มี 19 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[cheterkk]

ทำไมโลกถึงมีหลายศาสนา หลายศาสดา และในทวีป(4ทวีป) อื่น เขานับถือศาสนาอะไร

เทวดา พรหม วิทยาธร พญานาค อื่นๆ นับถือศาสนาอะไร

ไปเล่าเรื่องที่นี่มีคำตอบให้ญาติฟัง แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่ให้ใหว้เทพเจ้า ไม่ให้ตั้งศาล ไม่ให้เชื่อฮวงจุ้ย

คนธรรย์ วิทยาธร เขาไม่รู้จักกันเลยครับ ยากนะครับการเผยแพร่ธรรมมะนี่ คนไม่เข้าใจ คนไม่เชื่อ คนไม่เห็นด้วยก็มี กำลังใจในการเผยแพร่บางก็ลดลงนะว่า ถ้าเป็นแบบนี้เราหยุด ให้คนอื่นทำไปกันดีกว่าไหม อืม...ครับ

[ตำรวจรักบุญ]

เพราะมนุษย์ มีกิเลสในใจที่ต่างกัน มีความเพียรพยายามที่ต่างกัน
มีกรรมที่ต่างกัน จึงเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ศาสดาทั้งหลาย สองสิ่งที่ตรงกับจริตของผู้ใด ผู้นั้นก็จะเข้าไปเป็นสาวก
เว้นแต่พระพุทธเจ้าที่สอนตามความเป็นจริง
ผู้มีบุญ+มีปัญญาจึงศรัทธาเลื่อมใสในคำสอนต่างจากศาสดาอื่นๆ

[Chonchai007]

พยายามต่อไปนะครับ ขนาดศาสนาเดียวกันเองยังไม่เข้าใจกันเลย แต่ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับสู้ๆๆนะครับ แค่คุณยายามรึว่าตั้งใจที่จะทำรึว่าทำไปแล้ว คุณก็ได้อนิสงผลบุญเยอะแล้วนะครับ ผมขออนุโมทนาสาธุการด้วยนะครับ...สาธุ แต่ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆๆ สู้แค่ตายนะครับ

[หัดฝัน]

ทำอย่างไร ความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย จึงจะกลับมาสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นคือ กลับมาสู่ความคิดที่ถูกต้องสมบูรณ์ นี่คือ สิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านฝันใฝ่ไว้น่ะครับ

ทุกสิ่งที่เป็นความแตกต่าง ล้วนเป็นอุปสรรคต่อความคิดเห็นที่ถูกต้องสมบูรณ์ทั้งสิ้นครับ ที่คุณเจ้าของกระทู้ยกมา นั่นเป็นแค่ความแตกต่างเรื่องศาสนาเท่านั้น แต่ยังมีความแตกต่างๆ อื่นๆ อีก เช่น
1. ความแตกต่างด้านภาษา นี่เป็นความแตกต่างที่สำคัญมากๆ เพราะหากพูดภาษาที่อีกฝ่ายเข้าใจไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องมาคิดอธิบายใดๆ เพราะไม่มีทางเข้าใจ แม้บางที พูดภาษาเดียวกัน แต่พูดแล้วไม่เข้าใจกันก็มีอยู่มากมาย ดังที่คุณ Chonchai007 โพสมา
2. ความแตกต่างด้านภูมิอากาศ นี่ก็มีผลเช่นเดียวกัน เช่น เป็นพระสวมจีวร หากไปเผยแผ่เมืองหนาวโดยไม่ปรับตัว ก็อยู่เมืองหนาวได้ยากมากๆ ทีเดียวเชียวครับ
3. ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม ก็มีผลไม่น้อย วัฒนธรรมการดื่มเบียร์แทนน้ำเปล่าของบางประเทศ ย่อมยากที่จะไปบอกเขาว่า เบียร์ไม่ดี เป็นต้น
4. ความแตกต่างๆ อีกมากมาย ฯลฯ

แต่ไม่ว่าจะแตกต่างอย่างไร วิธีการสร้างความเข้าใจวิธีหนึ่งที่ได้ผลมากๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงใช้ หมู่คณะเราก็นำไปใช้ นั่นคือ หาคนที่พวกเขาเหล่านั้นนับถือ แล้วทำความเข้าใจกับคนคนนั้นให้ได้ ต่อจากนั้น คนคนนั้นจะช่วยเราทำความเข้าใจให้คนที่เหลือเอง

เช่นเดียวกัน คุณเจ้าของกระทู้อาจจะมีเพื่อนที่เชื่อแตกต่างกันไป ก็ให้คุณลองมองดูว่า เพื่อนๆ เหล่านั้น นับถือใคร (โดยเราไม่ต้องไปพูดเอง) แล้วขอร้องให้คนที่เพื่อนนับถือ มาช่วยสร้างความเข้าใจกับเพื่อนๆ เหล่านั้น บางทีจะง่ายกว่าการที่เราจะไปพูดเองมากๆ เลยครับ

[Torres]

ขนาดศาสนาเดียวกันเองยังไม่เข้าใจกันเลย

เห็นด้วยเป็นที่สุด

[ณ ๐๗๒]

ในทวีป(4ทวีป) อื่น เขานับถือศาสนาอะไร

ในทวีปที่เหลืออีก ๓ ทวีป ทุกคนมีศีล ๕ เป็นปกติค่ะ และมีอายุยืนกว่า มนุษย์ปัจจุบันในชมภูทวีปหลายเท่า

ทำไมโลกถึงมีหลายศาสนา หลายศาสดา และในทวีป(4ทวีป) อื่น เขานับถือศาสนาอะไร
เทวดา พรหม วิทยาธร พญานาค อื่นๆ นับถือศาสนาอะไร

การที่นับถือศาสนาอื่น (ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ) ไม่ได้หมายความว่า เมื่อตายไป คนเหล่านั้นจะหลุดจาก นรก-สวรรค์ หลุดจากวิบากกรรม ที่ตนได้สร้างไว้ได้
ไม่ว่านับถือศาสนาใด ตายไปก็ต้องไปนรก-สวรรค์ กันทั้งนั้น ตามกำลังบุญ-บาป ที่ตนได้สร้างเอาไว้

คนธรรย์ วิทยาธร เขาไม่รู้จักกันเลยครับ

เป็นเรื่องปกติค่ะ ที่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งใจศึกษาพระพุทธศาสนา จะไม่รู้จัก ดิฉันเองก็เพิ่งจะรู้จัก เมื่อได้เจอหลวงพ่อ
ถ้าเล่าเรื่องธรรมะ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ คนฟังก็จะเห็นประโยชน์ และอาจลองนำไปปฏิบัติมากกว่าค่ะ

สำหรับดิฉัน การทำให้คนฟังเข้าใจว่า การรักษาศีลห้า สำคัญอย่างไร และถ้าผิดศีลห้า จะมีวิบากกรรมอย่างไร ถ้าทำให้เค้าเข้าใจได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้วค่ะ
การเล่าเรื่องวิบากกกรรม อาจกระตุ้นเตือนให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เห็นทุกข์ภัยของการผิดศีล และอยากจะรักษาศีล๕ มากขึ้น
ที่ผ่านมา การพูดถึงเรื่องวิบากกรรม ดูคนฟังจะเปิดใจฟังมากกว่าค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่มีผลต่อผู้ฟังและเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่า

ไปเล่าเรื่องที่นี่มีคำตอบให้ญาติฟัง แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่ให้ใหว้เทพเจ้า ไม่ให้ตั้งศาล ไม่ให้เชื่อฮวงจุ้ย

เมื่อไรที่คนเหล่านั้น มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกอันสูงสุด เมื่อนั้นเค้าก็จะเข้าใจว่า การไหว้เทพเจ้า ตั้งศาล ฮวงจุ้ย ไม่ได้เป็นเรื่องจำเป็น หรือเป็นสาระสำคัญสำหรับชีวิตอีกต่อไป และเค้าก็จะเลิกนับถือไปเองค่ะ

ยากนะครับการเผยแพร่ธรรมมะนี่

ใช่ค่ะ ไม่ได้ง่ายเลย ต้องใช้ความพยายาม ต้องใช้กำลังใจ และต้องมีความรู้ความเข้าใจด้วย เข้าใจทั้งคนที่เราจะไปเผยแผ่ และเข้าใจในสิ่งที่เราจะเผยแผ่ แต่ไม่ได้หมายความเราจะไม่สามารถทำได้นะคะ
และจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด คือเราต้องศึกษาให้ตัวเองเข้าใจก่อน ถ้าโดนคำถามมา เราก็ต้องกลับมาหาคำตอบ การที่เรายังตอบคำถามไม่ได้ แสดงว่ายังมีเรื่องที่เราไม่รู้ หรือยังเข้าใจไม่แจ่มแจังชัดเจน

และบุญในตัวของผู้ฟังก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้เข้าใจในธรรมะที่นำไปเล่าด้วยค่ะ หากผู้ฟังมีบุญมาก ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เค้าจะเข้าใจ

ในการเผยแผ่ธรรมะ บางครั้ง ผู้เผยแผ่ จึงชักชวนให้ผู้ฟังร่วมบุญต่างๆ ด้วย(เช่น ปัจจัย, กำลังกาย, รักษาศีล, นั่งสมาธิ) เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังบุญในตัวผู้ฟังด้วย บางครั้งการทำเพียงวิธีเดียว จึงอาจยังไม่ประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย ต้องใช้หลายๆ วิธี

ในความคิดดิฉัน การเผยแผ่ธรรมะ จึงเป็นศาสตร์ และศิลป์ อย่างหนึ่งค่ะ ที่คงจะสามารถเขียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติออกมาเป็นตำราได้เป็นเล่มๆ เลยที่เดียว ...น่าจะมีผู้มีบุญและมีปัญญารวบรวมไว้นะคะ

สุดท้าย แนะนำให้ลงเรียน DOU ค่ะ แล้วจะมีคำตอบ ให้กับหลายๆ คำถาม และจะรู้ว่า ยังมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกแยะเลยล่ะค่ะ

[ทัพพีในหม้อ]

ง่ายๆครับ เพราะมนุษย์ต้องการที่พึ่งครับ

จากการที่เราไม่เข้าใจในชีวิต ในสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว เราก็ต้องหาอะไรมาทดแทนคำตอบที่เคว้งคว้างให้กับชีวิต

กลางวัน พระอาทิตย์ให้แสงสว่างขับไล่ความกลัวจากการมองไม่เห็น ก็แสดงอาการดีใจที่มีพระอาทิตย์ นานเข้าก็เลยเถิดเป็นการบูชา

บางพวกเห็นว่า กลางคืน ถ้าไม่มีพระจันทร์โลกก็มืดมิด ก็แสดงอาการดีใจ จนเลยเถิดไปเป็นการบุชา

ไฟให้ความอบอุ่น ให้แสงสว่างเหมือนให้ชีวิต ก็บูชา

ไม่เข้าใจการตาย ไม่เข้าใจในเหตุแห่งการเจ็บ การแก่ การตาย ก็หวาดกลัวด้วยความไม่เข้าใจ ต้องมีอะไรไม่ดีแน่นอน ต้องทำพิธีปัดเป่าขับไล่

ฟ้าร้องฟ้าผ่า ก็หวาดกลัว ต้องมีใครสักคนโกรธอยู่แน่เลย ก็ต้องทำให้พอใจด้วยอาการต่างๆ

ฯลฯ

ไปๆ มาๆ ก็เลยอุปโลกให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีตัวตน เพื่อจะได้รับการบูชาได้ง่าย(อาจจะมีส่วนหนึ่งจากพวกมี "ปัญญา"(ในทางที่ไม่ถูก) เข้ามาช่วยผลักดัน ด้วยการสร้างความเชื่อ สร้างบุคคล สร้างรูปแบบลัทธิขึ้นมา เพื่อประโยชน์อย่างใด อย่างหนึ่งของตนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้)

ลัทธิเทวนิยมก็เลยเกิดขึ้นมานี่แหละครับ ในโลกนี้มีสารพัดลัทธิเทวนิยม ทั้งที่หายไปแล้ว และกำลังดำเนินอยู่ แต่สังเกตุง่ายๆ รูปแบบจะคล้ายๆกันหมดคือ มีผู้สูงสุดอยู่หนึ่ง(หรือหนึ่งกลุ่ม) แล้วก็จะมีผู้ที่รับหน้าที่ถ่ายทอดจากผู้สูงสุดอีกหนึ่ง จากนั้นก็จะเป็นเหล่าผู้ดำเนินการตามคำสั่งที่ถ่ายทอดมา จนมาถึงตัวเราผู้ปฏิบัติ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยมักจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้สูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าดีหรือไม่ดี ค่อนข้างจะไม่มีความกระจ่างในคำถามคำตอบ คิดอะไรไม่ออกบอกอะไรไม่ได้ก็อ้างเป็นเรื่องของผู้สูงสุด เราเป็นแค่มนุษย์ต๊อกต๋อยจะไปเข้าใจอะไรได้ จุ๊..จุ๊...เงียบแล้วทำไป

