ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

จะรู้ได้ไงว่าบรรลุโสดาบันครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ปลัดใจบุญ

ปลัดใจบุญ
  • Members
  • 56 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 April 2010 - 09:20 PM

คือผมสงสัยตั้งนานแล้วว่าจะรู้ได้ไงว่าตัวเองบรรลุโสดาบัน หรือ มากกว่านั้น ยังไงครับ ??

#2 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 12:14 AM

รู้ได้เฉพาะตน เป็นปัจจัตตัง

ปัจจัตตัง

คำแปล2

ว. เฉพาะตน, (ศน.) พระธรรมคุณบทหนึ่งว่าปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า พระธรรมอันผู้บรรลุจะพึงรู้เฉพาะตัว, คำว่า ปัจจัตตัง ใน ที่นี้หมายถึงว่า ความสุขที่เกิดจากการบรรลุธรรม นั้น เป็นความสุขที่ผู้บรรลุจะรู้กับใจของตัวเอง ต้องปฏิบัติจึงจะรู้ไม่เป็นสิ่งที่จะรู้ได้ด้วยการฟังคนอื่นเล่าหรือให้คนอื่นปฏิบัติแทนตน.

แต่ในกรณีนี้อาจตรวจสอบกันได้ระหว่างผู้รูฦด้วยกันเอง หรือจากคำสอนมีไว้

^^



อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#3 ดงบัง...โดรายากิ

ดงบัง...โดรายากิ
  • Members
  • 170 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 12:15 AM

จะรู้ได้ด้วยตัวเองครับ(คนอื่นก็รู้ได้ แต่ต้องมีธรรมะละเอียดหน่อย)


ตัวเองนั้นรู้ได้ เปรียบเสมือน ตัวเองถูกตัดเเขน ตัดขา แล้ว ก็ย่อมรู้ว่าตัวเองถูกตัดแขนตัดขาแล้ว ครับ


ผมมีความรู้แค่นี้ครับ รอท่านอื่นมาตอบ


แหะๆ

...............................

เศียรเกล้านี้ขอมอบแด่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย

#4 ปลัดใจบุญ

ปลัดใจบุญ
  • Members
  • 56 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 12:19 AM

ได้ความรู้เยอะจัง ขอบพระคุณครับ

#5 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 12:38 AM

....ตามที่เคยได้ยิน คือเวลาผ่านกายรูปประพรหม กับ อรูปประพรหมไปแล้ว จะพบองค์พระ หากเข้ากลางไปอีกจะพบองค์พระที่มีหน้าตัก 5 วา นั่นคือกายธรรมพระโสดาบัน แต่ยังเป็นเพียงโสดาปัตติมรรค หากเข้าไปจนเป็นหนึ่งเดียว คือ เมื่อถึงตรงนั้น องค์พระจะเชิญมาเป็น 1 เดียวกัน อะไรประมาณนี้น่ะครับ หากตอบรับ และตามท่านไปก็จะเข้าสู่โสดาปัตติผล เมื่อนั้นก็ได้ความเป็นพระอริยบุคคล ประมาณนี้ ....แต่ถ้าหากไม่ได้ตามเข้าไป ณ กลางกายเพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระโสดาบันแล้ว แต่ผ่านเลยไปก็จะเข้าสู่กายธรรมพระสกิทาคามี หน้าตา 10 วา ไปเรื่อยๆ หรือจริงๆ การมาถึงและเข้าไปสู่กายเพื่อยอมรับการเป็นพระอริยะนั้น ยังมีรายละเอียดอย่างที่กล่าวมานั่นแหละครับ คือ รู้ได้เฉพาะตน

...แต่ไม่ต้องกลัวครับ เมื่อเจอกายธรรมแล้ว หรือตั้งแต่ดวงปฐมมรรค ก็จะมีเสียงพูดคุยกับเรา และแนะนำตัวเราต่อไปได้อีกครับ แปลกดี เหมือนมีไกด์นำเราว่า ถึงตรงนี้แล้ว จะเที่ยวตรงนี้ หรือจะหยุดพัก ณ ตรงนี้ไหม? ประมาณนี้อ่ะครับ เท่าที่ทราบมา
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#6 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 01:26 AM

เคยฟังเรื่องราวดีๆจาก สมาธิ..ความสุขที่ง่ายต่อการเข้าถึง ชุดที่ ๑ แผ่นที่ ๒
http://www.kalyanami...d...id=6&page=3

