เวลาใด หรือเวลาที่ดีที่สุดของคุณ
เริ่มโดย Dd2683, Jan 20 2006 10:45 AM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 10:45 AM
คัดลอกมาจาก : hypnotize เรื่อง ตารางเวลาประจำวัน
เวลา 5.00 - 7.00 นาฬิกา : ได้เวลาตื่นนอน
ในช่วงเวลานี้ร่างกายจะตื่นนอน ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายจะค่อยๆ ขับเคลื่อนการทำงานขึ้นทีละน้อย
หลอดเลือดหดตัวแคบลง หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ฮอร์โมนหลายชนิดทั่วร่างกายจะหลั่งออกมา
ซึ่งหนึ่งในนั้นมีฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ร่างกายมีอารมณ์ทางเพศรวมอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นใครที่ยังมัวแต่นอนขี้เกียจอยู่กับที่นอนในตอนนี้
ก็เท่ากับทำให้ระบบของร่างกายที่ปกติจะดำเนินไปตามเวลาทำงาน ผิดพลาดตั้งแต่จุดเริ่มต้นของวันใหม่
และสูญเสียความตื่นตัวไปตลอดทั้งวันเลยหละค่ะ
เวลา 7.00 - 10.00 นาฬิกา : เวลาอาหารเช้า
ระบบของอวัยวะทั่วทุกส่วนเริ่มตื่นสู่การทำงาน ร่างกายต้องการอาหารเช้าที่ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการ
โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายได้รับเข้าไป จะถูกเผาผลาญให้กลายเป็นพลังงานอย่างรวดเร็ว
หากรับประทานยาแก้ปวดในช่วงหลังอาหารเช้า ยาก็จะออกฤทธิ์ระงับปวดได้ดี
คุณผู้หญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งที่มดลูกหากได้รับประทานยารักษาโรคดังกล่าวในช่วงเวลานี้ โอกาสที่จะช่วยระงับยับยั้งโรคก็จะเพิ่มสูงขึ้น
หลอดเลือดหดแคบลง ดังนั้นเวลาออกกำลังกายตอนเช้าๆ ก็อย่าหักโหมมากนัก เพราะอาจทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่ทันจนถึงขึ้นหัวใจวายได้
แต่สำหรับบางคนก็อาจไม่เกิดอาการเช่นนั้นก็เป็นได้ ต้องคอยสังเกตตัวเอง ส่วนคนที่สูบบุหรี่ หากงดสูบมวนแรกของวันนี้เสียได้ก็จะดีมาก
เวลา 10.00 - 12.00 นาฬิกา : พละกำลังเต็มเปี่ยม
ในช่วงเวลานี้ของแต่ละวัน ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายและจิตใจจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดเลยเชียวค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลา 11 โมงเช้า จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดของระบบการทำงานของหัวใจและไหลเวียนของโลหิต ความสามารถในการเรียนรู้
ทางด้านการคิดและการพูดจะมีความคล่องแคล่วว่องไวอย่างล้นเหลือ เราจะรู้สึกมีสมาธิ และมีความคิดสร้างสรรค์มากเป็นพิเศษ
ส่วนใครที่มีงานสำคัญ หรือการสอบที่ต้องทำในช่วงเวลานี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะออกมาดีค่ะ
เวลา 12.00 - 14.00 นาฬิกา : เวลาพักกลางวัน
หลังจากช่วงเวลาแห่งจุดสูงสุดผ่านพ้นไป ก็ได้เวลาที่ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายจะค่อยๆ ลดลง
ซึ่งก็พอดีกับเวลาที่เราจะต้องรับประทานอาหารกลางวันเพื่อเติมพลังงานให้แก่ตัวเองอีกครั้ง
และในช่วงที่ร่างกายกำลังย่อยอาหารให้กลายเป็นพลังงานอยู่นี้ หากได้งีบหลับสัก 15 นาที
หรือออกไปเดินเล่นสักพักในที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง ก็จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
หากใครไม่มีโอกาสได้พักหลังอาหารมื้อเที่ยงด้วยกิจกรรมดังกล่าวนั้นเลย ช่วงบ่ายของเขาก็อาจจะเข้าถึงสมาธิได้ยากค่ะ
เวลา 14.00 - 17.00 นาฬิกา : ช่วงอึดต่อความเจ็บ
ในช่วงเวลานี้ประสิทธิภาพของร่างกายจะกลับฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปได้สักประมาณตอนบ่ายสามโมง
ผิวพรรณของเราจะมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น และมีเหงื่อออกง่ายกว่าช่วงเวลาอื่นๆ หากมีนัดกับหมอเพื่อทำฟันในช่วงเวลานี้จะดี
เพราะว่าจะรู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นๆค่ะ เนื่องจากเป็นเวลาที่ฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินหลั่งออกมามาก
จึงสามารถช่วยกดความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ได้ นอกจากนั้น ช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับออกกำลังกายเพื่อบริหารกล้ามเนื้อ
ทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการบำบัดทางกายภาพอีกด้วย
เวลา 17.00 - 20.00 นาฬิกา : ช่วงเวลาสบายๆ
ความกระตือรือร้นของระบบทำงานภายในร่างกายจะค่อยๆ ถดถอยลง อีกทั้งอุณหภูมิความร้อนภายในกายก็จะลดลงด้วย
ประมาณเวลา 17 นาฬิกา ประสาทรับรู้กลิ่นและรสชาติของอาหารจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ปฎิกิริยาต่อความ เครียดจะไม่ค่อยมี
และสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป โรคปวดข้อหรือโรคภูมิแพ้
เวลา 19 นาฬิกาจะเป็นเวลาซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการรับประทานยาเพื่อบำบัดรักษาอาการของโรคดังกล่าว
เวลา 20.00 - 22.00 นาฬิกา : เวลาแห่งความรู้สึก
ในช่วงเวลานี้ปฏิกิริยาของร่างกายอาจมีความไวต่อสิ่งเร้า อีกทั้งประสาทสัมผัสยังเปิดรับรสสัมผัสที่อ่อนโยน เสียงเพลงที่แว่วหวาน
และกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาปลุกเร้าอารมณ์ได้ดียิ่งกว่าในช่วงเวลาอื่นๆ
นอกจากนั้น การได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงนี้ก็จะช่วยก่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรดื่มเกินกว่า 1 แก้วนะคะ
แค่พอหอมปากหอมคอ เพื่อให้คืนนี้สามารถหลับได้อย่างมีความสุข
เวลา 22.00 - 01.00 นาฬิกา : ได้เวลาเข้านอน
ในช่วง 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม เที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง นับเป็นช่วงเวลาที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้หลั่งออกมาอีกด้วยการรับประทานอาหารใดๆ
ทั้งนี้เพราะการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายกำลังจะเข้าสู่ความสงบนิ่ง หลังจากที่ได้ทำงานจนอ่อนล้ามาตลอดทั้งวันแล้ว ฉะนั้น
ช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาดีที่จะเข้านอน อย่างไรก็ตาม ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะยังไม่เข้านอนตามไปด้วย
แต่จะทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งต่อไป ด้วยเหตุนี้เชื้อโรค ของเสีย และสารพิษจะถูกจัดการลำเลียงไปทำลายทิ้งที่ตับ
และทุกๆ ค่ำคืนเซลล์เนื้อเยื่อ และเซลล์ผิวต่างๆ ก็จะถูกซ่อมแซมให้กลับฟื้นตัวแข็งแรงขึ้น หรืออาจมีการสร้างเสริมขึ้นใหม่ด้วยค่ะ
เวลา 01.00 - 05.00 นาฬิกา : ช่วงนิทราสนิท
หนึ่งชั่วโมงหลังเที่ยงคืนเป็นช่วงเวลาแห่งการหลับลึกที่แสนสุข ของผู้ที่สามารถทำตามตารางแห่งสุขภาพที่สาธยายมานี้ได้สำเร็จ
และในช่วงนี้นี่เองเป็นเวลาที่มนุษย์เราจะฝัน ซึ่งคืนหนึ่งๆ อาจฝันได้ถึงสองสามครั้ง
แต่ไม่เสมอไปที่เราจะสามารถจดจำความฝันได้ในทุกครั้งหรือทุกเรื่อง นอกจากนั้น การทำหน้าที่ของตับในการขจัดสารพิษ อย่างเช่น
แอลกอฮอล์ ก็จะมาถึงจุดสูงสุด และสำหรับใครบางคนที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด ช่วงเวลานี้ก็จะมีอันตรายสูงสุดเช่นกัน เพราะ 80%
ของผู้ป่วยอาการจะกำเริบในช่วงนี้ ฉะนั้น จะต้องตระเตรียมสเปรย์หรือยาฉีดขยายหลอดลมเอาไว้ใกล้ๆ ตัว จะได้หยิบฉวยทันท่วงที
พอใกล้รุ่งเช้า เส้นเลือดใต้ผิวก็เริ่มจะหดตัวลงอีกครั้ง อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น...
และแล้วกลไกการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย จะค่อยๆ ตื่นขึ้นมาทำงาน ต้อนรับเช้าวันใหม่ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน..
***** แต่เวลาที่สำคัญที่สุด คือ มด สามตัว ....
1 ) เวลาธรรมกาย คือ เวลาปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว …. ทำได้ตลอดเวลา
และร่วมปฏิบัติธรรมพร้อมเพรียงกันทั่วโลก ทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 11.00 น.
2 ) เวลา DMC ทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 17.50 – 22.00 น.
อนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ สาธุ.
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 01:04 PM
ถูกต้องแล้ว.......เวลาธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 09:41 PM
ดีค่ะ
แต่บทความควรจะตรวจ คัดเอาเฉพาะท่อนที่เหมาะสมนะคะ
เรื่องแอลกอฮอลล์ก็ควรทิ้งไปเลย ไม่สมควรนะคะ
แต่บทความควรจะตรวจ คัดเอาเฉพาะท่อนที่เหมาะสมนะคะ
เรื่องแอลกอฮอลล์ก็ควรทิ้งไปเลย ไม่สมควรนะคะ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
สุนทรพ่อ
muralath2@hotmail
#4
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 10:36 PM
สาธุ........เป็นบทความที่ดีคะ
#5
โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 10:36 PM
ขออนุญาติ..ตัดตรงนี้ออกครับ
เห็นผู้ที่ทานเหล้าเมื่อมีแก้วที่หนึ่ง ก็จะมี สองสาม ตามมาสุดท้าย มหานรกขุมห้าครับ..
....................................................................................................
QUOTE
นอกจากนั้น การได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงนี้ก็จะช่วยก่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรดื่มเกินกว่า 1 แก้วนะคะ
....................เห็นผู้ที่ทานเหล้าเมื่อมีแก้วที่หนึ่ง ก็จะมี สองสาม ตามมาสุดท้าย มหานรกขุมห้าครับ..
....................................................................................................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#6
โพสต์เมื่อ 25 January 2006 - 08:24 AM
may i copy it? it's good but i will change 1 glass of alkohl to a glass of water.....thank you kah
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง