มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ธัมโม]

ชุมพรตื่นพบ รอยฝ่าพระหัตถ์ พระพุทธเจ้า บนเกาะง่ามใหญ่ นักท่องเที่ยวแห่ชมความงาม





นายอำนวย บัวเขียว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า “ได้พบเห็นปรากฏการณ์จากธรรมชาติ ที่แปลกประหลาด มหัศจรรย์ เหลือเชื่อในท้องทะเล อ่าวชุมพร นั่นคือ “รอยฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า” ที่ประทับลงบนหินก้อนมหึมาบนยอดเกาะ ใจกลางทะเลลึก ท่ามกลางความตื่นเต้นของนักท่องเที่ยวที่พบเห็นหินก้อนดังกล่าวด้วยตาของตนเอง ในขณะที่ชาวประมงทะเลในย่านดังกล่าว อ้างถึงความมหัศจรรย์ที่มีมานาน แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยรวมถึงความเป็นศิริมงคลและป้องกันภัยธรรมชาติทางทะเล อย่างไม่น่าเชื่อ”

นายอำนวย บัวเขียว นายก อบจ.ชุมพร ให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ว่า “จากการที่ อบจ.ชุมพร ร่วมกับ จังหวัดชุมพร และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.ชุมพร ร่วมกันจัดเทศกาล”โลกทะเลชุมพร 52” โดยในปีนี้ ได้เน้นการเดินทางท่องเที่ยวในทะเลมากกว่าปีที่ผ่านๆมา ในขณะที่กำลังเตรียมงานอยู่ ได้ มีบรรดาชาวประมงทะเลทราบข่าว ว่า ทางราชการมีโครงการนำนักท่องเที่ยว ออกท่องเที่ยวทะเลชุมพร ในชื่อโครงการ “นายก อบจ.ชุมพร พาเที่ยว” ได้มีนายบรรจบ สงัดดี อายุ 40 ปี อาชีพ ชาวประมงทะเล ตั้งถิ่นฐานใน อ.เมือง จ.ชุมพร ได้เดินทางมาพบ และ เล่าให้ฟัง ถึงความมหัศจรรย์ ของ ธรรมชาติที่พบเห็นมานาน ชั่วตายายใน ท้องทะเลชุมพรว่า ในเส้นทางที่ นายก อบจ.ชุมพร จะพาเที่ยวในทะเลนั้น ที่บริเวณเกาะง่ามใหญ่ และ ง่ามน้อย มีสิ่งมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติเกิดขึ้นมานาน ชาวประมงทะเลชุมพร ขนานนามว่า “รอยฝ่าพระหัตถ์พระพุทธเจ้า” และให้ความนับถือมาก โดยมีความเชื่อว่า สามารถคุ้มครองให้ชาวประมงทะเลรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติทางทะเล ในคราว พายุเกย์ พายุซีตาร์ พายุ ลินดา ที่ พัดขึ้นฝั่งใน จ.ชุมพร เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ชาวประมงที่พบเห็นเหตุการณ์ ดังกล่าวและ อยู่ใน จุด”รอยฝ่าพระหัตถ์พระพุทธเจ้า” ต่างเล่าให้ฟังว่า เมื่อพายุ ขนาดใหญ่เคลื่อนมาถึง จุดที่ มีหิน ฝ่าพระหัตถ์พระพุทธเจ้า” พายุขนาดใหญ่ก็ สลายตัวลดลงกลายเป็นพายุขนาดเล็ก ลง ซึ่งชาวประมงจำนวนมากพบเห็นเหตุการณ์ ด้วยตาตนเอง และ ต่อมาในจุดดังกล่าวได้กลายเป็นจุดที่หลบพายุกลางทะเลในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่เรื่องดังกล่าว เป็นที่รับรู้ในหมู่ชาวประมงเท่านั้น อีกทั้งจุดดังกล่าว เป็นพื้นที่กลางทะเลลึก ที่แทบไม่พบผู้คนผ่านไปมามากนัก ต่อเมื่อทราบข่าวว่า นายก อบจ.ชุมพรจะเดืนทางไปท่องเที่ยวในจุดดังกล่าว จึงนำเรื่องนี้มาบอก เพื่อ ให้ คณะของนายก อบจ.ชุมพร และ สื่อมวลชน ไปเห็น ด้วยตาของตนเอง “

