ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ขอถามค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 danafa

danafa
  • Members
  • 9 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:เชียงใหม่
  • Interests:วาดรูป เขียนกลอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ถ่ายรูป

โพสต์เมื่อ 09 January 2014 - 09:16 PM

1.หนูสงสัยว่าพ่อกับแม่เป็นมิจฉาทิฐิรึปล่าว ท่านไม่ชอบให้หนูอ่านหนังสือที่มีประโยชน์ พ่อชอบทำอะไรที่มันทำให้หนูแย่ลง แต่พ่อกลับชอบคิดว่ามันจะทำให้หนูเจริญขึ้น แม่ก็ไม่เคยว่าพ่อเลย ไม่ค่อยสนับสนุนให้หนูทำงานชมรมพุทธ

 

อันนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึปล่าว เวลาที่หนูรักษาศีล พ่อกับแม่ชอบถามอะไรเหมือนกับจะล่อให้เราโกหกออกมาให้ได้(ผิดศีล)

บางครั้งเรื่องนี้มันก็ทำให้หนูหงุดหงิด ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่คิดอะไรอยู่

 

แล้วพ่อก็เป็นคนหัวดื้อ ไม่ยอมเปลี่ยนความคิดตัวเอง ดีอยู่พักนึงก็กลับเป็นเหมือนเดิมละ เชื่ออะไรแปลกๆ เช่น พ่อเคยบอกว่าทำบุญก็ต้องได้บุญ จะทำให้รวยได้ยังไง

 

แม่ไม่ชอบวัดพระธรรมกายเพราะฟังเพื่อนแม่บอกว่าวัดไม่ดี ก็เลยเชื่อ

 

หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ อยากทำงานชมรมพุทธให้เต็มที่เหมือนพี่ๆ มีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้พ่อกับแม่มีสัมมาทิฐิได้บ้าง ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ มีวิธีไหนที่ทำให้แม่ยอมปล่อยเราให้ทำงานชมรมพุทธบ้างคะ วิธีไหนที่จะทำให้พ่อกับแม่เห็นความสำคัญของการอ่านหนังสือบ้าง และที่สำคัญ อยากให้แม่อนุญาตให้ไปอบรมธรรมทายาทหญิงค่ะ มีวิธีพูดอย่างไรที่ได้ผล ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

 

2.มีวิธีป้องกันและแก้ไสยศาสตร์มั้ยคะ


8-|  ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ บุญของผู้ให้ย่อมเจริญ  8-| 


#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 09 January 2014 - 10:21 PM

ขอตอบเฉพาะข้อ 2 นะ  เพราะข้อแรก  ความเป็นไปภายในบ้านของน้อง  น้องจะต้องรู้ดีที่สุด  ว่าอะไรเป็นอะไร  ทางผมเป็นคนนอกคงไม่สามารถไปอธิบายอะไรได้มาก  ขอให้น้องใช้สติไตร่ตรองให้มาก  อย่าเอาความคิดเราเป็นใหญ่  เหตุและผลสำคัญก็จริง  แต่บางครั้ง  กาละ  และ เทศะ  ก็ต้องถูกนำมาพิจารณาประกอบด้วยนะครับ

 

2.มีวิธีป้องกันและแก้ไสยศาสตร์มั้ยคะ

วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุด  คือ  ไม่รับเข้ามา  ทั้งทางกาย  วาจา  ใจ  ยึดมั่นในพระพัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  แค่นี้ก็กันอัปมงคลทั้งมวลได้แล้วครับ  


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 January 2014 - 05:24 PM

ข้อ1. ทำให้นึกถึงภาพอดีตตัวเอง คุณพ่อไม่สนับสนุนให้ลูกๅมาวัดฯ คุณแม่เป็นช้างเท้าหลังไม่กล้าว่าคุณพ่อ คุณพ่อก็เป็นคนหัวดื้อเช่นกัน คุณแม่ก็เชื่อแม่ค้าในตลาดก็เลยไม่ชอบวัดฯ...คิดอยู่เหมือนกันว่าทำไม ควรทำอย่างไร

 

