ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 5 คะแนน

ตำแหน่งของโลกในจักรวาล


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 32 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 11:12 PM

ตำแหน่งของโลกในจักรวาล


โลก (The Earth)
โลกของเรามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12,756 กิโลเมตร โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 150 ล้านกิโลเมตร แสงอาทิตย์ต้องใช้เวลาเดินทางนาน 8 นาที กว่าจะถึงโลก

ระบบสุริยะ (Solar System)
ประกอบด้วยดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์อยู่ตรงศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์ 9 ดวง เป็นบริวารโคจรล้อมรอบ ดาวเคราะห์แต่ละดวง อาจมีดวงจันทร์เป็นบริวารโคจรล้อมรอบอีกทีหนึ่ง ดาวพลูโตอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 6 พันล้านกิโลเมตร แสงอาทิตย์ต้องใช้เวลาเดินทางนานมากกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงดาวพลูโต

ดาวฤกษ์เพื่อนบ้าน (Stars)
ดาวฤกษ์แต่ละดวงอาจมีระบบดาวเคราะห์เป็นบริวาร เช่นเดียวกับระบบสุริยะของเรา ดาวฤกษ์แต่ละดวงอยู่ห่างกัน เป็นระยะทางหลายล้านล้านกิโลเมตร ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดของดวงอาทิตย์ชื่อ "ปร๊อกซิมา เซนทอรี" (Proxima Centauri) อยู่ห่างออกไป 40 ล้านล้านกิโลเมตร หรือ 4.2 ปีแสง ดาวฤกษ์ซึ่งมองเห็นเป็นดวงสว่างบนท้องฟ้า ส่วนมากจะอยู่ห่างไม่เกิน 2,000 ปีแสง

กาแล็กซี (Galaxy)
กาแล็กซีคืออาณาจักรของดวงดาว กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา มีรูปร่างเหมือนกังหัน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 แสนปีแสง ประกอบด้วยดาวฤกษ์ประมาณ 1 พันล้านดวง ดวงอาทิตย์ของเราอยู่ห่างจากใจกลางของกาแล็กซีเป็นระยะทางประมาณ 3 หมื่นปีแสง หรือ 2 ใน 3 ของรัศมี

กระจุกกาแล็กซี (Cluster of galaxies)
กาแล็กซีมิได้อยู่กระจายตัวด้วยระยะห่างเท่า ๆ กัน หากแต่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (Group) หรือกระจุก (Cluster) "กลุ่มกาแล็กซีของเรา" (The Local Group) ประกอบด้วยกาแล็กซีมากกว่า 10 กาแล็กซี กาแล็กซีเพื่อนบ้านของเรา มีชื่อว่า "กาแลกซีแอนโดรมีดา" (Andromeda galaxy) อยู่ห่างออกไป 2.3 ล้านปีแสง กลุ่มกาแล็กซีท้องถิ่นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ล้านปีแสง

ซูเปอร์คลัสเตอร์ (Supercluster)
ซูเปอร์คลัสเตอร์ ประกอบด้วยกระจุกกาแล็กซีหลายกระจุก "ซูเปอร์คลัสเตอร์ของเรา" (The local supercluster) มีกาแล็กซีประมาณ 2 พันกาแล็กซี ตรงใจกลางเป็นที่ตั้งของ "กระจุกเวอร์โก" (Virgo cluster) ซึ่งประกอบด้วยกาแล็กซีประมาณ 50 กาแล็กซี อยู่ห่างออกไป 65 ล้านปีแสง กลุ่มกาแล็กซีท้องถิ่นของเรา กำลังเคลื่อนที่ออกจากกระจุกเวอร์โก ด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตร/วินาที

เอกภพ (Universe)
"เอกภพ" หรือ "จักรวาล" หมายถึง อาณาบริเวณโดยรวม ซึ่งบรรจุทุกสรรพสิ่งทั้งหมด นักดาราศาสตร์ยังไม่ทราบว่า ขอบของเอกภพสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่พวกเขาพบว่ากระจุกกาแล็กซีกำลังเคลื่อนที่ออกจากกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าเอกภพกำลังขยายตัว เมื่อคำนวณย้อนกลับนักดาราศาสตร์พบว่า เมื่อก่อนทุกสรรพสิ่งเป็นจุด ๆ เดียว เอกภพถือกำเนิดขึ้นด้วย "การระเบิดใหญ่" (Big Bang) เมื่อประมาณ 13,000 ล้านปีมาแล้ว

