ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คน 3 วัย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 10 December 2006 - 05:18 PM

ธรรมกถา พระพิสาลพัฒนาทร ( ถาวร จิตฺตถาวโร )
๙๙๙ วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ถนนพระราม ๑
แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๓๐


ความตกไปแห่งรูปอันเติบขึ้นตามวัย
(วโยวุฑฺฒตฺถคมโต)

การพิจารณารูปเป็นไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ รูปเจริญขึ้นด้วยอำนาจวัย

โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่จะเข้าข้างตัวเองว่ารูปสวย รูปงาม มันคงทนถาวร ไม่มีความเปลี่ยนแปลง
คือ ไม่ยอมรับสภาพว่ามันเปลี่ยนแปลง
ยิ่งมีคนมาทักท้วงว่า หน้าตาเปล่งปลั่งนิ่มนวล เต่งตึง ยิ้มแก้มปริทีเดียว

แต่ถ้ามีใครมาทักว่า หมู่นี้ดูหน้าตาเหี่ยวย่น ไม่สวย ไม่หล่อ
ก็จะแสดงความไม่พอใจออกมา อาจจะถูกตวาดไปด้วยซ้ำไป

แทนที่จะพูดว่า ช่างมันเถอะ จะเอาอะไรแน่นอนกับสังขาร
มันเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน เราบังคับบัญชามันไม่ได้
แต่กลับไปยึดมั่นถือมั่นหลงอยู่ในรูปในวัยของตัวเอง

ปราชญ์ท่านแบ่งวัยของคนออกเป็น ๓ คือ


๑) ปฐมวัย อายุ ๑ ถึง ๓๓ ปี จัดเป็นปฐมวัย (๓๓ ปีแรก)

๒) มัชฌิมวัย อายุ ๓๔ ถึง ๖๗ ปี จัดเป็นมัจฌิมวัย (๓๔ ปี)

๓) ปัจฉิมวัย อายุ ๖๘ ถึง ๑๐๐ ปี จัดเป็นปัจฉิมวัย (๓๓ ปี)

คราวนี้มาพิจารณาเรื่องของ
รูปที่เป็นไปในปฐมวัย ก็ดับไปในปฐมวัยนั่นเอง ไม่ถึงมัชฌิมวัย
รูปที่เป็นไปในมัชฌิมวัย ก็ดับไปในมัชฌิมวัย
และรูปนี้เป็นไปในปัจฉิมวัย ก็ดับไปในปัจฉิมวัย ไม่สามารถเป็นไปได้ต่อจากมรณะ

ทั้งหมดนี้ ก็เพราะตกอยู่ในไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นก็ชื่อว่าเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นก็ชื่อว่าเป็นอนัตตา

ต่อนี้ไปขอได้พิจารณาถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
โดยแยกอายุ ๑๐๐ ปี ออกเป็น ๑๐ หมวด ๆ ละ ๑๐ ปี ดังนี้ คือ

๑) อายุ ๑ - ๑๐ ปี (มันททสกะ)
เป็นเด็กอ่อน ชอบหลับนอน ซุกซน

๒) อายุ ๑๑ - ๒๐ ปี (ขิฑฑาทสกะ)
ชอบเล่นสนุก เริ่มเป็นหนุ่ม เป็นสาว รู้จักความรัก

๓) อายุ ๒๑ - ๓๐ ปี (วัณณทสกะ)
เป็นหนุ่มสาวเต็มที่ มีผิวพรรณเปล่งปลั่งสมบูรณ์ รักสวยรักงาม

๔) อายุ ๓๑ - ๔๐ ปี (พลทสกะ)
อยู่ในวัยเรี่ยวแรง กำลังวังชาดี

๕) อายุ ๔๑ - ๕๐ ปี (ปัญญาทสกะ)
อยู่ในวัยที่มีปัญญามั่นคงดี หรือแม้ว่าปัญญาของบางคนที่โดยปกติไม่ฉลาด ก็จะเห็นได้ชัดในช่วงนี้

๖) อายุ ๕๑ - ๖๐ ปี (หานิทสกะ)
อยู่ในวัยที่ชอบเล่นกีฬา ออกกำลังกาย
แต่ผิวพรรณ กำลัง และปัญญาของเขา ย่อมเสื่อมถอยไป

๗) อายุ ๖๑ - ๗๐ ปี (ปัพภารทสกะ)
ร่างกายของเขาย่อมค้อมไปข้างหน้า เริ่มลืมชื่อคน หรือ เหตุการณ์บ้างแล้ว

๘) อายุ ๗๑ - ๘๐ ปี (วังกทสกะ)
ร่างกายของเขาหง่อมหนักลง หลังโกง ค่อมลงเหมือนหางไถ จำหน้าคนได้บ้าง แต่นึกชื่อไม่ออก

๙) อายุ ๘๑ - ๙๐ ปี (โมมูหทสกะ)
มักหลงลืม ทำอะไรก็ลืม ทำแล้วทำอีก

๑๐) อายุ ๙๑ - ๑๐๐ ปี (สยนทสกะ)
บางคนลุกไปไหนไม่ได้ นอนอย่างเดียว อยู่ในวัยที่กำลังวังชา ปัญญาเสื่อมถอย เรี่ยวแรงกำลังหมดไป

ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้น ตกอยู่ในสภาพเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีสิ่งใดที่ล่วงพ้นไปได้

(วิสุทธิมรรค ภาค ๓ หน้า ๒๔๘)

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#2 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 13 December 2006 - 09:58 PM

โอ้สาธุค่ะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#3 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 29 March 2007 - 04:12 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณแดงดีด้วยครับ สาธุ