ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

จะทำยังไงดีคะ ดิฉันต้องการแต่งงานกับเศรษฐีค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ลูกพระพุทธ

ลูกพระพุทธ
  • Members
  • 136 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 02:51 PM

สาวสวยคนหนึ่งได้ Post ข้อความที่กระทู้ชื่อดัง
หัวข้อ: จะทำยังไงดีคะ ดิฉันต้องการแต่งงานกับเศรษฐีค่ะ

ขอสาบานว่าสิ่งที่ดิฉันจะพูดเป็นความจริงค่ะ ดิฉันอายุ 25 ปีค่ะ แน่นอนว่าฉันสวย เซ็กซี่ มีรสนิยม ดิฉันอยากจะแต่งงานกับผู้ชายรายได้ซัก $500K ขึ้นไป คุณอย่าเพิ่งมองฉันโลภนะคะ รายได้ประมาณ $1M เนี่ย แค่ชนชั้นกลางในสินธรเอง ฉันไม่ได้เรียกร้องมากไปใช่ไหมคะ

มีใครในกระทู้นี้ รายได้เกิน $500K บ้างคะ พวกคุณแต่งงานกันไปหมดแล้วรึยัง กรุณาช่วยตอบคำถามดิฉันทีค่ะ คือดิฉันอยากแต่งงานกับคนที่รวย ๆ อย่างพวกคุณ พวกที่ดิฉันเคยคบด้วยเนี่ย มีแต่พวกกะหลั่ว ๆ รายได้อย่ามากไม่เกิน $250K เอง รายได้แค่นี้ จะคิดอุตริไปซื้อบ้านแถวสีลมเนี่ย ยังได้แค่มองเลยใช่ไหมคะ

กรุณาตอบคำถามดิฉันดังนี้ค่ะ
1. หลังตลาดหุ้นปิด พวกคุณมักจะไปต่อที่ไหนกันคะ (ชื่อร้าน,ผับ,fitness)
2. ถ้าจะหลีสาว คุณจะมองสาววัยไหนคะ
3. ทำไมคนที่ได้แต่งงานกับคนรวย ๆ ถึงมีแต่พวกอาซิ่มเฉิ่ม ๆ รสนิยมห่วย ๆ ล่ะคะ
4. คุณใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกคนที่คุณจะแต่งงานด้วยคะ


และนี่คือคำตอบของ หนุ่ม Wall Street ท่านหนึ่ง

ถึงคุณสุดสวยครับ

หัวข้อกระทู้ของคุณน่าสนใจมากครับ และคงมีผู้หญิงหลายคนมีคำถามเดียวกันกับคุณ
ขออนุญาตตอบคำถามในมุมมองของนักวิเคราะห์นะครับ รายได้ของผมมากกว่า $500K ซึ่งผ่านเกณฑ์ของคุณ ดังนั้นผมเชื่อว่าคำตอบของผม น่าจะไม่ทำให้ผู้ที่อ่านกระทู้นี้เสียเวลาอ่านนะครับ

จากมุมมองของนักธุรกิจ การที่เลือกจะแต่งงานกับคุณนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด คำตอบนั้นง่ายมาก อธิบายตามตรง จากข้อมูลที่คุณให้มา คุณพยายามจะ Trade ระหว่าง 'ความสวย' กับ 'เงิน'

เมื่อ A มีความสวย และ B มีเงิน แน่นอนว่ามัน Fair และ น่าจะ Square
แต่ก็ติดปัญหาที่ว่าความสวยของคุณนั้นจืดจางลงทุกวัน ในขณะที่เงินของผมไม่ได้ไปไหน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร
หรือในอีกทางหนึ่ง รายได้ของผมมีแต่จะเพิ่มทุกปี ในขณะที่คุณไม่ได้สวยขึ้นเมื่อข้ามปี
ในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ คุณคือสินทรัพย์ที่เสื่อมค่า ไม่ได้เสื่อมธรรมดานะ เสื่อมแบบอัตราก้าวหน้า ดังนั้นถ้าความสวยคือสิ่งเดียวที่คุณมี ก็จงคิดต่อว่า 10 ปีข้างหน้าจะทำอย่างไร

