ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

สุภาษิต ในวรรณกรรม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 14 December 2006 - 04:07 PM

สุภาษิต ในวรรณกรรม

ใครจะไว้ใจอะไรไว้ใจเถิด ....... แต่อย่าเกิดไว้ใจในสิ่งห้า
หนึ่ง อย่าไว้ใจทะเลทุกเวลา ....... สอง สัตว์เขี้ยวเล็บงาอย่าไว้ใจ
สาม ผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย ....... สี่ ผู้หญิงทั้งหลายอย่ากรายใกล้
ห้า มหากษัตริย์ทรงฉัตรชัย ....... ถ้าแม้ใครประมาทอาจถึงตายฯ
"นิทานเวตาล"


แมลงภู่เป็นคู่ของบุษบา ....... โบราณว่ามีจริงทุกสิ่งสม
หญิงกับชายเป็นคู่ชูอารมณ์ ....... ทั้งปฐมกัปป์กัลป์พุทธันดร.
"พระแท่นดงรัง"

บุษบาบานเบิกสร้อย ....... เสาวคนธ์
ฝูงภมรมัววน ....... หวี่ร้อง
นารีแรกรุ่นยล ....... กำดัด สวาทนา
ชายแต่ตอมจักต้อง ....... ไต่เต้าตามหาฯ
"นิทานชาคริต"


เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม ....... ดนตรี
อักขระห้าวันหนี ....... เนิ่นช้า
สามวันจากนารี ....... เป็นอื่น
วันหนึ่งเว้นล้างหน้า ....... อับเศร้าหมองศรีฯ
"โลกนิติ "

เนื้อ ... ในไตตับต้ม ....... แกงยำ
ไม่ ... ประสบสักคำ ....... ที่ลิ้น
ได้ ... ยากลากโครงทำ ....... เสียเปล่า
กิน ... แต่เข้าเราชิ้น ....... หนึ่งได้ไม่มี
"โลกนิติ"


ความรู้เปรียบคู่ด้วย ....... กำลัง .. กายเฮย
สุจริตคือเกาะบัง ....... ศาสตร์พ้อง
ปัญญาประดุจดั่ง ....... อาวุธ
กุมสติต่างโล่ห์ป้อง ....... อาจแกล้วกลางสนามฯ
"รัชกาลที่ ๖"

เมื่อยามยิ้มยิ้มไว้แต่ในพักตร์ ....... อย่ายิ้มนักเสียสง่าทาสฉาย
อย่าท้าวแขนท้าวคางให้ห่างกาย ....... อย่ากรีดกรายกรอมเพราะเที่ยวเราะเริง
"สุนทรภู่"


รู้หลบพบศึกเสี้ยน ....... ผู้ใด ..ใดเฮย
แต่ผูกไม่ตรีไป ....... รอบข้าง
ทำคุณอุดหนุนใน ....... การชอบ ..ทำนา
ไร้ศัตรูปองล้าง ....... กลับซร้องสรรเสริญ
"รัชกาลที่ ๖"

ห้ามเพลิงไว้ไม่ได้ ....... มีควัน
ห้ามสุริยะแสงจันทร์ ....... ส่องไซร้
ห้ามอายุให้หัน ....... คืนเล่า
ห้ามดังนี้ไว้ได้ ....... จึงห้ามนินทาฯ
"โลกนิติ"


รู้จักสิ่งกอบโทษ ....... และคุณ ... เพื่อนเอย
รู้จักพูดไพเราะ ....... จับจิต
รู้จักสนุกงาน ....... เพื่อนร่วม ... งานแฮ
รู้จักมิตรไซร้ ....... เลิศดี
"ดุสิตสมิต"

อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก ....... แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
ถึงเจ็บอื่นหมื่นแสนไม่แคลนคลาย ....... เจ็บเจียรตายเพราะเหน็บให้เจ็บใจฯ.
"สุนทรภู่"


ยามจนคนเคียดแค้น ....... ชิงชัง
ยามมั่งมีคนประนัง ....... นอบน้อม
เฉกพฤกษ์ดกนกหวัง ....... เวียนสู่ ... เสมอมา
ปางหมดผลนกพร้อม ....... พรากสิ้นบินหนีฯ.
"โลกนิติ"

ไปเรือนท่านไซร้อย่า ....... เนานาน
พูดแต่พอควรการ ....... กลับเหย้า
ริเริ่มเรียนการงาน ....... เรือนอาต-มานา
ยากเท่ายากอย่าเศร้า ....... เสื่อมสิ้นความเพียร.
"โลกนิติ"


คืนและวันพลันดับก็ลับล่วง ....... ท่านทั้งปวงจงอุตส่าห์หากุศล
พลันชีวิตคิดถึงรำพึงตน ....... อายุคนนั้นไม่ยืนถึงหมื่นปี.
"อิศรญาณภาษิต"

เวลาใดทำใจให้ผ่องแผ้ว ........ เหมือนได้แก้วมีค่าเป็นราศี
เวลาใดทำใจให้ราคี ........ เหมือนมณีแตกหมดลดราคาฯ.
"อุทานธรรม จ.ศ."


อันรสปากหากหวานก็หวานเด็ด ....... บรเพ็ดก็ไม่มากเท่าปากขม
มีดว่าคมก็ไม่คมเท่าปากคม ....... รสหวานขมคมไม่มากเหมือนปากคนฯ.
"สุภาษิตสอนหญิง"

ร้อนอะไรในมนุษย์ที่จุดจบ ....... ไม่ร้อนลบแรงราดซ้ำยากเผา
เพลิงโมโหโทสามิซาเซา ....... ร้อนลุ่มเราลุกลนไปจนตาย
อันร้อนกายไข้หนักพอรักษา ....... ใช้หยูกยาถูตรงก็คงหาย
แต่ร้อนจิตติดแน่นสุดแคลนคลาย ....... เป็นโรคร้ายเรื้อรังไม่ฟังยาฯ
"ไวทยาคุณ "


อันผู้ใดทรงธรรมเที่ยงสถิตย์ ....... ชนย่อมอยากเป็นมิตรเป็นนักหนา
ความใจดีมีจิตมากเมตตา ....... ย่อมแนะนำสัตว์นานาไว้วางใจฯ.
"สาวิตรี"

ปราชญ์สรรเสริญว่าธรรมเป็นล้ำเลิศ ....... สุดประเสริฐกว่าทรัพย์ทั้งน้อยใหญ่
ธรรมคุ้มผู้ประพฤติธรรมเป็นธรรมไซร์ ....... คงต้องได้ผลงามตามตำรา
"สาวิตรี"



ผีมันหลอกช่างผีตามที่เถิด ....... อย่าให้เกิดหลอกกันเองเร่งเกรงขาม
คนสามัญมีปัญญาไม่เลวทราม ....... ที่ควรถามเร่งถามดูลาดเลา
เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด ....... ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
ใครทำตึงเราต้องหย่อนผ่อนลงเอา ....... นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง
"ฝึกฝนตนเอง"


มะโนนอบพระผู้ ....... เสวยสวรรค์
แขนมอบถวายทรงธรรม์ ...... เทอดหล้า
ดวงใจมอบเมียขวัญ ....... และแม่
เกียรติศักดิ์รักข้า ....... มอบไว้ แก่ตัว.
"ภาษิตนักรบโบราณ"



มีความรู้จักนิ่ง ....... ยามควร
อีกรู้จักชวนผู้ ....... เป็นปราชญ์
ให้สอนและสงวนคำ ....... อนุศาสน์... ไว้แล
นี้นับว่าฉลาดยิ่ง ........ กว่าพูด อวดดีฯ.
"ดุสิตสมิต


มีกายกำเนิดแล้ว ........ คงดับ
สูงต่ำไพร่ผู้ดี ....... ไป่ปลอด
ถึงหากว่าทรัพย์มี ....... มวลมาก
ก็มิอาจรอดพ้น ....... จากเงื้อม มฤตยูฯ.
"ดุสิตสมิต"


น้ำฟ้าหนาวร้าวอกฟกไม่เหมือน ....... ขึ้งแค้นเพื่อนลืมคุณทุกสิ่งสรรพ์
ถึงฟ้าทำน้ำแข็งแกร่งฉะนั้น ....... ไม่เย็นทันเทียมเพื่อนเลือนลืมมิตร.
"ตามใจท่าน"

การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ...... ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน
แม้องค์ปฎิมายังราคิน ....... มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทาฯ.
"สุนทรภู่"


แม้นเราริษยากันและกัน ....... ไม่ช้าพลันก็จะพากันฉิบหาย
ระวังการยุยงส่งร้าย ....... นั่นแหละเครื่องทำลายสามัคคีฯ.
"พระร่วง


พฤษภกาสร ....... อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง ....... สำคัญหมายในกายมี
นรชาติที่วางวาย ....... มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ........ ประดับไว้ในโลกาฯ.
"กฤษณาสอนน้อง"


แม้ใจไม่คร้ามต่อ ....... มรณะ ...ภัยฤา
ใจก็โล่งแลจะ ....... สุขแท้
ยิ้มหัวบ่มัวละ ....... เลยกิจ
บ่มิสิ้นหวังแม้ ....... ป่วยเพียง ปางตายฯ.
"ดุสิตสมิต"

อันกำเนิดเกิดมาในสากล ....... ใครจะพ้นมรณาก็หาไม่
จงระงับดับความอาลัย ....... ถึงโศกไปใช่ที่จะเป็นมาฯ
"อิเหนา"


อันว่าความกรุณาปราณี ....... จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลังมาเองเหมือนสายฝนอันชื่นใจ ....... จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดินฯ.
"เวนิสวานิช"

ไฟล์แนบ


ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม