ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เพราะอะไรจึงทรงทำนายว่า...พระธรรมของพระพุทธเจ้าจะอยู่ห้าพันปี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 25 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 11:15 AM

...พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรมคำสั่งสอนมาสองพันห้าร้อยกว่าปีแล้ว และทรงทำนายไว้ว่าพระธรรมของพระองค์จะคงอยู่ไปได้ห้าพันปี จึงมีคำกล่าวว่าเวลานี้เป็นช่วงกึ่งหรือครึ่งพุทธกาล พระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไปที่จะมาทรงตรัสรู้พระธรรมเดียวกันนี้มีชื่อว่า เมตเตยยะ หรือพระศรีอาริยเมตไตรย หรือ พระศรีอาริย์ ในเวลาอีกนานมากนับจากนี้เมื่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ (ผู้ทรงมีพระนามเดิมก่อนเสด็จออกบรรพชาว่าสิทธัตถะ และเมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้วเรียกกันตามโคตรหรือสกุลว่า พระสมณโคดม แปลว่านักบวชแห่งสกุลโคตมะ) สูญสิ้นไปไม่เหลือแล้ว...

#2 aph

aph
  • Members
  • 53 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 11:29 AM

เป็นคนที่ละเอียดมากเลยน่ะครับ

#3 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 11:30 AM

คำกล่าวที่ว่า พระพุทธศาสนาจักมีอายุ ๕๐๐๐ ปีนั้น มีอธิบายว่า หมายถึงมีการเรียนพระธรรมวินัย มีการปฏิบัติจนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพานถึง ๕๐๐๐ ปี โดยแบ่งออกเป็น
๑๐๐๐ ปีแรก มีพระอรหันต์ผู้ได้บรรลุปฏิสัมภิทา
๑๐๐๐ ปีที่สอง มีเพียงพระอรหันต์ประเภทสุกขวิปัสสกะ
๑๐๐๐ ปีที่สาม มีเพียงพระอริยะขั้นพระอนาคามี
๑๐๐๐ ปีที่สี่ มีเพียงพระอริยะขั้นพระสกทาคามี
๑๐๐๐ ปีที่ห้า มีเพียงพระอริยะขั้นพระโสดาบัน

เลย ๕๐๐๐ ปีนั้นไป พระภิกษุในพระพุทธศาสนาจะละทิ้งแม้กระทั่งการเล่าเรียนพระธรรมวินัย ได้ชื่อว่าเป็นพระเพียงแค่โกนศีรษะครองผ้ากาสาวพัสตร์เท่านั้น

(วินย.อ. ๓/๔๐๓/๔๐๗ ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ)
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#4 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 11:33 AM

โอ!...ขอบพระคุณ คุณMiraclE...DrEaMมากค่ะ happy.gif

#5 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 12:27 PM

ละเอียดจังเลยครับ ขออนุโมทนา ด้วยคนครับ

#6 Mai D na

Mai D na
  • Members
  • 282 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 01:12 PM

laugh.gif


แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร




#7 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 02:27 PM

จริงน่ะ คิดว่า พระอรหันต์ จะมีอยู่ตลอดไปซะอีกนะคะเนี่ย แสดงว่ายุคนี้ (2549) พระอรหันต์ก็ยังมีอยู่ใช่มั้ยคะ

ถาม
1. พระผู้สำเร็จ ถือว่าอยู่ในประเภทสุกขวิปัสสกะ รึเปล่า ?? (เขาว่ายังมีอยู่อีกเยอะ)
2. ช่วยอธิบายความแตกต่างของพระอรหันต์ทั้งสองประเภทนี้หน่อยค่ะ
2.1. ๑๐๐๐ ปีแรก มีพระอรหันต์ผู้ได้บรรลุปฏิสัมภิทา
2.2. ๑๐๐๐ ปีที่สอง มีเพียงพระอรหันต์ประเภทสุกขวิปัสสกะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 04:06 PM

