เป็นบทสวดที่แปลมาจากคาถา พาหุง ในภาษาบาลี ซึ่งมีอยู่แปดบท กล่าวถึงชัยชนะแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อ'มาร' หรือเหตุการณ์ต่างๆ ในการสวดสรภัญญะเป็นหมู่ นิยมสวดบทสวดที่หนึ่ง (ปางเมื่อพระองค์ปรมพุท) ซึ่งเป็นคำแปลโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยดัดแปลงบทลงท้าย ชะยะมัง คะละลานิ มาเป็น ชะยะสิจธินิจจัง
บทสวด:
ปางเมื่อพระองค์ปรมพุท- ธวิสุทธศาสดา
ตรัสรู้อนุตรสมา- ธิ ณ โพธิบัลลังก์
ขุนมารสหัสพหุพา- หุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีริเมขละประทัง คชะ####มกระเหิมหาญ
แสร้งเสกสราวุธประดิษฐ์ กลคิดจะรอนราน
รุมพลพหลพยุหะปาน พระสมุทรนองมา
หวังเพื่อผจญวรมุนิน- ทสุชินราชา
พระปราบพหลพยุหมา- รเมลืองมลายสูญ
ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมลไพบูลย์
ทานาทิธรรมวิธิกูล ชนน้อมมโนตาม
ด้วยเดชะสัจวจนา และนมามิองค์สาม
ขอจงนิกรพลสยาม ชยสิทธิทุกวาร
ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พลเดชเทียมมาร
ขอไทยผจญพิชิตผลาญ อริแม้นมุนินทร
ถ้วนรัตติอาฬวกยักษ์ มุหะกักขฬากร
โฆราปวาทพระชินวร หฤหรรษ์อหังการ
ยิ่งคราพระองค์ปรมพุทธ อภิยุทธ์ผจญมาร
สัมพุทธโปรดประณุทพาล อริจิตอมิตรคลาย
ทรงไขพระขันติวรธรรม วิธิคัมภิโรบาย
จิตจัณฑยักษ์มุหะมลาย กุธะฟุนละมุนลง
ด้วยเดชชเยศอภิยุท- ธพิสุทธิ์ภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลฤทธิ์ประสิทธิ์พลัน
นาฬาคิรีพลพิลึก คชะคึกคะนองมัน
คืออัคนีประลยวัน วิยจักรารอน
เริงรุทรประดุจอสนิบาต นฤนาททิฆัมพร
โถมทวนพิถียบทจร พระสุคตเสด็จคลา
ทรงโสรจวรัมพุทกสิญ- จนะรินพระเมตตา
รื่นรส ณ คชหทยา มทะอุณห์ละมุนลง
ด้วยเดชพระเมตติยมฤต อภิสิตภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลวัฒน์จิรัฐกาล
โจรใจฉกาจทระนง กิระองคุลีมาล
ชูขรรค์ถลันถลทะยาน ระยะโยชนาตรี
อุกอำมหิตหทยะมาด จะพิฆาตพระชินสีห์
หากพุทธโกศลวิธี นิยยานการนำ
ด้วยอิทธิสังขตมโน วรโพธิญาณธรรม
พาพ้นอนันตริยกรรม ภยะร้ายสลายลง
ด้วยเดชชเยศมนมยิทธิ์ อภิสิตภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
ปางจิญจยาปทุฐจิต กละคิดพิรากล
ก้อนกาฐะคาดอุทระตน วิยคัพภินียา
ในกลางนิกรชนะประกาศ อปวาทพระสัตถา
มวลสัตบุรุษจะสถิรา วิจิกิจฉ์ก็คิดแคลง
สัมพุทธดุษณิยสันต์ วิยะจันทร์จรัสแสง
สันตาธิวาสนแสดง ทุรุบายสลายลง
ด้วยเดชะสันตชยฤทธิ์ อภิสิตภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลฤทธิ์พิสิฐา
เดียรัตถิย์สัจจกนิครนถ์ อธิอนธอันธา
เหิมจิตเพราะทิฐิอติมา- นะอนุตรวาที
เสียสัตย์จะทัดพระวรวากย์ ปฏิพากย์พระชินสีห์
เพียงเสาวณิตพระสวนีย์ ก็วิรัติวิวาทา
ปัญญาปทีปชวลิต พระพินิตนิคัณฐา
ฤารังสิขัชชุปนกา จะประจัญประภากร
ด้วยเดชชเยศพระนรสีห์ รศมีประภัสสร
สรวมสรรพพิสุทธิ์อนุตรพร ชยฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
นันโทปนันทภุชคิน- ทรหินชาติมนท์
กำแหงแสดงสทิสพล เพราะพิโรธนาวรณ์
มืดมน ณ บนอนิลบถ ธุมะจดทิฆัมพร
จึงองค์พระผู้อนธิวร วรพุทธฎีกา
พุทโธรสาอธิกฤทธิ์ ทมะทิสนาคา
ฤทธูปเทสะทมนา- คนุฤทธิ์พิชิตลง
ด้วยเดชชเยศวรฤทธิ์ อภิสิตภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลพาสิตารมณ์
พรหมมิจฉทิฐิอติมา- นะพกาภิไธยพรหม
หลงความวิสุทธิ์ชุตินิยม และมหิทธินิจจา
มิจฉาเสมือนอสิรพิษ ทฐวิส ณ หัตถา
สมเด็จบรมวรนา- ยกพาธพยาบาร
ทรงมอบมโหสถวิเศษ วรเวชอาธาร
คือองค์อนุตรติญาณ ปริวัฏตรีวง
ด้วยเดชพระญาณวรวิชช์ อภิสิตภิเษกสรง
สรวมพรบวรอนุตรมง- คลฤทธิ์วิศิษฐา
--- บทสวดสรภัญญะ ถวายพรพระพาหุงแบบเต็ม ---
เริ่มโดย eq072, Dec 04 2007 03:38 PM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 04 December 2007 - 03:38 PM
#2
โพสต์เมื่อ 04 December 2007 - 04:22 PM
Sa Thu Krub
#3
โพสต์เมื่อ 06 December 2007 - 07:33 PM
อยากได้เป็นไฟล์ mp3 อ่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 07 December 2007 - 08:52 PM
สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#5
โพสต์เมื่อ 12 December 2007 - 11:26 PM
อนุโมทนากับผู้เอามาเผยเผ่นะครับ