ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * - - - 1 คะแนน

แนะนำคนไปวัดก่อนเสียอารมณ์


  • กระทู้นี้ถูกล็อค กระทู้นี้ถูกล็อค
มี 41 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#31 Sukuba sang

Sukuba sang
  • Members
  • 23 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 09:56 PM

Yes,when I'm at Thai and com to Watpratam many times,i walk to sapa also,sometime so sad,but can do anything,them don't let texi,and sometime them let texi, thank you,

#32 Chadawee

Chadawee
  • Members
  • 299 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 10:03 PM

เปิ้ลเคยได้ยินคนขับรถพาสาธุชนมาวัดบ่นเรื่องฝ่ายจราจร ว่าบังคับทิศทางเดินรถแบบแปลก เค้าบ่นว่า พอเค้าถามเหตุผลว่าทำไมให้เดินรถแบบแปลกๆ นี้ เค้ากลับได้รับคำตอบกวนๆ ทำนองว่า พอใจ เค้ามีสิทธิ์ ทำนองเบ่งว่ามีอำนาจสั่งให้ทำ ต้องทำตาม ฟังเสร็จเปิ้ลก็รอดูว่าเค้าบ่นจริงแค่ไหน ปรากฏว่าตอนรถมาถึงเขตวัด รถแล่นเข้าไป ต้องไปยูเทิร์นแบบตัวยู 2 รอบกว่าๆ ไม่รู้ว่าบังคับแบบนั้นทำไมให้เปลืองน้ำมัน สมควรให้คนขับรถเค้าสงสัยจริงๆ ค่ะ

เปิ้ล
Ple

#33 ถ่าน

ถ่าน
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 11:53 PM

ไม่แน่ใจว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข
ก็เป็นกำลังใจให้คุณทัพพีด้วยนะ
ให้ถือว่าเป็นการสร้างบารมีไปในตัว เช่น วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี
การได้บุญมานั้นยากเท่าไรยิ่งได้บุญมาก เพราะจะทำให้ได้ธรรมครบ อาจมากกว่าคนสะดวกสบาย
อย่าลืมนะ ทำอยู่ทุกว้นนี้เพื่ออนาคต ชีวิตของชาววัดธรรมกายนั้น ดำเนินข้ามไปอนาคตภพชาติหน้าอันไกลลิบ มีจุดพักที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์
อย่าห่วงชีวิตในชาตินี้เลย

#34 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 10:04 AM

เช้านี้ผมมานั่งอ่านแล้วก็ทบทวนข้อความทั้งหมดของทุกคนอีกครั้ง แล้วทำใจใสๆเพื่อหาว่าผมพลาดตรงไหนถึงได้ทำให้เกิดความคิดเตลิดเปิดเปิงกันไปมากมายขนาดนี้ ถึงขนาดอ้างกลับไปถึงตอนสร้างวัดโน้น..อะไรจะขนาดนั้น

ก็มาสรุปได้ว่าตัวผมเองเขียนด้วยอารมณ์มากเกินไป ทำให้ขาดมุมมองที่ชัดเจนที่จะชี้ชัดให้ทุกคนมองเห็นปัญหา ลองเอาใหม่นะครับ

เมื่อวานนี้ ผมพยายามโทรศัพท์สอบถามทุกคนที่ผมรู้จักและติดจานดาวธรรม ว่ามีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องการห้ามนำรถรับจ้างเข้าในพื้นที่หรือเปล่าไม่ว่าจากสื่อทางไหนก็ตาม ครึ่งหนึ่งตอบว่าไม่เห็นมีการประชาสัมพันธ์ใดๆทางสื่อ ครึ่งนึงบอกไม่แน่ใจ โดยส่วนตัว ผมเองก็ไม่ทราบมาก่อน เพราะวันอาทิตย์ต้นเดือนแท็กซี่ก็ยังเข้าไปส่งผมที่เดิมได้โดยไม่มีปัญหา รปภ.ที่ยืนควบคุมการจราจรก็ไม่เห็นเรียกหรือบอกข้อความใดๆ ซึ่งก็หมายความว่าทางวัด (1)..ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี ที่จะชี้แจงให้คนเข้าใจเพื่อขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามในคราวต่อๆไป...แทบจะเรียกได้ว่าถืออภิสิทธิ จะสั่งให้เปลี่ยนแปลงยังไงก็ได้ โดยไม่สนใจในการทำความเข้าใจชี้แจงให้เกิดการเตรียมตัว


