ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ใช้ความอดทนแบบไหนไม่อั้น


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 21 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 prem

prem
  • Members
  • 128 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:53 PM



เวลาที่ท่านๆ ท้อแท้ เหนื่อยหน่าย อ่อนล้า ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนพาล คนที่ไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ
ทุกท่านมีกุศโลบายอย่างไร ให้นิ่ง ให้ทน ให้อด ได้อย่างไม่รู้จักหมดจักสิ้น

ใช้หลักการใด ธรรมะข้อใดคะ นอกจากนั่งสมาธิเยอะๆ แผ่เมตตาแล้ว เวลาที่มีงานเข้าแต่ละครั้ง ทุกท่านมีวิธีใดที่จะไม่เผลอสติได้
ช่วยแนะนำด้วยค่ะให้กับน้องใหม่ หัดอดทนต่อทุกขเวทนาทั้งหลาย


ขอบพระคุณค่ะ

.."การนั่งธรรมะ คือ ความสุขที่เป็นยิ่งกว่าความสุขทั้งมวล"..

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 09:34 PM

ห่างจากพาลต้องมากกว่าแสนโยชน์

ถ้าต้องเจอ...รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง

หมั่นคบบัณฑิต เกาะกลุ่มเครือข่ายคนดีไว้

เลี่ยงไม่ได้ก็....อดทน มีวินัย ให้อภัย รักษาน้ำใจ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 09:35 PM

ถ้าทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนครับ
คือหมายความว่า
"ที่คุณต้องทนทุกข์เพราะเอาทุกข์นั้นมาทน
ทำใจให้กังวลทนทุกข์นั้นอยู่ร่ำไป
อยากให้ใจเป็นสุขอย่าเอาทุกข์มาใส่ใจ
ความทุกข์จะหมดไปเพราะใจบอกช่างหัวมัน"

#4 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 09:36 PM

.... วางอุเบกขาไงครับ เหมือนง่าย แต่ทำยาก แต่ถ้าฝึกทำบ่อยๆก็ง่าย ถ้าไม่วางก็เหมือนคนนั่งเรือข้ามแม่น้ำ แต่ยกเรือติดตัวไปด้วยอ่ะ เราข้ามได้ก็ควรทิ้งเลย (ถ้าข้างหน้าไม่มีน้ำอีก เรือก็ไม่จำเป็น) และ ถ้าจะคิดจริงๆ ก็ควรคิดทีละเรื่องครับ อย่าคิดวกไปวนมา มันจะจัดลำดับความคิดไม่ได้ พอเครียดทีนี้จบเห่เลย...
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#5 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:24 PM

น้องเปรมลองใช้วิธีนี้ หรือนำไปพิจารณานะจ้ะ

ถามตัวเอง why why why ทำไมถึงเจอเช่นนี้ เราจะแบ่งเป็น3ระดับ
คือ อดีตเป็นภาพเก่า ๆของเราหรือเปล่า เพราะสัตว์โลกจำแนกไปตามกรรม เมื่อกรรมส่งผลค่ะ
ปัจจุบัน ต้องทำใจใส ๆ ยอมรับว่าก็เขาเป็นเช่นนั้นเองเราแก้เขาไม่ได้ ก็ไม่ถือสา มันก็จะเป็นลมเป็นแล้งไป ถือไว้จะหนักค่ะ
อาณาคต อยู่ในมือเราจะออกแบบอย่างไร ให้ห่างไกลคนภัย คนพาล

บทความที่ดีมากๆ อยากจะแนะนำค่ะ จะช่วยได้มากเลย ทุกคำตอบหาได้ที่นี้เกี่ยวกับเรื่องนี้
คือ "
คุณธรรม 12 ประการของคุณยาย " โดยเฉพาะข้อที่ 1 และ 2 ที่เขียนโดย innerspot 13/10/09
อยู่ในบทความดี๊ดี จากสมาชิก DMC Forum ค่ะ




#6 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:29 PM

อดทน อดทน อดทน อดทน อดทน อดทน อดทน :-)
ไปเรื่อยๆ ครับ แล้วเมื่อดวงปัญญาเกิดวิธีแก้จะมาเองครับ แต่ต้อง อดทน อดทน อดทน (ย้ำเกินไปเปล่า ครับ ขำ ๆ นะ)
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#7 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:45 PM

ขันติ ต้อง คู่กับ โสรัสจะ

คือ อดทน แบบมีสติและปัญญา จึงทำให้ความอดทนนั้นดูสงบเสงี่ยมและงดงาม คือรู้ว่าอะไรควรหรืออะไรไม่ควรทน
ถ้าอดทนแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก็ไม่ต่างอะไรกับดื้อด้าน
การอยู่กับคนพาลนานๆ ไมไ่ด้เกิดประโยชน์อะไร วันนึงอาจได้รับเชื้อพาลมาโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดี หนีคนพาลให้ไกลๆ ไม่เจอได้เป็นดีที่สุด

#8 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 10:52 PM

ขอมีส่วน ได้ร่วมออกความคิดเห็นด้วยน่ะค่ะ ถ้าน้องถูกใจ ก็ลองนำไปใช้ดูได้ค่ะ

1. ก่อนที่จะนิ่ง ให้ตั้งสติ พิจารณาเหตุการณ์ เป็นวัน ๆ วันต่อวัน และ ให้มองตามความจริง และอย่าเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองถูก เขาผิด

2. ให้พิจารณาดู ตัวเองก่อนว่า ตัวเองผิดอะไร อย่าเพิ่งมองว่าเขาผิดอะไร

3. หลวงพ่อเคยบอก ไม่มีใครทำผิด มีแต่ ทำไม่ถูกใจ เท่านั้น

4. ให้มองหาความดีที่คนนั้น เคยกระทำกับเรา จับดี อย่า จับผิด

5. ให้ลดความโกรธ ฝึกลดความโกรธ ให้เหลือเป็นวันต่อวัน พอเช้าวันใหม่ให้อภัยให้เขาให้ได้ และเริ่มต้นใหม่กับรอยยิ้มของตนเองก่อน

6. ก่อนออกจากบ้านให้มององค์พระบนหิ้งพระ พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยหวั่นไหว กับ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ ลาภยศ

พระพุทธองค์ ท่าน ไม่สู้ ไม่หนี ไม่ถอย ทำดีเรื่อยไป

7. ให้แผ่เมตตา และ ให้อภัย เอ่ยชื่อ คนนั้น และ กล่าวยกโทษให้เขา และ กล่าวขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันพ้นการเบียดเบียนกัน

8. ทำบุญใส่ชื่อคนนั้น และ หาโอกาส บอกเขาว่าเรานึกถึงเธอ เลยทำบุญใส่ชื่อเธอ ให้เธออนุโมทนาบุญด้วยน่ะ จะได้บุญเยอะ ๆ

กุศลที่เราตั้งใจทำบุญให้เขา เขาอนุโมทนาบุญกับเรา บุญที่ทำร่วมกันจะส่งเสริมให้เกิดแต่ความสุขร่วมกัน ลดความบาดหมางได้


ที่สำคัญที่สุด เมื่อลดความโกรธ ลงแล้ว ต้องพยายามทุกวันให้ลดลงให้ได้จนเป็น 0 และ ตัดใจให้อภัยให้ได้หมดใจค่ะ

จึงจะได้ชื่อว่า น้องสร้างบารมีอย่างแท้จริง


หลวงพ่อท่านถามพวกเราทุกวันว่า ยิ้มกันแล้วหรือยังค่ะ ยิ้มให้ตัวเองเยอะ ๆ ค่ะ เมื่อหน้าเริ่มยิ้ม ใจจะเริ่มเบิกบานค่ะ


ขอให้น้อง มีความสุขมาก ๆ ค่ะ และ นั่งสมาธิเยอะ ๆ ค่ะ นึกถึงแต่บุญที่ทำไว้ เอาใจชุ่มเย็นในบุญ ใจจะสดชื่นค่ะ


