ไปที่เนื้อหา


myself

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 20 Feb 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Jul 27 2009 03:18 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

เรื่องวันสิ้นกัลป์

06 May 2009 - 10:18 AM

ที่พระพุทธศาสนาระบุไว้ว่า ในกัลป์หนึ่งจะมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็เสื่อมสลายไป ใช่ไหมครับ
อย่างเช่นในภัทรกัลป์นี้ก็เช่นเดียวที่มีวันสินกัลป์คือวันที่ภัทรกัลป์นี้เสื่อมสลายไป
หลังจากที่มีพระพุทเจ้ามาตรัสรู้แล้ว 5 พระองค์ และก็จะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในอนาคตก็เช่นกัน
แต่มีรายละเอียดระบุไว้ว่า กัลป์จะพินาศด้วยไฟ,น้ำ,ลม แล้วแต่มนุษย์ในแต่ละกัลป์ว่าจะมีกิเลสประเภทใดมากกว่ากันเช่นถ้ามีกิเลสโทสะมากกัลป์จะพินาศด้วยไฟแล้วก่อนที่กัลป์จะสิ้นสูญก็จะมีเทวดามาประกาศว่าอีกแสนปี กัลป์จะพินาศให้มนุษย์ทุกคนรีบเพียรทำแต่กุศลกรรมเพื่อที่จะได้ไปเกิดในพรหมชั้นที่ไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ไม่ถืง
เราจำได้ใช่ไหมครับว่าพรหมชั้นที่ไฟบรรลัยกัลป์ไหม้ไม่ถึงอยู่ส่งกว่าสวรรค์ชั้นตั้งแต่จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ขึ้นไปจนถึงชั้นปรนิมิตสวัสดี ถ้าอย่างนั้นเมื่อวันนั้นมาถึง อย่าลืมว่าหมู่คณะเราซึ่งอยู่ที่สวรรค์ขั้นดุสิต ชั้นสี่ ไฟบรรลัยกัลป์ก็ไหม้ลามขึ้นไป ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆเหมือนกับเราอาศัยอยู่บนตึกใหญ่สมมุติว่ามีไฟไหม้ตั้งแต่ต้นชั้นจนกระทั่งถึงมาถึงชั้นที่เราอยู่แล้วยังจะลามขึ้นไปอีกจนกระทั่งไม่ไฟไม่สามารถไหม้ได้อีกต่อไป อย่างนี้หมู่คณะเราและเหล่าโพธิ์สัตว์ทั้งที่เป็นนิยตและอนิยตไม่ต้องเดือดร้อนจากไฟนรก(infeno) นั้นเหรอครับ และอย่าลืมว่าเทวดาส่วนใหญ่ในชั้นที่ 4 ล้วนแต่สั่งสมบารมีมาเยอะอย่างยิ่งยวดโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันทั้งนั้น เป็นไปได้ไหมว่าหมู่คณะเราและเหล่าเทวดาอื่นๆที่มีบุญบารมีเยอะจะย้ายไปอยู่จักวาลอื่นที่ไม่ใช่มงคลจักรวาลนี้ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงในอนาคตเราก็ต้องเจอกับมนุษย์ต่างจักรวาลใช่ไหมและเป็นไปได้ไหมว่าก่อนที่หมู่คณะจะมาอยู่ในมงคลจักรวาลในภัทรกัลป์นี้หมู่คณะเราก็ย้ายหนีไฟมาจากจักวาลอื่นด้วยเช่นกัน



ถามเรื่องอพัยกตาธรรมา

06 January 2009 - 03:41 PM

อยากทราบว่าธาตุธรรมที่เป็นกลางเขามีต้นธาตุเหมือนกันหรือเปล่า แล้วเขาทำวิชชาด้วยหรือเปล่า
แล้วที่สุดแห่งธรรมของเขาจะเป็นอย่างไร unsure.gif

ผังพระผังมาร ช่วยตอบด้วย

30 December 2008 - 10:56 AM

เรื่องนี้คือเท่าที่ทราบมาว่ากายมนุษย์หยาบนี้จริงๆแล้วเป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่มีโปรแกรม 2 โปรแกรม คือโปรแกรมดีและโปรแกรมชั่ว เพราะว่าสิ่งที่อยู่เบื้อหลังคือผู้บังคับทั้งสองคือ มาร และ พระ ซึ่งทำวิชชาสู้กันอยู่ตลอดเวลาแล้วแต่ว่าใครทำวิชชาได้ละเอียดกว่า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมมารจึงดูเหมือนว่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะว่าคนทั้งโลกหรือในวัฎฎะสงสารล้วนตกอยู่ในน้ำมือมาร ยกตัวอย่างเช่นพระเทวทัตในสมัยพุทธกาลท่านบรรลุธรรมในระดับปุถุชนซึ่งในความเข้าใจของผมคือท่านน่าจะเห็นดวงแก้วใสหรือองค์พระแต่ยังไม่ถึงกับเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งดวงธรรมที่ท่านเข้าถึงก็น่าจะคล้ายกับคนที่มีประสบการณ์ภายในในระดับนี้ก็มีความสุขแล้วไม่ต้องการอะไรอีกคล้ายๆกับที่หลวงปู่บรรลุหลวงปู่มีความสุขมาก แต่มารทำวิชชาบังคับเหมือนว่าท่านเป็นรถบังคับวิทยุ หรือเครื่องบินบังคับวิทยุให้ทำอกุศลกรรมแล้วให้ท่านไปรับกรรม คือบังคับเหมือนเราเคยดูหนังการ์ตูนญี่ปุ่น หรือหนังต่างๆเช่นเรื่องอะไรก็ได้ที่มีปีศาจเข้าสิงเพื่อนพระเอกให้มาทำร้ายหรืออย่างเช่นเรื่อง ที่มีมนุษย์ต่างดาวที่เหมือนแมงดาทะเลเข้ามายึดครองโลกด้วยการเข้ามาเกาะหลังแล้วผังเชลล์ไว้ที่สมองมนุษย์บังคับให้มนุษย์ตกอยู่ภายใต้อำนาจให้ทำความผิด เรื่องนี้ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงแต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงคือบังคับให้เราเดินให้ยกขาให้กล้ามเนื้อกระตุก เคยได้ยินประโยคที่ว่า"มือมันไปเอง ขามันไปเอง ฯลฯหรือเปล่า" นั่นแหละครับมันบังคับถึงขนาดนั้นได้ เหมือนเราเป็นรถบังคับอย่างนั้นอย่างนี้มันดูไม่ยุติธรรมมากเพราะว่าพระเทวทัตสามารถที่จะไปได้ไกลกว่านี้ในระดับพระอริยเจ้าหรือบรรลุอรหันต์ตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่มารบังคับ (บังคับในบังคับ) อย่างนี้ไม่ยุติธรรมมากแล้วเมื่อไหร่พระจะชนะหละครับ แต่เท่าที่รู้มาหลวงพ่อเคยบอกว่า เรายังไม่ชนะเขา มันหมายความว่า เราไม่ได้แพ้เขาและเราก็เหนือเขามาพอสมควรใช่หรือเปล่า เหมือนกับเขามีแรง 10 เรามีแรง 12 และสงสัยอีกว่าทำไมฝ่ายพระถึงต้องอาศัยเวลาในการที่ชนะด้วยทำไมไม่ชนะต้องแต่ตอนที่มารพยายามครอบคลุมธาตุธรรมทั้งสาม คือกุศลาธรรมา อกุศลาธรรม อพัยกตาธรรมา (ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า) แล้วทำไมธาตุธรรมกุศลาธรรมาถึงไม่ครอบคลุมธาตุธรรมทั้งสามตั้งแต่แรกเริ่มเลยแหละเราจะได้ไปถึงที่สุดแห่งธรรมตั้งแต่ตอนแรกโน้นแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาปราบมารอย่างนี้
ช่วยตอบด้วยครับ wacko.gif red_smile.gif

เรื่องการอุทิศบุญให้กายมนุษย์หยาบ

18 December 2008 - 02:18 PM

wacko.gif เคยได้ยินใน case study หลายเคสเหมือนกันเช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้วไม่อาจรับบุญที่อุทิศไปให้ได้ คือสงสัยว่าแล้วบุญที่อุทิศไปให้จะไปอยู่ที่ไหนเหรอ หรือว่าจะไปรออยู่ที่ยมโลกหรือเปล่า แล้วทำไมกายมนุษย์หยาบถึงไม่สามารถที่จะรับบุญได้ หรือกายนี้มีไว้ให้เป็นกายที่อุทิศบุญให้กายอื่นอย่างเดียว แล้วอีกกรณีหนึ่งที่ว่า สมมติว่าเราได้สร้างวัดไว้ในพระพุทธศาสนาหรือถาวรวัตถุเช่นพระพุทธรูป เมื่อเราตายแล้วเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้งเวลาที่มีคนมากราบไหว้พระพุทธรูปหรือใช้ประโยชน์จากวัดที่เราได้เคยสร้างไว้เช่นใช้เป็นสถานที่ตักบาตร เราก็ได้บุญด้วย ซึ่งมันขัดแย้งกับกรณีแรกอย่างมากเลย ถ้ากรณีเป็นจริงแล้วทำไมเราคนอื่นอุทิศบุญมาให้กายมนุษย์หยาบแล้วเราถึงไม่ได้รับล่ะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากรณีที่สองเราได้บุญเพราะเราไม่ได้เป็นกายมนุษย์ละเอียดที่จะรู้ว่ามีบุญเกิดขึ้น เรื่องนี้ฟังดูแล้วเหมือนจะขัดแย้งอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน รบกวนช่วยให้ความกระจ่างด้วย wacko.gif