ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 3 คะแนน

การเวียนประทักษิณก่อนเข้าโบสถ์บวช


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Roytavan

Roytavan
  • Members
  • 166 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2009 - 02:22 PM



การเวียนประทักษิณ

การทำประทักษิณในทางพระพุทธศาสนา คือ การกระทำที่สุจริตถูกต้องชอบธรรมทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ การหมุนไปทางขวาคือการหมุนไปสู่ความดีทั้งทางกาย วาจา และใจ ตรงกันข้ามกับการหมุนไปด้านซ้ายเป็นการหมุนทวนความดี คือ การกระทำที่เป็นทุจริตทางกาย วา และใจ

ความเป็นมา ของการเดินทำประทักษิณ คือ การเดินเวียนขวา องค์พระปฏิมาหรือ สัญลักษณ์ที่จะให้ระลึกถึง พระพุทธองค์นั้นมีว่า ครั้งเมื่อพระพุทธองค์ยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ มีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งทรงพระนามว่า ปเสนทิโกศล มีความเคารพศรัทธา ในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก เวลาที่พระองค์เสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น นอกจากรพะองค์จะกราบพระพุทธเจ้าด้วยความนอบน้อมสามครั้งแล้ว ยังขอจุมพิตพระบาทและขอเดินเวียนขวารอบๆองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงสามรอบด้วย

ประวัติพระเจ้าปเสนทิโกศลที่เดินเวียนขวารอบๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสามรอบอยู่เสมอ เพื่อแสดงถึงความเคารพเป็นพิเศษนี่เอง เป็นที่มาของการเดินเวียนขวา รอบองค์พระปฏิมา หรือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ให้น้อมนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พุทธศาสนิกชนนิยมปฏิบัติสืบมาถึงยุคปัจจุบันนี้


ประวัติการเวียนประทักษิณในประเทศไทย

ประเทศไทยได้รับพิธีการเวียนมาจากอินเดีย พร้อมกับพระพุทธศาสนา โดยปรากฏหลักฐานการแสดงความเคารพโดยการเวียนเทียนในพระไตรปิฎก ซึ่งใช้คำว่า เวียนประทักษิณาวัตร คือ เวียนขวา ๓ รอบ เป็นเครื่องหมายถึงการแสดงออกซึ่งการเคารพบูชาต่อสิ่งนั้นๆ อย่างสูงสุด ไทยได้รับคตินิยมนี้มาและปรับประยุกต์ให้เข้ากับพื้นฐานทางวัฒนธรรมของไทย โดยนำมาใช้เป็นการแสดงความบูชาต่อพระรัตนตรัย มาตั้งแต่โบราณ มีหลักฐานปรากฏเป็น "ฐานประทักษิณ" สำหรับการกระทำพิธีเวียนเทียนในโบราณสถานทางศาสนา มาตั้งแต่สมัยทวารวดี รวมทั้งปรากฏข้อความในพงศาวดารว่า มีการกระทำพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา สืบมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนการเวียนเทียนจะเวียน ทางขวา หรือ ทางซ้าย นั้น มีทั้งการเวียนขวาซึ่งเรียกว่า ทักษิณาวรรต หรือ ประทักษิณ และการเวียนซ้ายซึ่งเรียกว่า อุตราวรรต

แต่เป็นคติความเชื่อแต่โบราณว่า ขวาเป็นมงคล ซ้ายเป็นอวมงคล ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวกันกับเรื่องทิศด้วย โดยสมัยโบราณแบ่งทิศเป็นเพศ และจำแนกเป็นขวาและซ้าย คือ ทิศตะวันออกกับทิศใต้เป็นทิศฝ่ายขวา เป็นเพศชาย ส่วนทิศตะวันตกและทิศเหนือ เป็นทิศฝ่ายซ้าย เป็นเพศหญิง
เมื่อทิศใต้เป็นทิศมงคล และเป็นทิศหัวนอนของคนโบราณมีชื่อว่า ทักษิณ ซึ่งแปลว่า ขวา หรือ ความเจริญ ทานอันเป็นผลบุญอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว จึงเรียกว่า ทักษิณานุประทาน
การแสดงความเคารพองค์สถูปเจดีย์ จึงนิยมการเดินเวียนขวารอบองค์เจดีย์ หรือการเวียนเทียนสมโภชก็เวียนขวา เรียกว่า ทักษิณาวรรต

พระระเบียงที่มีอยู่รอบพระสถูปเจดีย์ หรือพระอุโบสถ พระวิหาร จึงมีไว้เพื่อพุทธศาสนิกชนเดินทักษิณาวรรตบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ส่วนบนฐาน ชั้นล่างขององค์พระเจดีย์ หรือพระปรางค์ที่มีทางเดินโดยรอบเรียกว่า ฐานประทักษิณ คือฐานที่มีไว้สำหรับผู้ไปบูชาเดินเวียนขวาโดยรอบ


ในการเดินเวียนเทียน จะกระทำ ๓ รอบ

รอบที่ ๑ ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ
รอบที่ ๒ ให้รำลึกถึงคุณพระธรรม โดยภาวนาคาถา บทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ
รอบที่ ๓ ให้รำลึกถึงคุณพระสงฆ์ โดยภาวนาคาถา บทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ

ระหว่างการเดินเวียนเทียน ต้องทำจิตใจให้มีสมาธิ สงบ และแน่วแน่อยู่กับบทบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ



การเวียนประทักษิณก่อนเข้าโบสถ์บวช

การทำประทักษิณเวียนขวารอบสีมาก่อนเข้าโบสถ์บวชเป็นพระภิกษุ นอกจากจะเป็นการแสดงความเคารพตามธรรมเนียมโบราณแล้ว ยังเป็นอุบายที่คนโบราณสอนให้รู้ว่า สิ่งที่จะทำต่อไปนี้เป็นการกระทำที่สุจริตถูกต้องชอบธรรมทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ เมื่อแต่งชุดนาคเสร็จแล้ว ให้นาคประณมมือโดยมีดอกไม้ที่เตรียมไว้อยู่ในมือเดินทำปทักษิณ(1) (เวียนขวา) รอบพระอุโบสถ ๓ รอบ จะมีผู้กั้นสัปทนให้นาคก็ได้ การทำปทักษิณให้เริ่มต้นจากสีมาตรงกลางด้านหน้าอุโบสถ (เริ่มจากสีมาที่จะวันทา) ส่วนญาติๆ ถือบริขารพร้อมทั้งเครื่องไทยทานที่จัดเตรียมไว้

ตามความนิยมโดยทั่วไปบิดาสะพายบาตรถือตาลปัตร ส่วนมารดาถือพานแว่นฟ้าสำหรับใส่ผ้าไตรครองเดินตามหลังนาค แถวถัดมาเป็นธูปเทียนแพ เครื่องไทยทานสำหรับพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวด และเครื่องบริขารอย่างอื่นโดยลำดับ ในขณะเดินให้นาคสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ดังนี้ "อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯลฯ" หรือจะภาวนา "พุทโธๆ" ตามจังหวะเท้าที่ก้าวย่างก็ได้
เมื่อเดินครบ ๓ รอบแล้ว นาคต้องวันทาสีมาหน้าอุโบสถก่อนเข้าไปในเขตสีมา โดยเริ่มต้นตามขั้นตอนการวันทา ต่อไปนี้

นาควางดอกไม้เครื่องสักการะไว้บนพานที่เตรียมไว้ บางแห่งให้จุดธูปเทียนด้วย แต่โดยมากนิยมให้ดอกไม้ธูปเทียนไว้บนพานหรืออุปกรณ์อย่างอื่นที่จัดเตรียมไว้ โดยมากไม่จุดธูปเทียน นาคกราบสีมา ๓ หน แล้วยืนขึ้นว่า



….คำวันทาสีมา

อุกาสะ วันทามิ ภันเต
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง
สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง
สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ฯ


คำแปล : ขอโอกาสขอรับ กระผมขอกราบไหว้
ท่านขอรับ ขอท่าน จงยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย
ขอท่านโปรดอนุโมทนาบุญที่กระผมได้กระทำ
และขอท่านโปรดให้บุญที่ท่านได้ทำแก่กระผมด้วย
สาธุ สาธุ กระผมขออนุโมทนา

...นั่งคุกเข่าประณมมือว่า

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต ฯ


คำแปล : ท่านขอรับ ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย
ท่านขอรับ ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวง
ที่กระผมได้ทำทางทวารทั้ง ๓ ทาง (คือ กาย วาจา และใจ)

...กราบ ๑ หน แล้วยืนขึ้นว่า

วันทามิ ภันเต
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง
สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง
สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ฯ


คำแปล : ท่านขอรับ กระผมขอกราบไหว้
ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย
ขอท่านโปรดอนุโมทนาบุญที่กระผมได้กระทำ
และขอท่านโปรดให้บุญที่ท่านได้ทำแก่กระผมด้วย
สาธุ สาธุ กระผมขออนุโมทนา


นาคนั่งคุกเข่ากราบ ๓ หน จากนั้นเข้าไปภายในพระอุโบสถ ในขณะเข้าประตูโบสถ์ไม่ควรยกนาคข้ามธรณีประตู หรือยกขึ้นเพื่อเอามือแตะคานประตู ตามที่นิยมปฏิบัติกันโดยขาดความเข้าใจ เพราะอาจพลัดตกลงมาแขนขาหักได้ ให้นาคเดินเข้าโบสถ์ตามปกติ โดยบิดามารดาและญาติจะแตะที่ตัวนาคตามเข้าไปก็ได้

อ้างอิง
พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
หนังสือ ลูกผู้ชายต้องบวช ผู้แต่ง ญาณวชิระ


ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ
กาญจน์มุนี ศรีวิศาลภพ (ร้อยตะวัน)


#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 27 August 2009 - 07:23 PM

อนุโมทนา คุณ Roytavan ในสาระธรรมที่นำมาฝากครับแนบไฟล์  post_2683_1221031538.gif   22.04K   75 ดาวน์โหลด
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#3 เด็กนอกวัด

เด็กนอกวัด
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2009 - 09:29 PM

สาธุค่ะ...อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ laugh.gif

#4 สุรชัย (กัปตัน)

สุรชัย (กัปตัน)
  • Members
  • 407 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 August 2009 - 11:03 PM

ขออนุโมทนาบุญครับ

#5 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2009 - 10:39 AM

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

#6 สนามชัย

สนามชัย
  • Members
  • 14 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2009 - 05:37 PM

อนุโมทนาบุญกับพี่ด้วยครับ

#7 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 29 August 2009 - 11:24 AM

ขออนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

#8 Roytavan

Roytavan
  • Members
  • 166 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2009 - 08:47 PM



สาธุอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

#9 Dok_Bua

Dok_Bua
  • Members
  • 233 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:UK

โพสต์เมื่อ 30 August 2009 - 04:09 PM

สาธุค่ะ
...ขอสร้างบารมี เอาชีวีเป็นเดิมพัน ...

#10 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 September 2009 - 12:10 AM

สาธู๊ ค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