ที่มาข้อมูล : http://www.lesa.in.t.....0in space.htm

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 10:40 AM

เคยได้ยินว่า"มงคลจักรวาล"คือศูนย์กลางของจักรวาลทั้งหมด

บังเอิญจริงๆที่มาสอดคล้องกับภาพสุดท้าย(เอกภพ)
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 06:20 PM

จากภาพจะเห็นได้ว่า โลกเรานี้เล็กมากจริงๆ ถ้าเทียบกับจักวาลของเรา

และยิ่งเทียบกับ เอกภพแล้วโอ้ น่าคิดครับว่าขณะนี้ในจักรวาลอื่น

น่าจะมีพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่เป็นแน่แท้ครับ โอ้สาธุๆๆๆๆ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#4 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 08:01 PM

โอ้ย โย้ย โย ทำไมโลกเราเล็กจัง แล้วตัวเราจะเล็กแค่ไหนเนื่ย
เจียมตัว เจียมตัว

#5 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 11:19 PM

โอ้โห ขอบคุณคุณ XLmen จริงๆค่ะ น่าสนใจมากเลยค่ะ

ขอถามหน่อยนะคะ ว่าโลกเราคือชมพูทวีป

ถ้างั้น อุตรกุรุทวีป อปรโคยานทวีป และบุพวิเทหทวีป น่าจะเป็นแถวไหนดีคะ

ในภาพที่ 5 จะเห็นว่าระบบสุริยะจักรวาลเรา ก็มีระบบสริยะอื่นข้างเคียงอยู่
น่าจะเป็นไปได้ไหมว่าจะเป็น 3 ระบบนี้ เพราะว่าอยู่ในแนว 4 ทิศ
กับระบบสุริยะของเราหนะค่ะ (ดูภาพประกอบค่ะ)

ไฟล์แนบ



#6 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 April 2006 - 01:16 AM

ความคิดของผมนะครับ ผมคิดว่าทวีปต่างๆ ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับชมพูทวีปของเรานั้น อยู่ภายในแกแลคซี่เดียวกันครับ คือ แกแลคซี่ทางช้างเผือกของเรานี่แหละ โดยใจกลางแกแลคซี่ นั่นคือ เขาพระสุเมรุ(เขาสิเนรุ)ครับ รูปที่คุณลูกพระธัมฯ Merry Ma โพสต์มานั้น มันเป็นแกแลคซี่แต่ละแกแลคซี่นะครับ ไม่ใช่ระบบสุริยะแต่ละระบบสุริยะ ซึ่งภายในแกแลคซี่ทางช้างเผือกของเรานั้น ก็ประกอบด้วยระบบสุริยะ(ดาวฤกษ์)เยอะมากๆแล้วครับ ซึ่งผมคิดว่า ทวีปอื่นๆ น่าจะอยู่ในระบบสุริยะอื่นๆ ภายในแกแลคซี่ทางช้างเผือกของเรานี่แหละ

นอกจากนั้น ผมยังคิดว่า จักรวาล{หมายถึงจักรวาลในพระพุทธศาสนานะครับ ไม่ใช่จักรวาลที่หมายถึงเอกภพ(Universe)ในทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเอกภพในทางวิทยาศาสตร์นั้นน่าจะเป็นโลกธาตุในพระพุทธศาสนามากกว่า ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสบอกไว้ว่า โลกธาตุอย่างเล็กมีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลางมีจำนวนล้านจักรวาล โลกธาตุอย่างใหญ่มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล แสดงว่า โลกธาตุ(เอกภพ)ในพระพุทธศาสนา มีหลายโลกธาตุ(เอกภพ)ด้วย ไม่ใช่มีโลกธาตุ(เอกภพ)เดียว อย่างที่วิทยาศาสตร์บอกไว้} แต่ละจักรวาล จะมีเพียงหนึ่งแกแลคซี่เท่านั้น(หรือจะพูดว่าหนึ่งแกแลคซี่เป็นหนึ่งจักรวาลก็ได้) โดยแกแลคซี่จะอยู่ในส่วนของกามภพ ในส่วนที่เป็นทวีป(โลกมนุษย์)นี่แหละครับ ลองดูรูปประกอบนะครับ

กามภพ

แนบไฟล์  _______________.jpg   48.46K   858 ดาวน์โหลด

แกแลคซี่ทางช้างเผือกเมื่อมองจากด้านข้าง

แนบไฟล์  ____________________________________.jpg   18.3K   1654 ดาวน์โหลด

แกแลคซี่ทางช้างเผือกเมื่อมองจากด้านบน

แนบไฟล์  Milky_Way_galaxy_sun05.jpg   37.51K   745 ดาวน์โหลด

ลองระบุตำแหน่งทวีปต่างๆดูโดย ทิศใต้เป็นชมพูทวีป ทิศตะวันตกเป็นอมรโคยานทวีป ทิศเหนือเป็นอุตรกุรุทวีป ทิศตะวันออกเป็นปุพพวิเทหทวีป จะได้ตำแหน่งของทวีปต่างๆ ในแกแลคซี่ทางช้างเผือกของเรา ดังรูป