อนุโมทนาบุญ กับ น้อง ๆ ทุกคนค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


หากท่านสมาชิกท่านใดอ่านแล้ว มีความคิดเห็นดี ๆ ที่แตกต่างจากนี้ ออกความคิดเห็นร่วมได้น่ะค่ะ จะได้เป็นธรรมทานให้กับ

สมาชิกทุกท่านที่ได้มาร่วมอ่านค่ะ และ จะได้ร่วมเป็นกำลังใจให้กับลูกหลานหลวงพ่อกันได้ทุกท่านค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ




#9 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 11:17 PM

....ตามคุณ usr23182 เลยจ้า ...ความคิดดีๆ ย่อมมาจากจิตใจที่ดี และผ่อนคลาย ...ทางออกที่ดีๆ ย่อมมาจากจิตใจที่ปลอดกังวัล และเบิกบานจ้า ...
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#10 Santi072

Santi072
  • Members
  • 151 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 12:35 AM

ทุกข์หรือสุขอยู่ที่ใจมิใช้หรือ ถ้าใจถือก็เป็นทุกข์ไม่สุขใส
ถ้าไม่ถือก็เป็นสุขไม่ทุกข์ใจ เราอยากได้ความทุกข์หรือสุขเอย..

คิดดูให้ดีๆ นะครับ

เครียด,โกรธ,ไม่พอใจ = ขาดทุน
ใจใส = ได้บุญ ได้กำไร




พุทธบุตรสายโลหิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา

#11 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 01:02 AM

" ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนพาล คนที่ไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ "

ควรเปลี่ยนสถานที่ หรือคลุกคลีกับคนพาลให้น้อยที่สุด

ต้องมีจุดยืนและท่าทีที่ชัดเจนต่อคนคนนั้น

มั่นคงในธรรมะ

ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

#12 ลูกอินทรีย์หัดบิน

ลูกอินทรีย์หัดบิน
  • Members
  • 369 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 01:54 AM

บางอย่างเราหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะเค้าเข้ามาหาเราตลอดเวลาทำให้เราเดือดร้อน

ผมใช้วิธี ทำใจให้นิ่งที่สุดแล้วนึกถึงภาพบุญทุกบุญแล้วขอบารมี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
บารมีหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย อธิษฐานจิตขอให้ห่างไกลจากคนพาล คนไม่ดีให้อย่ามาเข้าใกล้ อย่านำความเดือดร้อนมาได้เลย

อธิษฐานซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสก็เป็นจริงครับ

รายการชีวิตในสังสารวัฏ

ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html


หนังสือเรียนธรรมะ DOU           http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html

GL 101 จักรวาลวิทยา                            http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา                              http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม                             http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์           http://book.dou.us/gl305.html


#13 ดวงแก้ว ใส ใส

ดวงแก้ว ใส ใส
  • Members
  • 39 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 09:01 AM

สาธุ...usr23182 ตอบได้ดีมากเลยค่ะ น้อง prem ลองทำตามดูน่ะค่ะ ไม่ต้องกังวลอะไร เราลูกหลวงพ่อ หลานคุณยายเหมือนกัน

ที่นี่มีคนคอยให้กำลังใจให้เสมอ ที่นี่มีคนเข้าใจเสมอค่ะ happy.gif laugh.gif

#14 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 09:51 AM

กรณีที่คนพาลนั้นเกี่ยวกับเราจริงๆ เช่น เป็นหัวหน้าเรา เพื่อนหรือผู้ร่วมงานที่เราจำเป็นต้องประสานงานด้วย ท่านว่าให้ทำเหมือนกับเราผิงไฟครับ

#15 slumpmax

slumpmax
  • Members
  • 19 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 11:02 AM

ผมมักใช้อะไรหลาย ๆ อย่างในการจัดการปัญหา บางเวลาใช้ขันติ บางเวลาใช้วิริยะ บางเวลาใช้ปัญญา บางเวลาใช้เมตตา ฯลฯ
ทั้งนี้ไม่ได้ผูกติดว่าใช้อะไร เพียงแต่สภาพจิตใจผมตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ก็พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่คิดได้เท่านั้นเอง

แต่ในใจก็มีคำสอนของครูบาอาจารย์คอยกระตุ้นเตือนจิตใจอยู่เป็นประจำ เช่น คำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว
ท่านเคยกล่าวเอาไว้ประมาณว่า ถึงแม้จะแพ้ ก็ต้องอย่ายอมแพ้โดยสิ้นเชิง อย่ายอมแพ้โดยเด็ดขาด แพ้ทางนี้ไม่เป็นไรก็หาทางชนะทางอื่น
อย่าให้กำลังใจหมดโดยสมบูรณ์ ล้มแล้วก็ต้องหาทางลุก แพ้กี่ครั้งก็ไม่เป็นไร แต่อย่ายอมแพ้ก็พอ ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้เสมอ
ก็เอาจนกว่าจะชนะและชนะทั้งหมดนั่นแหละ (จำที่ท่านกล่าวไว้ไม่ค่อยได้นะครับ แต่ประมาณนี้)

ก็เพราะเรายังไม่ชนะ มันก็ต้องมีเวลาพลาดพลั้งบ้าง เพราะกำลังเรายังสู้เขาไม่ได้ แต่แพ้แล้วไม่ยอมสู้ รู้สึกอยากถอย รู้สึกไม่ไหวนี่ไม่เอา
ต้องดื้อดึง ขัดขืน ดันทุรังที่จะเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงให้ได้ ไม่ว่าจะต้องพบกับความพ่ายแพ้อีกสักกี่ครั้งก็ตาม เหมือนคนที่พยายามสู้แล้วแพ้
สักวันก็อาจชนะได้ คราวนี้แพ้ก็แก้กลยุทธใหม่ ตั้งตัวใหม่ ตั้งสติใหม่ หาทางรอด หาทางเพิ่มกำลังใจ ทำบุญ นั่งสมาธิ หากัลยาณมิตร
บางครั้งก็ทำแบบไม่มีกำลังใจจะทำแต่ก็ทำ แต่ถ้าไม่คิดจะสู้นี่ แพ้แบบหมดสิทธิชนะไปตลอดกาล

บางครั้งเรื่องมันหนักหนา ก็อาจมีท้อแท้กันบ้าง แต่อย่าให้มันอยู่อย่างนั้นนาน หาทางแก้ไข หาทางสู้ใหม่ หาทางให้ใจมันขึ้นไม่มีลงให้ได้
อย่าแปลกใจที่เราไม่ได้ชนะทุกครั้ง เพราะเรายังไม่ชนะ ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ขอแค่อย่ายอมแพ้แล้วลุกขึ้นสู้ให้ได้มากกว่าเดิมก็พอ


#16 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 12:49 PM

กองทัพที่เข็มแข็ง สามารถเอาชนะข้าศึกได้ (เอ๊ะ มาแนะนำถูกงานหรือเปล่านี่เรา อ๋อ ถูกครับถูก) ต้องประกอบไปด้วย ผู้นำทัพ เสนาบดีมันสมองของกองทัพ หน่วยลาดตระเวณตรวจตราหาข่าว กองทหารกองหน้า และกองทหารกองหนุน น่ะครับ
ผู้นำทัพ ที่ไม่คิดสู้ ย่อมไม่อาจผูกใจกองทัพให้สู้ศัตรูได้ เสนาบดีที่ไม่ชาญฉลาดย่อมทำให้กองทัพพ่ายแพ้ หน่วยลาดตระเวณหาข่าวคลาดเคลื่อน ย่อมทำให้กองทัพถูกจู่โจมได้ไม่ทันตั้งตัว กองทหารกองหน้าอ่อนแอ ย่อมสู้ข้าศึกไม่ได้ และหากต้องรบยาวนาน ต้องมีทหารกองหนุน หนุนเนื่องช่วยรบกับทหารกองหน้า จึงจะชนะ