ตอบ
1. พระผู้สำเร็จ ไม่ใช่ พระอรหันต์แบบสุกขวิปัสสกะน่ะครับ พระอรหันต์แบบสุขวิปัสสกะ หมายถึง พระอรหันต์ที่บรรลุธรรมอย่างเดียว แต่ไม่มีฤทธิ์ใดๆ น่ะครับ ส่วนพระผู้สำเร็จนั้น จะมีฤทธิ์อยู่ในอภิญญา 5 (อาจมี 1 ข้อ 2 ข้อ หรือทั้ง 5 ข้อ) ได้แก่ หูทิพย์ ตาทิพย์ ล่องหนหายตัว เหาะเหินเดินอากาศ แปลงกาย รู้ใจผู้อื่น ฯลฯ แต่ไม่มีอภิญญาข้อที่ 6 คือ หมดกิเลสน่ะครับ (อย่าไปฟังเขาว่าเลยครับ ให้ฟังครูไม่ใหญ่ดีกว่า)

2.1 บรรลุปฏิสัมภิทา หมายถึง ปฏิสัมภิทาญาณ 4 ได้แก่ 1. ปัญญาแตกฉานในอรรถ (เนื้อความใจความ) 2. ปัญญาแตกฉานในธรรม 3. ปัญญาแตกฉานในภาษา 4. ปัญญาแตกฉานในไหวพริบปฏิภาณ พระอรหันต์ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา หมายถึง พระอรหันต์ผู้มีความสามารถในการสอนธรรม แสดงธรรมนั่นเอง
2.2 บรรลุสุขวิปัสสกะ หมายถึง หมดกิเลสอย่างเดียว ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีปัญญายิ่งในการสอนธรรมะน่ะครับ

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 04:22 PM

QUOTE
๑๐๐๐ ปีแรก มีพระอรหันต์ผู้ได้บรรลุปฏิสัมภิทา
๑๐๐๐ ปีที่สอง มีเพียงพระอรหันต์ประเภทสุกขวิปัสสกะ


๑๐๐๐ ปีแรก มีพระอรหันต์ผู้ได้บรรลุปฏิสัมภิทา

บรรลุปฏิสัมภิทา
ปฏิสัมภิทา ความแตกฉาน, ความรู้แตกฉาน,
ปัญญาแตกฉาน มี ๔ คือ
๑. อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ
๒. ธัมมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม
๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในนิรุกติ คือ ภาษา
๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ

๑๐๐๐ ปีที่สอง มีเพียงพระอรหันต์ประเภทสุกขวิปัสสกะ
ขอคำอธิบายเพิ่มเติมค่ะ


อรหันต์ = ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา, พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด ผู้ได้บรรลุอรหัตตผล,
พระอรหันต์ ๒ ประเภท คือ พระสุกขวิปัสสก ? กับพระสมถยานิก;
พระอรหันต์ ๔ คือ
๑. พระสุกขวิปัสสก ?
๒. พระเตวิชชะ (ผู้ได้วิชชา ๓)
๓. พระฉฬภิญญะ (ผู้ได้อภิญญา ๖)
๔. พระปฏิสัมภิทัปปัตตะ (ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา ๔);


ท่านผู้รู้กรุณาขยายความด้วยค่ะ




#10 อาทร ศรสำแดง

อาทร ศรสำแดง
  • Members
  • 24 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 04:37 PM

แปลกจังนะครับ ถ้าบรรลุอรหันต์แล้ว จะไม่มีฤทธิ์อะไรเลย ไม่มีปัญญาสั่งสอนธรรมะด้วยเป็นไปได้เรอครับ ออกจะงงๆ นิดหนึ่ง ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

ข้อมูลส่วนหลังนี้ได้มาจากรพะไตรปิฏกหรือเปล่าครับ

รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายขยายความแบบเปรียบเปรยให้ฟังหน่อยก็คงจะดีครับ

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 04:52 PM

ความหมายของพระอรหันต์ 2 ประเภท คือ
1. พระสุกขวิปัสสก หมายถึง พระที่หมดกิเลสอย่างเดียว แต่ไม่มีฤทธิ์ และไม่ฉลาดยิ่งในการเทศน์สอนน่ะครับ เกิดจากการบำเพ็ญวิปัสสนาเป็นหลัก สมถะเป็นรอง ขยายความก็คือ ไม่เน้นนั่งสมาธิ นั่งนิดหน่อยจนใจหยุดระดับหนึ่ง แต่เน้นมีสติพิจารณาสิ่งต่างๆ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาบ่อยๆ น่ะครับ คือ เน้นหมดกิเลสโดยเร็วนั่นเอง
2. พระสมถยานิก แปลว่า ผู้มีสมถะเป็นยาน หมายถึงผู้เน้นสมถกรรมฐาน (นั่งสมาธิจนใจหยุดนิ่งเต็มที่) แล้วค่อยเจริญวิปัสสนาน่ะครับ ซึ่งจะมีผลทำให้ บรรลุธรรม พร้อมด้วยฤทธิ์ หรือปฏิสัมภิธานญาณ (แล้วแต่บารมีที่สั่งสมมา) คือ เน้นหมดกิเลสด้วย ขอมีฤทธิ์ด้วยน่ะครับ จึงจะต้องทำให้บรรลุช้ากว่าแบบแรก

ความหมายของพระอรหันต์ 4 ประเภท คือ
1. พระสุกขวิปัสสก หมายถึง เหมือนข้างต้น
2. พระเตวิชชะ ผู้ได้วิชชา 3 ก็คือ ได้บรรลุ 1.ญาณระลึกชาติตัวเองได้ 2.ญาณระลึกชาติผู้อื่นได้ 3.ญาณประหารกิเลส
3. พระฉฬภิญญา ผู้ได้อภิญญา 6 ก็คือ 1.แสดงฤทธิ์ได้ เช่น เหาะ, หายตัว, ดำดิน ฯลฯ 2.มีหูทิพย์ 3.รู้ใจผู้อื่น 4.ระลึกชาติตัวเองได้ 5.ตาทิพย์(รวมระลึกชาติผู้อื่น) 6.หมดกิเลสน่ะครับ
4. พระปฏิสัมภิทัปปปัตตะ ผู้ได้ปฏิสัมภิทา 4 ก็ดังที่คุณ gioia โพสมานั่นแหละครับ คือ ฉลาดยิ่งในการสอนธรรม แสดงธรรม
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 05:03 PM

ตอบคุณอาทร เป็นไปได้ครับ เหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจาก ผู้ที่ต้องการบรรลุธรรมโดยเร็วพลัน รังเกียจเรื่องปาฏิหาริย์ และไม่ฝึกสอนธรรมะผู้อื่น เพราะเห็นว่า สอนตัวเองยังไม่ได้เลยน่ะครับ แนวทางที่ผู้มีจริตเช่นนี้บำเพ็ญก็คือ ไม่สนใจทางโลก ทำสมาธินิดหน่อย แต่มุ่งบำเพ็ญวิปัสสนา คือ พิจารณาความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนน่ะครับ พวกนี้จะเห็นว่า เน้นสมถะ(นั่งสมาธิ) จะเสียเวลาน่ะครับ
สมมุติ ถ้าแก้วตกแตก ผู้ที่มีจริตแบบนี้ จะคิดว่า ของที่มีความเสื่อมเป็นธรรมดา ได้แตกแล้ว จิตรู้หนอ ว่าแล้วก็บำเพ็ญวิปัสสนาต่อไป แต่ถ้าเป็นผู้บำเพ็ญเพื่อสั่งสอนผู้อื่นด้วย ถ้าแก้วแตก เขาจะคิดว่า เอ๊ะใครทำแตก แล้วก็ไปอบรมสั่งสอนคนใช้ให้ล้างจานด้วยความระมัดระวัง จะได้ไม่ทำแก้วแตก เป็นต้นน่ะครับ