ต่อมา คณะของ นายก อบจ.ชุมพร เดินทางด้วยเรือ “คาบาน่า MV1” ไปยังจุดที่พบ ความมหัศจรรย์ ดังกล่าว พบว่า จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่งชุมพร ประมาณ 10 ไมล์ทะเล เป็นเกาะหินขนาดใหญ่ แยกเป็นเกาะแก่งรายรอบอีก 2-3 เกาะ เมื่อตระเวณดูรอบเกาะ พบว่า ด้านหลังเกาะที่หันหลังให้กับเมืองชุมพร พบว่า ที่ปลายยอดของเกาะดังกล่าว มีหินก้อนมหึมา สูงประมาณ ตึก 20 ชั้น ร่วม 100 เมตร กว้างประมาณ 60 เมตร มีสีเหลืองอร่ามทั้งก้อน ปลายของหินขนาดใหญ่ มีรอยแยกคล้ายนิ้วมือ มีสีดำคั่นระหว่าง นิ้วจำนวน 4 นิ้ว ส่วนที่ด้านล่าง มีหินงอกออกมา คล้าย นิ้วโป้ง เป็นที่น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก เมื่อดูอย่างพิจารณา จะพบว่า หินก้อนดังหล่าว คล้ายกับ หินแผ่นเรียบ แล้ว มีรอยฝ่ามือประทับลงไป ทำให้เกิดรอยฝ่ามือขึ้น มา เป็นลักษณะเดียวกับ ฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า ในปางห้ามญาติ ยิ่งเมื่อมองจากระยะไกล ก็ ยิ่งมองเห็นความชัดเจนของ รอยฝ่าพระหัตถ์มากยิ่งขึ้น

นายอำนวย บัวเขียว กล่าวต่อไปว่า “สิ่งที่พบเห็นด้วยสายตาตนเองนั้น แทบไม่น่าเชื่อว่า จะมีอยู่ใน จ.ชุมพร ถ้าไม่นับถึงความเชื่อของชาวบ้าน ก็ นับได้ว่า ก้อนหินดังกล่าว เป็นประติมากรรม ที่ธรรมชาติ สร้างขึ้นมา อย่างสวยงามที่สุด เท่าที่ เคยเห็นประติมากรรม ของหินประเภทต่างๆมา ใครไม่พบเห็นด้วยตาตนเอง จะไม่สามารถจินตนาการ ถึงความสวยงามได้ เพียงแต่ จุดที่พบเห็นนั้น ชาวประมงทะเล บอกว่า เป็นพื้นที่ ที่ ชาวประมงทะเล จะหวงแหนมาก ไม่ค่อยยอมให้ เรือนักท่องเที่ยวย่างกรายเข้าไป เนื่องจาก เป็นจุดที่เป็นที่งอกของปะการังน้ำตื้นที่สวยงามมาก จุดหนึ่ง ถ้ามีเรือท่องเที่ยวผ่านไปมามากเกินไป อาจทำให้ธรรมชาติ ในจุดดังกล่าว เสียหายได้ จึงต้องขอร้องนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางไป ดู ในจุดดังกล่าวว่า ให้ ติดต่อ กับ ทางราชการ หรือ สมาคมด้านทางการท่องเที่ยวของ จ.ชุมพรจะดีที่สุด เนื่องจาก มีความชำนาญในการเดินเรือ และ จอดเรือ ที่จะไม่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ ได้ “

นอกจากนั้น นายอำนวยยังเชิญชวนให้ นักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยายกาศทะเลให้เดินทางไปเที่ยวชุมพร ในช่วง”เทศกาลโลกทะเลชุมพร” ในเดือน มีค. ถึง เดือน เมย. นี้ เพื่อชมความมหัศจรรย์ และ ความสวยงาม ของ โลกทะเล ชุมพรดังกล่าว ด้วย


http://www.innnews.c....php?nid=164366

[WISH]

ประติมากรรมทางธรรมชาตินั้นล้วนมีเสน่ห์ในตัว...ชนรุ่นก่อนให้คุณค่า เกิดความภาคภูมิใจต่อถิ่นที่อยู่อาศัย ย่อมบังเกิดจินตนาการและตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา...จรรโลงไว้เพื่อการอนุรักษ์...ขาดเพียงแต่การบันทึกที่มาเท่านั้น...เมื่อนำประโยชน์ของตำนานมาประชาสัมพันธ์โดยผู้บริหารองค์กรรัฐฯ...ย่อมส่งผลในเรื่องการท่องเที่ยวมากขึ้น เมื่อเทียบกับความรู้สึกในเรื่องธรรมจาริก

เราทราบเรื่องลักษณะมหาบุรุษมาบ้างแล้ว...และยังทราบว่าพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว เส้นพระเกศา รวมถึงรอยพระพุทธบาทนั้น ล้วนเป็นพยานแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่คงไว้จนถึงปัจจุบัน...ไม่เคยได้ทราบว่ามีรอยพระหัตถ์ ปรากฎ ณ ที่แห่งใดเลย....ลองใช้โยนิโสมนสิการพิจารณาดูครับ...อย่างไรก็ตามตำนานก็คือตำนาน...ประโยชน์ที่ได้ก็มีหากทำให้เราสามารถตรึกระลึกนึกถึงคุณอันไม่มีประมาณของพระบรมศาสดามาเป็นพุทธานุสติ...ก็ย่อมเกิดบุญจากภาวนามัย

ทัศนะส่วนตัว ที่เคยสัมผัสโลกใต้ทะเลชุมพร...ส่วนใหญ่เกาะบริเวณนั้น จะมีเกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย หินแพ และ หินหลักง่าม...เป็นจุดแวะสัมผัสโลกใต้ทะเล...จากเกาะเต่ามาสิ้นสุดทริปที่ปากน้ำชุมพร หรือ หากเดินทางมากับเรือ คาบาน่า MV1 ก็จะไปขึ้นฝั่งที่รีสอร์ทชุมพรคาบาน่า...ซึ่งเกาะในบริเวณนี้ได้รับการทำสัมปทานรังนกครับ นักดำน้ำจึงไม่กล้าขึ้นไปพักบนเกาะ เพราะมีคนถืออาวุธเฝ้าดูอยู่...ไม่ใช่เพราะชาวประมงหวงแหน....หากแต่สิ่งที่นักดำน้ำปรารถนาจะพบ คือ ปลาฉลามวาฬ(Whaleshark)(ดังในภาพ) ซึ่งเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะบริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านของปลานี้ ความงามของปะการังแถบนี้เทียบอันดามันแล้วดูจะเป็นรองนะครับ ฤดูกาลทัศนาก็ช่วงเมษาถึงตุลาคมครับ

ไฟล์แนบ

•  IMG_0830.jpg   32.95K   69 ดาวน์โหลด

[koonpatt]

รอยฝ่าพระหัตถ์ที่วัดดอยถ้ำ จ.ลำพูน



รอยฝ่าพระหัตถ์ ที่วัดเมืองกื้ด ต.แม่แตง จ.เชียงใหม่

http://board.palungj...mp;d=1168709907


รอยพระหัตถ์ ที่ถ้ำจั๊กต่อ ต.หมอกจำแป๊ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน


สิ่งที่เรายังไม่รู้ และ ยังไม่เคยเห็น koonpatt คิดว่า ไม่ได้แปลว่าไม่มีนะคะ

[koonpatt]

...เราทราบเรื่องลักษณะมหาบุรุษมาบ้างแล้ว...และยังทราบว่าพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว เส้นพระเกศา รวมถึงรอยพระพุทธบาทนั้น ล้วนเป็นพยานแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่คงไว้จนถึงปัจจุบัน...ไม่เคยได้ทราบว่ามีรอยพระหัตถ์ ปรากฎ ณ ที่แห่งใดเลย....ลองใช้โยนิโสมนสิการพิจารณาดูครับ...อย่างไรก็ตาม ตำนาน ก็คือตำนาน...ประโยชน์ที่ได้ก็มีหากทำให้เราสามารถตรึกระลึกนึกถึงคุณอันไม่มีประมาณของพระบรมศาสดามาเป็นพุทธานุสติ...ก็ย่อมเกิดบุญจากภาวนามัย


ไม่ค่อยได้ยินใครใช้คำว่า....ลองใช้โยนิโสมนสิการพิจารณาดูครับ...

แล้วก็เลยนึกสงสัยค่ะ ว่า......ต้องขนาดไหนหนอ...ถึงจะเรียกว่า...โยนิโสมนสิการ

ก็เลยได้ความหมายมาดังนี้ค่ะ

ความหมาย จาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ โดยท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต)

โยนิโส โดยแยบคาย,โดยถ่องแท้, โดยวิธีที่ถูกต้อง, ตั้งแต่ต้นตลอดสาย, โดยตลอด

มนสิการ (อ่านว่า มะ-นะ-สิ-กาน) การทำในใจ,ใส่ใจ, พิจารณา

โยนิโสมนสิการ

การทำในใจโดยแยบคาย, กระทำไว้ในใจโดยอุบายอันแยบคาย, การพิจารณาโดยแยบคาย คือ

พิจารณาเพื่อเข้าถึงความจริง โดยสืบค้นหาเหตุผลไปตามลำดับจนถึงต้นเหตุ

แยกแยะองค์ประกอบจนมองเห็นตัวสภาวะและความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย

หรือตริตรองให้รู้จักสิ่งที่ดีที่ชั่วยังกุศลธรรมให้เกิดขึ้นโดยอุบายที่ชอบ

ซึ่งจะมิให้เกิดอวิชชาและตัณหา, ความรู้จักคิด, คิดถูกวิธี

อโยนิโสมนสิการ

การทำในใจโดยไม่แยบคาย, การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา, ความไม่รู้จักคิด, การปล่อยให้อวิชชาตัณหาครอบงำ


ก็เลยได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

[WISH]

ขอบคุณ คุณ Koonpatt ครับ...เลยพยายามหาข้อมูลเรื่องนี้..ก็ทราบว่ามี...ตำนานของรอยพระพุทธหัตถ์...จึงขอนำมาแบ่งปันความรู้กันครับ

ตำนานรอยพระพุทธหัตถ์
สมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงโปรดพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา ๑ พรรษา ครั้นทรงเสด็จลงจากดาวดึงส์ ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลก ให้นรกภูมิ มนุษย์และเทวดาได้แลเห็นซึ่งกัน จากนั้นพระพุทธองค์ได้ตรวจดูด้วยอนาคตังสญาณว่าสถานที่แห่งใดจะเป็นที่มั่นประดิษฐานพระพุทธศาสนาในกาลข้างหน้า ครั้นพระองค์ทรงเห็นว่าสุวรรณภูมิจักเป็นดินแดนประดิษฐานและทำให้พระพุทธศาสนามั่นคงเจริญรุ่งเรือง จึงได้ทำปาฏิหาริย์เสด็จมายังสุวรรณภูมิพร้อมด้วยพระอรหันตสาวกทางอากาศ เพื่อทำการโปรดสรรพสัตว์ เล่าว่าพระพุทธองค์ทรงมาโปรดประทับรอยพระบาทที่พระบาทสี่รอยก่อน เพื่อโปรดฤาษีที่บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่เขาแห่งนี้ด้วย พระฤาษีตนดังกล่าวมีน้องบวชเป็นฤาษีจำศีลภาวนาอยู่ที่ถ้ำจั๊กต่อ จ.แม่ฮ่องสอน ด้วย เมื่อทำการประทับรอยพระพุทธบาทที่พระบาทสี่รอยเรียบร้อยแล้ว พระพุทธองค์ทรงจึงได้เสด็จไปโปรดฤาษีผู้น้องต่อไป และที่นั่นพระพุทธองค์ได้ประทับรอยพระบาทคู่ พร้อมทั้งรอยพระพุทธหัตถ์เอาไว้ เพื่อเป็นที่สักการะของผู้ศรัทธา

ตามตำนานกล่าวว่ารอยพระหัตถ์ข้างซ้ายนั้นประทับอยู่ในเมืองพม่า ลักษณะของรอยพระหัตถ์ที่ประทับลงบนแผ่นหินนั้น มีลักษณะใหญ่ นิ้วมือทั้ง ๕ เสมอกัน มีรอยก้นหอยชัดเจน มีผู้คนนำทองคำเปลวไปปิดจนเห็นเป็นสีทองอร่ามไปทั่ว เล่าว่าถ้ำรอยพระหัตถ์แห่งนี้เป็นสถานที่หวงแหนของเทพเทวดา มีพญานาคคอยรักษาอยู่ แม้ว่ามีหลายกลุ่มบุคคลพยายามทำการบุกเบิก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ คล้ายกับว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างพยายามปกปิดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เอาไว้ ด้วยเกรงว่าเมื่อคนเข้ามามากแล้วจะทำให้สถานที่ขาดความสงบและสกปรก
สำหรับรอยพระหัตถ์นั้นถือว่าเป็นสิ่งพิเศษ เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งการห้ามบาปทั้งปวง

ยังไงก็...อย่าถึงขั้นแตกตื่น ราวกับทำนองมงคลตื่นข่าวนะครับ...อ่านตำนานแล้ว...นำโยนิโสมนสิการ ที่คุณ koonpatt กล่าวมายังกุศลธรรมให้เกิดขึ้นโดยอุบายที่ชอบ...โดยตรึกระลึกและสรรเสริญคุณอันไม่มีประมาณของพระสัพพัญญุตญานกันนะครับ

หากมีโอกาสไปเยือนโลกใต้ทะเลชุมพรในเวลาอันใกล้นี้ คงต้องจาริกผ่านไปชมสิ่งนี้
ภาพที่โพสต์เป็นเกาะบริเวณชุมพรเมื่อ 5ปีก่อน ส่วนแนวเขาที่เห็นไกลๆคือ mainland ครับ

ไฟล์แนบ

•  P7270107.jpg   27.85K   8 ดาวน์โหลด

[Tree]

อึม ... เท่าที่ดูในรูป ก็เป็นเชิงผาที่มีรูปร่างคล้ายกับมือ (ฝ่ามือ) ส่วนสมาชิกท่านไดมีข้อมูลอื่นประกอบก็ดีนะครับ

แต่ก็เป็นเรื่องดีอีกเรื่องหนึ่งที่อย่างน้อยเราก็ยังได้นึกถึงพระพุทธองค์

[นักท่องเที่ยว]

ไม่น่าใช่นะครับ เพราะว่านิ้วแต่ละนิ้วต้องเท่ากัน แต่ที่ในภาพนั้นำม่เท่ากัน น่าสงสัยนะครับ

[koonpatt]

ขออนุญาตค่ะ koonpatt มีความคิดเห็นส่วนตัว ดังนี้ค่ะ

เข้าใจว่า ในความเชื่อของบุคคลทั่วไปนั้น

เมื่อพบเห็นรอยมือ หรือ รอยเท้า ที่มีขนาดใหญ่กว่า คนธรรมดา

หรือ พบเห็นร่องรอยเหล่านั้น ในที่ที่ไม่น่าจะเกิดร่องรอยขึ้นได้ เช่น หิน หน้าผา หรือ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติต่างๆ

สิ่งแรกที่นึกถึงคือ ปาฏิหาริย์

และ บุคคลแรกที่ปุถุชนคิดว่า น่าจะเป็นผู้ที่สร้างปาฏิหาริย์นั้น คือ พระพุทธเจ้า

จึงมีความเชื่อว่า นั่นคือ รอยพระหัตถ์ หรือ รอยพระบาท

ซึ่ง koonpatt คิดว่า หากผู้ที่มีความเชื่อเช่นนั้น มิได้นำความเชื่อไปใช้ในทางที่ผิด

และ ความเชื่อนั้น น้อมนำให้ผู้ที่เชื่อ ได้ ตรึก ระลึก นึกถึงพระพุทธองค์แล้วล่ะก็ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

ดังนั้น koonpatt ขอเสนอว่า อย่าสงสัยเลยค่ะ แต่ ไม่ได้บอกว่า ต้องเชื่อนะคะ

แค่บอกว่า อย่าสงสัย เพราะ ถ้าคุณไม่เชื่อ แล้ว สงสัย

ก็ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดใดต่อชีวิตของคุณเลย อาจเกิดประเด็นความขัดแย้งด้วยซ้ำ

เมื่อมีผู้เลื่อมใสศรัทธา ชี้ชวนให้เราดู สิ่งที่เขาเหล่านั้นศรัทธา เราก็ดูเถอะค่ะ

แล้วใช้ โยนิโสมนสิการ ตามที่ คุณ WISH ได้บอกไว้ คือ พิจารณาในใจโดยแยบคายเถิด

อานิสงค์นั้น จะส่งผลให้เราในเวลาที่เราต้องการชี้ชวนให้ผู้อื่น ดู หรือ ฟัง ในสิ่งที่เราศรัทธา

ให้เขาเหล่านั้น ให้โอกาสเราเช่นกัน


สา...ธุ เจริญในธรรม ค่ะ

[somchet]

ทำไมนิ้วยาวไม่เท่ากันล่ะครับ