ทั้งหมดนี้เปรียบได้กับกองทัพของจิตใจ ในการเอาชนะข้าศึก คือ กิเลสน่ะครับ กองทัพของจิตใจ ภาษาพระท่านเรียกว่า พละ5 (พลังใจทั้ง 5) ได้แก่
1. ผู้นำทัพ คือ ศรัทธา พลังใจทั้งหมด เริ่มที่ ศรัทธา หากใจมีศรัทธาว่า เราทำได้ พลังใจอย่างอื่นก็จะตามมา เพื่อต่อกรกับกิเลส หากใจไร้ศรัทธา กลายเป็น "จะไหวหรือ ปัญหาหนักเหลือเกิน เราจะฝ่าไปได้มั้ย" หากใจเราเริ่มต้นก็ไม่สู้แล้ว อย่างนี้พลังใจอื่นก็หดหายหมดครับ

นอกจากนี้ ก็ยังศรัทธาในบัณฑิตในกาลก่อน เช่น พระพุทธเจ้าว่า ท่านยังชนะกิเลสได้ แล้วทำไมเราจะชนะไม่ได้ล่ะ นึกถึงท่าน ศรัทธาท่าน แล้วสร้างพลังศรัทธาฮึดสู้ในตัวเราขึ้นมา ดังความเห็นที่ 8 ในหัวข้อที่ 6 บรรยายไว้ หรือ ความเห็นที่ 12 ขอบารมีพระผู้ปราบมารมาช่วยเรา เราก็จะเกิดศรัทธาฮึดสู้ขึ้นมา หรือ ความเห็นที่ 15 ให้นึกถึงคำสอนของครูบาอาจารย์ มาเป็นคติธรรมประจำใจในการดำเนินชีวิต นี่ก็เข้าข่ายพลังศรัทธา

2. หน่วยลาดตระเวณสอดส่องตรวจสอบข้อมูล คือ พลังสติ รู้ตัวระลึกได้อยู่เสมอ พอเรามีศรัทธาแล้ว ต้องอย่าเผอสติง่ายครับ หากเผลอสติง่ายกิเลสจะพุ่งเข้าแทรกจิตใจเราโดยไม่ทันตั้งตัว ผลก็คือ ใิจเราก็พังไม่เป็นท่าแม้มีศรัทธาก็ตาม เปรียบดังหน่วยลาดตระเวณที่ไม่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของข้าศึกเลย ย่อมถูกข้าศึกลอบโจมตี พ่ายแ้พ้ได้ง่ายครับ

พลังสติ ก็เป็นดังที่ ความเห็นที่ 8 ในหัวข้อ 1 และ 2 แนะนำมาครับ

3. กองทหารกองหน้า คือ พลังสมาธิ เป็นขุมพลังใจที่คอยเผชิญหน้ากับกิเลสโดยตรง หลังจากสติตรวจจับกิเลสได้ หากสมาธิอ่อนแอ ต่อให้สติดีเพียงใด ก็พ่ายกิเลส ดังที่เราเคยได้ยินว่า "รู้ทั้งรู้ว่ามันผิด แต่ไม่อาจห้ามใจได้" นี่คือ พลังสมาธิอ่อนแอนั่นเอง เพราะสติก็รู้ว่านี่ผิด แต่ห้ามใจไม่ได้

พลังสมาธิจะก่อเกิดได้ ต้องหมั่นฝึกสมาธิ ดังความเห็นที่ 8 ข้อที่ 5 แนะนำมา คือ ให้ฝึกลดความโกรธ และข้อที่ 7 ให้แผ่เมตตา หรือ ความเห็นที่ 9 ฝึกใจให้เบิกบาน ปลอดกังวล ส่วนผมก็เิพิ่มว่า ให้หมั่นฝึกสมาธิทุกวันคัรบ