แนบไฟล์  Milky_Way_galaxy_sun05_____________.jpg   47.2K   85699 ดาวน์โหลด

จากรูป จุดสว่างตรงกลาง คือ เขาพระสุเมรุ(เขาสิเนรุ) ซึ่งมีทวีปทั้งสี่โคจรอยู่รอบๆ

หมายเหตุ
แกแลคซี่(จักรวาล)อื่น ที่อยู่ใกล้แกแลคซี่(จักรวาล)ทางช้างเผือกของเรามากที่สุด คือ แกแลคซี่(จักรวาล)แอนโดรมีด้า ห่างจากแกแลคซี่ทางช้างเผือกของเราไป สองล้านสามแสนปีแสง(คือ ระยะทางที่แสงใช้เวลาเดินทางสองล้านสามแสนปี โดยที่แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์มายังโลกใช้เวลาแปดนาที)




แนบไฟล์  mw.jpg   92.42K   538 ดาวน์โหลด
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#7 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 April 2006 - 02:41 AM




พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสว่าในจักรวาลนี้มีทวีปอยู่ 4 ทวีปใหญ่ๆ คือ ชมพูทวีป ,ปุพพวิเทหะทวีป,อมรโคยานทวีป และอุตตรกุรุทวีป นี้จะต้องอยู่ภายในจักรวาลเดียวกันนะครับท่านหมายเอาแค่จักวาลเดียวครับยังไม่กล่าวถึงจักรวาลอื่นๆ เลยครับ

ให้ทำเครื่องหมายที่จักรวาลของเราตรงที่เป็นดวงอาทิตย์ของสุริยะจักวาลเราว่าคือ ชมพูทวีปครับ แล้วแบ่งดาราจักรรูปกังหันให้ได้ 4 ส่วน ส่วนทวีปที่เหลือก็คือ ทิศที่ตรงข้ามกับสุริยะจักวาลเราก็คือ อุตตรกุรุทวีปครับ

ตามหลักจักวาลอื่นๆ ก็น่าจะคล้ายๆ กันกับจักรวาลของเรานะครับ ถ้าจะให้แน่คงต้องเป็นพระธรรมกาย
ไปดูไปเห็นเองด้วยธรรมจักขุครับแน่นอนที่สุดครับ 555+

#8 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 April 2006 - 08:44 AM

โอ้ คุณ xlmen ลึกซึ้งดีจังค่ะ
เห็นภาพอย่างนี้แล้ว อยากไปดูทวีปอื่น ๆ จัง

#9 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 21 April 2006 - 08:19 PM

ขอบคุณ คุณ xlmen เจ้าของกระทู้และคุณ Neung ที่นำเรื่องน่าสนใจและภาพสวยงามมาก มาฝากนะครับ




ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#10 ใสแจ๋ว

ใสแจ๋ว
  • Members
  • 49 โพสต์
  • Interests:ใสในใส ดับหยาบไปหาละเอียด

โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 01:54 PM

เป็นความรู้ที่ดีมากครับ สาธุ สาธุ

#11 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 09:05 PM

จากหนังสือเราคือใคร เรียบเรียงโดยป้าหวิน (อุบาสิกาถวิล วัติรางกูล)

เราจะก่อสร้างบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ ก็ตาม จำต้องมีพื้นแผ่นดินเป็นสถานที่รองรับสิ่งก่อสร้างนั้นๆ ฉันใด ภูมิทั้ง ๓๑ จะตั้งหรือเกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องมีสิ่งรองรับเช่นเดียวกัน สิ่งนั้นเรียกว่า “จักรวาล” จักรวาลมีจำนวนมากมายนับเท่าใด ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่สามารถบอกได้ว่าจักรวาลเกิดครั้งแรกเมื่อใด และจะแตกดับ โดยไม่มีการเกิดขึ้นใหม่อีกเลยเมื่อใด แต่ความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ตลอดมา จักรวาลที่มีอยู่ สามารถแตกทำลายลงได้เมื่อถึงเวลาอันควร เมื่อพินาศไปแล้ว สามารถก่อตัวเป็นจักรวาลใหม่ขึ้นอีก เปลี่ยนแปลงเกิดดับอยู่ดังนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ละจักรวาลย่อมมีภูมิทั้ง ๓๑ ของตนเอง เฉพาะจักรวาลของเรามีลักษณะ ดังนี้
๑. พื้นล่างสุดของจักรวาล เป็นอากาศ มีความหนาประมาณมิได้ มืดสนิท
๒. ถัดขึ้นมาเป็นลม หนา ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์ (ประมาณ ๑๕,๓๖๐,๐๐๐ กิโลเมตร)
๓. ถัดจากพื้นลม เป็นพื้นน้ำแข็ง หนาครึ่งหนึ่งของพื้นลม คือ ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์
๔. ถัดจากพื้นน้ำแข็งขึ้นมาเป็นพื้นดิน หนาครึ่งหนึ่งของพื้นน้ำแข็ง คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์
เป็นดิน ๒ ชนิด ชั้นบนเป็นดินธรรมดา (ปังสุปถวี) ครึ่งหนึ่ง
ชั้นล่างเป็นหิน (สิลาปถวี) ครึ่งหนึ่ง
๕. แกนกลางจักรวาล เป็นภูเขาสิเนรุ มีความสูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ ครึ่งหนึ่งอยู่ในพื้นมหาสมุทร อีกครึ่งหนึ่งสูงพ้นมหาสมุทรขึ้นไป พื้นที่โดยรอบ ๒๕๒,๐๐๐ โยชน์
๖. บนยอดเขาสิเนรุ เป็นพื้นดินเต็มไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ลักษณะกลม
๗. รัตนะที่เกิดติดอยู่ที่ไหล่เขาแต่ละทิศแตกต่างกัน ทิศตะวันออกเป็นเงิน ทิศใต้เป็นมรกต ทิศตะวันตกเป็นแก้วผลึก ทิศเหนือเป็นทองคำ จึงเป็นเหตุให้สีของน้ำในมหาสมุทร อากาศ ต้นไม้ใบไม้ที่อยู่ตรงกับทิศนั้นๆ เป็นสีเดียวกับสีของรัตนะประจำไหล่เขาสิเนรุไปด้วย
๘. ตอนกลางของภูเขาสิเนรุลงไป จนถึงพื้นน้ำในมหาสมุทร มีบันไดเวียน ๕ ชั้น แถบชานบันไดของแต่ละชั้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ ดังนี้
- ชั้นล่างสุดภายใต้พื้นน้ำ เป็นที่อยู่ของพญานาค
- ชั้นที่ ๒ เหนือน้ำขึ้นมา เป็นที่อยู่ของเหล่าครุฑ
- ชั้นที่ ๓ เป็นที่อยู่ของกุมภัณฑเทวดา
- ชั้นที่ ๔ เป็นที่อยู่ของยักขเทวดา
- ชั้นที่ ๕ เป็นที่อยู่ของท้าวจตุมหาราชิกา ๔ องค์ และเหล่าบริวาร
๙. พื้นล่างที่เป็นรากฐานของภูเขาสิเนรุ มีลักษณะเป็นภูเขา ๓ ลูก ตั้งรองรับภูเขาสิเนรุอยู่ทั้ง ๓ ด้าน ฐานของภูเขาสิเนรุตั้งอยู่ในระหว่าง ช่องว่างระหว่างกลางภูเขาทั้ง ๓ นั้น ใต้พื้นฐานของภูเขาสิเนรุ มีที่ว่างเป็นอุโมงค์ใหญ่ กว้างถึง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นที่อยู่ของเหล่าอสูร
๑๐. รอบภูเขาสิเนรุ มีภูเขาล้อมรอบอยู่ ๗ ชั้น (สัตตบรรพ์) ชื่อ ยุคนธร อิสินธร(อีสธร) กรวิกะ สุทัสสนะ เนมินธร วินตกะ และ อัสสกัณณะ ตามลำดับ ชั้นแรกภูเขายุคนธรนั้น มีระยะห่างจากภูเขาสิเนรุ เท่าความสูงของภูเขายุคนธรเอง และความลึกของมหาสมุทรที่อยู่ระหว่าง ภูเขาสิเนรุและยุคนธรจำนวนเท่าๆ กันคือ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ส่วนภูเขาชั้นต่อๆ ไป ลดระยะครึ่งหนึ่งตามลำดับทั้ง ระยะห่าง ความสูงและความลึกของมหาสมุทร
๑๑. สุดเขตโลกธาตุเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น ล้อมรอบไปด้วยภูเขาจักรวาล กั้นอาณาเขตเป็นที่สุด ภูเขานี้สูง ๑๖๔,๐๐๐ โยชน์ ครึ่งหนึ่งจมอยู่ในมหาสมุทร ความหนาของภูเขาหนา ๘๒,๐๐๐ โยชน์ ภายในเขตภูเขาจักรวาล ส่วนกว้างเท่ากับส่วนยาว คือ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ ด้านในโดยรอบยาว ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์
๑๒. ภูเขาจักรวาลอยู่ห่างจากภูเขาสิเนรุ ๔๗๗,๗๒๕ โยชน์ แต่อยู่ห่างจากภูเขาอัสสกัณณะ ๓๐๙,๖๙๓.๗๕ โยชน์