ไทยเรา เมื่อก่อนก็อยู่ในลัทธินับถือผีมาก่อน คำจำกัดความ "ผี" คือ อะไรก็ไม่รู้ที่ส่งผลทางใดทางหนึ่งแก่เรา ใครหัวอ่อนก็ทำพิธีเซ่นสรวง ใครหัวแข็งก็ทำพิธีขจัดปัดเป่า

ต่อมาผู้มีปัญญาก็เกิด รู้จักควบคุมตนเอง ให้มีความสามารถเหนือกว่าคนอื่น บ้างก็ปลีกวิเวกจนได้ปุถุชนธฤทธิ์ รู้บ้างเห็นบ้างเพียงเงาๆ ก็นำเอามารวมกับความรู้ความเข้าใจในขณะนั้น จนเป็นเจ้าลัทธิต่างๆมากมาย

และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งนี้ความรู้เหล่านี้ ผมอ่านมาจากหนังสือ "ศาสนาเปรียบเทียบ" เล่มหนาเท่าหมอน ใครสนใจต้นกำเนิดของศาสนาต่างๆ ลองไปหามาอ่านบ้างนะครับ มีอะไรให้เราอึ้งเยอะมากครับ

กราบอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ที่ท่านเมตตาให้หนังสือเล่มนี้กับผมมานะครับ แต่กว่าจะอ่านจบผมก็จำไม่ได้แล้วว่ารูปไหนที่ท่านให้หนังสือผมมา ต้องกราบขออภัยด้วยความเคารพอย่างสูงมา ณ ที่นี้ครับ

ส่วนเรื่องการไปโน้มน้าวให้ท่านอื่นมาเชื่ออย่างที่เราเชื่ออยู่ขณะนี้ ไม่ใช่ของง่ายๆหรอกครับ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่าหักหาญน้ำใจ

แล้วเรื่องนรกสวรรค์ ภพสามนั้นเป็นของกลางครับ ไม่ว่านับถือศาสนาใด ความเชื่อใดก็เป็นได้หมดครับ ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ นาค ครุฑ แยกกันอยู่ตามเขตแดนความเชื่อของแต่ละท่าน ไม่ค่อยปะปนไปมาหาสู่กัน เปรียบเหมือนอยู่กันคนละทวีปแบบนี้หล่ะครับ

ทั้งนี้เพราะ "กรรม" เป็นตัวกำหนดครับ ไม่ใช่ความเชื่อหรือศาสนาแต่อย่างใด อาจจะมีรูปกายที่แสดงให้เห็นแตกต่างกันไปบ้างตามความเชื่อดั้งเดิม แต่ก็คือสิ่งเดียวกันนั่นแหละครับ

มีแต่พระพุทธศาสนานี่แหละที่มีพระนิพพานเป็นที่สุด นอกเหนือจากลัทธิอื่นๆทั้งปวง

พักนี้ไม่รู้เป็นอะไรแฮะ ตอบแต่ละกระทู้ยาวๆทั้งนั้น สงสัยเก็บกด ไม่ค่อยจะมีใครคุยด้วยแหงๆเลย...เฮ้อ ชีวิต

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ

[สาหร่าย]

ทำไมโลกถึงมีหลายศาสนา หลายศาสดา

เพราะมนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รู้
เมื่อไม่รู้ ก็กลัว
เมื่อกลัวก็หาที่พึ่ง
เริ่มต้นก็พึ่งพา ภูเขา ป่าไม้ เจ้าป่าเจ้าเขา
ทวยเทพ
ต่อมาเจริญขึ้นก็รู้ว่าไม่ใช่
อย่างปัจจุบันบางคน
ก็ยังพึ่ง ต้นตะเคียน เสาตกน้ำมัน
หมูสามขา
หมาสองหัว เป็นต้น
คนเราก็แสวงหาที่พึ่ง
คนที่มีปัญญาก็คิดค้นคำสอน
มีคนเชื่อตามก็เกิดเป็นศาสนา
เห็นต่างก็เกิดเป็นหลายศาสนา
แต่ศาสนาใดเล่าที่มีคำสอนที่ประเสริฐ ที่เลิศ ที่เป็นที่พึง ที่ระลึกอันสูงสุดแท้จริงได้

[สาหร่าย]

ในทวีป(4ทวีป) อื่น เขานับถือศาสนาอะไร

เท่าที่ทราบคือ เขามีศีล 5 เป็นปกติ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราท่านเลือก
ลงมาเกิดสร้างบารมีที่ชมพูทวีป

[ping]

ตอบกันได้ดีเยี่ยมกันทุกๆคนเลย สาธุ...

ที่หมู่ญาติไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดอธิบาย ก็เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะขนาดคนเข้าวัดมานานแล้วบางท่านก็ยังเข้าใจได้ไม่มาก เนื่องจากไม่ค่อยยอมจะศึกษาเพิ่มเติม หรือบางท่านก็ปิดใจไปซะก่อนด้วยมีทิฏฐิมานะ คนประเภทนี้เขาเรียกกันว่า "บัวพลาสติก" จัดเป็นบัวประเภทที่ 5 คือไม่ตายและก็ไม่โต ได้อีกต่อไป

[Dd2683]

อนุโมทนา การสนทธรรม ด้วยครับ

เพราะ อวิชชา จึง ..........

เชิญชวนให้บุคคลในทิศ ๖ มาศึกษาธรรม

ที่วัดพระธรรมกาย , ผ่าน www.dmc.tv ที่มีธรรมะผ่านสื่อมากมายทั้ง eBooks ,multi-media,

ชม DMC Channel หรือเรียน DOU บ้างสิครับ

มีเรื่องราวที่กล่าวถึง ให้ศึกษามากพอสมควร

[ดินสอแห่งธรรม]

...พุทธศาสนา เกิดขึ้นจากบุคคลเพียงคนเดียว นั่นคือพระพุทธองค์ กว่าพระองค์จะพูดให้คนเข้าใจ เริ่มแรก ฟังธรรม 5 ปัณจวัคคี ยังได้มาแค่ 1 ท่านก็เผยแผ่พระศาสน์เพียงพระองค์เดียวเป็นการเริ่มต้น จนในที่สุดโลกทั้งโลกจึงได้ยินได้รู้จักคำว่า พระพุทธศาสนา จนเป็นที่สำเร็จได้ ดังนั้นเรามีกันตั้งหลายคน เราควรทำให้มากกว่าจริงไม๊จ๊ะ? หุหุ

[ธาตุล้วนธรรมล้วน]

ทำไมโลกถึงมีหลายศาสนา หลายศาสดา

แนะนำให้อ่านหนังสือ

ศาสนศึกษาของ DOU โดยเฉพาะกำเนิดศาสนาและวิวัฒนาการทางศาสนา

หนังสือศาสนาเปรียบเทียบ

และทิฏฐิ 62 ในพรหมชาลสูตร ซึ่งรวมแนวความคิดความเชื่อไว้ครอบคลุมทั่วโลกแล้วครับ

เสริมด้วยหนังสือวิชชาปรัชญา จะช่วยให้เราเข้าใจความคิดของมนุษย์บนโลกนี้ได้ครับ
............

ศาสนาพุทธเป็นวิวัฒนาการอย่างสูงสุดของความรู้ความจริงและศาสนา

ศาสนาพุทธรวมเอาทั้งเหตุผลปรัชญาและศาสนา เข้ารวมกันเป็นศาสนาพุทธ ซึ่งจะแตกต่างจากศาสนาอื่นๆหลายๆศาสนา

ศาสนาพุทธเกิดจากเหตุที่ต้องการพ้นทุกข์ และค้นพบความดับทุกข์เป็นบรมสุขที่แท้จริง

มิใช่แบบศาสนาอื่นๆส่วนใหญ่โดยเฉพาะบรรดาศาสนาเทวนิยมที่เน้นแต่ศรัทธาแบบไม่ลืมหูลืมตา แยกศรัทธาออกจากศาสตร์อื่นๆ
............

และในทวีป(4ทวีป) อื่น เขานับถือศาสนาอะไร

เทวดา พรหม วิทยาธร พญานาค อื่นๆ นับถือศาสนาอะไร

ศาสนาพุทธค้นพบว่า...ตามธรรมชาติของเขา(ทวีปอื่นๆ, เทวดา, พรหม) มีศีล 5 บริสุทธิ์ครับ

ส่วนเรื่องศาสนา เขาก็นับถือไปตามเหตุปัจจัยของเขานั่นแหละครับ แต่พุทธเราก็เป็นวิวัฒนาการอย่างสูงสุดของความรู้ความจริงและศาสนาแล้ว ไม่ว่าเขาจะนับถือศาสนาใดๆ หากเป็นความจริงสูงสุด ก็เรียกได้ว่าเข้าได้กับ พระพุทธศาสนา
...........