4. กองทหารกองหนุน คือ พลังความเพียร เพราะแม้กิเลสจะจู่โจมเข้ามายกแรกเราจะชนะ แต่หากกิเลสหนุนเนื่องซ้ำๆ เข้ามา พลังสมาธิของเราอาจไม่พอ เราต้องหมั่นพากเพียรฝึกพลังใจทั้ 5 เสมอๆ

ดังความเห็นที่ 6, 7 แนะนำมา คือ ให้อดทนและอดทน ทำซ้ำไปเรื่อยๆ

5. เสนาบดีมันสมองของกองทัพ คือ ปัญญา เสนาบดีทำให้กองทัพที่มีกำลังน้อย เอาชนะกองทัพที่มีกำลังมากได้ พลังปัญญาย่อมทำให้เราพลิกแพลงเอาชนะปัญหาและกิเลสได้ครับ ซึ่งมีเทคนิคหลายแบบมาก

ดังความเห็นที่ 2, 7 และ 11 บอกให้ใช้ปัญญาหลีกห่างสาเหตุของใจอ่อนแอ ได้แก่ คนพาลนั่นเอง
ดังความเห็นที่ 14 บอกว่า หากหลีกคนพาลไม่ได้ ให้ทำเหมือนเราผิงไฟครับ ใกล้นักก็ไม่ดี ไกลไปก็ไม่ได้
ดังความเห็นที่ 3, 4 และ 10 บอกว่า จับแค่คิดให้เป็น ไม่ถือสาก็ไม่ทุกข์ เป็นต้น
ดังความเห็นที่ 5 ค้นหาสาเหตุของปัญหาด้วยปัญญา ว่าทำไมเกิดปัญหา
ดังความเห็นที่ 8 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 8 มีเทคนิคดีๆ ทั้งนั้นเลย
ดังความเห็นที่ 13 คือ หากคิดไม่ออกจริง ก็ปรึกษากุนซือท่านอื่นๆ คือ ปรึกษากัลยาณมิตรนั่นเอง
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#17 Lucky Girl

Lucky Girl
  • Members
  • 653 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 01:54 PM

โอ้แม่เจ้า ตอบกันได้ดี ได้ใจ ทุกคนเลย เราเลยได้อานิสงค์ เอาไปใช้ได้หลายแง่มุมมอง

น้องเปรมจ้า หลวงพ่อทัตตะ ท่านเคยบอกว่า คนพาลมีฤทธิ์เยอะ เป็นมงคลชีวิตข้อแรกเลยจ้ะ ห่างจ้ะ ห่างด้วยกายหยาบไม่ได้ ก็เอาใจออกให้ห่างมากที่สุดจ้ะ คนพาลไม่ค่อยชอบเราหรอก ถ้าเรา say no ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เบื่อเราไปเอง (ไม่รู้ตอบถูกใจหรือเปล่า)

เนื่องจากตัวพี่ เป็นคนยังไม่ค่อยมีเมตตาเท่าไหร่ ยังดุอยู่ เวลาพี่เจอน่ะจ้ะ พี่ก็แอบคิดในใจว่า ช่าง.......ฉันไม่อยากยุ่งด้วย เอาไว้รอหลวงปู่มาช่วย มาเตือนแล้วกัน ฉันเอาตัวฉันเองให้รอดก่อน ไปหล่ะน่ะ โชคดี แต่ๆๆๆๆๆ คิดในใจน่ะจ้ะ น้องหนู ส่วนหน้าเราก็เฉยๆ ยิ้มๆ ใจร้ายไปหน่อยน่ะ
แต่สำหรับพี่ ได้ผลจ้ะ

#18 Kay :)

Kay :)
  • Members
  • 238 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 02:12 PM

Kay:) ใช้วิธีคิดว่า ยังไงซะคนพวกนี้เราก็ต้องรื้อเขาไปกับเราทั้งหมด
เราเป็นลูกหลวงพ่อ หลานหลวงปู หลานคุณยาย ต้องทำใจให้ใหญ่แบบท่าน
เอาใจไว้ที่ 072 แล้วก็แผ่เมตตาให้เขาค่ะ



#19 prem

prem
  • Members
  • 128 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 05:58 PM

โห ทุกท่านสุดยอดค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมาย ขอบพระคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ
..

คือ สาเหตุก็ต้องอธิบายกับทุกท่านว่า เราต้องร่วมงานกันเป็นครั้งคราวค่ะ ด้วยความที่เราเป็นรุ่นใหม่ด้วยแหละคะ อีกอย่างวัดที่เปรมไปช่วยงานก็ยังใหม่ สาธุชนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการสร้างบารมี เกี่ยวกับการทำบุญ เกี่ยวกับมารยาทชาวพุทธ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เราต้องปรับปรุง หากลเม็ดมาแนะนำ นำแนวทางของวัดใหญ่มาปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ทีนี้ คนที่ไม่เคยอยู่ในระเบียบก็จะรู้สึกว่าถูกบังคับ ถูกกะเกณฑ์ อีกทั้งในเรื่องของการกระทบกระทั่งกันอีก การนินทาว่าร้าย ส่อเสียด ออกเดชกันอีกเยอะแยะ เปรมถึงรู้สึกอึดอัดใจในบางครั้ง

คนที่ทำงานให้วัด หรือเป็นผู้ประสานก็ดี เจ้าหน้าที่ก็ดี คงจะทราบความรู้สึกนี้ไม่มากก็น้อย และคงจะเข้าใจถึงปัญหานี้ดี เพราะทุกที่ คงจะมีปัญญหาในเรื่องของคนเหมือนๆ กัน

ความรู้สึกของเปรมก็คือ เปรมเห็นใจพระอาจารย์ ที่บางครั้ง คนก็เอาเรื่องข้างนอกมาร้อนใจท่าน มาเล่า มาฟ้อง มาปรึกษาท่าน แต่น้อยมากที่จะหยิบยกธรรมะมาคุย มาปรึกษาท่าน เราเป็นศิษย์ของท่านเราก็รู้สึกขัดใจ ครั้นจะไปพูดไปว่าเขา คนก็จะไม่เข้าวัด พวกเจ้าหน้าที่ไม่มีใครคุยเรื่องแบบนี้กับพระอาจารย์อยู่แล้ว เพราะทราบดีว่า อะไรควร ไม่ควร แต่คนที่มาวัดบางครั้งเค้าคิดมารยาทมาจากที่อื่น พอมาเจอระเบียบที่ไม่ได้เคร่งเท่าวัดใหญ่เลย เพราะยังใหม่และอะลุ่มอะล่วยให้ญาติโยมเพื่อให้ทุกคนมีเวลาปรับตัว แต่ชักจะเยอะค่ะช่วงนี้ บางคนหนักถึงขนาดชวนทะเลาะ หาพวกกันในวัด พระอาจารย์ท่านก็ปราม ก็เชื่อกันพักๆ แล้วก็เป็นอีก เจ้าหน้าที่ก็ต้องผจญเพลิงกันไป เพราะ “ความอดทน” นี่แหละ ที่เป็นเกราะให้พวกเรากันอยู่ทุกวันนี้

บางครั้งเปรมลำบากใจมากๆ เพราะว่า การที่เห็นแล้วจะอดไม่พูดก็เหมือนเราละเลยสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไป ครั้นจะไม่พูดอะไรเลย คนที่ทำก็ชะล่าใจเห็นผิดเป็นชอบไป ถึงต้องมาตั้งกระทู้ระบายกับพี่ๆ เพื่อนๆ กัลฯ ทุกท่านในนี้ไงคะ เผื่อว่าท่านใดประสบปัญหาแบบนี้ จะมีข้อแนะนำให้เปรมบ้าง

ทุกครั้ง เปรมก็ใช้สมาธินี่แหละค่ะ ช่วยประคองใจ ฟังหลวงพ่อ ฟังคุณยาย นึกถึงหลวงปู่ให้ท่านคุมบุญให้ ให้เปรมเข้มแข็ง อดทน ต่อสู้กับคนพาลอย่างสงบเงียบ



.."การนั่งธรรมะ คือ ความสุขที่เป็นยิ่งกว่าความสุขทั้งมวล"..

#20 nokkapood

nokkapood
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 06:32 PM

คำตอบแต่ละท่าน เราเลยได้อานิสงค์ ความรู้ดีๆ ไว้ใช้ ได้เยอะมากเลย

และเป็นกำลังใจ ให้น้องprem ด้วยนะค่ะ นี่ละเพชร มิใช่ถ่าย

เมื่อมีปัญหามาให้แก้ ก็แก้กันไป มองเป้าหมาย ไว้ ดังคำพ่อบอก

#21 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 12:07 AM

ขอบคุณค่ะ คุณดวงแก้ว ใส ใส และ คุณดินสอแห่งธรรม ค่ะ ที่ชอบข้อความที่เขียนมาค่ะ

อยากขอเพิ่มเติม อีกนิดน่ะ ข้อความนี้ต้องยกความดีให้กับพระอาจารย์ ( พจน์ ) ท่านได้เมตตา แนะนำให้เมื่อถามธรรมะกับท่าน


" อดทน หาคนให้กำลังใจหรือ สร้างกำลังใจด้วยตัวเอง คิดพูดทำแต่แง่บวก นั่งสมาธิเยอะ ๆ "


เพียง 4 อย่างนี้ เท่านั้น ให้ทำทุกวัน สิ่งสำคัญคือ ให้สร้างกำลังใจให้กับตนเองให้ได้ ก่อนหาใครให้กำลังใจกับเรา


หลวงพ่อธัมมชโย ท่านได้เมตตาสอนพวกเราอยู่บ่อย ๆ ว่า ทิ้งทุกอย่าง วางทุกเรื่อง หยุดทุกสิ่ง หยุดที่ใจ ณ ศูนย์กลางกาย

ให้ทำทุกวันน่ะ สักวันใจก็จะใส เมื่อใจใส ทุกอย่างก็จะสุข สุขโดยไม่รู้สึกถึงความทุกข์ได้อีก


ทุกท่านค่ะ ในโลกใบนี้ ทุกท่านมองรอบตัวของท่านดู สิค่ะ ทุกคนมีแต่แบกทุกข์ แบกกันคนละเรื่อง จนหลายเรื่อง

ส่วนคนแบกสุข แทบจะมองหาไม่เห็นใช่ไหมค่ะ น้อยมาก จนนับคนได้ทีเดียว

ถามตนเองดู สิค่ะ ว่า อยากแบกสุข หรือ แบกทุกข์

แล้วท่านอยากทิ้งอะไร เก็บอะไรล่ะค่ะ

ไม่มีใครมาเจ็บปวดแทนเราได้เลย ถ้า เราไม่ทำร้ายตัวเราเอง

อนุโมทนาบุญ กับ ทุกท่านค่ะ สาธุ


ขอให้ทุกท่านฝ่าฟัน กับ ทุกอย่าง ทุกเรื่อง ทุกคน ไปได้ง่าย ๆ น่ะค่ะ เอาใจช่วยทุกคนน่ะค่ะ สาธุ







#22 Lucky Girl

Lucky Girl
  • Members
  • 653 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 09:39 AM

ที่หนูเปรมเข้ามาบอกข้อมูลเพิ่มเติม ถึงบางอ้อเลย เป็นเช่นนี้เอง อนุโมทนาบุญน่ะจ้ะ หนูจ้า ก็เข้ามาระบายกับพวกพี่ๆ เพื่อนๆ เป็นระยะๆ อย่างนี้แหล่ะ จะได้ไม่ต้องเก็บไว้คนเดียว เจอปัญหาก็แก้กันไป บางปัญหาก็ต้องใช้เวลา ความอดทน นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่หนูทำอยู่ก็ดีม๊ากกกกกกกกกกกกกก อยู่แล้ว เอาใจช่วยจ้ะ คนเก่งและดี