แล้วคนที่นั่งรถรับจ้างมานั้น ประกอบด้วยกลุ่มไหนบ้าง ลองมาดูคร่าวๆนะครับ
1. พวกที่ไม่มีสัมภาระ แต่อยากสบาย นี่อาศัยความพอใจเป็นหลัก ซึ่งสามารถลงเดินที่จุดจอดได้
พวกที่ไม่มีสัมภาระ แต่ไม่สามารถมารถรับส่งของทางวัดได้ จำเป็นต้องใช้รถรับจ้าง ก็ลงเดินที่จุดจอดได้

2. พวกที่ไม่มีสัมภาระ แต่ไม่สะดวกในการเดิน คนสูงอายุ ผู้พิการ คนป่วย ต้องการที่ใกล้บันไดหรือลิฟท์
พวกที่มีสัมภาระ ต้องการที่ใกล้บันไดหรือลิฟท์

ซึ่งในกลุ่มแรก คงไม่มีปัญหาใดๆในการกำหนดจุดจอดข้างวิหารหลวงปู่ฯ เพราะสามารถเดินเข้าไปเองได้

แต่กลุ่มที่สองหล่ะครับ(แม้จะมีน้อยก็ตาม-ผมรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย)(2)...ทางวัดไม่ได้ให้ทางเลือกใดๆแก่เขาเหล่านี้เลย ทางวัดจัดกลุ่มคนเป็นแค่สองกลุ่มเท่านั้น คือ คนมีรถส่วนตัว กับ คนไม่มีรถส่วนตัว ทั้งๆที่กลุ่มคนที่สองนี้อุตส่าห์เลือกที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายเองเพื่อความสะดวกเป็นเหมือนรถส่วนตัวแล้ว แต่ค่าที่ได้ก็คือเท่ากับคุณมารถรับส่งของทางวัดอยู่ดี เขาเลือกที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะไปให้ถึงจุดที่สะดวกที่สุด แต่โดนทางวัดตัดสิทธิทางเลือกนี้ออกไปโดนไม่มีนโยบายรองรับ

ผมถึงได้เกิดความน้อยใจไงครับ ถ้ามีรถส่วนตัวจะหาความสะดวกสบายยังไงก็ได้ แต่เมื่อไม่มีรถส่วนตัวก็ต้องทน ทน ทน ตลอดไป แม้จะพยายามหาทางเลือกให้กับตนเองแล้วก็ยังไม่วายโดนตัดสิทธินั้นอีก

ผมถึงได้สรุปไว้ในตอนท้ายไงครับ ว่า ผมโดนเลือกปฏิบัติ วัดมีปัญหากับแท็กซี่แต่คนรับเคราะห์คือผม มองเห็นหรือยังครับว่า ผมน้อยใจวัดตรงไหน !!!

นอกเรื่องนิดนึงนะครับ

หลายๆท่านแนะนำเรื่องรถรับส่งของทางวัดและการลงเดินที่จุดจอด ไม่ใช่ผมไม่ทราบว่ามีบริการนี้นะครับ แต่ถ้าท่านที่เขียนมาอย่างนั้นลองกลับไปอ่านข้อความของผมซ้ำอีกครั้งจะเห็นว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่การมาวัดอย่างไร แต่ประเด็นอยู่ที่ การทำให้การมาวัดสะดวกอย่างไรต่างหาก

ถ้าผมมาตัวเปล่า การมารถรับส่งหรือการลงเดินที่จุดจอดก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ จริงไหมครับ

แต่นี่ผมก็บอกแล้ว ว่าผมมีสัมภาระมากมาย เพราะฉะนั้นการมารถรับส่ง(ซึ่งไม่ได้ไปรับเราขนของขึ้นรถถึงที่บ้าน) และการลงเดินที่จุดจอด(ซึ่งไม่ใช่ระยะทางที่เหมาะสมในการเดินหิ้วของแล้วทำให้ใจสบายได้เลย) จึงไม่ใช่มุมมองที่สามารถหยิบยกขึ้นมาพูดในที่นี้ได้ จริงไหมครับ

ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น คุณในฐานะลูก เห็นแม่ที่อุตส่าห์มาวัดทานอาหารของทางวัดไม่ถูกปากและทานได้น้อย คุณยังจะทำใจว่าให้แม่ทนๆไปเพื่อสร้างบารมีหรือครับ

