วิเคราะห์ผู้หญิงไม่ออก ช่วยหน่อยเหอะ
#1
โพสต์เมื่อ 27 June 2007 - 10:38 PM
#2
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 06:11 AM
#3
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 09:29 AM
#4
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 10:04 AM
ประเภทของภรรยา
ภรรยาทั้งหลายในโลกนี้ แบ่งได้เป็น ๗ ประเภทคือ
๑. วธกภาริยา ภรรยาเสมอด้วยเพชรฆาต คือภรรยาที่มีใจคิดล้างผลาญชีวิตสามี พยายามฆ่าสามี ยินดีในชายอื่น ตบตี แช่งด่าสามี
๒. โจรีภาริยา ภรรยาเสมอด้วยโจร คือ ภรรยาที่ชอบล้างผลาญทรัพย์สามี ใช้ทรัพย์ไม่เป็นบ้าง ยักยอกทรัพย์เพื่อความสุขส่วนตัวบ้าง สร้างหนี้สินให้ตามใช้บ้าง
๓. อัยยภาริยา ภรรยาเสมอด้วยนาย คือ ภรรยาที่ชอบล้างผลาญศักดิ์ศรีสามี ไม่สนใจช่วยการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย กล่าวคำหยาบ ชอบข่มขี่สามีซึ่งขยันขันแข็ง เหมือนเจ้านายข่มขี่ข้า ภูมิใจที่ข่มสามีได้
๔. มาตาภริยา ภรรยาเสมอด้วยแม่ คือ ภรรยาที่มีความรัก เมตตาสามีไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนมารดารักบุตร เช่นสามีจะตกต่ำหมดบุญวาสนาจะป่วยจะพิการตลอดชีวิตก็ไม่ทอดทิ้ง ไม่พูด ไม่ทำให้สะเทือนใจ แม้ตายจากไปตั้งแต่ตนยังสาว ก็ไม่ยอมมีสามีใหม่
๕. ภคินีภริยา ภรรยาเสมอด้วยน้องสาว คือ ภรรยาที่เคารพสามีเป็นคนละอายบาป มีความรักยั่งยืน แต่มีขัดใจกันบ้าง ทั้งซน ทั้งงอน ทั้งขี้ยั่ว ทั้งขี้แย ต้องทั้งขู่ทั้งปลอบ ประเดี๋ยวจะเที่ยว ประเดี๋ยวจะกิน จะแต่งตัว แต่ก็ซื่อสัตย์ต่อสามี
๖. สขาภริยา ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน คือ ภรรยาที่มีรสนิยม มีความชอบเหมือนสามี ถูกคอกัน เป็นคนมีศีลธรรม มีความประพฤติดี แต่มีความทะนงตัวโดยถือว่าเสมอกัน หากฝ่ายตรงข้ามขาดเหตุผลก็ไม่ยอมกัน
๗. ทาสีภริยา ภรรยาเสมอด้วยคนใช้ คือ ภรรยาที่ทำตัวเหมือนคนใช้ถึงสามีจะเฆี่ยนตี ดุด่า ขู่ตะคอกก็ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้อยู่ในอำนาจสามี
เท่าที่ทราบจากคุณเจ้าของกระทู้ น่าจะเข้าข่าย อัยยภริยา ภรรยาเสมอเจ้านาย เพราะอะไรน่ะหรือครับ เพราะการตัดสินใจเช่นนั้นเป็นเหมือนกับการลดศักดิ์ศรี ไม่เห็นแก่หน้าของสามี และที่เข้าข่ายอีกข้อคือ โจรีภาริยา ภรรยาที่เสมอด้วยโจร เพราะคิดคบเพียงเพื่อหวังเงินจากคนอื่น อันตรายมากๆครับ แนะนำหากเพื่อนคุณเจ้าของกระทู้ทำใจได้ ให้เขาทำตัวเฉยๆ ปล่อยวาง อย่าไปสนใจครับ ให้คิดเสมอว่า “เราจักต้องพรัดพรากจากของรักของชอบใจด้วยกันหมดทั้งสิ้น” อีกอย่าง เขาคือเขาเราคือเรา มีชีวิตเป็นของตัวเองไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตใครเป็นได้ก็เพียงแค่ในนามที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น เพราะฉะนั้น ปล่อยวางเถอะครับ อย่าไปสนใจทำตัวเราให้ดีที่สุดจะดีกว่าครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 12:09 PM
ก็เห็นอยู่ว่าเขาทำผิดศีลธรรม
- ทรัพย์ที่ได้มาก็ไม่ได้มาจากการทำมาหากินสุจริต ไปหลอกเอาจากคนอื่นมา
- มีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้อื่นที่ไม่ใช่สามี ทั้งที่มีสามีอยู่แล้ว
- จะพูดไป เธอพูดจริงเหรอว่า จำเป็นต้องทำเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย
ไม่ใช่เพราะกำลังหาคนเลี้ยงดูอุ้มชูเธออย่างจริงจัง พอเจอแล้วก็จะได้ไปจากเพื่อนคุณ
แต่ทั้งหมดก็ไม่สำคัญเท่า เพื่อนคุณคงยังอาลัยอาวรณ์ในเธออยู่
จึงไม่เลิกรากัน ทั้งที่รู้ว่าทำไม่ดีมาขนาดนี้
เมื่อไหร่ตัดอาลัยตัดอาวรณ์ได้ คงใจแข็งพอที่จะเลิกรากับเธอไปได้เอง
หรือไม่ก็...เพราะเขามีวิบากกรรมร่วมกันมาอย่างนี้
...ก็ถือเป็นเรื่องของบุญของกรรมเขา
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"..
"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น"
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" "เจตนา..นั้นแหละคือ..กรรม"
"จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ" "ไม่มีสิ่งเลวร้ายใดที่คนพูดโกหกทำไม่ได้"
#6
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 05:39 PM
#7
โพสต์เมื่อ 28 June 2007 - 06:28 PM
#8
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 10:06 AM
#9
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 01:07 PM
#10
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 02:02 PM
แรกๆเหมือนจะสุข.
สุดท้าย..ทุกข์ทุกที...
(ว่าแต่เขา ใจเรายังทำไม่ได้)
กรรม..
#11
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 04:56 PM
นั่งสมาธิเยอะ ๆๆๆๆ แผ่เมตตาให้ และไม่ผูกใจเจ็บ เดี๋ยวเธอก็ดีเอง ชาติก่อนคุณไปทำแบบนี้กับเขาก่อนนะซิ
ต้องใช้เวลาหน่อยนะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเคยล่วงเกินเธอมามากน้อยแค่ไหน
#12
โพสต์เมื่อ 30 June 2007 - 01:31 PM
#13
โพสต์เมื่อ 30 June 2007 - 07:07 PM
ค่อยๆหาทางออกเอาหละกัน ยังไงก็เอาพระพุทธศาสนาเป็นทางออกนะครับ ปลอดภัยดี