มหาสมุทรที่อยู่ระหว่างภูเขา ๗ ชั้น เป็นมหาสมุทรภายใน ชื่อ นทีสีทันดร
ส่วนมหาสมุทรภายนอกคือ ที่อยู่ระหว่างภูเขาอัสสกัณณะ และภูเขาจักรวาลชื่อพหิทนที
ที่กล่าวแล้วนี้ คือลักษณะของจักรวาลโดยสังเขป เป็นที่ตั้งของภูมิทั้ง ๓๑

ที่ตั้งของมนุสสภูมิ หรือที่เรียกว่าโลกมนุษย์
ตรงกับไหล่ภูเขาสิเนรุตามทิศทั้ง ๔ ไกลออกไปในมหาสมุทรภายนอก ที่อยู่ระหว่างภูเขาชั้นที่ ๗ ที่ชื่ออัสสกัณณะกับภูเขาจักรวาล เป็นผืนแผ่นดินกว้างใหญ่มีน้ำล้อมรอบ ประจำอยู่ทิศละแห่ง แต่ละแห่งเรียกว่าทวีป รวม ๔ ทวีป หรือเรียกโดยง่ายว่า จักรวาลนี้มีโลกมนุษย์ ๔ โลก เฉพาะโลกที่เราอยู่ในปัจจุบัน อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุทางทิศใต้
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวนักขัตทั้งปวง โคจรไปมารอบภูเขาสิเนรุ อยู่ในระดับเสมอกันกับยอดเขายุคนธร ห่างจากมนุษย์โลก ๔๒,๐๐๐ โยชน์

+ ปุพพวิเทหทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเงิน สัญฐานของทวีปเหมือนพระจันทร์ครึ่งซีก
+ อปรโคยานทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแก้วผลึก สัณฐานของทวีปเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ
+ ชมพูทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นมรกต มีสัณฐานของทวีปเหมือนรูปไข่
+ อุตตรกุรุทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นทองคำ มีสัณฐานของทวีปเป็นรูปสี่เหลี่ยม

ในทวีปทั้ง ๔ จึงมีสีของต้นไม้ ใบไม้ น้ำในทะเล-มหาสมุทร ท้องฟ้า ฯลฯ ตามสีของรัตนะที่ไหล่เขาสิเนรุสะท้อนแสง แต่ละทวีปมีทวีปน้อย ๕๐๐ เป็นบริวาร คนที่อาศัยอยู่ในทวีปน้อย มีความเป็นไปต่างๆ ตามผู้คนที่อยู่ในทวีปใหญ่ รูปใบหน้าของมนุษย์มีลักษณะตามสัณฐานของทวีป
สำหรับคนที่อยู่ในชมพูทวีป คือโลกมนุษย์ของเรานี้ มีลักษณะพิเศษต่างออกไปจากอีก ๓ โลก ดังนี้คือ
๑. มีจิตใจกล้าแข็ง ทั้งในด้านประกอบกรรมดีและกรรมชั่ว ทางฝ่ายดีนั้นสามารถปฏิบัติตนให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า อัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ ฌานลาภี อภิญญาลาภี ได้ ฝ่ายชั่วก็สามารถกระทำได้ถึง ฆ่ามารดา บิดา พระอรหันต์ ทำโลหิตุปบาท และสังฆเภท คนในอีก ๓ ทวีป ไม่สามารถกระทำกล้าแข็งได้ถึงเพียงนี้
๒. มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นเหตุ ทั้งที่สมควรและไม่สมควร รู้จักพิจารณาหาเหตุที่ทำให้
เกิดสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะเป็นอย่างๆ ได้ทั้งฝ่ายที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม มีความรู้ความเข้าใจได้ตามสมควร อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดบังคับ
๓. มีความเข้าใจในสิ่งที่มีประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ รู้จักทั้งโลกียประโยชน์และโลกุตตรประโยชน์ โลกียประโยชน์ ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือมนุษย์สมบัติ เทวสมบัติ พรหมสมบัติ โลกุตตรประโยชน์ ได้แก่ กุศล ความรู้ในธรรมะ หรือเป็นพระอริยะ และสัปบุรุษ ตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมา
ส่วนความเข้าใจจะลึกซึ้งมากน้อยระดับใด แล้วแต่ศรัทธา วิริยะ ปัญญา บารมี และการคบหาสมาคม
๔. มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล ทั้งโลกียกุศลและโลกุตตรกุศล โลกียกุศล ได้แก่การบริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา โลกุตตรกุศล ได้แก่อริยมรรคทั้ง ๔ ที่เกิดขึ้น (คือโสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค) และสามารถประหาร
กิเลสได้เด็ดขาด
ฝ่ายอกุศล ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น
โลภะ มีความต้องการในกามคุณทั้ง ๕ คือปรารถนาในรูป เสียง กลิ่น รส การถูกต้องสัมผัสในสิ่งที่ดีๆ และคิดถึงอารมณ์คือเรื่องราวต่างๆ
โทสะ ได้แก่ ความโกรธ เสียใจ ไม่พอใจ น้อยใจ กลุ้มใจ และพยาบาท
โมหะ ได้แก่ ความหลง ไม่รู้ตามความเป็นจริง เช่นไม่เชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ด้วยมีวิจิกิจฉา(ลังเลสงสัย) จิตใจไม่สงบ มีความฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ
ความเข้าใจทั้งฝ่ายที่เป็นกุศลและอกุศล ดังกล่าวนี้ ย่อมมีแตกต่างกันออกไป

คุณสมบัติ ๓ ประการ ที่คนในชมพูทวีป ประเสริฐกว่าคนในทวีปอื่น และเทวดาชั้นตาวติงสา คือ
๑. สูรภาวะ มีจิตใจกล้าแข็งในการกระทำความดี เช่นบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
๒. สติมันตะ มีสติตั้งมั่น ในคุณของพระรัตนตรัย
๓. พรหมจริยวาส สามารถประพฤติพรหมจรรย์ คือบวชได้

มนุษย์ในทวีปทั้ง ๔ เมื่อพูดโดยส่วนรวม มีรูปร่าง สัณฐาน หน้าตา อยู่ในลักษณะเดียวกัน ต่างกันตรงขนาด ความได้ส่วนสัด และความประณีตสวยงาม เช่นมนุษย์ในชมพูทวีป มีใบหน้ารูปไข่ อปรโคยานทวีป ใบหน้ากลมเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ ปุพพวิเทหทวีป มีรูปหน้าเหมือนมะนาวตัด หรือพระจันทร์ครึ่งซีก ครึ่งวงกลม ส่วนอุตตรกุรุทวีป ใบหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม (รูปหน้ามนุษย์ของทวีปใด มีลักษณะเหมือนสัณฐานของทวีปนั้น) ทวีปอื่นในอีก ๓ ทวีปนั้น นอกจากใบหน้าแล้ว ผู้คนแต่ละทวีปมีความสวยงามไม่แตกต่างกัน เนื่องจากมีคุณธรรมในจิตใจเสมอเหมือนกัน โดยทั่วไป เฉพาะในชมพูทวีปเท่านั้น ที่ผู้คนสวยงามและขี้เหร่ แตกต่างกันมากมาย ตามแต่กุศลและอกุศลที่เจ้าตัวกระทำ จะให้ผล


#12 Mai D na

Mai D na
  • Members
  • 282 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 May 2006 - 01:56 PM



ได้ความรู้เพิ่มเติม..

ขอเอาข้อมูลไปลงไว้ในไดอารี่หน่อยนะจ่ะ..

ภาพก้อสวยด้วย..




แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร




#13 wir

wir
  • Members
  • 290 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 May 2006 - 02:37 PM

ได้ความรู้เพิ่มเติมมากเลยค่ะ อนุโมทนาบุญ และขออนุญาตนำไปบันทึกไว้เล่าต่อนะค่ะ

#14 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 12:15 PM

QUOTE
จากรูป จุดสว่างตรงกลาง คือ เขาพระสุเมรุ (เขาสิเนรุ) ซึ่งมีทวีปทั้งสี่โคจรอยู่รอบๆ

พี่ Neung ครับ สิ่งที่โคจรรอบเขาพระสุเมรุ คือ พระอาทิตย์กับพระจันทร์ไม่ใช่เหรอครับ?