นิยามที่เราใช้กันใน Wall Street คือ ทุก ๆ การ Trade มี Position การคบกับคุณก็ถือเป็น Position แต่ถ้า Value ของมันลดลง เราจะขายมันทิ้ง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะดันทุรังเก็บมันไว้ ซึ่งหมายถึงการแต่งงานที่คุณต้องการ
อาจจะใจดำถ้าผมต้องบอกคุณว่า ถ้า Value ของ Asset ลดลงเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่ขายทิ้ง เราจะ 'ให้เช่าซื้อ'
แน่นอนว่าคนที่มีรายได้เกิน $500K ฉลาดพอ พวกเขาแค่คบคุณ แต่จะไม่แต่งงานกับคุณ

ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า คุณควรที่จะหยุดที่จะหาวิธีที่จะได้แต่งงานกับคนรวย และคุณควรที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีรายได้ $500K ซะเอง ซึ่งน่าจะมีโอกาสมากกว่าการหาคนรวยแต่โง่คนนึง

หวังว่าคำตอบนี้จะช่วยคุณได้บ้าง
ถ้าคุณสนใจในบริการ 'เช่าซื้อ' กรุณาติดต่อผม

จาก: J.P. Morgan

ต้นฉบับครับ

A young and pretty lady posted this on a popular forum:
Title: What should I do to marry a rich guy?

I'm going to be honest of what I' m going to say here. I'
m 25 this year. I'm very pretty, have style and good
taste. I wish to marry a guy with $500k annual salary or
above. You might say that I 'm greedy, but an annual
salary of $1M is considered only as middle class in New
York . My requirement is not high. Is there anyone in
this forum who has an income of $500k annual salary? Are
you all married? I wanted to ask: what should I do to
marry rich persons like you? Among those I've dated, the
richest is $250k annual income, and it seems that this is
my upper limit. If someone is going to move into high
cost residential area on the west of New York City Garden
( ? ) , $250k annual income is not enough.

I'm here humbly to ask a few questions:

1) Where do most rich bachelors hang out? (Please list
down the names and addresses of bars, restaurant, gym)
2) Which age group should I target?
3) Why most wives of the riches is only average-looking?
I 've met a
few girls who doesn 't have looks and are not
interesting, but they are able to marry rich guys
4) How do you decide who can be your wife, and who can
only be your girlfriend? (my target now is to get
married)

Ms. Pretty


Here 's a reply from a Wall Street Financial guy:

Dear
Ms. Pretty,

I have read your post with great interest. Guess there
are lots of girls out there who have similar questions
like yours. Please allow me to analyze your situation as
a professional investor. My annual income is more than
$500k, which meets your requirement, so I hope everyone
believes that I'm not wasting time here.

From the standpoint of a business person, it is a bad
decision to marry you. The answer is very simple, so let
me explain. Put the details aside, what you 're trying to
do is an exchange of 'beauty ' and 'money '.

Person A provides beauty, and Person B pays for it, fair
and square.
However, there ' s a deadly problem here, your beauty
will fade, but my money will not be gone without any good
reason. The fact is, my income might increase from year
to year, but you can 't be prettier year after year.
Hence from the viewpoint of economics, I am an
appreciation asset, and you are a depreciation asset. It
' s not just normal depreciation, but exponential
depreciation. If that is your only asset, your value will
be much worried 10 years later.

By the terms we use in Wall Street, every trading has a
position, dating with you is also a ' trading position' .
If the trade value dropped we will sell it and it is not
a good idea to keep it for long term ... same goes with
the marriage that you wanted. It might be cruel to say
this, but in order to make a wiser decision any assets
with great depreciation value will be sold or ' lease' .
Anyone with over $500k annual income is not a fool; we
would only date you, but will not marry you. I would
advice that you forget looking for any clues to marry a
rich guy. And by the way, you could make yourself to
become a rich person with $500k annual income. This has
better chance than finding a rich fool.

Hope this reply helps. If you are interested in '
leasing' services, do
contact me,

signed,

J.P. Morgan



#2 leng

leng
  • Members
  • 22 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BOSTON, USA

โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 04:57 PM

ha.....ha.....ha......
J.P. Morgan is right.....She could make herself to become a rich person.
Anyhow, poor girl, She may don't know. BOON behind scene......

#3 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 07:53 PM

That is very good answer. Ha ha ha ha !. I so happy to read above.