เรื่องน้องมะนาว ฟังแล้วรู้สึกดีมากๆครับ เรื่องอื่นก็ไม้แพ้กันนะครับ
ลองเข้าไปฟังกันครับ
ดี ที่ สุด เลย
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#7 ลูกอินทรีย์หัดบิน

ลูกอินทรีย์หัดบิน
  • Members
  • 369 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 03:46 AM

เรียงลำดับกายในกาย ในการบรรลุธรรมครับ รวมทั้งหมด 18 กายทั้งหยาบและละเอียด


1. กายมนุษย์
2. กายมนุษย์ละเอียด (เป็นกายฝัน ที่เรามักเห็นเวลาหลับ)
3. กายทิพย์
4. กายทิพย์ละเอียด
5. กายรูปพรหม
6. กายรูปพรหมละเอียด
7. กายอรูปพรหม
8. กายอรูปพรหมละเอียด (ถึงแค่กายนี้ เป็นขั้นสมถะ ซึ่งแปลว่าหยุดนิ่ง สงบ)
9. กายธรรมโคตรภู (กายธรรมโคตรภู ขึ้นไป จึงจะเป็น วิปัสสนา ซึ่งแปลว่า การเห็นอันวิเศษ เห็นแจ้งด้วยธรรมจักขุ
เป็น ภาวนามยปัญญา เป็นการเห็นอันวิเศษด้วยญาณของพระธรรมกาย)
10. กายธรรมโคตรภูละเอียด
11. กายธรรมโสดาบัน
12. กายธรรมโสดาบันละเอียด
13. กายธรรมสกิทาคามี
14. กายธรรมสกิทาคามีละเอียด
15. กายธรรมอนาคามี
16. กายธรรมอนาคามีละเอียด
17. กายธรรมอรหัต
18. กายธรรมอรหัตละเอียด

จากหนังสือ สาระสำคัญพระธรรมเทศนา พระมงคลเทพมุนี เป็นหนังสือที่หลวงปู่ท่านกล่าวถึง
สติปัฏฐาน 4 วิปัสสนา สมถะ ไว้ครับ
http://www.kalyanami...etail.php?id=46

รายการชีวิตในสังสารวัฏ

ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html


หนังสือเรียนธรรมะ DOU           http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html

GL 101 จักรวาลวิทยา                            http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา                              http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม                             http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์           http://book.dou.us/gl305.html


#8 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 10:43 AM

เก่งจังเลยคับ สาธุ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย

#9 Lonely_Wolf

Lonely_Wolf
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 04:51 PM

จะมีญาณเกิดขึ้น เรียกว่า วิมุตติญาณทัศนะ
แปลว่า ความรู้ว่าหลุดพ้น
ตัวผู้บรรลุธรรมจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก

เดียวดายใต้เงาจันทร์

#10 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 07:32 PM

....ตอนหลวงปู่ บรรลุธรรม ท่านก็ไม่เคยเจอสภาวะนี้มาก่อน แต่มีเสียงออกมาจากดวงแก้วกลางกายว่า "มัชฌิมา ปฏิปทา" ...นี่ไง แปลว่า เดินในทางสายกลาง คือ กลางดวงนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ตึงไม่หย่อนสบายๆ... ...นี่คือเสียง หรือคำแนะนำไง ถ้าไม่เคยก็ไม่รู้ว่ามีเสียงอยู่จริง ก็ไม่ต่างกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ คือ ในช่วงที่เราไปต่อไม่ได้ หรือไม่รู้ต้องทำไงต่อ จะมีเสียงแห่งพระธรรมกาย อันเป็นที่สุดแห่งทางถูกต้องแนะนำเรา...
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#11 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2010 - 08:11 PM

เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์พระธรรมกายโสดาบัน ละสังโยชน์เบื้องต้น 3 ประการได้
เมื่อเข้าถึงก็จะรู้ได้เฉพาะตน

#12 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 02:58 AM

แม้การเห็นดวงแก้ว หรือดวงปฐมรรค ก็สามารถรู้ได้ตัวเองนะคะ ว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นของจริงจะไม่มีความติดใจสงสัยเลย

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#13 usr34073

usr34073
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 07:19 PM

แม้ได้บรรลุรรมเป็นพระโสดาบันในชาติที่แล้ว
เกิดมาชาตินี้อาจจะไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นพระโสดาบันก้ได้
อ้างถึง หลวงปู่เทสนื เทสรังษี
ท่านเล่าว่า เมื่อ ตอนเกิดมานี้ตัวเอง
มิทราบว่าได้เป็นพระโสดาบัน แต่เมื่อได้เข้ามาบวช
แล้วได้ปฏิบัติธรรมจึงได้ทราบ