#15 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2006 - 03:14 AM

จักรวาล กว้างใหญ่ไพศาลนัก
โลกเราแคบนิดเดียว

อุ่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ...
เพราะรู้สึกว่า แม้ไกลกันคนละทวีป(ไทย-ยุโรป)
แต่ก็อยู่ใกล้คุณครูไม่ใหญ่แค่นิดเดียวเอง
...ดีใจจัง



#16 glouy

glouy
  • Members
  • 162 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2006 - 06:54 AM

โอโห !!! มันจริงหรือเนี่ย ถ้าเป็นแบบ น่าศึกษาให้ท่องแท้ อนันจักรวาล ฯ
ขอขอบคุณ xlmen ครับ

#17 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 04 May 2006 - 05:47 PM

ความรู้นอกโลก
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#18 นักรบทิศตะวันตก

นักรบทิศตะวันตก
  • Members
  • 354 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok Thailand
  • Interests:...หยุด...

โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 08:33 PM

NASA ที่ว่าแน่ ฟังแล้วต้องหนาวเลย!!! กับความรู้เหนือจักรวาลอย่างนี้
.........................สาธุ๊..............
ผู้มีความกล้า....ย่อมมีความหวัง...

.
ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ

#19 มนต์เทพ

มนต์เทพ
  • Members
  • 3 โพสต์
  • Location:California USA
  • Interests:&quot;สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่.<br /><br />บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่.<br /><br />มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ตติยฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข.<br /><br />บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส โทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่.&quot;<br /><br />(ม.ม. โพธิราชกุมารสูตร ข้อ ๕๐๕)<br />

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 01:35 PM

ขอบคุณกับความรู้ความเห็นนะครับ (ญาณทัสสนะ)

#20 เก็บข้อมูลครับ-เก็บข้อมูล

เก็บข้อมูลครับ-เก็บข้อมูล
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 June 2006 - 10:53 PM

ผมมี clip วิดีโอเล็กๆมาฝาก ที่เกี่ยวเนื่องกับกระทู้หัวข้อนี้ happy.gif
ที่แสดงให้เห็นการ zoom ออกจากโลก->ระบบสุริยะ->ดาวฤกษ์เพื่อนบ้าน->กาแล็กซี->กระจุกกาแล็กซี->(ไปไม่ถึง เอกภพ)
ไว้ให้ทุกท่านได้ศึกษาเกี่ยวกับจักรวาลของเราในทางวิทยาศาสตร์.
ช่วงที่กล้อง zoom ออกไปให้สังเกตุดวงอาทิตย์ไว้เป็นหลัก laugh.gif เพราะเป็นดวงดาวที่ใหญ่และเห็นชัดที่สุดในระยะไกล!

ชื่อไฟล์ universal.wmv
ความยาว 1.11 นาที
เปิดดูกับโปรแกรม windows media player

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  universal.wmv   765.68K   1907 ดาวน์โหลด

“หนทางการสร้างบารมียาวนานมากเลย.......กว้างมากเลย
อย่าไปดูถูก....ว่าเธอสร้างไม่ได้ หรือเธอไม่ได้สร้าง
ไม่มีใครทราบ....เพราะแผนภูมินี้หลวงพ่อเป็นคนวาง
เราไม่มีสิทธิ์ทราบ.....ว่าเราจะเดินไปตรงนั้นตรงนี้แล้วเราจะเจอใคร
อย่างเดียวที่ทำ คือทำตามคำสั่ง และทำด้วยความเต็มใจเท่านั้นเอง”


“ร่างกายมีไว้สร้างบารมี.....ไม่ได้มีไว้โชว์ชาวบ้าน
เนื้อหนังมีไว้ให้แข็งแรง.....เพื่อเป็นทางผ่านของกระแสบุญ
และจะได้ฉายแสงออกมาได้.....ไม่ได้เอามาเปิดโชว์คนอื่นเขา
แต่งตัวให้งามแต่งยาก......แต่งตัวให้สวยแต่งง่าย”


“พระจันทร์ส่องแสงเองไม่ได้
แล้วจะไปนึกทำไหม.....จะหยิ่งไปทำไมกัน
แสงที่มา คือแสงของตะวัน
สิ่งที่เราทำได้ คือสะท้อนแสงให้ดีที่สุด”


.........ธรรมะจากป้าใส.........