ที่นี้คุณอาจคิดต่อว่า อ้าวก็พอเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ค่อยไปฝึกฝนฤทธิ์ต่างๆ ก็ได้นี่ ผมก็เคยคิดเช่นนี้ครับ แต่ต่อมามีผู้รู้แนะนำผมว่า ตอนผมเป็นเด็กๆ ชอบเล่น ทอยเส้นใช่ไหม ผมก็บอกว่า ก็ชอบอยู่
เขาก็บอกต่อว่า แต่เด็กบางคน ก็ไม่ชอบเล่นทอยเส้น เห็นว่าไร้สาระใช่ไหม เขาจะตั้งใจเรียนให้จบอย่างเดียวใช่ไหม ผมก็บอก เด็กแบบนี้ก็มีอยู่

เขาจึงถามต่อว่า ถ้าเด็กพวกนี้โตเป็นผู้ใหญ่เรียนจบ เขาจะทอยเส้นเป็นไหม ผมก็บอกว่า ทอยไม่เป็น
เขาจึงถามต่อว่า แล้วคิดผู้ใหญ่พวกนี้ จะไปฝึกทอยเส้นไหม ผมก็บอกว่า ย่อมไม่ฝึกเพราะเห็นว่าไร้สาระ

เขาจึงบอกผมว่า เช่นเดียวกัน ฤทธิ์อภิญญาสำหรับผู้เรียนจบเช่นพระอรหันต์ ย่อมเห็นว่าเป็นของไร้สาระ เหมือนเด็กๆ เล่นทอยเส้น นั่นเอง แต่พระอรหันต์บางองค์ที่มีฤทธิ์ก็เพราะ ฝึกฤทธิ์มาก่อนหมดกิเลส เหมือนเด็กที่ทอยเส้นตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาเขาก็ยังคงทอยเป็นอยู่

แหล่งอ้างอิง จากพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โรงพิพม์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
กรุงเทพมหานคร 2538 โดยพระธรรมปิฎก (ปยุตฺโต)
สุกขวิปัสสก พระผู้เจริญวิปัสสนาล้วนสำเร็จพระอรหัต มิได้ทรงคุณวิเศษอย่างอื่นอีก เช่นไม่ได้ฌานสมบัติไม่ได้
อภิญญา เป็นต้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#13 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 06:13 PM

ขอบคุณคุณหัดฝันนะครับ ที่มาช่วยขยายความให้
อนุโมทนาบุญครับ...สาธุ สาธุ สาธุ happy.gif
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#14 ปุฉฉา13

ปุฉฉา13
  • Members
  • 104 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 10:03 PM

สาธุด้วยคนนะครับ

#15 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 10:17 PM

_/\_
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#16 JK564

JK564
  • Members
  • 121 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2006 - 10:18 PM

สาธุครับ ไม่เคยอ่านละเอียดขนาดนี้

#17 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 04:22 AM

โออออ สุดยอดธรรมะค่ะ ตัวอย่างดีมากๆคิดตามได้เลย
ขอถามอีกหน่อยค่ะ แล้วถ้าพระผู้สำเร็จ ไม่ใช่พระอรหันต์ แล้วท่านสำเร็จอะไรค่ะ สำเร็จเพื่ออะไรแล้วไปนิพานได้ไหมค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#18 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 07:46 AM

Post นี้สำหรับนักเรียนอนุบาลฝันในฝัน Only
อ้างอิง: 20/10/2548

พระผู้สำเร็จต้องสั่งสมบารมีแล้วตั้งความปราถนา แล้วก็จะเจอผู้สำเร็จถ่ายทอดความรู้ให้ ถ้าหากบารมียังอ่อนๆ อยู่ก็จะเป็นผู้สำเร็จเล็กๆคืออายุยืนร้อยปี ร้อยกว่าปี พอบารมีแก่กล้าก็อายุเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุได้สามารถอยู่ถึงพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมและได้บรรลุมรรคผลนิพพาน