คงต้องทำความเข้าใจพื้นฐานท่านทั้งสอง ท่านมีความเชื่ออะไรในอดีต เวลาเราทำใจใสๆระดับหนึ่งก็พอจะคาดคะเนได้บ้างเรื่องพื้นฐานความเชื่อบุคคล สรุปว่า "ท่านรักเรา และกลัวเสียเราไป"...กลัวลูกสาวไม่แต่งงาน กลัวลูกชายบวชไม่สึก ซึ่งก็เป็นธรรมดาของพ่อแม่ที่ปรารถนาให้ลูกๆได้ดีในทางโลก คือ มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงาน บริวาร วาสนา คู่ครองที่ดี บางคนก็อยากมีลูกหลานมาอยู่รวมกัน เลี้ยงดูเรายามชราภาพ

ให้เวลากับคนที่รักเราบ้าง อย่างทำกิจกรรมจนห่างเหิน อยู่ในหอพักจนลืมกลับบ้าน เพราะท่านยิ่งกลัวเสียเราไป ยิ่งยังไม่เข้าใจงานฟื้นฟูศีลธรรมโลก กลับมารับประทานอาหารให้พร้อมหน้าบ้าง ของโปรดอะไรที่เราชอบแม่เรายินดีทำให้เราทั้งนั้น อาหารร้านใดที่พ่อชอบ เดินผ่านก็แวะซื้อมาฝาก มีอะไรก็เล่าเรื่องดีดีให้ท่านฟังในโต๊ะอาหาร ห้องรับแขก โดยเฉพาะเรื่องเพื่อนๆที่เป็นกัลยาณมิตร จนท่านคลายความกังวลว่าเราไม่เคยลืมท่าน ไม่ทิ้งท่านไป ไม่คบคนพาล ไม่ทำตัวเหลวไหล เราระลึกถึงคุณความดีของท่านเสมอ เรากตัญญู เรารักท่านปรารถนาให้ท่านมีสัมมาทิฏฐิที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

อยากให้แม่อนุญาตให้ไปอบรมธรรมทายาทหญิงค่ะ มีวิธีพูดอย่างไรที่ได้ผล ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

อ้อน ทำตัวน่ารักอ่อนน้อม ให้ท่านวางใจว่าการอบรมนี้ดี มีประโยชน์ต่อเราและครอบครัว ไม่ควรดื้อ โต้ด้วยอารมณ์แม้คำพูดเราจะสมเหตุสมผลก็ตาม พึงระลึกเสมอว่าท่านคือ"พระในบ้าน" ใช้ไม้นวม ไม่มีสิทธิ์ใช้ไม้แข็งให้ท่านเสียใจ

 

2.มีวิธีป้องกันและแก้ไสยศาสตร์มั้ยคะ

 

อย่าไปเชื่อม ผูกอะไรกับดวง(เว้นดวงธรรม) สิงๆทรงๆ ทรงเจ้าเข้าผี ทำนองเนี้ย

เชื่อมสายบุญกับพระรัตนตรัย สวดมนต์ทำวัตร แผ่เมตตา รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ยกระดับใจให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนบุคลิกเราพัฒนาไปในทางที่ดีงาม แล้วท่านจะเห็นความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจของเราเองในวันหน้า


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 10 January 2014 - 06:58 PM

ความจริง น่าไม่นับเรื่องวัด ลูกๆ ที่เป็นวัยรุ่น แทบทุกคน จะรู้สึกอย่างเดียวกันว่า พ่อแม่ไม่เข้าใจพวกเขาเลย พวกเขาจะชอบที่จะอยู่กับพวกเพื่อนๆ มากกว่า ตอนที่พี่เรียนวิชาสังคมวิทยา ตำราก็จะบรรยายแบบนี้

 

ความจริงอยากให้เราลองมองย้อนกลับไปในวัยเด็กว่า ในช่วงวัยเด็กต้นๆ เรารู้สึกเราพ่อแม่แค่ไหน เรียกว่า พ่อแม่อยู่ห่างเราไม่ได้เลย หากลองย้อนไปมีใจเช่นนั้นใหม่ เราจะรู้สึกผูกพัน ความแตกต่างจะมลายหายไป ที่มองต่างมุมก็จะมลาย มีแต่ความรักความปรารถนาดีต่อกันน่ะครับ


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 10 January 2014 - 08:47 PM

..... ^_^ .. เคยไหมครับ เวลาเราเรียนที่โรงเรียนแล้ว วิชานี้ ไม่ชอบ แต่วิชานี้ ชอบมากๆ  ส่วนใหญ่แล้ว..วิชาที่เราชอบเพราะเราเข้าใจ เราศึกษามาดี เรามองออก และเราจินตนาการออก และมันสนุก มันท้าทาย  แต่สำหรับวิชาที่ไม่ชอบนั้น มันจะตรงกันข้ามกับที่ผมกล่าว...

 

..นั้นก็เพราะ วิชานั้นมีอยู่ แ่ต่เราเจอครูดี ครูที่สอนให้เราเข้าใจง่าย ครูที่สอนสนุก ครูที่บุคลิกดี เป็นต้นแบบของวิชานั้นๆที่ทำให้น่าสนใจ หรือมีคำที่เป็นกำลังใจให้เราอยากศึกษาต่อ และคอยสนับสนุนให้เราได้ศึกษาเพิ่ม หรือเพิ่มความคิดเห็น หรือออกแบบอะไรๆได้เองตามใจชอบ ทำให้เรามีส่วนร่วมมากและเรารู้สึกว่านั่นเป็นสิ่งที่ใช่ ..สำหรับเรา

 

..ดังนั้น เมื่อมีวิชา มีความรู้ มีข้อมูล มีการศึกษา ก็ต้องไม่ขาดครูที่ดี ไม่ขาดคุณครูที่จะนำทางเราให้สู่วิชาที่ดีๆนั่นเอง  ..ส่วนวิชาที่ไม่ชอบ ถ้าจะถามกันจริงๆ กับตัวเรา กับผู้สอนวิชานั้นๆ บางทีตัวเรามีอคติเอง หรือบางทีก็ไม่ประทับใจครูนั่นเอง ทำให้ไม่ค่อยอยากทบทวนศึกษา หรือเพิ่มความรู้ให้กับตนเอง และครูก็ไม่ได้ให้กำลังใจ หรือหาเทคนิควิธีที่ทำให้วิชานั้นดูสนุก หรือง่าย

 

...สิ่งที่ผมกล่าวนี้ ไม่ใช่นำครูมานินทานะครับ... แต่กำลังยกตัวอย่างว่า  เพราะเราเจอครูที่ดีไงครับ เพราะคุณนั่นแหละได้เจอครูที่ดี ทำให้คุณรู้สึกชอบ และเข้าใจ และศึกษาอะไรได้มากกว่าที่ใครๆรู้่ หรือรู้มากกว่า รู้ลึกกว่าแม้แต่พ่อแม่ของเราเองก็ตาม...

 

..แต่คุณพ่อคุณแม่นั้น ยังไม่เจอคุณครูที่ดี เลยยังมา หรือยังไปไม่ถึงสิ่งที่จะทำให้ท่านเข้าใจ หรือทำให้ท่านเห็นประโยชน์ของวิชานั้นๆ ท่านเลยไม่รู้ และนอกจากไม่รู้แล้วก็อาจไม่สนใจ หรือบางทีก็ไปล่วงเกินวิชานั้นๆ หรือ ล่วงเกินครูบาอาจารย์ที่สอนวิชานั้นไปเลยก็ได้.. ซึ่งก็จะเป็นวิบากกรรมของท่าน และส่วนใหญ่ความดื้อในชาตินี้ ก็เป็นผลมาจากความดื้อในชาติอดีตเหมือนกัน ซึ่งใครทำอย่างไรไว้ ก็จะได้อย่างนั้น....

 

....หากเราได้ศึกษาดีแล้ว และมั่นใจครูบาอาจารย์ของเรา และเราได้ไตร่ตรองแล้ว ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งดี และดีต่อตัวเรา และดีต่อผู้อื่นแน่ๆ ก็ให้เราศึกษาต่อไป และทำต่อไป อะไรดีก็ทำไป อะไรไม่ดีก็ต้องพิจารณา.. แล้วประโยชน์จะเกิดกับเราเอง  แม้ว่า..บางทีกำลังใจจะไม่มีก็ตาม สิ่งเดียวที่มีค่ามากกว่ากำลังใจ คือ ความเข้าใจนั่นเอง.... ^_^


..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#6 InnerDot

InnerDot
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 January 2014 - 12:11 PM

นอกเหนือจากที่พี่ๆกัลยาณมิตรข้างต้นแนะนำแล้ว.. 