"An ounce of action is worth a ton of theory"

#21 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 June 2006 - 01:54 AM

โอ้โห คลิปยอดเยี่ยมมากเลยครับ โมทนาสาธุด้วยครับ
เห็นแล้วเหมือนไปดูด้วยตาตนเองเลยครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#22 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 02 June 2006 - 09:02 AM

QUOTE
นอกจากนั้น ผมยังคิดว่า จักรวาล{หมายถึงจักรวาลในพระพุทธศาสนานะครับ ไม่ใช่จักรวาลที่หมายถึงเอกภพ(Universe)ในทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเอกภพในทางวิทยาศาสตร์นั้นน่าจะเป็นโลกธาตุในพระพุทธศาสนามากกว่า ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสบอกไว้ว่า โลกธาตุอย่างเล็กมีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลางมีจำนวนล้านจักรวาล โลกธาตุอย่างใหญ่มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล แสดงว่า โลกธาตุ(เอกภพ)ในพระพุทธศาสนา มีหลายโลกธาตุ(เอกภพ)ด้วย ไม่ใช่มีโลกธาตุ(เอกภพ)เดียว อย่างที่วิทยาศาสตร์บอกไว้} แต่ละจักรวาล จะมีเพียงหนึ่งแกแลคซี่เท่านั้น(หรือจะพูดว่าหนึ่งแกแลคซี่เป็นหนึ่งจักรวาลก็ได้) โดยแกแลคซี่จะอยู่ในส่วนของกามภพ ในส่วนที่เป็นทวีป(โลกมนุษย์)นี่แหละครับ ลองดูรูปประกอบนะครับ


หนูว่าไม่น่าใช่นะคะ
เพราะเคยอ่านมาว่ามีพราหมณ์ หรือใครสักคน ที่ใช้ฤทธิ์เหาะเดินทางเพื่อจะไปดูขอบจักรวาล
แต่เขาก็ต้องแก่ตายระหว่างทางนั้นโดยที่ยังไปไม่ถึง
แล้วแคเทคโนโลยีเหรอคะ จะตรวจจับจักรวาลอื่นได้เหรอคะ
ขนาดพระโมคคัลานเถระท่านยังกลับมาจักรวาลของเราเองไม่ได้เลย ตอนที่ท่านพลัดไปจักรวาลอื่นเมื่อจะไปหาบาตรพระพุทธเจ้าน่ะค่ะ
อย่าลืมนะคะว่าฤทธิ์ทางใจ กับฤทธิ์ทางเครื่องจักรมันเทียบกันไม่ติดเลยนะคะ
อืม...
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#23 naronglit

naronglit
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2006 - 04:38 PM

ขอขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ต่างๆ

#24 ท่านต้นผู้ยิ่งใหญ่

ท่านต้นผู้ยิ่งใหญ่
  • Members
  • 265 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 11:35 AM

ขอบคุณ สาธุครับ

#25 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 04:32 PM

เรื่องนี่รูมาแล้วค่ะ
แต่ขอบคุณสำหรับผู้เขียนกระทู้เพื่แนะนำผู้ที่ยังไม่รู้นะคะ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#26 คุณชายด็อกเตอร์

คุณชายด็อกเตอร์
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2006 - 02:31 PM

ครับ แสดงว่า อวกาศไม่ได้อ้างว้าง เราไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวในจักรวาลอะซิครับ

#27 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 08:21 AM

จนป่านนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังบอกไม่ได้ว่าใจกลางแกแลคซี่ มีอะไรบ้าง เห็นใดทำไมมันถึงได้สว่างแบบนั้น ได้โปรดคุณxlmenหาข้อมูลมาบอกต่อกันหน่อยได้ไหมครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#28 เด็กน้อยคอย(หา)บุญ ^^

เด็กน้อยคอย(หา)บุญ ^^
  • Members
  • 92 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 01:56 PM


QUOTE
NASA ที่ว่าแน่ ฟังแล้วต้องหนาวเลย!!! กับความรู้เหนือจักรวาลอย่างนี้
.........................สาธุ๊..............
happy.gif happy.gif
อาภรณ์ ชุดสุดท้าย        กาสายะ<br />  ชีพสุดท้ายคือพระ         ผ่องแผ้ว<br /> วิชชาสุดคือธรรมะ        พุทธเจ้า<br />จารจดไว้ลูกแก้ว          จักแคล้วบ่วงมาร<!--sizec--></span><!--/sizec--><!--colorc--></span><!--/colorc-->

#29 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 17 October 2006 - 09:10 PM

เป็นเรื่องที่น่าศึกษาแต่ถ้าให้คิดคงไม่ไหวอ่ะครับไปไม่ถึงแน่เลย
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#30 นัจจะ

นัจจะ
  • Members
  • 30 โพสต์
  • Location:สงขลา
  • Interests:รักหลวงพ่อ

โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 12:28 AM

ดีใจมากค่ะที่ได้ความรู้คู่บุญ อนุโมทนาค่ะ เป็นประโยชน์มากค่ะ