ควรได้รับสิ่งที่ทำนั้น

หนึ่งวันผ่านไป มองหน้าหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย แหม อายจัง นึกย้อนหลัง เรื่องที่หลวงปู่ถูกลอบยิง หลวงพ่อต้องเจออะไรบ้าง ท่านมีเมตตามากเหลือเกิน ท่านไม่ได้มีจิตโกรธตอบเลย ยังเมตตาเขา หลวงปู่ถึงกับขอตำรวจไม่ต้องเอาผิด หลวงพ่อก็เหมือนกัน บอกว่า พวกเราอธิบายไม่ดีเอง เขาจึงไม่เข้าใจชัดเจน นึกๆ ก็เกิดเมตตา สงสารเขา ทุกๆ วัน เขาคงทำวจีกรรม สร้างความไม่สบายใจให้ใครหลายๆ คน แถมขายเหล้า ขายบุหรี่ ขายอุปกรณ์ตกปลา ปล่อยเงินดอกเบี้ยแพง

แต่เนื่องจากเขายังคงเข้าใจผิด และยังอาฆาตเราอยู่ ถึงเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เวลาก็ผ่านมานานมาก และที่สำคัญ มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่การจะไปอธิบายให้คนอย่างเขาฟัง คงมีแต่ทะเลาะกัน เหมื่อนอย่างทุกๆ ครั้งที่เขาชอบทะเลาะกับคนอื่น แล้วอย่างนี้ เขาจะยังตามจองเวรเราต่อไปไหมแน่เลย ดวงตาเธอมันฟ้อง

เอาไงดีจ้ะ เพื่อนๆ นรอ จ้า


man man in town

11 January 2010 - 01:54 PM

เอาบุญมาฝากเพื่อนๆค่ะ เมื่อวานไปรับบุญออกบู๊ธ สี่จุด ที่ Central World ตรงสยามสแคว

แต่ต้องขอโทษ ไม่มีรูปมาฝาก เพราะไม่มีตากล้องเลย และอีกอย่าง มือเป็นระวิงกันเลยค่ะ

ก่อนไปก็เตรียมตัว อ่านเทคนิคจากเพื่อนๆ ที่เคยไปรับบุญที่เอาเข้ามาแบ่งปันกันในเว๊ปซ์ และเตรียมข้อมูลของงานบวช แต่ที่เตรียมมากที่สุด คือ เตรียมใจตัวเอง บอกตรงๆ ไม่ค่อยได้เคยชวนใคร เพราะ ไม่ชอบและยังไม่เก่งเรื่องการปรับใจให้สงบมากและเร็วมาก เมื่อเจอกับคนที่มีความคิด การกระทำที่ทำให้เราใจหมอง ยอมรับว่า ตัวเองยังกำลังฝึกฝนตนอยู่ ยังไม่เก่ง จึงต้องคอยถนอมตัวถนอมใจตัวเองให้ใสๆๆๆเอาไว้ก่อน ตั้งใจว่าเมื่อเรามีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่านี้ และมีเมตตามากๆ กว่านี้ ค่อยว่ากัน ตอนนี้ก็เพียงประคับประคองตัวเองให้อยู่ในสัมมาฏิฐิเข้าไว้

แต่ด้วยงานด่วน งานบวชแสนรูป และบรรยากาศที่เพื่อนๆ ไปรับบุญ จะไม่ทำอะไร ก็คงไม่ได้แล้ว

พอไปรับบุญเข้าจริง ๆ สนุกแฮะ เดาไว้ว่า คนในเมือง โดยเฉพาะ คนสมัยใหม่ที่มาเดินช๊อปปิ้งกลางกรุงอย่างนี้ เราก็ไม่แน่ใจว่า เขาคิดอย่างไรกับศาสนาน่ะ การบวชคงเป็นเรื่องไกลตัวเขาจริงๆ เดาว่าบางคนคงไม่เคยไปวัดไปวาเลยมั่ง อย่าว่าแต่เรื่องบวชเลย

มีบ้างที่ไม่สนใจ แต่โดยรวมก็ดีน่ะ บางคน ก็ถามแปลกๆ แต่เห็นเราตอบไปยิ้มไป บรรยากาศก็เลยสบายๆ

แต่ที่ยากอีกอย่าง ที่นี่เป็น สากลม๊ากมาก มีชาวต่างชาติสักเกือบครึ่ง และเป็นชาวต่างชาติที่หน้าเหมือนคนไทย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปิน
แจกไปก็ต้องถาม Are you Thai? ถ้าไม่ใช่คนไทย เราก็เปลี่ยนเป็นแจก Leaflet ของโครงการสมาธิ middle way แทน

บู๊ธของเราจะตั้งไปถึงวันที่ 18 Jan เลยค่ะ ถึงแม้ว่า มันดู ผิดที่ ผิดทาง ผิดบรรยากาศ แต่ตลอดเวลาที่รับบุญอยู่นั้น เพื่อนๆ ก็พูดให้กำลังใจซึ่งกันและกันตลอดว่า ได้พระแท้สักรูปก็คุ้ม หาหมู่คณะให้เจอสักคนก็เพียงพอ เราไม่อยากทิ้งเพื่อน ไม่อยากทิ้งพี่น้องไว้กับความไม่รู้ ถึงแม้ว่า เหมือนกำลังงมเข็มในมหาสมุทร ก็ต้องช่วยกันต่อ ในเมื่อเรารอดแล้ว จะทิ้งพี่น้องได้อย่างไร ฟังเพือนเตือนสติอย่างนี้ พวกเราก็หายเหนื่อยกันค่ะ และพยายามจะสลับสับเปลี่ยนกันไปช่วยรับบุญที่กลางกรุงอันศรีวิไลของมหานครกรุงเทพฯ จนครบกำหนด

หากเพื่อนคนไหนจัดเวลาไปได้ ไปช่วยกันน่ะค่ะ ไปตรงทางเข้า Central World ทางเข้า ชั้น 2 จาก Sky Walk ค่ะ

โปร่ง โล่ง เบา สบาย

20 September 2009 - 09:17 PM

เพิ่งกลับจากปราจีนบุรีค่ะ ไปปฏิบัติธรรมกันมา สามวันสองคืน มีเพื่อนๆ ชาวเว๊ปไปด้วยกันหลายคน ทุกคนมีความสุข โปร่ง โล่ง เบา สบาย สุขกาย สุขใจกับธรรมะใสๆ สดชื่นเหมือนหยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนในเฟริน์สีสวยใบนี้เลยค่ะ เอาบุญนี้มาฝากเพื่อนๆ ชาวเว๊ปที่รักทุกคนค่ะ
แนบไฟล์  t_aztpvqlto_image.jpg   35.35K   92 ดาวน์โหลด

แลกเปลี่ยนประสบการณ์

10 September 2009 - 12:45 PM

อยากเอาประสบการณ์เล็กๆ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เผื่อว่า อาจเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

มีช่วงหนึ่ง โทรทัศน์ที่บ้านเสีย เอาไปซ่อม ช่างใช้เวลาซ่อมนานถึงเกือบหนึ่งปี แต่เราก็ไม่ยอมซื้อใหม่ เพราะถ้าซ่อมเสร็จแล้ว ไม่รู้จะเอาของเก่าไปทิ้งไว้ไหน จึงรอจนกว่าจะซ่อมเสร็จ ที่ซ่อมนานก็เพราะมันเป็นรุ่นสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ของพ่อแม่ให้มา ไม่ยอมทิ้งค่ะ

เป็นเหตุให้ในช่วงหนึ่งปี ไม่ได้ดูหนัง ละคร เลย แม้แต่เล็กน้อย ส่วนเรื่องเข้าโรงเรียนอนุบาลฯ ก็ไม่มีปัญหา เพราะเราเข้าเว๊ปทุกวันอยู่แล้ว ไม่ตกเทรนแน่นอน

ในช่วงหนึ่งปี ก็หมั่นไปวัดทุกวันอาทิตย์ ถึงแม้จะไม่ได้นั่งสมาธิเป็นประจำได้ทุกวัน แต่เมื่อนั่งครั้งใด ใจมันเบา สบาย รวมใจได้ง่าย หยุดใจได้เร็ว จนตัวเองสังเกตุการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ในเวลาปกติ ที่ไม่ได้นั่งสมาธิ ใจก็จะใสๆ เย็นๆ เหมือนติดเครื่องปรับอากาศในใจเลย

แต่แล้ว เจ้าหนูโทรทัศน์ก็กลับมาบ้าน ใหม่ๆ ก็เปิดเฉพาะช่อง DMC ช่องนี้ช่องเดียว แต่สองเดือนหลังนี้ มือเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ไปเปิดช่องละครน้ำไม่ดีดู ได้เรื่องเลย พอดูวันที่หนึ่ง ก็มีวันที่สอง มีวันที่สามตามมา ตอนดูก็สนุกดี น่ะ ละครแย่งโน้น แย่งนี้กัน บางทีก็แย่งหนุ่มๆ สาว ๆ บางทีก็แย่งสมบัติ ดูข่าวการเมือง ข่าวดุเดือด โอ๊ แม่เจ้า ทำไมมันเป็นกันได้ขนาดนี้ ไม่ได้ดูข่าวมาหนึ่งปี เป็นกันถึงขนาดนี้เลย

มารู้ตัวอีกที เวลาผ่านไปสองเดือน เราดูเกือบทุกวัน มาสังเกตใจตัวเอง มันหมอง ๆ มัวๆ ค่ะ เวลานั่งธรรมะ ก็ไม่ค่อยรวมง่ายเหมือนเมื่อก่อน เวลาเผลอๆ ตัว เมื่อก่อน จะ สัมมา อะระหัง แบบฮัมเพลง เวลาสบายใจ จะออกมาเองเป็นอัตโนมัติ แต่ตอนนี้ ดันฮัมเพลงในละคร

นั่นไง ใครบอกไม่มีผล เข้าใจแล้วว่า ทำไม มหาปูชานียาจารย์ท่านถึงสอนว่า อย่า ดู หนัง ดู ละคร เพราะมันเป็นข้าศึกกับเรา

ใจใสๆ กับใจ มัวๆ มันต่างกัน ถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่หากสังเกตตัวเองสักนิด จะรู้ถึงความแตกต่างได้ง่ายมาก

ตอนนี้ ต้องเข็กหัวตัวเองแรงๆ แล้วเริ่มต้นใหม่ค่ะ (โอ๊ยเจ็บหัวจัง) เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปล้างใจ ไปปฏิบัติธรรมสามวัน จะได้ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เอาใจใสๆ ของเราคืนมาให้จงได้ ฮิ ฮิ

ใครยังติดละครน้ำไม่ดีอยู่บ้างเอ่ย ยกมือขึ้น
แนบไฟล์  hands_up_kitten_t.jpg   2.2K   80 ดาวน์โหลด