ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

"ชำระหนี้สงฆ์"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 19 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:54 AM

ยังไม่เข้าใจความหมาย "ชำระหนี้สงฆ์" อย่างลึกซึ้งเลยจ๊ะไปอ่านเจอมาก็ยังงงอยู่ดีนะ ใครพอจะอธิบายให้เข้าใจหน่อยได้ไหมว่าทำไมต้อง "ชำระหนี้สงฆ์" ชาติที่เราเราไปขอยืมเงินท่านมาหรอเปล่าถึงต้องชำระหนี้สงฆ์ อ่ะ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราไปเป็นหนี้นะจ๊ะ

#2 sage_072

sage_072
  • Members
  • 271 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:นครราชสีมา
  • Interests:ต้องการเรียนรู้กฏแห่งกรรม และสนทนาธรรมกับเพื่อนกัลยาณมิตร

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:59 AM

ก็ดันไปยืมเงินท่านมา ๒๐ บาท
แล้วก็มาแอบตายเสียก่อน
ไปเจอยมบาล ท่านตรวจดู
ก็พบว่าคนนี้เมื่อเป็นมนุษย์
หนี้พระสงฆ์ไว้ไม่ยอมจ่าย
ก็เลยต้องโดนส่งตัวมาให้ช้ำระ
หนี้นี้กับท่านเสียก่อน.........
thamma_072.p

#3 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 08:24 AM

การทำอะไรที่ต้องใช้สมบัติสงฆ์ แล้วสมบัตินั้นเสียหาย ก็ติดหนี้สงฆ์
การหยิบอะไรออกจากวัด ต้นไม้ ใบหญ้า กรวด หิน ดิน ทราย ในวัด ก็ติดหนี้สงฆ์
อย่าว่าแต่ไปยืมเงินเลย



คนโบราณกลัวบาปเลยต้องสร้างพระเพื่อชำระหนี้สงฆ์
หยุดคือตัวสำเร็จ

#4 Thakonlaphat

Thakonlaphat
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:05 AM

"พวกเราบางคนเคยหยิบฉวยส่งของที่เป็นสมบัติของวัดหรือของสงฆ์ เช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ หรือบางทีทรายติดรองเท้าเรากลับออกมาจากวัด ฯลฯ แล้วเราเองก็ไม่ได้ทำบุญ บางทีเหตุการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นตอนเราเป็นเด็กๆ ชอบซุกซนบ้าง เป็นต้น ซึ่งทางวัดและพระสงฆ์นั้นไม่มีเงินเดือนและไม่มีรายได้ใดๆ ทั้งสิ้น เงินที่ได้มาก็คือเงินที่พุทธศาสนิกชนและญาติโยมต่างๆ ไปร่วมทำบุญทั้งสิ้น ฉะนั้น ในบางครั้งเราเข้าวัดและบางทีไปใช้ธูปเทียนวัดบ้างเพื่อจุดธูปไหว้พระ อาจจะดื่มน้ำมนต์และอาศัยไฟฟ้าของวัด เช่น พัดลม เป็นต้น แล้วลืมทำบุญ ฉะนั้นจะทำให้เราเป็นหนี้สงฆ์ทันทีโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องติดหนี้สงฆ์ไปถึงภพหน้าชาติหน้า ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่าเราจะไปเกิดที่ใดภพใด และจะมีโอกาสได้พบพระพุทธศาสนาหรือไม่ ฉะนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาทจึงควรถือโอกาสชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่วันนี้ทันทีที่มีโอกาสไปวัด เมื่อได้ไปทำบุญที่วัดใด คอยสังเกตตู้ที่ทางวัดเขาตั้งใจให้เราใส่เงินทำบุญเพื่อชำระหนี้สงฆ์ จะได้ไม่ติดค้างไปภพหน้าต่อไป"

คัดลอกมาจากหนังสือสวดมนต์ที่เขาพิมพ์แจกกัน ผิดถูกประการใดผู้รู้เพื่มเติมได้ครับ

#5 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 11:44 AM

โอ้ ไม่เคยเห็นตู้ที่เขียนว่าชำระหนี้สงฆ์เลยค่ะ

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 12:30 PM

จากกระทู้นี้ ทำให้ผมนึกถึงคนสมัยโบราณ ซึ่งท่านได้ให้ความสำคัญและระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมากเลยนะครับ จึงได้เกิดเป็นธรรมเนียม "ขนทรายเข้าวัด" ขึ้นยังไงล่ะครับ

#7 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 01:32 PM

มีข้อสังเกตเพิ่มเติมอ่ะค่ะ

กรณีที่เวลาเราไปวัด แล้วใช้สมบัติพระศาสนาอย่างไม่คุ้มค่า

เช่น เปิดน้ำทิ้งไว้ในขณะที่แปรงฟัน / พาลูกไปวัดแล้วปล่อยให้เล่นน้ำในขณะอาบน้ำ

เหมือนตอนอยู่ที่บ้าน (คือเล่นอาบไม่ยอมเลิกน่ะ)

ดึงกระดาษชำระมากกว่าจำเป็นที่ต้องใช้ / ใช้พัดลมแล้วลืมปิด เปิดทิ้งไว้

หรืออื่นๆที่คล้ายกันอย่างนี้ ...น่าจะเข้าข่ายนี้เหมือนกันนะ

เราจะจะมีการฟื้นฟูวัฒนธรรมคุณยายอีกข้อหนึ่งในเรื่องของการใช้สมบัติพระศาสนา

อย่างคุ้มค่า มาถ่ายทอดและชักชวนกันปฏิบัติ เพื่อให้พวกเราและเพื่อนๆที่เพิ่งมาวัด

ไม่ทันได้พบคุณยายอาจารย์ จะได้ซาบซึ้งกับคุณธรรมของท่าน และได้บุญในการช่วย

รักษาสมบัติพระศาสนาอีกด้วยนะคะ ...ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น...happy.gif


ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#8 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 01:47 PM

หนี้สงฆ์คือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการที่เราเข้าไปใช้ของสงฆ์ เช่น เข้าไปล้างมือ ล้างหน้า ขับถ่าย ต้องใช้น้ำชะล้าง
เวลาไปโบสถ์ไหว้พระในโบสถ์ ถ้าไม่เปิดไฟก็แล้วไป แต่ถ้าเปิดไฟ เปิดพัดลม ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในส่วน
ของวัด ก็เท่ากับเราไปก่อหนี้ให้กับสงฆ์นั่นเองครับ

ดังนั้นการชำระหนี้สงฆ์จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำไปด้วยครับแม้ว่าทางวัดจะไม่มีกล่องรับบริจาคเราก็ควรจะทำเอง
เพื่อกันการเป็นหนี้สงฆ์โดยที่ไม่เจตนาด้วยครับ

เพราะเงินทำบุญก็ส่วนเงินทำบุญครับ ส่วนเงินชำระหนี้สงฆ์ก็เป็นส่วนชำระหนี้ไม่เกี่ยวกันครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#9 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 01:53 PM

QUOTE
เราจะจะมีการฟื้นฟูวัฒนธรรมคุณยายอีกข้อหนึ่งในเรื่องของการใช้สมบัติพระศาสนา

อย่างคุ้มค่า มาถ่ายทอดและชักชวนกันปฏิบัติ เพื่อให้พวกเราและเพื่อนๆที่เพิ่งมาวัด

ไม่ทันได้พบคุณยายอาจารย์ จะได้ซาบซึ้งกับคุณธรรมของท่าน และได้บุญในการช่วย

รักษาสมบัติพระศาสนาอีกด้วยนะคะ ...ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น...


ยกสองมือเลยค่ะ


แล้วจะชำระอย่างไรดีล่ะคะ
ถ้าสมมติว่าเราไม่ค่อยมีปัจจัยเท่าไรนัก แล้วเป็นอาสาสมัครอยู่ล่ะคะ
จะถือว่าชำระได้หรือไม่คะ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#10 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:59 PM

QUOTE
จากกระทู้นี้ ทำให้ผมนึกถึงคนสมัยโบราณ ซึ่งท่านได้ให้ความสำคัญและระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมากเลยนะครับ จึงได้เกิดเป็นธรรมเนียม "ขนทรายเข้าวัด" ขึ้นยังไงล่ะครับ

เหตุที่ต้องขนทรายเข้าวัดเพราะ คนสมัยก่อนถือว่า ทรายในวัดได้ติดเท้ามาตอนที่ไปทำบุญ ดังนั้นจึงเกิดประเพณีขนทรายเข้าวัดเพื่อนำทรายไปคืน โดยนำไปก่อเป็นพระเจดีย์ทรายไงครับ ได้บุญด้วยนะครับ เพราะระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านทางพระเจดีย์ทรายครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:58 PM

การที่น้องวิว มาเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัดโดยไม่คิดค่าตอบแทน นั่นก็เป็นหนึ่งในการชำระหนี้วัดแล้วล่ะครับ เพราะน้องยังเด็กจะไปนำรายได้มากมายมาจากไหนกัน เรื่องปัจจัยก็ให้ทำเต็มกำลังเท่าที่เด็กอย่างเราจะทำได้ก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ

อ้อ แต่อยากจะฝากไว้อีกอย่างหนึ่งให้ไปถ่ายทอดให้เพื่อนๆ อาสาสมัครกันไป อีกวิธีหนึ่งที่เด็กๆ จะช่วยทางวัดได้ คือ ช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้วัดน่ะครับ ไปทำงานอาสาสมัครที่ไหน เลิกงานแล้ว ก็ปิดน้ำ ปิดไฟ ปิดพัดลม อะไรให้เรียบร้อย ประมาณน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:17 PM

1. ถ้าจะชำระหนี้สงฆ์ มีวิธีทำอย่างไรบ้างหละค่ะ (ถ้าเขาไม่มีกล่องรับที่เขียนว่า ชำระหนี้สงฆ์)
2. แล้วถ้าสมมุติว่าอยากชำระหนี้สงฆ์ที่เคยใช้น้ำไฟไปที่วัด A แต่ว่าไม่มีโอกาสกลับไป จะชำระหนี้สงฆ์ที่ วัด B แทนได้ป่าว


#13 นิ่งในนิ่ง

นิ่งในนิ่ง
  • Members
  • 34 โพสต์
  • Location:หมู่บ้านตะวันธรรม
  • Interests:แนวทางการดำเนินชีวิต

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 07:18 PM

ไปช่วยกันกวาดถูวิหารคดก็เป็นการชำระหนี้สงฆ์ค่ะ
ทำอะไรที่เป็นบวกกับวัดวาอาราม ก็น่าจะเป็นการชำระหนี้สงฆ์ ซึ่งหนี้นั้นก็เป็นพฤติกรรมลบๆ ที่เราทำกับวัดวาอาราม อาจโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่คนโบราณถือว่าเป็นหนี้สงฆ์นั้นไม่ดี ต้องจัดการใช้หนี้เสีย ก็ทำกันไป เป็นสิ่งดีๆ ทั้งนั้นไม่ใช่หรือคะ

#14 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 07:22 PM

QUOTE
ไปช่วยกันกวาดถูวิหารคดก็เป็นการชำระหนี้สงฆ์ค่ะ
ทำอะไรที่เป็นบวกกับวัดวาอาราม ก็น่าจะเป็นการชำระหนี้สงฆ์ ซึ่งหนี้นั้นก็เป็นพฤติกรรมลบๆ ที่เราทำกับวัดวาอาราม อาจโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่คนโบราณถือว่าเป็นหนี้สงฆ์นั้นไม่ดี ต้องจัดการใช้หนี้เสีย ก็ทำกันไป เป็นสิ่งดีๆ ทั้งนั้นไม่ใช่หรือคะ?

ใช่แล้วครับ ภายในบริเวณอารามวัดนั้น จัดว่าเป็น "พุทธเขต" ทั้งสิ้นเลยครับ เพราะฉะนั้น จะหยิบ จะจับ จะทำอะไรที่เป็นทางมาแห่งกุศล ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเป็นบุญไปหมดน่ะครับ แต่ในทางตรงกันข้าม หากทำในสิ่งที่เป็นบาปอกุศลล่ะก็ ดับเครื่องชนชนิดจอดไม่ต้องแจวเหมือนกันนะครับ


#15 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 07:23 PM

QUOTE
1. ถ้าจะชำระหนี้สงฆ์ มีวิธีทำอย่างไรบ้างหละค่ะ (ถ้าเขาไม่มีกล่องรับที่เขียนว่า ชำระหนี้สงฆ์)
2. แล้วถ้าสมมุติว่าอยากชำระหนี้สงฆ์ที่เคยใช้น้ำไฟไปที่วัด A แต่ว่าไม่มีโอกาสกลับไป จะชำระหนี้สงฆ์ที่ วัด B แทนได้ป่าว

ตอบ การชำระหนี้สงฆ์สามารถชำระเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ที่วัดไหนก็ได้ครับ เพราะคำว่าสงฆ์นั้นหมายรวมพระสงฆ์ทั้งหมดในพระพุทธศาสนาเลยครับ ถ้าคิดไม่ออกว่าเป็นหนี้สงฆ์เพียงแค่ค่าน้ำค่าไฟฟ้าหรือมีอื่นๆ อีกเวลาทำบุญสังฆทานก็นึกขอถวายทานเป็นการชำระหนี้สงฆ์แทนก็ได้ครับ ถ้าไม่มีเงินมาชำระก็ชำระเป็นอาหารใส่บาตรก็ไม่ถือว่าผิดครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#16 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:54 PM

QUOTE
อีกเวลาทำบุญสังฆทานก็นึกขอถวายทานเป็นการชำระหนี้สงฆ์แทนก็ได้ครับ ถ้าไม่มีเงินมาชำระก็ชำระเป็นอาหารใส่บาตรก็ไม่ถือว่าผิดครับ

สาธุ... ขอบคุณมากครับ พึ่งจะรู้นะเนี่ย แต่ผมขอผู้รู้มาช่วยยืนยันให้อีกทีก็แล้วกันนะครับ


#17 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:26 PM

มีอีกวิธีนึงค่ะ เพิ่งนึกออก

เวลาไปที่ตู้รับบริจาค

ก็บอกเขาว่าจะทำบุญ "บำรุงวัด"

ซึ่งจะรวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ

ทำเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ เพราะสมัยที่ยังเป็นนักเรียน เคยทำบุญบำรุงวัด 50 บาทด้วย

ยังเก็บใบอนุโมทนาบัตรไว้เลย
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#18 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 09:22 PM

บุญเศรษฐีถาวรก็ได้ค่ะ เดือนละ 1 ครั้ง จริงๆ จะทำเท่าไรก็ได้ ในนั้นจะรวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร น้ำปานะ ค่ายา ค่าน้ำมัน ยานพาหนะ ค่าจ้างคนงาน คนสวน และจิปาถะทั้งหลาย แบบนี้ก็ได้เหมือนกันค่ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#19 ระเมอ ทำ

ระเมอ ทำ
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 September 2006 - 06:14 AM

การชำระหนี้สงฆ์
พวกเราบางคนเคยหยิบฉวยสิ่งของที่เป็นสมบัติของวัดหรือของสงฆ์ เช่น ก้อนหิน ก้อนดิน ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ หรือบางทีทรายติดรองเท้าเรากลับออกมาจากวัด ฯลฯ แล้วเราเองก็ไม่ได้ทำบุญ บางทีเหตุการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นตอนเราเป็นเด็กๆ ชอบซุกซนบ้าง เป็นต้น ซึ่งทางวัดและพระสงฆ์นั้นไม่มีเงินเดือนและไม่มีรายได้ใดๆ ทั้งสิ้น เงินที่ได้มาก็คือเงินที่พุทธศาสนิกชนและญาติโยมต่างๆ ไปร่วมทำบุญทั้งสิ้น ฉะนั้น ในบางครั้งเราเข้าวัดและบางทีไปใช้ธูปเทียนวัดบ้างเพื่อจุดธูปไหว้พระ อาจจะดื่มน้ำมนต์และอาศัยไฟฟ้าของทางวัด เช่น พัดลมเป็นต้น แล้วลืมทำบุญ ฉะนั้นจะทำให้เราเป็นหนี้สงฆ์ทันทีโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ต้องติดหนี้สงฆ์ไปถึงภพหน้าชาติหน้า ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่าเราจะไปเกิดที่ใดภพใด และจะมีโอกสได้พบพระพุทธศาสนาหรือไม่ ฉะนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาทจึงควรถือโอกาสชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่วันนี้ทันทีที่มีโอกาสไปวัด เมื่อได้ไปทำบุญที่วัดใด คอยสังเกตตู้ที่ทางวัดเขาตั้งใจให้เราใส่เงินทำบุญเพื่อชำระหนี้สงฆ์ จะได้ไม่ติดค้างไปภพหน้าต่อไป.


#20 usr16442

usr16442
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 01:22 PM

การชำระหนี้สงฆ์ถ้าจะทำกี่บาทก็ได้ใส่ซองระบุว่าชำระหนี้สงฆ์ทำบ่อบๆ ถ้าต้องการให้หนี้ที่ทำไว้จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจไม่มีต่อกันคือ การสร้างพระประธานขนาดหน้าตัก 4 ศอก (ประมาณ 2 เมตร) เพื่อชำระหนี้สงฆ์ผลจะได้เพียงคนเดียว แต่ถ้าปิดทองทั้งองค์ได้ทั้งคณะ คือเป็นการร่วมบุญกันช่วยกันสร้างทำบุญคนละเท่าไรก็ได้แล้วปิดทอง ผลทุกคนชำระหนี้สงฆ์หมดถ้าไปทำใหม่ก็ต้องมาชำระใหม่ครับ ตอนนี้ผมก็พยายามเข้า Net เพื่อร่วมบุญกันที่จะชำระหนี้สงฆ์ครับ