การที่เราเตรียมอาหารไปทานเอง ความคิดผมคือเป็นการไม่สร้างภาระให้กับทางวัด เพราะวัดไม่ได้ปลูกข้าวเอง ไม่มีบ่อก๊าซใต้ดินที่จะมาหุงข้าว ไม่มีโรงงานผลิตถุงพลาสติกเอง และของเหล่านั้นไม่ได้หล่นมาจากฟ้าฟรีๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่เราพอจะช่วยแบ่งเบาภาระของทางวัดได้ เราก็น่าจะทำนะครับ จริงไหมครับ

แล้ววัฒนธรรมการแบ่งปันอาหารหรือการเชื้อเชิญคนที่นั่งใกล้ๆกันมาทานอาหารร่วมกันโดยเตรียมอาหารมาเผื่อนั้น เป็นวัฒนธรรมที่ไม่ควรทำหรือครับ ควรไปรับอาหารที่แจกแล้วมานั่งทานกันไปอย่างนั้นหรือครับ

แม้แต่เบาะนั่งก็เหมือนกัน ทางวัดมีแผ่นปูสีเขียวบนพื้นปูนหยาบ เวลาคนที่น้ำหนักตัวมากๆนั่งก็จะเกิดการกดทับให้เจ็บได้ การที่เราเอาเสื่อเอาเบาะไปไม่เหมาะไม่ควร ทำไม่ได้หรือครับ (ลองให้เจ้าภาพใหญ่ที่พวกคุณดูแลจัดพื้นที่ให้นั่งนิ่มๆมานั่งแบบคนทั่วไปดูบ้างซิครับ-ผมเคยหลงเข้าไปนั่งแล้วโดนเจ้าหน้าที่วัดไล่- ขอโทษนะค่ะ ที่ตรงนี้เป็นที่นั่งของคนติดตามถือกระเป๋าของเจ้าภาพท่านนี้ กรุณาลุกไปนั่งที่อื่นด้วยค่ะ-เผอิญช่วงนั้นไม่ได้ส่องกระจกเลยไม่รู้ว่าตัวเองมีราศีต่ำกว่าคนถือกระเป๋าเจ้าภาพใหญ่ซะอีก แย่จริงๆ..เฮ้อ)

เพราะฉะนั้น สรุปนะครับ ใครที่คิดจะเข้ามาเขียนว่าผมมารถวัดสะดวกอย่างนั้น ฉันมาเดินออกกำลังกายอย่างนี้ เงียบไปเลยนะครับไม่ต้องเข้ามาเขียนอีก ทำให้เสียประเด็นซะเปล่าๆ

แล้วคนที่บอกให้มองภาพรวมนะ นี่ไม่ใช่ภาพรวมหรือครับ แค่คนหยิบมือ รถไม่กี่คัน ยังสร้างเรื่องสร้างราวได้ขนาดนี้ ต่อไปคนที่จะมาวัดเรา(ตอนนี้ยังเป็นวัดเราอยู่-ยังไม่อยากให้เป็นวัดคุณในภายภาคหน้าหรอก)จะมาอีกมากมายเท่าไหร่ จะเกิดอะไรขึ้น คนเขาจะเข้าใจว่าเป็นวัดใหญ่จะต้องมีความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะเป็นด่านแรกในการเปิดใจ ถ้ามาถึงวัดแล้วอะไรไม่สะดวกก็ยังพอทำใจรับได้บ้าง แต่ถ้าแค่เริ่มต้นคือการเดินทางไปวัดมันไม่สะดวกซะแล้ว ยังคิดว่าเขายังอยากจะมาครั้งที่สองอีกไหมครับ

อ้อ...แล้วก็ศรัทธาหน่ะ อารมณ์ศรัทธามันเกิดก่อนเหตุผลศรัทธานะครับ ลองถามตัวเองก็ได้ครับว่าทำไมถึงมาวัด เอาความคิดแรกนะครับ อยากมาดูหรืออยากมาสร้างบารมี อย่ามาบอกให้ทนเพื่อสร้างบารมีเลยครับ ความอดทนแต่ละคนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว เอามาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้หรอกครับ คุณบอกคุณยังทนได้แล้วผมจำเป็นต้องทนอย่างคุณด้วยหรือครับ ถ้ามันมีทางออกที่เราไม่ต้องมาใส่ใจทนกับเรื่องพวกนี้


เอาเถอะครับ สรุปกันง่ายๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าทางวัดต้องการอย่างนั้นจริงๆผมก็คงต้อง"ทน"ทำตามหล่ะครับ ลดความสะดวกสบายลงอีกนิด อดทนมากขึ้นอีกหน่อย เดินแบกของออกกำลังกายอีกก็ดีไม่น้อย แล้วก็อย่าไปมองพวกที่มีรถส่วนตัวที่ขับผ่านไปมาให้น้อยใจอีก เดี๋ยวมันก็หมดวันแล้วเนอะ ทำใจ ทำใจ


ถ้าผู้ดูแลเห็นว่าไร้สาระ ไม่สร้างสรร สร้างความแตกแยกทางความคิด ก็ลบทิ้งได้นะครับผมไม่ว่าหรอก

ปล.เมื่อเห็นปัญหาต่อไปในวัด เราควรทำตัวอย่างไรครับ
แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางแก้ไขป้องกัน หรือ ทำใจ แล้วคิดซะว่าทนไปเพื่อการสร้างบารมีครับ
(ยังไม่วายมีประชดเล็กๆอีก)

กราบอนุโมทนากับทุกความคิดเห็นนะครับ

สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#35 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 12:36 PM

เดิมทีผมก็เข้าใจ ความรู้สึกและเหตุผลที่คุณแจ้งมาในความคิดเห็นช่วงแรก ๆ นะครับ
เห็นเพื่อน ๆ หลายท่านก็แวะมาให้กำลังใจ
ก็รู้สึกยินดีกับคุณไปด้วย ที่มีกัลยาณมิตรมาให้กำลังใจและข้อคิดต่าง ๆ

แต่ในคคห. 34 ของคุณ ดูเหมือนยังเลือกมองแต่ในมุมของคุณเท่านั้น

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจสักนิดครับ ว่า การที่คุณใช้คำ ทางวัด
ความหมายมันเหมารวมมากเกินไปนะครับ

เพราะวัด แบ่งกันทำงาน แต่ละหน่วยงานมีสิทธิกำหนดกฎระเบียบ
ตามขอบเขตหน้าที่และพื้นที่ ที่แต่ละหน่วยงานดูแลอยู่

ถ้าคุณขัดใจเรื่องการอำนวยความสะดวก การจัดพื้นที่ส่งสาธุชนที่อาศัยรถยนต์รับจ้าง ไม่เหมาะสม
โดยเฉพาะ สาธุชนกลุ่มที่ 2

QUOTE
ไม่มีสัมภาระ แต่ไม่สะดวกในการเดิน คนสูงอายุ ผู้พิการ คนป่วย ต้องการที่ใกล้บันไดหรือลิฟท์
พวกที่มีสัมภาระ ต้องการที่ใกล้บันไดหรือลิฟท์


คุณก็ไม่ควรเหมารวมว่า เป็นความบกพร่อง และไม่เอื้อเฟื้อ ของทางวัด
ซึ่งเป็นการเหมารวมทุกคนในวัดมากเกินไป

การระบุคำที่ถูกต้อง คือ เจ้าหน้าที่ผู้บริหารดูแลอาคาร , หัวหน้า รปภ.

เท่าที่ผมเคยใช้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะมาวัด ทั้งวันอาทิตย์ทั่วไปและวันอาทิตย์ต้นเดือนและงานบุญใหญ่

ผมสังเกตเห็นว่า แต่เดิมรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เจ้าหน้าที่รปภ. ก็อนุญาตให้เข้าส่งสาธุชนในอาคารชั้น ๑ ได้

แต่บางช่วงเวลาที่การจราจรติดขัดมาก ๆ เช่น ช่วงเวลา 8.45 – 9.45 น.
ของวันอาทิตย์ต้นเดือน หรือ งานบุญใหญ่ เช่น วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา
หรือบางช่วงเวลาอื่น ๆ หากการจราจรติดขัดมาก เจ้าหน้าที่ฯก็คงแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า
ด้วยการห้ามรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เข้าส่งสาธุชนในอาคาร ในช่วงเวลาหรือในสถานการณ์ดังกล่าว

นี้เป็นธรรมดาครับ ไมได้หมายความว่า ห้ามรถรับจ้างเข้าอาคาร เด็ดขาดทุกกรณี หรือทุกช่วงเวลาอย่างที่คุณเข้าใจ

ดังนั้นที่การคุณ เข้าใจเองว่า

QUOTE
เพราะวันอาทิตย์ต้นเดือนแท็กซี่ก็ยังเข้าไปส่งผมที่เดิมได้โดยไม่มีปัญหา รปภ.ที่ยืนควบคุมการจราจรก็ไม่เห็นเรียกหรือบอกข้อความใดๆ ซึ่งก็หมายความว่าทางวัด (1)..ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี ที่จะชี้แจงให้คนเข้าใจเพื่อขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามในคราวต่อๆไป...แทบจะเรียกได้ว่าถืออภิสิทธิ จะสั่งให้เปลี่ยนแปลงยังไงก็ได้ โดยไม่สนใจในการทำความเข้าใจชี้แจงให้เกิดการเตรียมตัว
...... แต่โดนทางวัดตัดสิทธิทางเลือกนี้ออกไปโดนไม่มีนโยบายรองรับ

ผมถึงได้เกิดความน้อยใจไงครับ ถ้ามีรถส่วนตัวจะหาความสะดวกสบายยังไงก็ได้ แต่เมื่อไม่มีรถส่วนตัวก็ต้องทน ทน ทน ตลอดไป แม้จะพยายามหาทางเลือกให้กับตนเองแล้วก็ยังไม่วายโดนตัดสิทธินั้นอีก

ผมถึงได้สรุปไว้ในตอนท้ายไงครับ ว่า ผมโดนเลือกปฏิบัติ วัดมีปัญหากับแท็กซี่แต่คนรับเคราะห์คือผม มองเห็นหรือยังครับว่า ผมน้อยใจวัดตรงไหน !!!


นั้น เป็นความเข้าใจส่วนตัวของคุณเองมากกว่านะครับ

หลังจากทบทวนอ่าน คคห.ที่ 1 , 3 , 9 และ 34 ของคุณ อีกครั้ง ผมคิดว่า

1 ) ปัญหาเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ที่ คุณโง่ คุณจน คุณไม่มีรถยนต์ส่วนตัว อย่างที่คุณเข้าใจหรอกครับ
ผมว่า อยู่ที่กิเลสบังคับความคิดของคุณเอง ให้ทำร้ายตัวคุณเองด้วยให้ใจขุ่น ใจหมอง มากกว่า ครับ

2 ) การที่คุณเอาใจใส่ดูแลห่วงใยมารดา การนำอาหารและสัมภาระมามาก ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ
แต่เป็นความดีของคุณ ที่ดุแลบุพการีอย่างดี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อคนรอบตัว ขออนุโมทนา สาธุด้วยครับ

3 ) เรื่องการห้ามรถรับจ้างเข้าอาคาร เด็ดขาดทุกกรณี นั้นผมคิดว่า เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้าของ รปภ.
ดังที่ผมกล่าวไว้ในข้างต้น คือ ห้ามเฉพาะช่วงเวลาหรือสถานการณ์ที่รถติดมาก เท่านั้น
และปัญหาแบบนี้ ทางแก้ไขได้หลายวิธีครับ
เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่ รับผิดชอบโดยตรงรับทราบ และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แล้วก็ปรับกันได้ อาจหลายครั้งหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้น ครับ

4 ) ผมเห็นด้วยว่า การห้ามรถรับจ้างที่มีผู้สูงอายุ หรือสัมภาระมาก เข้าอาคาร นั้นไม่สมควร

5 ) แต่ผมไม่เห็นด้วยที่คุณ กล่าวว่า
QUOTE
ใครที่คิดจะเข้ามาเขียนว่าผมมารถวัดสะดวกอย่างนั้น ฉันมาเดินออกกำลังกายอย่างนี้ เงียบไปเลยนะครับไม่ต้องเข้ามาเขียนอีก ทำให้เสียประเด็นซะเปล่าๆ


เพราะทุกคนก็เห็นใจคุณ อยากให้กำลังใจคุณ ทั้งนั้น
อะไรหรือครับ ที่ทำให้คุณมองข้าม หรือ ไม่ใส่ใจความปรารถนาดีเหล่านั้น
โทสะหรือเปล่า ? ความคิดน้อยใจ หรือเปล่า ?


ป.ล. 1 ตอนท้ายคคห. 34 เห็นคุณ ใจเย็น ลงบ้างผมก็ยินดีด้วยครับ

ป.ล. 2ส่วนที่ พี่เปิ้ล เจอมาว่า น้องจราจร พูดจา

QUOTE
ทำนองว่า พอใจ เค้ามีสิทธิ์ ทำนองเบ่งว่ามีอำนาจสั่งให้ทำ ต้องทำตาม


ก็คงเจอน้องอาสมัคร ที่กำลังหงุดหงุด กระมังครับ ไม่ใช่ทุกคน คิดแบบนี้หรอกครับ
และการกำหนดเส้นทาง ให้ ดูคล้ายวนรถให้เปลืองน้ำมันและเวลา นั้น

ผมเข้าใจว่า บางช่วงเวลาที่มีรถเข้ามามาก
พื้นที่และระยะทาง มีไม่มากพอ
น้องจราจร จึงใช้วิธีเพิ่มระยะทางวิ่งให้มากขึ้น เพื่อให้รถที่ติดมาก ตรงทางเข้าหน้าวัด สามารถเข้ามาได้น่ะครับ
ไม่งั้นจะติดนานตรงทางเข้า คนอื่นที่ไม่ได้มาวัดก็หงุดหงิดก็ต่อว่าเราได้

เรื่องเส้นทางเดินรถ ของอาสาสมัคร จราจรก็เช่นกันครับ
แม้มีการประชุมวางแผนกำหนดเส้นทางเดินรถบัส/รถส่วนตัว แล้วก็ตาม
แต่หากสถานการณ์เฉพาะหน้า ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งมีปัญหา
น้อง ๆ ก็สามารถรายงาน เพื่อขอคำสั่งการเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ ของรถบัส หรือ รถรับจ้าง หรือ รถส่วนตัวได้ครับ
เพื่อให้การจราจร ติดขัดน้อยลง หรือเพื่อให้รถของพระเดชพระหลวงพ่อ ผ่านเข้าสู่อาคารหรือศูนย์พิธีก่อน

ป.ล. 3 กระทู้นี้ผมคงร่วมแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้
หากความคิดเห็นส่วนตัวด้วยความปรารถนาดีของผม ทำให้เจ้าของกระทู้ไม่สบายใจ
ผมก็ขออภัยทาน มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#36 สิทฺธิกโร(V-active)

สิทฺธิกโร(V-active)
  • Members
  • 486 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:สมุทรปราการ
  • Interests:ธรรมมะ และการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 12:53 PM

คุณ ทัพพีในหม้อ ผมแนะนำให้ไปนั่งสมาธิ จนกว่าอารมณ์จะหายขุ่นนะครับผม อย่าไปคิดไรมาก ขอให้คุณคิดว่า มาวัด มาเพื่อทำบุญสร้างบารมี ไม่ใช่มาหาความสะดวกสบาย (ผมว่าปัญหาของคุณคงได้รับการแก้ไข) และผมเห็นด้วยกับคุณสัมมาอะระหัง นะครับ happy.gif

#37 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 02:56 PM

รถผม ท่อดัง แต่งซิ่ง ไม่น่าเชื่อว่าคนขับจะเข้าวัด เหยียบเร่งเครื่องทีนึงเสียงดังกระหึ่มสนั่นหวั่นไหว ถ้าเร่งแรงๆระบบกันขโมยรถที่จอดอยู่จะร้องระงม แต่เวลามาวัด ผมก็จะค่อยๆขับช้าๆเบาๆ แต่บางทีเสียงมันก็อดเล็ดลอดออกมาไม่ได้
ก็ต้องขออโหสิกับผู้ที่กำลังตรึกธรรมะด้วย เพราะของแบบนี้มันหลีกเลี่ยงกันยากถ้าคุณขับรถ

หลวงปู่มั่นท่านเคยพยากรว่าต่อไปคนจะบรรลุธรรมกันในเมืองมากกว่าในป่าเขา ซึ่งก็แน่นอนวัดเรา ถึงจะนั่งธรรมะกันแทบจะติดรันเวย์เครื่องบิน แต่ที่ผ่านมา สาธุชนก็เพิ่มจากพันเป็นหนื่น เป็นแสน และเป็นล้าน ถ้าผังของหมู่คณะเป็นเช่นนี้ เรื่องเสียงรถยนต์แผ่วๆ และอาการรถติด(ที่เทียบไม่ได้ 0.01%ของกทม)ในวัด ก็เป็นปัญหาเพียงเล็กๆน้อยๆมาก เมื่อเทียบกับความสะดวกสะบายที่จะอำนวยให้แก่สาธุชนผู้มีความตั้งมาประพฤติธรรมด้วยศรัทราอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อวัดพระธรรมกาย




#38 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 02:58 PM

ใจเย็นๆ ค่ะ แจ้งเรื่องไปยังผู้เกี่ยวข้องแล้วนะคะ
ฟ้าร้างได้เสนอไปว่า ควรจะมีลานสำหรับจอดรถแท็กซี่ ลงแท็กซี่ แล้วให้ขึ้นรถตู้ฟรีที่จัดไว้นำคนไปส่งใต้สภาอีกทีหนึ่ง วิธีนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง แทนรถพ่วงที่อย่างไรเสียก็คงต้องเดินอีก

รอฟังผลต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งโวยวาย ใจตก นะคะ ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไขเสมอ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#39 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 03:05 PM

กระทู้นี้น่าสนใจมากค่ะ เพราะ luckynara ก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการรถ taxi พาคุณแม่ซึ่งต้องใช้ wheal chair ด้วยค่ะ ถ้ารถ taxi ลงจอดใต้สภาไม่ได้ก็คิดว่าคงจะลำบากนะคะ หวังว่าคงจะมีทางแก้ไขที่ดีสำหรับทุกฝ่ายนะคะ เข้าใจความรู้สึกของคุณทัพพีในหม้อค่ะ ส่วนที่คุณสัมมาอะระหังบอกว่าให้เดินออกกำลังกาย ใช่ค่ะสำหรับคนที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็คงไม่มีปัญหาค่ะเดินไกลหน่อยไม่เป็นไร แต่สำหรับคนที่ต้องใช้ wheal chair โอเคค่ะถ้าตลอดทางที่ต้องเข็นรถเป็นพื้นที่เรียบก็คงไม่เป็นไรอีกเหมือนกันนะคะ แค่นี้ละค่ะที่อยากบอก(โดยที่ไม่ต้องไปออกเทป ฮิฮิ)

#40 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 04:24 PM

ได้ความมาดังนี้นะคะ

"ทางผู้บริหารกำลังหาทางแก้ไขด่วน" ขอบคุณที่ช่วย comment มาค่ะ

"หัวหน้ายาม พระอาจารย์ และหลวงพ่อรับทราบแล้ว" ขอบคุณมาก จะพยายามแก้ไข ให้ต้อนรับประทับใจเต็มที่
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#41 luckyno.1

luckyno.1
  • Members
  • 17 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 05:08 PM

ก็ค่อยเป็นค่อยไป ปรับตามสภาพและเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เขาคงจะนำมาปรับปรุง

มีอารายก็ช่วยแนะนำกันไป แต่อย่าใจขุ่นเป็นใช้ได้ บุญจะได้ไม่ตกหล่น

แต่มีจุดสำหรับแท็กซี่นี่เห็นด้วยเลย...แต่ก็ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้นะ

ทางสะดวกมาตลอด สงสัยชาติที่แล้ว ไม่เคยเป็นไอ้เข้ขวางคลองใคร

หรือไม่เคยพูด ส่อเสียด ขัดคอใครมั้ง

ไปไหนมาไหนเลยไปสะดวกตลอด

ถ้าไม่สะดวกก็แทบไม่เคยบ่น

เทียบกับเมื่อ17-18 ปีที่แล้วสิ ลำบากกว่านี้เยอะมากกกกก

สาธุชนมาวัดต้องนั่งรถเมล์...รถนายเล... สีขาว ใครเคยขึ้นหนองเสือว่าแย่แล้วนะ เจอรถนายเล...

ทั้งเต่า ทั้งควันสีขาวววววว...ถนนหนทางไม่งามแบบนี้หรอกนะ....

ใจใสใสเข้าไว้ แล้วทุกเรื่องในชีวิตจะงดงาม



#42 admin007

admin007
  • Members
  • 51 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 16 October 2007 - 02:10 PM

ทางวัดต้องขออภัยที่อำนวยความสะดวกได้ไม่เต็มที่ จะพยายามหาทางแก้ไขปรับปรุงต่อไป ขออนุโมทนาต่อคุณทัพพีในหม้อที่ช่วยชี้ขุมทรัพย์มา ณ ที่นี้