การศึกษาพลังจิต ของนักวิทยาศาสตร์
#1
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 11:34 PM
พลังจิตแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งาน ดังต่อไปนี้
อนิมัล ไซ (Animal Psi) - ความสามารถในการพูดคุยกับสัตว์
แอนตี้ ไซ (Anti Psi) - สามารถรับการโจมตีโดยใช้พลังจิตป้องกัน
แอสตรัลโปรเจคชั่น (Astral Projection) - การถอดกายทิพย์
ไบโอ คอนโทรล (Biocontrol) - สามารถควบคุมการทำงานอวัยวะภายในร่างกายได้ เช่น ระบบการหมุนเวียนของเลือด
รักษา บรรเทาอาการเจ็บปวด
แชนเนลลิ่ง (Channeling) - ติดต่อกับวิญญาณหรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ละเอียดกว่าได้
ไมนด์ชีลด์ (Mindshield) - ป้องกันการโจมตีจากพลังจิต
พรีคอคนิชั่น (Precognition) - ความสามารถหยั่งรู้อนาคต
ไซคิค ฮีลลิ่ง (Psychic Healing) - การรักษาด้วยพลังจิต
ไซคิค ฮิปโนซิส (Psychic Hypnosis) - การสะกดให้นอนหลับโดยใช้พลังจิตเข้าช่วย
ไซคิค อินวิซิบิลิตี้ (Psychic Invisibility) - การล่องหนหายตัวโดยใช้พลังจิต
ไซคิค แวมไพริซึ่ม (Psychic Vampirism) - ความสามารถในการดูดซับพลังชีวิตของคนอื่น
ไซโคเมทรี (Psychometry) - รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตโดยการจับต้องสิ่งของ เช่น
การค้นหาผู้สูญ หายโดยการจับรูปถ่ายหรือของใช้ของเขา
ไซโคพอร์เทชั่น (Psychoportation) - พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ/ตนเอง ไปยังจุดหมายที่ต้องการ
ซีเนอร์จี (Synergy) - ความสามารถในการผสมผสานพลังจิตเข้าด้วยกัน
เทเลพาธี (Telephathy) - การติดต่อผ่านทางจิต
เอ็มพาธี (Empathy) - รับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นได้
เลวิเตชั่น (Levitation) - การลอยตัวโดยใช้พลังจิต
ไซ-บอล (Psi-Ball) - การสร้างบอลพลังจิต เพื่อใช้ประโยชน์ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ไมนด์คอนโทรล (Mindcontrol) - ควบคุมจิตใจผู้อื่น
การค้นคว้าของตระกูลคิเนซิส
เทเลคิเนซิส (Telekinesis) - การควบคุม/เคลื่อน วัตถุสิ่งของโดยใช้พลังแห่งจิต
ไพโรคิเนซิส (Pyrokinesis) - ควบคุมเปลวเพลิง สร้างไฟขึ้นมาได้
ครายโอคิเนซิส (Cryokinesis) - ควบคุมธาตุน้ำ ทำน้ำให้กลายเป็นน้ำแข็ง
แอโรคิเนซิส (Aerokinesis) - ควบคุมอากาศ สร้างสายลม
โครโนคิเนซิส (Cronokinesis) - ควบคุมกาลเวลา สามารถเดินทางไปยังอดีตหรืออนาคตได้
*** วิทยาศาสตร์ทางใจ ในแง่พระพุทธศาสนา คือ วิชชา ๓ วิชชา ๘ และอภิญญา ๖ เลิศเลอกว่านะครับ
แค่วิทยาศาสตร์ทางใจ ของบรรดาวิทยาธรหลากสายพันธุ์ ก็ล้ำหน้านักวิทยาศาสตร์เป็นโกฏิกัปปีแล้วนะครับ
ใครมีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ?
#2
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 11:50 PM
...........................................................
หก ตัวแปรมีความสัมพันธ์กันรึเปล่าครับ หากมี ขอผู้รู้แนะนำทีครับ...
.........................................................................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 02:52 PM
...........................................................