#4 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 11:31 PM

ไม่ธรรมดา
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#5 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 30 January 2008 - 01:22 AM

ทุกอย่างอยู่ที่บุญค่ะ ปราศจากบุญแล้วทุกอย่างพร้อมที่จะพังพินาศภายหลังได้เสมอ

หากว่าเรามีคู่บุญคู่บารมีที่เกื้อกูลกันในชาตินี้ มีศีลเสมอกัน เลี้ยงลูกให้โตมาดี ช่วยกันดูแลกัน
มาทำบุญด้วยกัน หมั่นให้ทานด้วยกัน เมื่อเค้าบวชระยะสั้น เราก็ยินดี แล้วก็ประพฤติพรหมจรรย์ตาม
ยามป่วยไข้ก็ดูแลกัน ยามทุกข์ก็ประคับประคองกัน อย่างนี้ได้เป็นคู่แท้กันไปทุกชาติ

เมื่อชาติหน้าบูญส่งผล ให้เค้าได้เป็นคนรวย เราเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง
ด้วยความรักความผูกพันกันมาดีในอดีต เค้าก็จะเห็นว่าเราพิเศษกว่าหญิงใดในโลก
เพราะอะไรหรือ ศีล สัมมาทิฐิ ทาน ภาวนา การเลี้ยงดูบุตร การเกื้อกูลกันมาก่อน
จะทำให้เค้ารู้สึกพิเศษกับเรา เหมือนบุพเพ รักเราจริงแบบเหนือกว่าสมองคิดวิเคราะห์
ศรัทธาว่าเราดีจริง เชื่อมั่นว่าเราเป็นคนที่เค้าตามหามานาน แล้วก็พร้อมจะให้ความดีต่อเรา

ด้วยบุพเพสันนิวาส ผู้หญิงอย่าง Ms. Pretty เมื่อรักษาศีลไว้ดีแล้วในชาตินี้
เธอจะได้โชค 2 ชั้น ได้รับผลบุญส่งผลให้ได้พบผู้ชายที่ทั้งรักจริงและรวย
เป็นนางซินฯได้ในบัดดล เมื่อบุญส่งผล สิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้
แล้วทั้งสองก็เป็นพ่อแม่ทีดี มีลูกดีด้วยกัน ครองเรือนกันอย่างมีความสุขเกื้อกูลกัน
เป็นคู่บุญคู่บารมี มีแต่บุญต่อบุญ บารมีต่อบารมี สมบัติต่อสมบัติด้วยกันไป
ตราบถึงที่สุดแห่งธรรม เทอญ...

ฉะนั้นการสร้างบุญชาตินี้และสร้างให้ยิ่งๆขึ้นไปทุกชาติ ย่อมส่งผลดีและดียิ่งขึ้น
ย่อมถูกต้องกว่าการคิดฉวยโอกาส คิดอยากด้วยตัญหา แล้วมีแต่กรรมตามตัวมากขึ้น
ก็จะส่งผลให้ชีวิตพังพินาศอย่างเดียว
The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด

#6 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2008 - 03:07 AM

That's true, Boon behind scene...Sa Thu Krub

#7 อภินิหารธรรม

อภินิหารธรรม
  • Members
  • 170 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2008 - 09:33 AM

ไม่เคยเห็นใครสวยตลอดเลย ยิ่งมองยิ่งขี้เหร่ลงขี้เหร่ลง แต่คนใจใสซิยิ่งมองยิ่งสวยยิ่งสวย

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 30 January 2008 - 11:07 AM

ผู้หญิงสวยเซ็กซี่ไม่มีค่าอะไรเลย ยิ่งเวลาผ่านพ้นไปรูปร่างหน้าตาก็ยิ่งหมดค่า แม้จะไปทำศัลยกรรมตกแต่งแค่ไหน สุดท้ายคุณค่าก็จางหายไปอยู่ดี

แต่ผู้หญิงที่มีพระรัตนตรัยอยู่ภายในนี่สิ แม้ไม่สวยไม่รวยเสน่ห์ไม่เซ็กซี่ ก็มีคุณค่าจนหาอะไรเทียบไม่ได้

หากให้ผมเลือกระหว่าง
1. ผู้หญิงสวยเซ็กซี่ เพอเฟคที่สุดในโลกหาใครเทียบ แต่ไม่มีพระรัตนตรัยอยู่ในใจ ชอบเข้าสังคม กินเหล้า เจ้าชู้ เม้าท์เก่ง
2. ผู้หญิงขี้เหล่ที่สุดในโลก แต่มีพระรัตนตรัยภายใน รักษาศีลยิ่งกว่าชีวิต

ผมขอเลือกข้อ2เป็นคำตอบสุดท้ายครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2008 - 09:26 AM

สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#10 usr19196

usr19196
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2008 - 09:50 AM

ถึงคนเคยเข้าวัด
สงสัยว่าจะเลือกเอาไปทำอะไร ให้กลุ้มเข้าไปอีก