ไปที่เนื้อหา


~ รั ก บุ ญ ~

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 24 Feb 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Mar 24 2009 08:40 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: "เป็นอะไรกันล่ะ จึงมานั่งร้องไห้"

25 October 2008 - 04:43 PM

ส พฺ พ ท า นํ ธ มฺ ม ท า นํ ชิ น า ติ

_/|\_ _/|\_ _/|\_

ส า ธุ

อ นุ โ ม ท น า ค รั บ

* * * * * * * * * * * *

ในกระทู้: "เพราะวิบากกรรมหรือ"

03 October 2008 - 11:06 PM

แนบไฟล์  ann35.gif   1.03K   83 ดาวน์โหลด +~กมฺ มุนา วตฺตตี โลโก
ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ
แนบไฟล์  ann35.gif   1.03K   83 ดาวน์โหลด

พ ร ะ พุ ท ธ อ ง ค์ ต รั ส ส อ น ไ ว้ ว่ า
"สั ต ว์ โ ล ก ย่ อ ม เ ป็ น ไ ป ต า ม ก ร ร ม
บุ ค ค ล ห ว่ า น พื ช เ ช่ น ไ ร
ย่ อ ม ไ ด้ รั บ ผ ล เ ช่ น นั้ น . . . ข้ อ นี้ เ ป็ น สั จ ธ ร ร ม"~+



*ดูกรภิกษุทั้งหลาย
"สัตว์ทั้งหลาย
เป็นผู้มีกรรมเป็นของตน
เป็นผู้รับผลของกรรม
เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
เป็นผู้มีกรรมเป็นพวกพ้อง

เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ทำกรรมอันใดไว้ เป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผล ของกรรมนั้นๆ
"แนบไฟล์  anibfly9.gif   9.74K   85 ดาวน์โหลด

----------------------------------
*
พระไตรปิฎกเล่มที่ 24 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 16
อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ปัญจมปัณณาสก์ ปฐมวรรค
ธรรมปริยายสูตร


happy.gif happy.gif happy.gif

_/|\__/|\__/|\_

สาธุครับ เตือนสติได้ดีเลยทีเดียว


* * * * * * * * * * * * * * *

ในกระทู้: พญามาร

01 October 2008 - 02:42 PM

~* ใ บ ไม้ ใน กำ มือ *~
แนบไฟล์  65.JPG   10.48K   97 ดาวน์โหลด

_/|\__/|\__/|\_
~*สมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่
ณ ป่าไม้ประดู่ลาย เขตเมืองโกสัมพี
ครั้งนั้น พระพุทธองค์ทรงใช้ฝ่าพระหัตถ์
ถือเอาใบประดู่ลาย แล้วทรงตรัสถาม
พระภิกษุทั้งหลายว่า
ใบประดู่ลายใน
ฝ่าพระหัตถ์กับที่อยู่บนต้น อย่างไหนมีมาก
กว่ากัน พระภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลว่า
ใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้นมีมากกว่า*~

*>>พระพุทธองค์ทรงตรัสอธิบายว่า
ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงหยั่งทราบ
ด้วยพระปัญญาอันยิ่งนั้น มีมากกว่า
ธรรมที่พระองค์ทรงประกาศ เปรียบดัง
ใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้น มีมากกว่า
ในฝ่าพระหัตถ์<<*

+*~แล้วพระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุผลว่า
เพราะเหตุใดจึงไม่ทรงแสดงธรรม
ทั้งหลายเหล่านั้นซึ่งเปรียบดังใบประดู่
ลายบนต้นนั่น
ก็เพราะธรรมเหล่านั้น
ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์ ไม่เป็นำ
ไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลาย
กำหนัด ความดับทุกข์ ความสงบ ระงับ
ความรู้ยิ่ง การตรัสรู้ และพระนิพพาน-*~


happy.gif happy.gif happy.gif

* * * * * * * * * * * * *


ในกระทู้: **ขณะนี้มีคนสำเร็จเป็น พระอรหันต์ และ โสดาบัน**

28 September 2008 - 08:54 PM

QUOTE
ผมได้ยินและได้ฟัง มาจากกลุ่มลูกศิษย์บ้าง แม้กระทั้งตัวท่านเองที่บอกว่า ตัวเองหมดสิ้น อาสวะกิเลสแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ไม่มาเกิดใหม่แล้ว แต่พอไปดูการกระทำแล้ว ทำไมถึงขัดกันยังไงไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด ที่ยังมีการเสียดสี และ อื่นๆ

ขอถามหน่อยครับ

ถ้าจะดูด้วย ฌาน หรือ ความสามารถพิเศษ ละก็ผมหมดปัญญาครับ

ถ้าจะสังเกตภายนอก พอจะบอกได้ใหม ว่าต้องดูยังไง ที่พอจะบอกได้ว่า

ท่านผู้นี้ มีโอกาส สำเร็จ เป็นพระอรหันต์ หรือ พระโสดาบัน ช่วยแนะนำให้หน่อยครับ

ตอบ ในความคิดข้าพเจ้า การที่เรามีภูมิธรรมระดับปุถชนคนธรรมดา ก็เป็นการยากที่จะรู้ว่าใครมีภูมิธรรมถึงไหนแล้ว หากจะเปรียบอย่างเข้าใจง่ายก็เปรียบเหมือน เราเป็นนักเรียนประถมมีความรู้นิดหน่อย จะไปลองภูมิความรู้ ความสามารถ ของคุณครูระดับปริญญานั้น ก็คงจะเป็นไปได้ยาก หากจะสอบถามความรู้ความสามารถของครู ก็คงจะถามได้แต่เพียงความรู้ระดับประถมที่เรารู้เท่านั้น แต่ ถ้าหากครูท่านต้องการจะทดสอบความสามารถของเรา ก็คงจะไม่เป็นการยากที่จะรู้ว่าเรามีความรู้ระดับไหน ในทางธรรมก็เหมือนกันเป็นการยากที่เรามีภูมิธรรมระดับต้นๆ แล้วจะสามารถรู้ว่าใครภูมิธรรมเหนือกว่าเรานั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่จะรู้ได้สำหรับคนที่ระดับเดียว หรือต่ำกว่าเรา บางคนภายนอกดี แต่ ภายในไม่ใช่อย่างนั้น บางคนภายนอกดูไม่ดี แต่ว่า ภายในกลับดี ก็เป็นได้ ดั่งเช่น กรณีของพระสงฆ์สองรูปในสมัยพุทธกาล รูปหนึ่งสงบเสงี่ยมจนชาวบ้านนึกว่าบรรลุพระอรหันต์แล้วแต่ความจริงยังไม่บรรลุ แต่อีกรูปไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร ชาวบ้านจึงพากันเข้าใจว่ายังไม่บรรลุพระอรหันต์ แต่ความจริงท่านได้บรรลุแล้วเพราะฉะ นั้นการที่เราจะพอสามารถรู้ว่าใครมีโอกาสบรรลุธรรมขั้นสูงๆนั้น จะดูแต่เพียงผิวเผินไม่ได้แต่ ต้องคลุกคลีอยู่ร่วมด้วยกับคนเหล่านั้นเป็นเวลานาน แล้วสังเกตุดูซึ่งอุปนิสัยตลอดถึงวัตร การปฏิบัติต่าง ๆของบุคคลนั้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่แน่นอน ซึ่งถ้าหากจะให้แน่นอนนั้น เราก็ต้องบรรลุธรรมเท่ากับหรือสูงกว่าบุคคลนั้น ผู้ซึ่งเราต้องการรู้ภูมิธรรมเสียก่อน และสุดท้ายนี้ขอฝากบทสนทนาระหว่าง หลวงปู่ชา สุภัทโทกับอุบาสกคนหนึ่ง เพื่อเป็นข้อคิดเล็กน้อยให้กับผู้ที่สนใจ
QUOTE
ครั้งหนึ่ง มีอุบาสกคนหนึ่ง พำนักและปฎิบัติกรรมฐานอยู่ในวัดหนองป่าพง เขาเกิดเห็นแสงสว่าง และ ความรู้สึกปีติ ในสมาธิอย่างยิ่ง กระทั่ง เข้าใจผิดคิดไปเองว่า บรรลุถึงขั้น อนาคามี แล้ว(ลำดับของการพัฒนาจิต
1.โสดาบัน 2.สกิทาคามี 3.อนาคามี 4.อรหันต์) ด้วยความดีใจแบบสุดๆ จึงรีบเข้าไปหา หลวงปู่ชา
เล่าอาการให้ท่านฟัง แล้วถามท่านว่า

อุบาสก: หลวงพ่อครับ อาการนี้ดีมากเลยครับ ผมคงบรรลุขั้น อนาคามี แล้วใช่ไหมครับ หลวงพ่อ?
หลวงพ่อ: อ๋อ….อนาคามี เหรอ…………มันก็ดีกว่าหมาขี้เรื้อนหน่อยเดียว แค่นั้นแหละ!!!
อุบาสก: (โกรธ) ทำไมท่านพูดแบบนี้ล่ะครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ไปล่ะครับ !
เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของพระลูกวัด จึงถามหลวงพ่อชา หลังจากที่ชายคนนั้นจากไปแล้ว
พระลูกวัด: หลวงพ่อทำไมพูดกับเขาแรงแบบนี้ครับ
หลวงพ่อ: พระอนาคามี ที่ไหนโกรธง่ายขนาดนี้ล่ะ เจ้าว่าจริงไหม

_/|\__/|\__/|\_
ส า ธุ กั บ คำ ถ า ม ที่ ใ ห้ ค ว า ม รู้ ค รั บ
happy.gif happy.gif happy.gif


* * * * * * * * * * * * * * *





ในกระทู้: หลักการตอบคำถาม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๔ ประการ

12 August 2008 - 05:51 PM

สั จ จ ธ ร ร ม แ ม้ ก า ร เ ว ล า จ ะ ผ่ า น ไ ป สั ก เ ท่ า ไ ร

ค ว า ม จ ริ ง ข อ ง สั จ ธ ร ร ม นั้ น ก็ ยั ง ดำ ร ง อ ยู่ เ ส ม อ

มิ ไ ด้ เ ลื่ อ น ห า ย ไ ป กั บ ก า ร เ ว ล า เ ล ย

_/|\_ _/|\_ _/|\_

สาธุ สาธุ สาธุ

* * * * * * * * * * *