ไปเล่าเรื่องที่นี่มีคำตอบให้ญาติฟัง แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมไม่ให้ใหว้เทพเจ้า ไม่ให้ตั้งศาล ไม่ให้เชื่อฮวงจุ้ย

คนธรรย์ วิทยาธร เขาไม่รู้จักกันเลยครับ ยากนะครับการเผยแพร่ธรรมมะนี่ คนไม่เข้าใจ คนไม่เชื่อ คนไกนด้วยก็มี กำลังใจในการเผยแพร่บางก็ลดลงนะว่าถ้าเป้นแบบนี้เราหยุด ให้คนอื่นทำไปกันดีกว่าไหม อืม...ครับ

ใจเย็นๆครับ ค่อยๆสอน ถ้าเขาไม่ได้งมงายมากจนสร้างเวรสร้างกรรมเวร ก็ปล่อยๆเขาไป อย่าไปขัด แล้วถ้าเขานับถือพุทธด้วยก็ดีแล้ว
ถ้าเขาไม่เป็นพุทธร้อยเปอร์เซนต์ แต่ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว อย่าไปขัดเขามากไป

สำหรับทางพุทธก็ไม่ได้บอกว่าบาป เพียงแค่บอกว่ามิใช่ที่พึ่งที่แท้จริงไม่ยั่งยืน และอาจจะเป็นเหตุให้เป็นมิจฉาทิฏฐิได้บ้างก็เท่านั้นเอง

ทางพุทธก็สามารถน้อมเอาคุณธรรมเทวดามาเป็นเทวตานุสสติได้นะครับ ค่อยๆสอนครับ ฮวงจุ้ยที่เป็นเรื่องตามหลักเหตุผลก็มีอยู่นะครับ ค่อยๆปรับกันไป

ส่วนลูกหลานเรา ในยุคของเราก็สอนให้เป็นสัมมาทิฏฐิเต็มร้อยไปเลยครับ
...........

พระพุทธเจ้าสอนความรู้ความจริงนำหน้า มิได้สอนให้เชื่อนำหน้า

ศาสนาอื่นๆโดยมาก เอาความเชื่อออกหน้า ก็เลยขัดกัน แย้งกัน เป็นเหตุให้ทะเลาะกัน หนักไปจนถึง ฆ่ากัน
..........

หากเราสอน พูด แสดง ปฏิบัติ หรือเผยแผ่ ให้คนฟังร้อง อ๋อ ได้ หรือให้เขาคลายทุกข์ได้ ก็แสดงว่า เราสามารถกระชับพื้นที่หัวใจเขาได้แล้วครับ

[ธาตุล้วนธรรมล้วน]

บางท่านก็ปิดใจไปซะก่อนด้วยมีทิฏฐิมานะ คนประเภทนี้เขาเรียกกันว่า "บัวพลาสติก" จัดเป็นบัวประเภทที่ 5 คือไม่ตายและก็ไม่โต ได้อีกต่อไป

55555

ขอก๊อปปี๊นะครับหลวงพี่พระอาจารย์ที่เคารพครับ

[ธาตุล้วนธรรมล้วน]

ง่ายๆครับ เพราะมนุษย์ต้องการที่พึ่งครับ

นี้แหละครับคือสัญชาตญานของสิ่งมีชีวิต
...................

สำหรับศาสนาพุทธพิเศษขึ้นไปอีก มิใช่เป็นแค่ที่พึ่งทางใจนะครับ เราเผยแผ่ลักษณะพิเศษนี้ได้เลยครับ

นั่นคือ เป็นศาสนาที่พัฒนา กาย วาจา ใจ ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อไปสู่ความเป็นอริยะ หรือเป็น พุทธะ, อนุพุทธะ
..................

ไม่ว่าเราจะเริ่มพูดด้วยศาสตร์ใดๆบนโลกใบนี้ ก็มีปรากฎในพระธรรมวินัยทั้งนั้น หรือสามารถเชื่อมโยงกันได้ เป็นอีกหนึ่งคุณลักษณะพิเศษของศาสนาพุทธครับ

ดังนั้นบางทีเราพูดเรื่องอื่นๆ ไปๆมาๆเราก็หาเรื่องดึงเข้าหาธรรมะได้เลย
.................
แต่ศาสนาอื่นๆโดยมากทำไม่ได้ ยิ่งศาสนาสายเทวนิยม เน้นแต่เชื่อนำหน้าเน้นแต่ที่พึ่งของจิตใจเท่านั้นเอง

[ณ ๐๗๒]

เห็นด้วยค่ะ ถูกใจ "บัวพลาสติก" เช่นกัน

[Nee-Sansanee 2]

คุณcheterkk ตั้งกระทู้นี้สุดยอดรื่นเริงบันเทิงธรรมเสวนากันไปทั่ว

เห็นรอยยิ้ม ๆ กันทั่วหน้า ถ้าไม่มาจอยก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง

และติดยอดฮิตไปทันทีทันใดในคำว่า "บัวพลาสติก" บัวประเภทที่ 5 บัวที่ไม่โตแต่ก็ไม่ตาย จาก พอจ.

ทำให้นึกถึงหลวงปู่คำว่า "ไอ้ขี้ไต้".............

...........

ว่าไปแล้วนานาจิตตัง นี่แหละคำตอบที่ว่าทำไมกัลยาณมิตรจึงเป็นทั้งหมดของการประพฤติพรหมจรรย์เพื่อให้เข้าถึงธรรม

เราต่างติดคุกโดยรู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี คุกในไตรภพสลับซับซ้อนซ่อนไว้ด้วยหลายหลากวิธีการ นานจนลืมความเป็นจริงของ

ชีวิตที่แท้จริง ต้องบอกว่า มารมันแน่มาก พญามารเขาควบคุมไว้ให้ตกเป็นทาสเขา มนุษย์ตกอยู่ใน กทมขอ(กิเลสมาร เทวบุตรมาร

มัจจุราชมาร สังขารมาร และ อภิสังขารมาร) พวกเรามีบุญมากจริง ๆ ที่ได้ยินได้ฟังพระธรรมคำสอนและโดย

เฉพาะอย่างยิ่งวิชชาธรรมกาย

...................................เมื่อรู้เช่นนี้แล้วขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นบุคคลประเภท "บัวพลาสติก" หรือ"ไอ้ขี้ไต้" เลย

ขอให้ได้ศึกษาธรรมะ(ปริยัติ)ได้ง่าย ได้สะดวก และเมื่อลงมือประพฤติ(ปฎิบัติ)ก็ขอให้เข้าถึงธรรมบรรลุธรรมได้ง่ายได้สะดวก

ไปตามลำดับ ได้รู้รสพระธรรม(ปฎิเวธ)ได้รู้แจ้งเห็นจริงไปตามลำดับ ไปทุกภพทุกชาติตราบถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ

[usr37097]

เคยได้ยินมีคนบ่นๆให้ฟังว่า

ทำสมาธิ ทำยาก

ถึงนึก ดวงแก้ว องค์พระ นิ่งอย่างเดียว ไม่ได้

เดี๋ยวเปลี่ยน เป็นองค์พระ ฯลฯ เดี๋ยวเปลี่ยน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วางใจนิ่งๆ ยากๆๆๆ มันอึดอัด มันเกร็ง มันง่วง มันหลับ

"ไม่เห็นสักกะที" "สงสัยธรรมมะ เป็นของเก๊ซะแล้ว" "ความสุขจากสมาธิ คงเหลวไหลซะแล้ว"

ไปนับถือ ศาสนาอิส...ดีกว่า "มีเมียที ได้ตั้ง4คน มีความสุขแบบเห็นๆ สัมผัสได้ด้วย"
________________________________________________________

"สงสัย พวกไปนับถือศาสนาอื่น ต้นเหตุก็อาจเป็นแบบนี้มั้ง?"

"ส่วนแฟนพันธุ์แท้ ชาวพุทธ" ก็สู้ต่อโว้ย!!!!!!!! "ไม่ได้ตายซะ"

[WISH]

เยี่ยมมากทั้งผู้ถามผู้ตอบกระทู้นี้

[ณ ๐๗๒]

ทำไมโลกมีหลายศาสนา...คงสาเหตุเดียวกันกับ
ทำไมโลกมีหลายภาษา เชิญติดตามได้ในลิงค์ด้านล่าง
http://www.dmc.tv/pa...amma/...Dบ.html