หก ตัวแปรมีความสัมพันธ์กันรึเปล่าครับ
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เขาเรียกเวทย์มนต์ ว่าเป็นการสั่งจิตใต้สำนึก หรือการสะกดจิตตัวเองครับ เมื่อใช้พลังจิตสะกดจิตตนเองสำเร็จ จึงนำอำนาจสะกดจิตนั้นไปสะกดจิตใต้สำนึกของผู้อื่นส่งผลเป็นให้ผู้ถูกสะกดทำตาม เกิดเป็นวิบากกรรมของผู้ทำ ดังนั้นคนที่เป็นบ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอาการทางจิตเห็นภาพหลอน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากการที่ทำกรรมชั่วโดยใช้เวทย์มนต์ หรือการสั่งจิตใต้สำนึก จัดเป็นกรรมบีบคั้นให้ต้องเสวยผลที่ไม่ดีครับ ความฝันเป็นสิ่งที่กายในตัวหรือกายละเอียด หรือจิตใต้สำนึกของเราพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเราครับ แต่เนื่องจากจิตสามัญสำนึกมีอำนาจมากกว่าจิตใต้สำนึก ทำให้เวลาฝันเราจึงฝันแบบแปลกๆ ต้องมาตีความกันนุงนังนั่นเองครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#4
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 03:35 PM
1. เวทมนต์ ในอดีดกาลนิยมเรียกว่า จุลคันธาระ คือ เป็นการใช้พลังจิตอ่อนๆ (เบื้องต้น) ท่องมนต์ให้ตนเองเหาะได้ แต่ในความเป็นจริง ผู้ท่องมนต์ไม่ให้เหาะได้ด้วยตัวเอง แต่การท่องมนต์จนมีพลังจิตอ่อนๆ ขึ้นมา พลังจิตนั้นจะไปติดต่อกับวิทยาธรได้ และวิทยาธรนั้นแหละจะเป็นผู้มายกตัวผู้ท่องมนต์ให้ลอยขึ้นไปในที่ต่างๆ เหมือนเหาะได้ แต่ไม่ใช่
2. พลังจิต พลังจิตที่แข็งกล้าขึ้นมาย่อมแสดงฤทธิ์ได้ด้วยตัวเอง เรียกว่า มหาคันธาระ เช่น ฤษี นักบวช ที่ได้อภิญญา 5 เมื่อทำสมาธิจนจิตมีพลังถึงขั้น ก็จะเหาะได้ด้วยตัวเอง (ไม่ต้องมีวิทยาธรมายกตัว)
3. กรรม กรรมดีและชั่วบางอย่าง ก็มีวิบาก คือผลของกรรมให้เหาะได้เช่นเดียวกัน เช่น ฝ่ายดีก็เช่น พระโพธิสัตว์ในอดีต ถูกพญามารเนรมิตหลุมถ่านเพลิงกว้างใหญ่ลึกมาขวางไม่ให้ทำทาน กับพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่พระโพธิสัตว์ยอมสละชีวิตเพื่อจะไปทำทาน ปรากฏว่า เมื่อท่านก้าวเดินออกไปในอากาศ ก็มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับเท้าของท่านจนฝ่าหลุมถ่านเพลิงไปได้
4. วิบากกรรม ก็เป็นผลของกรรมซึ่งได้ทั้งดีและชั่ว ถ้ากรรมชั่วก็เช่น นกได้รับวิบากกรรม ให้มาเกิดเป็นนก บินได้ด้วยแรงกรรม
5. กรรมบีบคั้น ก็เหตุการณ์ดังเช่นพระโพธิสัตว์ฝ่าหลุมถ่านเพลิง เมื่อมีกรรมบีบคั้นเช่นนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาย่อมล่าถอย แต่พระโพธิสัตว์ท่านไม่ถอยท่านลุยไปข้างหน้า
6. บางครั้งฝันเป็นกรรมนิมิต ว่าตนเองเหาะลอยไปในที่ต่างๆ และปรากฏว่า ภายหลังมาพบสถานที่นั้นๆ จริง ก็มีครับ
เอ่อ คุณ dangdee พอจะบอกตำราอ้างอิงหน่อยได้มั้ยครับ เผื่อเวลาผมนำข้อมูลนี้ไปใช้ว่า นักวิทยาศาสตร์ก็มาสนใจเรื่องพลังจิตกันแล้ว หากมีใครสงสัย จะได้บอกได้ว่า มาจากตำรานั้นนี้
#5
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 05:36 PM
และอภัยทานคุณ หัดฝันด้วยเรื่องแหล่งที่มา
file เรื่องพลังจิตนี้ พอจำได้ว่า download มาจาก website ที่มีคำว่า myth
ผมลองสืบค้นแล้ว ยังไม่เจอ website เดิมที่เป็นภาษาไทย เลยครับ
#6
โพสต์เมื่อ 14 January 2006 - 08:11 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#7
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 09:53 PM
อาจารย์ผู้สะกดทำวิบากกรรมหรือเปล่าคะ
#8 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 05 March 2006 - 07:21 PM
#9 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 05 March 2006 - 09:48 PM
ส่วนใหญ่เป็นเพียงความรู้สึกแปลกๆสะกิดใจ ไม่ได้เห็นเป็นภาพเหตุการณ์
เคยมี กรณีศึกษากฎแห่งกรรมเรื่องทำนองนี้บ้าง
คือ เป็นผู้เคยฝึกสมาธิมาบ้าง จึงมีสัมผัสพิเศษ
เคยนับถือเจ้าเข้าทรง บ้าง จึงเหมือนมีใครส่งสัญญาณมาสะกิดใจ
ซึ่งก็มีทั้ง ถูกต้องและคลาดเคลื่อน
ไม่สนใจได้ก็ดีนะครับ ไม่งั้นจะกังวลใจเวลา รู้สึกแปลกๆมาสะกิดใจ
แต่เราไม่รู้ว่า จะเกิดอะไร ดีหรือ ร้าย สุดท้ายก็กังวลใจ
เวลาเกิดรู้สึกแปลกมาสะกิดใจ ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าและบุญกุศลที่คุณเคยทำไว้ ดีกว่านะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 12:28 AM
ผมขอกล่าวเรื่องพลังจิต จิตวิณญาณ เราสามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก เช่นรู้สึกขนลุก ได้รับกลิ่นแปลกๆ ส่วนการมองเห็นตามปกติจะมองไม่เห็นแต่จะเห็นได้เมื่อพลังจิตอ่อน จิตวิณญาณมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเช่น ต้นไม้ใหญ่ บ้านร้าง ศาลา กำแพงตึก และริมถนนหนทาง จิตวิณยาณมีทั้งดีและไม่ดีจะถ่วงดุลย์กัน ดีและไม่ดีจะติดตามเราไปตลอด เช่น เราไปซื้อหวยใจหนึ่งก็อยากซื้อ อีกใจไม่อยากซื้อ คนเราถ้าพลังจิตอ่อน จิตวิณญาณที่แข็งกว่าก็จะเข้าครอบงำแล้วแต่จะดีหรือไม่ดีแล้วแต่จะเคยได้อยู่ร่วมกันมา คุยมายาวเหมือนเคยประสบมากับตัวเอง
#11
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 03:18 PM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#12
โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 06:53 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#13 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 21 July 2011 - 10:43 PM