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับวิธีเร่งให้สำเร็จเร็วขึ้นก็คือ

..... ๑. ลงมือเอาจริงเอาจังในการนั่งสมาธิตามวิธีการที่หลวงพ่อสอนเอาไว้ให้ได้ผลการปฏิบัติอย่างน้อยเห็นดวงสว่าง หรือดวงใสๆให้ได้นิ่งๆเสียก่อน

......๒. แล้วให้อธิษฐานลงไปตรงกลางดวงใส หรือตรงกลางความสว่างนั้นทุกครั้งทุกรอบที่น้องนั้งสมาธิ

......๓. แม้นอกเวลานั่งสมาธิ เมื่อคิดว่าเราได้ทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ลืม ก็ให้น้องอธิษฐานจิตอย่างที่ใจหวังลงที่กลางท้อง

ผมมั่่นใจครับว่า จะเป็นวิธีการเร่งผัง ให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องมีสัมมาทิฏฐิมากขึ้น เข้าใจวัดมากขึ้น ที่สำคัญจะเข้าใจน้องมากยิ่งขึ้น

......อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมประกาศความดีของครู ความดีของวัด ด้วยการเปลี่ยนตัวเองทันที ให้เป็นลูกที่ดี ใส่ใจรายละเอียดของคุณพ่อและคุณแม่ เช่นว่า หาโอกาส ไปซื้อมาลัยมะลิสวยทีสุด แล้วอ้างวันใดวันหนึ่งเพื่อขอกราบเท้าท่านทั้งสอง...  เป็นต้น...  เมื่อถึงโอกาสสนทนาด้วยเรื่องทางโลก เมื่ออารมณ์ดีๆคุยกันสนุกๆ อย่าลืมแถมคำสอนของครู เป็นข้อคิดให้ท่านได้ยิน ได้ฟังบ้าง เช่นว่า...

...... -แม่รู้ไหมว่า ทำไมบ้านเราจึงอุดมสมบูรณ์ ผลไม้อาหารก็โอชารส เมื่อเทียบกับต่างประเทศหลายประเทศ  หนู(ลูก) เคยฟังหลวงพ่อที่วัดบอกว่า เป็นเพราะอานิสงส์ของบุญที่ประเทศเราชอบทำบุญทำทานมาในอดีตตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้ผลบุญโดยรวมให้เรามีอาหารอร่อยอุดมสมบูรณ์... นี่เป็นเพราะอานิสงส์ของการทำทาน นั่นเอง เป็นต้น 

.......-พ่อรู้ไหมว่า เวลาเราเห็นใครไปทำบุญทำความดีมา เราก็มักจะพูดว่า อนุโมทนาบุญ โมทนาบุญด้วยนะ...  เราก็จะได้บุญกับเขาด้วยนะ ทำนองเดียวกัน หลวงพ่อที่วัดเคยสอนว่า แม้เป็นเรื่องที่ไม่ดี เป็นเรื่องบาป เช่นเราดูข่าวเห็นคนทำชั่ว เลยแช่งให้เขาตกทุกข์ได้ยาก ให้เขารีบๆ ตายไป หรือ พูดสมน้ำหน้ามัน  ท่านบอกว่า เราก็จะได้บาปกับเขาด้วยเช่นกัน.. เรียกว่า เป็นการอนุโมทนาบาป  ต่อไป พ่อต้องระวังด้วยนะ...  เป็นต้น

... ก็ลองดูนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ



#7 danafa

danafa
  • Members
  • 9 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:เชียงใหม่
  • Interests:วาดรูป เขียนกลอน ฟังเพลง อ่านหนังสือ ถ่ายรูป

โพสต์เมื่อ 14 January 2014 - 09:26 PM

ขอขอบคุณทุกๆคำตอบค่ะ :lol:


8-|  ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ บุญของผู้ให้ย่อมเจริญ  8-|