ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ทางสามแพร่ง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 21 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 13 June 2006 - 10:14 PM

ทางที่ 1. ออกแสวงหาโมกขธรรมในป่าลึก

ทางที่ 2. ดูแล เธอผู้นำพาข้าพเจ้ามาพบครูไม่ใหญ่สร้างบารมีด้วยกัน เป็นกองเสบียงวงนอก

ทางที่ 3. ออกบวชตามครูไม่ใหญ่

......................

แนะนำผมบ้างครับ..



ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 13 June 2006 - 11:22 PM

nerd_smile.gif ทางที่สามสิครับ เพราะชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่พรากออกจากกาม หลุดออกจากกาม พ้นออกจากกาม และไม่ข้องอยู่ในกามทั้งปวง เป็นเพศภาวะที่ประเสริฐสูงสุดในสังสารวัฏนี้ แม้สมบัติอันเลิศอันประเสริฐ แห่งองค์สมเด็จพระจักรพรรดิราชาผู้เป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ ที่มีค่ามหาศาลก็มิอาจเปรียบปานได้ เนื่องด้วยสมบัติแห่งเพศของผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์นั้น เป็นอริยทรัพย์อันสูงค่าที่สามารถนำพาข้ามพ้นห้วงแห่งวัฏทุกข์ไปสู่ฟากฝั่งแห่งเอกันตบรมสุข คือ อมตมหานฤพาน

ขุนศึกผู้พิชิตหงสา

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#3 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 13 June 2006 - 11:35 PM

ขอเสนอ ทางที่4 คือ เดินทางเข้าไปในใจตนเองก่อน ศึกษาปฏิบัติให้พร้อม ก่อนที่จะเลือกทางที่1 หรือ 3




#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 13 June 2006 - 11:52 PM

nerd_smile.gif ถึงอย่างไรก็ดีทางเลือกทั้งหมดที่พี่ได้นำเสนอมานี้ พี่ต้องเป็นผู้เลือกเดินด้วยตัวของพี่เองนะครับ แต่ไม่ว่าพี่จะเลือกแบบไหน ผมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ... สาธุ... สาธุ...
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#5 กาแฟเย็น

กาแฟเย็น
  • Members
  • 121 โพสต์
  • Location:milan
  • Interests:วาดการ์ตูน เล่นคอมกับโปรแกรมแต่งรูปต่างๆ ชอบถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 03:48 AM

ขออนุญาติแนะนำข้อที่สาม เพราะได้ประโยชน์ครอบคลุมทั้งสามข้อ (3 in 1) นั่นคือ เมื่อได้บวชเป็นพระแล้วก็ต้องบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อแสวงหาโมกธรรม ถ้าเราได้อยู่ในหมู่กัลยาณมิตร ก็จะทำให้เราประคับประคองตัวเองไปได้ตลอดรอดฝั่ง และได้อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ที่จะแนะนำเราได้ และสามารถบำเพ็ญบารมีทั้งสิบทัศให้เต็มเปี่ยมได้เร็วยิ่งขึ้น ไปถึงจุดหมายปลายทางเร็วกว่าเดิม ไม่เสียเวลา ส่วนข้อสองนั้น เราอย่าดูแค่ช่วงสั้นๆแค่ตอนนี้ เพราะชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราอาจจะจากเธอไปก่อน ถ้ามีลูก ก็ยิ่งสร้างความลำบากให้เธอ ให้ต้องทำงานหาเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว และต้องทุกข์ทรมานใจที่เสียพ่อของลูกไป แต่ว่าถ้าเราบวช เราจะสามารถดูแลเธอได้ไม่เพียงแต่ชาตินี้ แต่รวมไปถึงชาติหน้า จนถึงที่สุดแห่งธรรม เพราะเราได้กลายเป็นเนื้อนาบุญอันอุดม ให้แก่เธอและผู้มีบุญทุกๆคน ให้ได้สั่งสมบุญ ที่จะบันดาลความสุข ความสำเร็จในชีวิตให้แก่เธอไปทุกภพทุกชาติ และเรายังเป็นยอดกัลยาณมิตรที่จะแนะนำสั่งสอนเธอและผู้มีบุญให้ยกตัวเองขึ้นจากความทุกข์ทั้งมวล ช่วยปิดอบาย เปิดทางสวรรค์ ชี้หนทางนิพพาน ที่จะทำให้ทั้งเราและเธอไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป เพราะเกิดบ่อยๆ ก็ทุกข์บ่อยๆ อย่ามองแค่ตอนนี้ที่เรายังดีๆอยู่เพราะพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร ตรึกตรองดูให้ดี นั่งสมาธิมากๆ จะได้คำตอบเอง

#6 middleway

middleway
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 08:36 AM

นึกถึงเคสนึง ที่พี่ชายเจ้าของเคสได้พบกับคุณยาย แล้วคุณยายบอกว่า เธอเหมือนน้ำที่ปริ่มแก้ว อีกนิดก็จะล้นแล้ว.......และ.........เธอมีหน้าที่นะ

ชีวิตในเพศสมณะปลอดภัยที่สุดในสังสารวัฏนี้ค่ะ

#7 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 12:53 PM

ชอบทางเลือกที่ 3 แต่ถ้าไม่มีผังบวชมาจะไปสู่ฝันได้ไหมเอ่ย

#8 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 01:20 PM

ทางที่ 1
เป็นทางของผู้เบื่อหน่ายในโลกธรรมทั้งหลาย
เป็นทางสายป่า เป็นทางที่เป็นของผู้พิจารณา
พิจารณาว่า รูปทั้งหลาย สัญญาทั้งหลาย สังขารทั้งหลาย วิญญาณทั้งหลาย เวทนาทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้

ทางที่ 2
เป็นทางของผู้กตัญญู
เป็นทางที่ทำให้เราไม่ถูกตราว่าละทิ้งผู้มีคุณ

ทางที่ 3
เป็นทางของผู้ที่มีเมตตาอันประมาณมิได้
เป็นทางที่จะทำให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้โดยไม่ต้องมีกามคุณ หรือสัญญากิเลสมาเชื่อม


หากเลือกทางที่ 1
จะทำให้รักสันโดษ
แต่เป็นเส้นทางของพระปัจเจก
เป็นเส้นทางที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ทำให้ประพฤติสมณธรรมได้โดยง่าย
แต่สามารถสงเคราะห์สรรพสัตว์ได้เพียงน้อยนิด เพียงหยิบมือ

หากเลือกทางที่ 2
จะเป็นทางที่ทำให้เราเป็นผู้รู้จักความกตัญญู
แต่ความกตัญญูนั้น สามารถสงเคราะห์เธอคนนั้นได้เพียงชาติเดียว
ทั้งยังเป็นทางมาแห่งกิเลส เป็นทางของผู้เสพกามคุณ
เป็นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามที่ไม่จำเป็นต้องเลือกฝ่า

หากเลือกทางที่ 3
เราคือผู้รื้อวัฏฏสงสาร เป็นผู้รวมพล
เป็นทางที่ทำให้เราตัดจากกิเลสได้โดยง่าย
เป็นทางที่จะปลดปล่อยสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วทั้งอนันตจักรวาล
เป็นเส้นทางที่ยาวไกล เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ลำบากนัก
แต่ก็มีหมู่คณะช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไป
ทั้งยังเป็นการต่อสายให้กับกัลยาณมิตรผู้ให้โอกาสเรามาร่วมเส้นทางนี้อีกด้วย



คุณจะเลือกเดินเส้นทางไหน
ก็แล้วแต่ธาตุธรรมของคุณจะนำไปเถิด
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#9 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 01:48 PM

แนะนำคุณเถลิงเกียรติลองไปปฏิบัติแบบจริงจังก่อนดีกว่าไหมครับ หลับตาเปิดใจ อาจจะได้หนทางใหม่ๆ หรือ ถ้าตัดสินใจเลือกเส้นทางเส้นไหน จะได้ไม่เลือกผิดพลาดครับ เพราะท้ายที่สุด คนที่เข้าใจคุณและรู้สถานการณ์โดยรวมทั้งหมดก็คือ ตัวคุณ เองครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#10 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 05:37 PM

ทางที่ 3 ดีที่สุดค่ะ และได้บุญมากที่สุด
ใจต้องเข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะฝึกตัวทุกรูปแบบ ไม่ประมาท ไม่คลาดเป้าหมาย

แต่ใครจะเลือกทางไหน ต้องพิจารณาด้วยตัวเอง ให้ดีค่ะ smile.gif
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 06:08 PM

ผมขอตอบแบบ เคยมีตัวอย่างมาแล้วดีกว่าครับ ก็คือ เคยมีเคสเคสหนึ่ง พระอาจารย์ท่านหนึ่งท่านไปอยู่ที่วัดอื่นอยู่ แต่พอมาพบวัดพระธรรมกายกลับรู้สึกผูกพันมาก จึงเดินทางมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ส่วนวันธรรมดา ก็อยู่วัดของท่านต่อไป

ท่านจึงเขียนเคสมาถามครูว่า เหตุใดจึงรู้สึกผูกพันกับวัดพระธรรมกายมาก ทั้งๆ ที่ยังคงอยู่วัดอื่น คุณครูได้ฝันว่า พุทธันดรที่แล้ว ท่านมาบวชกับหมู่คณะ บวชแล้วก็ชอบสันโดษ รู้สึกว่า ถ้าอยู่กับหมู่คณะจะนั่งสมาธิไม่สงบ น่าจะปลีกวิเวกดีกว่า
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจ ออกจากหมู่คณะปลีกวิเวกไปนั่งสมาธิอยูคนเดียว แต่กลับปรากฏว่า ทำเช่นนั้น ผลก็ยิ่งไม่ดี ท่านไม่สามารถบรรลุธรรมอันใดได้ และคิดถึงหมู่คณะจับใจ ในที่สุดก็ย้อนกลับมาอยู่ร่วมกับหมู่คณะอีกในตอนท้าย ที่นี้ชาตินี้ วิบากนั้น จึงปรับให้ไม่ได้อยู่กับหมู่คณะ แต่กลับผูกพัน

ดังนั้น ถ้าคุณเถลิงเกียรติ มั่นใจว่า ภพชาติต่อไป ถ้าฉันต้องพรากจากหมู่คณะ แล้วมาเจอภายหลัง แล้วกลับรู้สึกผูกพัน ฉันจะไม่ถามหลวงพ่อว่า ทำไมฉันต้องพรากจากหมู่คณะล่ะก็ ให้คุณเลือกเส้นทางที่ 1 ได้เลยครับ แต่ถ้าคิดว่า เป็นตรงข้ามล่ะก็ ก็เหลือแต่ทางที่ 2 และ 3 เท่านั้นแหละครับ ที่คุณจะต้องเดินต่อไป

ส่วนจะเลือก 2 หรือ 3 นั้น ก็มีตัวอย่างอีกแล้ว ผมชอบตอบด้วยตัวอย่าง ที่เจ้าของเคส เขียนมาตัดพ้อว่า ชาตินี้ตัวเขาจะบวช แต่มีอุปสรรคเยอะเหลือเกินยังบวชไม่ได้เลย คุณครูฝันว่า ชาติก่อนเพื่อนชวนบวช ก็ไม่ยอมบวชอยากครองเรือน พอไปครองเรือนเจอพิษภัยในโลกมา จนแก่แล้วค่อยคิดได้ จึงบวชตอนแก่ แล้วชาตินี้ยังมาถามอีกว่า ทำไมอุปสรรคจึงเยอะขวางการบวช ก็ตัวออกแบบไว้อย่างนั้นเองนี่นา

ดังนั้น ถ้าจะไม่บวช อย่าได้เสียใจที่เลือกแบบนี้ ให้ยอมรับว่า มันต้องทุกข์มากๆ แน่ แต่ต้องยอมรับ เพราะเราเลือกเอง
ถ้าจะบวช อย่าได้โลเล ลุยไปได้เลย จะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนตัวอย่างข้างต้นน่ะครับ

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 glouy

glouy
  • Members
  • 162 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 10:17 PM

ทางที่ 3. ออกบวชตามครูไม่ใหญ่ ชัวร์ที่สุด และก็เร็วที่สุด ด้วย อนุโมทนาร่วงหน้า สาธุ

#13 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 10:44 PM

QUOTE
ชอบทางเลือกที่ 3 แต่ถ้าไม่มีผังบวชมาจะไปสู่ฝันได้ไหมเอ่ย

nerd_smile.gif ถ้าให้ครูบาอาจารย์ท่านตรวจดูแล้วปรากฏว่า เราไม่มีผังบวชจากชาติในอดีตติดตัวมา เราก็ค่อยๆ สั่งสมผังบวชแบบช่วงสั้นเก็บอานิสงส์แห่งการบวชไปทีละเล็กละน้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มระยะเวลาในการประพฤติพรหมจรรย์ให้มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับพี่แก้วประเสริฐ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#14 ศูนย์กลางกาย

ศูนย์กลางกาย
  • Members
  • 94 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 June 2006 - 10:46 PM

บวชเถิด ประเสริฐนัก ช่วยทั้งตัวเองและเธอคนนั้น ทั้งภพนี้และภพหน้า

#15 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2006 - 02:45 AM

บวชเป็นเนื้อนาบุญแก่ผู้ด้อยโอกาสอย่างพวกเราเถอะค่ะ
อยากได้บุญกับคุณค่ะ
ช่วงสั้นๆก่อนก็ได้ เมื่อมั่นใจ ก็ตลอดไปเลยนะคะ
ขออนุโมทนาบุญกับบุญใหญ่นี้ค่ะ



#16 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2006 - 02:45 AM

ทำให้คิดถึงคำของพระลูกชายพระเดชพระคุณหลวงพ่อองค์หนึ่ง ที่ว่า "จะอยู่เป็นโสดเพื่อโปรดสัตว์" ฟังแล้วกินใจเหลือเกินค่ะ
QUOTE
ถ้าให้ครูบาอาจารย์ท่านตรวจดูแล้วปรากฏว่า เราไม่มีผังบวชจากชาติในอดีตติดตัวมา เราก็ค่อยๆ สั่งสมผังบวชแบบช่วงสั้นเก็บอานิสงส์แห่งการบวชไปทีละเล็กละน้อยก่อน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มระยะเวลาในการประพฤติพรหมจรรย์ให้มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับพี่แก้วประเสริฐ

เห็นด้วยที่สุดค่ะ เพราะท้ายที่สุดแล้วเราทุกคนก็ต้องครองเพศสมณะ แล้วใยจึงไม่เริ่มเสียชาตินี้ละค่ะ ในเมื่อท่านได้สิ่งที่มีค่าเหลือเกินแล้วคือได้เกิดเป็นชาย มีโอกาสบวช ยังมีผู้ด้อยโอกาสอีกมากมายเหลือเกินที่ต้องรอกันข้ามชาติทีเดียว สำคัญที่สุดคือการอธิฐานจิตค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ และไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนก็ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยเช่นกันค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#17 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2006 - 08:03 AM

ทางเลือกที่ ๓ ดีที่สุด

เพราะเมื่อแก่แล้วชีวิตที่ดีที่สุดคืออยู่ในเพศสมณะ

แต่ไม่ได้หมายความว่าให้บวชตอนแก่

บวชก่อนจะแก่ เตรียมตัวให้ได้มรรคผลก่อน

เมื่อแก่แล้วจะได้เอาตัวรอด กลับบ้านได้

เมื่อลมหายใจสุดท้ายมาถึง จะได้ไม่ต้องทุกข์เพราะแก่ เพราะเจ็บป่วย และตาย

ในบั้นปลายชีวิตจะได้เดินวิชาเพิ่ม เป็นการช่วยอาจาร์ย เลื่อนจากนักเรียนอนุบาลเป็นชั้นสูง

ไม่เสียชาติเกิดมาแล้ว



เป็นความตั้งใจของผม และคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่น ๆ ด้วย






หยุดคือตัวสำเร็จ

#18 aoi

aoi
  • Members
  • 356 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2006 - 08:43 AM

เห็นด้วยกับคณ qioia เป็นอย่างยิ่งค่ะ เราถือว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส ตอนนี้ถึงต้องปฏิบัติธรรมอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะได้เกิดเป็นผู้ชายและได้บวชตั้งแต่เด็กจนตลอดชีวิตค่ะ อนุโมทนาบุญสาธุกับทุกๆ ท่านค่ะ
เราเกิดมาสร้างบารมี




#19 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 15 June 2006 - 09:58 AM

โอโห น้อยอ้อย เพิ่งมาวัดไม่นานแท้ๆ ยังมีทัศนคติกับชีวิตใหม่ได้ถึงขนาดนี้ คุณครูท่านปลูกฝังดีจริงๆ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#20 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 11:19 AM

โดยทฤษฎี

แนะนำ"ทางสายกลาง"ก่อนครับ

เมื่อได้พบทางสายกลาง สู่เส้นทางอริยมรรคแล้ว

หากประกอบธาตุธรรมสมบูรณ์ คำตอบที่ชัดเจนจะออกมาจากภายในตัว ว่า เราเกิดมาทำไมหรือมีหน้าที่ใด

ส่วนการจะเลือกเส้นทางใดในแต่ละทางสามแพร่งนั้น คงขึ้นกับตัวเราเองมากกว่า ว่าจะเลือกเดินทางไปสู่วงบุญ-ภาคใด สายบุญใด
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#21 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 June 2006 - 07:59 PM

ขอยกมือให้ข้อสามเช่นกันค่ะ เนื่องจากเป็นผู้ด้อยโอกาสคนหนึ่งค่ะ แต่ก็ต้องให้เหมาะสมกับแต่ละ
คนนะคะ

#22 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 05:13 PM

บวชเถิด ประเสริฐนักทางที่ 3. ออกบวชตามครูไม่ใหญ่

ลูกพระธรรม