อยากทราบว่าทำไมคุณยายต้องถือดวงแก้ว 2 ดวงนั่งสมาธิ
#1 *Makaleepon*
โพสต์เมื่อ 28 October 2005 - 01:02 PM
#2
โพสต์เมื่อ 28 October 2005 - 04:30 PM
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านเป็นหัวหน้าชุด
ในการทำวิชชาในสมัยพระเดชฯหลวงปู่
ดวงแก้วกายสิทธิ์ที่ท่านถือไว้ ก็เอาไว้สำหรับทำวิชชา ซึ่งมีทั้งหมด 3 ดวง
แต่ในแต่ละรอบ ท่านก็จะเลือกใช้งานแค่ ทีละ 2 ดวง
#3
โพสต์เมื่อ 28 October 2005 - 05:03 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 28 October 2005 - 06:29 PM
เพิ่งไปพนาวัตน์กลับมาอ่ะนะค่ะ แล้วพระอารักษ์ก็ได้บอกกับทุกคนนะค่ะ ว่า ดวงแก้วนั้น
เป็นดวงแก้วที่ได้จากหลวงปู่สด ของพวกเรานิแหละค่ะ แล้วท่านได้มอบดวงแก้วให้กับคุณยาย 2 ดวงในขณะที่ คนอื่นได้แค่ 1 ดวง
หรือง่ายๆอีกอย่าง ที่ท่านบอกก็คือ
** ลูกจันทร์นี้ เป็น 1 ไม่มี 2 ** <<<< เอ๋ ผิดมั้ยน้อ
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#5 *ร้อยแก้ว*
โพสต์เมื่อ 28 October 2005 - 11:25 PM
ขอรวมวงในฐานะหนึ่งในผู้ศรัทธาในบารมีธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำ
กายสิทธิ์ คืออะไร ? และจักรพรรดิ คืออะไร ?
กายสิทธิ์ หมายถึง สำเร็จในตัวเอง หรือสิ่งที่มีฤทธิ์ กายสิทธิ์ลงที่ไหน หรือวัตถุสิ่งใด
สิ่งนั้นจะเป็นของถาวร ศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพ
กายสิทธิ์เป็นบริวารสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ มี 3 ประเภท คือ บรมจักร มหาจักร
และจุลจักร
กายสิทธิ์ที่อยู่ในอัญมณีก็มี อยู่ในคตต่าง ๆ ก็มาก ในแก้วจุยเจียก็ใช่
ในการเดินวิชชาสะสางธาตุธรรม ขณะเดินวิชชาท่านให้ถือลูกแก้วในมือ
ถ้าเป็นหินแก้วชนิดสีน้ำชา เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้วด้วยละก็ เยี่ยมมากท่านว่า
วันหลังจะเข้ามาคุยเรื่องนี้ใหม่ สวัสดี
#6
โพสต์เมื่อ 30 October 2005 - 02:52 AM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#7
โพสต์เมื่อ 30 October 2005 - 04:33 PM
แต่ก็ยอมรับว่ากระทู้นี้อาจแล้วยกใจและรู้สึกดีมากจริงๆครับ
#8
โพสต์เมื่อ 03 November 2005 - 12:07 AM
ขอบคุณคุณร้อยแก้วครับ
#9
โพสต์เมื่อ 03 November 2005 - 09:20 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#10
โพสต์เมื่อ 10 November 2005 - 09:37 PM
#11
โพสต์เมื่อ 12 November 2005 - 08:15 AM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#12 **
โพสต์เมื่อ 14 November 2005 - 08:10 AM
เพราะ คุณยายจันทร์ท่าน ทำวิชชา ได้เยี่ยม เป็น 1 ไม่มี คนอื่นมาเทียบได้ครับ
#13 **
โพสต์เมื่อ 15 November 2005 - 07:41 AM
#14
โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 08:02 AM