#14 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 08:07 PM

สำหรับผู้ที่มาอ่านข้อมูลจากความเห็นที่ 13 ก็ให้รับฟังไว้นะครับ แล้วก็ลงมือปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเองครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#15 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 01:08 AM

อืม ครับคุณหัดฝัน
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#16 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 04:33 AM

ธรรมดาพระโสดาบันท่านสามารถละสังโยชน์เบื้องต่ำได้นะครับ ว่ากันตามนี้ครับ

* ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่
o 1. สักกายทิฏฐิ - หมดความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา หมดความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
o 2. วิจิกิจฉา - หมดความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
o 3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงการหมดความเชื่อถือในพิธีกรรมที่งมงายด้วย
o 4. กามราคะ - หมดความติดใจในกามคุณ
o 5. ปฏิฆะ - ไม่มีความกระทบกระทั่งในใจ
* ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5 ได้แก่
o 6. รูปราคะ - ไม่มีความติดใจในวัตถุหรือรูปฌาน
o 7. อรูปราคะ - ไม่มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย
o 8. มานะ - หมดความยึดมั่นถือมั่น
o 9. อุทธัจจะ - ไม่มีความฟุ้งซ่าน
o 10. อวิชชา - ไม่มีความไม่รู้จริง

พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อต้นได้

พระสกทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ 4 และ 5 ให้เบาบางลงด้วย

พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อต้นได้หมด

พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ



ที่มา "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม"

#17 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 01:32 PM

....โห โห สุดยอด เคลียร์ชัด แค่ข้อ 4 นี่ก็ยากมากแล้ว ในยุคนี้สื่อไม่ดีเยอะ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#18 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 06:55 PM

ตามพระพุทธพจน์ จะรู้ได้พระพุทธองค์ตรัสไวว่าเสมือนนายช่างไม้ เอาขวานถากไม้ไปทีละน้อยๆ จนเนื้อไม่กะเทาะออกไปได้เท่าไรก็จะรู้ได้เท่านั้นเองครับ ว่างๆจะหาอ้างอิงพุทธพจน์มาให้นะครับ

ส่วนการละกิเลศได้ระดับต่างๆ และคุณธรรมของพระอริยะเจ้าระดับต่างๆ ก็ตามที่เพื่อนๆกัลยาณมิตร โพสต์ไว้นะครับ


วิชชา 18 กายตามแนววิชชาธรรมกายนั้น หลวงปู่สดสอนไว้สองกรณีนะครับ

คือกรณีที่ธรรมกายบรรลุอริยมรรคผลแล้ว และกรณีที่ธรรมกายยังไม่บรรลุมรรคผลครับ ยังเป็นโลกียะวิชชาอยู่

แต่ถ้าถึงพระนิพพานได้ แม้ยังละกิเลสเป็นสมุจเฉทไม่ได้เรียกว่า โคตรภูบุคคลครับ (เท่านี้ก็สุดยอดแล้วเด้อ เพื่อนกัลยาณมิตร)


ตามวิชชาธรรมกายเบื้องสูงนั้นแสดงไว้ว่าหากเราเจริญอาสวักขยญาณเบื้องสูง แก้ที่ ธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ จนกิเลศดับหมด ธรรมกายจึงจะขยายส่วนออกไปได้เต็มธาตุเต็มธรรม แล้วไม่กลับมามัวหมองอีก เบิกบานเต็มที่เสมือนดอกบัวบาน จะใสสว่างทุกเมื่อ.....



ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#19 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 18 April 2010 - 01:53 PM

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าผมรวยแล้วครับ




#20 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 18 April 2010 - 07:11 PM

อืม คำถามของคุณสิริปโภ เป็นคำถามที่ตอบยากแฮะ อิอิ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#21 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 20 April 2010 - 12:55 PM

ในความเห็นของน้ำใส

การจะรู้ได้ไงว่า บรรลุโสดาบันหรือไม่

ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปอยากรู้ อยากเห็น

เพียงแค่ ในช่วงวัน เวลาหนึ่ง ๆ ใจของเรานิ่งๆ

สงบเยือกเย็น มองทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้

ด้วยความรัก เมตตา และปรารถนาดี

อยากให้เค้าพ้นทุกข์ พบความสุขอันแท้จริง

แค่นี้ เพียงเท่านี้ เท่านั้น .... .... ก็เกิดบุญ

กับตัวเราเองแล้วค่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม