ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2545-11-18 : ขั้นตอนการตาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 10:07 PM

ย่อเรื่อง ขั้นตอนการตาย (18 พฤศจิกายน 2545) โดย Extra

การมาบวช ต้องเชื่อพระพุทธเจ้า ยิ่งจะเป็นสมภาร ต้องยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ต้องเชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของท่าน อย่าไปเชื่อผู้ที่พูดให้เขว เพราะแค่ศีล 5 ยังไม่ครบเลย เราเป็นพุทธบุตรต้องมั่นคงเชื่อมั่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด มีพระบางรูปแนะนำว่า คนเราตายแล้วเป็นดิน เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดอย่าไปคิด ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ สิ้นสุดของชีวิตคือดิน ตายไปแล้วทับถม แยกย้ายไปเป็นดิน ท่านพูดถูกส่วนหนึ่งเท่าที่ท่านเห็น แต่ยังไม่สมบูรณ์เพราะท่านไม่เห็นทั้งหมด ชีวิตมนุษย์ไม่เหมือนชีวิตต้นไม้ ต้นไม้มีชีวิตแต่ไม่มีจิตใจ ตายแล้วเป็นดิน แมวมีชีวิตมีจิตใจตายแล้วส่วนหนึ่งเป็นดิน วิญญาณไปแสวงหาที่เกิดใหม่ เรื่องคนยิ่งลึกซึ้งกว่านั้น ตายแล้วส่วนหนึ่งเป็นดิน ส่วนกายทิพย์ก็แสวงหาที่เกิดใหม่ตามวิบากกรรมที่กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์ เราสรุปว่าชีวิตจบที่เชิงตะกอน ทับถมเป็นแผ่นดินเท่านั้นไม่ได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า กว่าท่านจะมาเป็นพระพุทธเจ้า ท่านเวียนว่ายตายเกิดนับไม่ถ้วน ตอนปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า พระปัญญาธิกพุทธเจ้านึกในใจ 7 อสงไขย เปล่งวาจาอีก 9 อสงไขย ได้รับโพธิพยากรณ์ 4 อสงไขยกับแสนมหากัป ถ้าเราได้ยินคำสอนอย่างนี้ให้เชื่อไว้ครึ่งหนึ่ง เพราะท่านพูดถูกครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งหนึ่งเราต้องแสวงหา เราต้องยึดเอาความคิดพระพุทธเจ้าเป็นหลัก อย่าไปเชื่อความคิดตัวเอง หรือความคิดบางคนที่พูดเก่งจนเขว


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า คนตกนรกเท่ากับธุลีในปฐพี คนขึ้นสวรรค์เท่ากับธุลีในเล็บมือ
ท่านสอนเกี่ยวกับเรื่องคนไว้ว่า
“สิ่งที่ควรคู่กับสิ่งที่ไม่ควร มันก็ไม่ควร
สิ่งที่ไม่ควรคู่กับสิ่งที่ควร ก็ไม่ควร
สิ่งที่ไม่ควรคู่กับสิ่งที่ไม่ควร ก็ไม่ควร
แต่สิ่งที่ควรคู่กับสิ่งที่ควร ก็ควร”
เช่น รายการธรรมะ มีสปอนเซอร์เป็นยาดอง ตรากระทะทองแดง ก็ไม่สมควร เป็นต้น


นักเรียนอนุบาลฝันในฝันคนหนึ่ง ชื่อ ปราณี นิ่มกุลรัตน์ อายุ 37 ปี เดิมมาฟังทุกวัน เป็นนักเรียนที่ดี ไม่เคยขาดเรียนเลย แต่วันนี้ไม่อยู่แล้ว เธอเข้าวัดเมื่อ 17 ปีที่แล้ว เมื่อยังเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง ชวนเพื่อนมาทำทุกบุญตามกำลังที่ตัวมีอย่างเต็มกำลังแบบนักเรียน ทุ่มเทชีวิตจิตใจอย่างเต็มที่ทั้ง ๆ ที่ทางบ้านไม่เห็นด้วยและกีดขวางไม่ให้มา เมื่อตั้งเป้าสร้างบารมี ก็มีวิธีมาสร้างบารมีจนได้ เธอสนใจด้านวิชาการมาก ทำทุกงานทุกบุญทั้งด้วยตัวเองและเป็นผู้นำบุญ

ปี 2544 แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งขั้นต้น รักษาเรื่อยมาจนถึงปี 2545 อาการหนักมากในพรรษา ก่อนละโลกเดือนเศษ ๆ ได้ไปยกของขายของ ของหนักเส้นพลิกขยับเขยื้อนไม่ได้ นอนอยู่ที่บ้าน เธอเป็นมะเร็งมดลูก เมื่อขยับไม่ได้ก็เป็นแผลกดทับ ทรมานมาก คิดว่าไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอยู่ ไปทำบุญไม่สะดวก ที่บ้านต้องดูแล ไม่อยากรับประทานอาหาร ก่อนละโลก 2-3 วัน ทางบ้านพาไปโรงพยาบาล เนื่องจากเธอเป็นที่รัก เพื่อนที่วัดพากันไปเยี่ยมและให้กำลังใจ จนวันสุดท้ายปลายเดือนธันวาคม หายใจไม่ออกเข้าห้อง ICU ใส่เครื่องมือเต็มไปหมด ขณะนั้นเธอกระสับกระส่ายทุรนทุรายมาก ตรงนี้สำคัญ ต้องสนใจ ถึงเวลาจะได้ทำถูก เพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ พูดใส่หู ให้นึกถึงบุญหลวงปู่ คุณยาย ครูไม่ใหญ่ ให้ภาวนาสัมมาอะระหัง เพื่อนพูดซ้ำ ๆ ใส่หูไปเรื่อย ๆ จนเธอสงบลง ลมหายใจค่อย ๆ นิ่ง ละเอียด ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ แล้วหลับไปอย่างสงบ เธอจำได้ว่า หลวงพ่อบอกว่าให้แข็งใจ เหมือนเรานั่งธรรมะแล้วปวดเมื่อย บางคนขยับแล้วดี บางคนแข็งใจแล้วดี กรณีนี้ต้องแข็งใจเพราะต้องต่อสู้กับทุกขเวทนา เพราะหายใจไม่ออก เธอแข็งใจสัมมาอะระหัง เหมือนนั่งทำ แต่เธอนอนทำ ช่วงนั้นดวงตายขยาย มันลอยขึ้นมาแล้ว ทำให้รอยต่อกายมนุษย์หยาบละเอียดจะหลุดจากกันแล้ว มาฐานที่ 7 ก็นิ่ง พอเธอสงบ ภาพแห่งบุญที่เธอได้กระทำเอาไว้ เป็นแสงสว่างฉายให้เห็นเลยรวดเร็วแต่รู้เรื่อง เพราะจิตมันนิ่งแล้วใกล้เป็นวาระสุดท้ายจะถอดกายแล้วนิ่ง ตรงนี้สำคัญมาก ๆ เริ่มสดใส พอสุดภาพของทุกบุญ ก็เป็นดวงสว่าง ดวงบุญมา ทุกขเวทนาหยุด เหมือนหลับในกลางดวงบุญ เหมือนนั่งแล้วแอบหลับในสมาธิ นั่นคือหลับอยู่ในกลางดวงบุญ


ขั้นตอน คือ แข็งใจ สัมมาอะระหัง ใจนิ่ง ภาพของบุญ ฉายให้เห็นทุกเรื่องอย่างรวดเร็ว แต่รู้เรื่อง แปรเปลี่ยนเป็นดวงบุญ เหมือนหลับไป ตื่นขึ้นมากลางราชรถในสภาพเทพธิดาอยู่ในท่านอน ไม่มีหมอนหนุนหัว เธอจดจำได้ทุกขั้นตอน พอตื่นอย่างสง่างามกลางราชรถสีทองสองล้อ พร้อมบริวาร ประโคมดนตรี ระลึกได้ว่า ต้องมาที่มหาธรรมกายเจดีย์ เธอก็แวบมาเลยมาเวียนประทักษิณ ตอนนี้ภาพมาเร็วมากเลยทุก ๆ บุญ ปลื้มมากเลย กายมนุษย์นึกไม่ค่อยออกเพราะไม่ได้เก็บใบอนุโมทนาบุญไว้

ทุก ๆ บุญจะนึกออกหมด ขอให้ทำให้ถูกหลักวิชชาเท่านั้น ปลื้ม ทุกบุญที่ทำกับพระราชฯ สว่างไสว ภุมมเทวา อากาศเทวา ยืนอัญชลี บ้างก็โปรยดอกไม้ ตอนนี้ลอยช้า ๆ เมื่อถึงศูนย์กลางอวกาศ ผ่านเขาสิเนรุก็ไปเร็ว เข้าวิมานผ่านลอดซุ้ม มีบริวารมากมาย เพราะเป็นผู้นำบุญ ไปจนถึงยอดวิมานใหญ่ เสียงประโคมดนตรี เสียงสาธุการ ดอกไม้ระยิบระยับ เครื่องประดับวิมานว๊อบแว๊บ ดอกบัว ดอกมะลิที่เอามาบูชาพระเจดีย์ ลอยลงมาถึงพื้นแว้บหายไป หอม เบิกบานแช่มชื่น กระทั่งไปนั่งอยู่กลางวิมาน วิมานนั้นอยู่รอบวงบุญพิเศษ ดุสิตบุรี ที่ได้ตั้งใจไว้


เหตุใดเธอจึงตายเร็ว ตายด้วยโรคมะเร็ง ทำไมสร้างบารมีลำบาก อยู่ในครอบครัวที่ไม่ทำบุญ ที่เธออายุสั้นเพราะปาณาติบาต ตอนนั้นเป็นหนุ่มรูปงาม มีภรรยาสวย เธอมีเสน่ห์มาก มีภรรยา 4 คน ภรรยาคนที่ 1 รู้เข้าหึงหวง ทะเลาะกัน ภรรยาเป็นคนมือไวพูดทีก็ตบ สามีเป็นหมัดเป็นมวย เป็นคนเท้าไว เตะภรรยาล้มลงศีรษะฟาดพื้นตาย ทำให้เธอสลดใจทำให้เธอออกบวช แต่วิบากก็ทำให้เธออายุสั้นหลายชาติ กรรมเจ้าชู้ทำให้เธอเป็นมะเร็งมดลูก ชาตินั้น ไม่นึกถึงเรื่องบุญกุศล ไม่อยากเข้าใจ ห้ามคนทำบุญ ทำให้เธอสร้างบารมีลำบาก ทานบารมีก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง ทรัพย์สมบัติจึงไม่ค่อยมี ถ้าทำทานบารมีก็จะรวยกว่านี้ พอบวชแล้วก็บวชตลอด ชอบวิชาการ เจอหมู่คณะของเราตอนออกบวชเลยติดตามกันมา ตอนหลังสอนให้คนนั้นทำความดี จึงมีอานิสงส์ คือ ในปัจจุบันได้กัลยาณมิตร คอยช่วยตอนสุดท้าย

เธอต้องอายุสั้นอย่างนี้อีกหลายครั้ง จนกว่าจะเข้าถึงธรรมกาย ไปรื้อผังตรงนั้น บุญส่งผลให้หลุดวิบากกรรม ในชาตินั้น บุญบวชทำให้พ้นจากอบาย ยังไม่ได้ไปอบายเลย เพราะละโลกแล้วไปสู่สุคติภพ


สิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดมีจริง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก จากในพระไตรปิฎก อบาย เป็นภพแห่งความเสื่อม ทุคติก็มีแต่ความทุกข์ วินิบาต คนที่เคยเป็นใหญ่ถูกถอดยศ ไร้วาสนา ชื่อเสียง