บางพวกมีเป้าหมายที่จะบรรลุธรรมแต่ก็ติดอยู่ในฤทธิ์ก็มี แต่บางพวกก็ไม่มีเป้าหมายในการบรรลุธรรมเพราะยังติดในฤทธิ์แค่นั้น คือสามารถทำอะไรที่เหนือมนุษย์ได้เหนือธรรมชาติได้ บางพวกก็ปราถนาให้อายุยืนเพื่อรอพบพระพุทธเจ้าองค์หน้า บางพวกตายแล้วก็ไปเป็นวิทยาธรก็มี บางพวกที่มีฌาณชั้นสูงตายแล้วก็ไปพรหมโลกก็มี

อนุโมทนาบุญครับ smile.gif

#19 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 08:31 AM

ตามหัวข้อกระทู้นี้ แปลกอยู่อย่างที่ผมพยายามค้นหาในพระไตรปิฏก ก็ไม่พบสักทีว่า
พระองค์ทรงพยากรณ์ว่าพุทธศาสนาจะมีอายุถึง ๕๐๐๐ ปี จะค้นพบแต่ในคัมภีร์มิลินทร์
ที่อธิบายไว้ละเอียด แต่ในพระไตรปิฏกบางที่ก็มี

นอกจากนี้บางเล่มยังได้มีละเอียดถึงพุทธดำรัสก่อนปรินิพานว่าใครบ้างจะเป็นผู้สืบทอด
พระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ ให้ครบ ๕๐๐๐ ปีได้ ผมจำได้จะพยายามค้นให้เจอและ
พอดีสอดคล้องกับการลงมาสร้างบารมีของหมู่คณะด้วย


หยุดคือตัวสำเร็จ

#20 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 07:49 PM

ขอขอบพระคุณ ด้วยที่อธิบายได้ละเอียดและเข้าใจคำว่า 5000 ปีชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ

#21 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 07:43 PM

สาธุ สาธุ สาธุ .....the dhamma talk is back in full....so glad after I have been gone for a while...it-s a great thing to be back and learn new things. thank you kah.
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#22 lakate

lakate
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 10:44 PM

เคยได้ยินมาว่า เรื่องของ 5,000 ปี จะมีการแบ่งเป็น 3 ภาค คือ 2500 ปี แรก เป็นพระพุทธศาสนา อีก 1,000 ข้างหน้าเป็นของเทพ เทวดา ที่จะมาลงมาทำบารมีกับมนุษย์ (คือช่วยมนุษย์นั่นเอง) แล้วอีก 1,000 ปี เป็นของมาร ใช่หรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ ได้ยินมาจากพราหมณ์ต่อหนึ่ง แล้วอีก 500 ปี ก็จะถึงเวลาอันควร และก็จะเริ่มเสื่อมลงไปตามกาล

ท่านผู้รู้ช่วยตอบให้ด้วยนะค่ะ เพราะตอนนี้ก็ยังงง อยู่ unsure.gif unsure.gif unsure.gif

#23 cheterk

cheterk
  • Members
  • 314 โพสต์
  • Interests:พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 01:33 PM

ครับ ได้ข้อมูลที่ดีเลย

#24 watcharasit

watcharasit
  • Members
  • 17 โพสต์
  • Location:49/10 ถนนเลี่ยงเมือง หมู่23 ตำบลขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลฯ. 34000
  • Interests:กฏแห่งกรรม

โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 09:56 PM

สาธุ สาธุ สาธุ .....
วัชรสิทธิ์ ศรีธัญรัตน์

#25 cheterk072

cheterk072
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 May 2007 - 12:25 AM

สาธุครับ

#26 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 11:55 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุๆๆ